พูดถึงภูเก็ตเพื่อน ๆ มาเที่ยวแต่ละครั้งใช้เวลากี่วันครับ … เพื่อนผมส่วนใหญ่เวลามาภูเก็ตก็จะมีเวลา 2-3 วันเป็นส่วนใหญ่ แถมบางวันไปเกาะแบบ day trip ซะอีก แบบนี้ก็เหลือเวลาเที่ยวในภูเก็ตแค่ 1 หรือ 2 วันเอง …แล้วจะไปไหนดีให้มันคุ้มกับเวลาที่มีอยู่?? วันนี้ขอเอาแผนเที่ยวเต็มวันแบบสุดโหดมานำเสนอคนที่เช่ารถเที่ยวภูเก็ตนะครับ ลงมาภูเก็ต flight เช้าสุดแล้วก็ตะลอนเที่ยวแบบเต็มที่ไปเลย หรือจะมา flight ดึกสุด หาที่พักใกล้ ๆ สนามบินราคาถูก ๆ แล้วค่อยรับรถตอนเช้าก็ได้นะครับ จะได้ไม่ต้องตื่นเช้ามาก โดยโปรแกรมที่จะแนะนำวันนี้สำหรับคนรักทะเลโดยเฉพาะ เพราะเราจะตระเวนไป 15 หาดกับอีก 5 จุดชมวิวสวย ๆ ของภูเก็ตในหนึ่งวัน


ทำความเข้าใจกันก่อนว่า โปรแกรมนี้ใช้วิธีการขับรถไปตามถนนสายรอบเกาะฝั่งตะวันตกของภูเก็ต เริ่มจากสนามบินซึ่งอยู่ฝั่งตะวันตกทางตอนเหนือของเกาะไปจนใต้สุดของภูเก็ตที่หาดราไวย์ ซึ่งในแผนจะมีเวลาหยุดพักเพื่อถ่ายภาพลั้นลาแต่ละหาดราว 20-30 นาที และมีหาดแนะนำสำหรับเล่นน้ำทะเล 1 จุด หากเพื่อน ๆ อยากให้โปรแกรมหลวมกว่านี้ก็แค่ขับผ่านชมวิวเฉย ๆ บ้างแล้วไปให้เวลากับหาดที่สวยถูกใจมากขึ้นก็ได้ครับ


เอาล่ะเตรียมใบขับขี่, ชุดว่ายน้ำ, แว่นกันแดดให้พร้อมแล้วออกเดินทางกันเลยครับ


8:30-9:00 เริ่มกันที่หาดในยางครับ อยู่ติดกับสนามบินภูเก็ตเลย ดังนั้นเมื่อออกจากสนามบินก็แวะเที่ยวสักหน่อย จุดเด่นของที่นี่คือร่มเงาจากต้นสนขนาดใหญ่ริมทะเล อีกอย่างหาดแห่งนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนักจึงค่อนข้างเงียบสงบเหมาะกับการพักผ่อน ยิ่งตอนเช้า ๆ แบบนี้ซื้อ sandwich จาก 7Eleven มานั่งกินริมหาด ดูเครื่องบินร่อนลงฟินอย่าบอกใคร … ถ้าเดินเลียบหาดเรื่อย ๆ ไปทางทิศเหนือก็จะเป็นบริเวณท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพคู่กับเครื่องบินที่กำลัง landing นั่นเอง (อันที่จริงจุดนั้นจะเรียกว่าหาดไม้ขาว แต่ก็ต่อเนื่องเป็นหาดเดียวกันกับหาดในยาง) หากจะไปถ่ายภาพตรงจุดนี้ก็อาจต้องเผื่อเวลาที่นี่เยอะสักหน่อย

หาดในยาง

จุดถ่ายภาพคู่เครื่องบินที่หาดไม้ขาว


9:20-9:45 หาดในทอน ชื่อนี้อาจไม่คุ้นหูนักท่องเที่ยวมากนัก แต่จะว่าไปก็เป็นอีกหาดเล็ก ๆ ที่สวยทีเดียว ในวันฟ้าใสหาดในทอนสวยงามไม่แพ้หาดอื่น ๆ เลย … สำหรับคนชอบถ่ายภาพลองเดินไปแถบโขดหินที่อยู่ฝั่งขวา (เมื่อหันหน้าเข้าหาทะเล) มีมุมเก๋ ๆ ให้ถ่ายภาพด้วย …


แต่ถ้ารู้สึกเฉย ๆ กับหาดริมทางแบบนี้ แนะนำว่าขับเลยไปอีก 2.5 กม. จะเจอสะพานเล็ก ๆ ให้จอดรถตรงไหล่ทางแล้วเดินลัดเลาะไปตามทางเล็ก ๆ จะเจอกับธารน้ำใสไหลผ่านโตรกหินลงสู่ทะเล หากโชคดีอาจเจอกับนกกินปลา นับเป็นธรรมชาติที่หาดูได้ยากมากในภูเก็ตทุกวันนี้


ธารน้ำเล็กๆ ใสแจ๋วไหลลงสู่ทะเล

นอกจากนี้เดินไปอีกหน่อยจะเจอหาดเล็ก ๆ ชื่อ หาดกล้วย เป็นหาดลับตาคนที่มีน้อยคนจะรู้จักถือเป็นหนึ่ง unseen ของภูเก็ตเลยทีเดียว

10:15-10:45 หาดลายัน/หาดบางเทา สองหาดนี้เชื่อมต่อกัน ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเส้นแบ่งสองหาดนี้อยู่ตรงไหน แต่ส่วนใหญ่จะเข้าใจตรงกันว่าฝั่งขวา (เมื่อหันหน้าเข้าหาทะเล) คือหาดลายัน ส่วนอีกฝั่งคือหาดบางเทาซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมมากมายดังนั้นจึงค่อนข้างพลุกพล่านและอาจเข้าถึงหน้าหาดยากสักหน่อย ดังนั้นแนะนำให้นำรถมาจอดและเดินลงหาดที่ฝั่งขวาซึ่งเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติหาดลายันดีกว่าครับ ที่จอดรถเยอะ ร่มรื่นดีด้วย ทั้งนี้จากถนนเส้นรอบเกาะสามารถใช้ซอยลายัน 4 ขับผ่านโรงแรมอานันตราไปจุดสุดถนน สามารถจอดรถเพื่อลงไปเดินชมวิวได้แต่ไม่เหมาะกับการเล่นน้ำนัก หรือจะขับเข้าซอยลายัน 2 (ป้ายทางเข้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาตหาดลายัน) แล้วไปจอด ณ ที่จอดรถของที่ทำการอุทยาน จุดนี้จะร่มรื่นสามารถเล่นน้ำได้ด้วย

ใกล้ ๆ กับที่ทำการอุทยานจะมีคลองน้ำกร่อยที่ไหลลงไปบรรจบกับทะเล ช่วงน้ำลงจะเห็นสันทรายยาวไปจนถึงเกาะเล็ก ๆ ชื่อเกาะกะลา ที่อยู่ด้านหน้าหาดเกิดทัศนียภาพที่สวยแปลกตา ส่วนในช่วงน้ำขึ้นจะเห็นการบรรจบกันของน้ำกร่อยและน้ำเค็มสวยไปอีกแบบ

ทิวทัศน์ของหาดลายัน ฝั่งหน้าโรงแรม Anantara ช่วงน้ำลง

ทิวทัศน์หาดลายันบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยาน


หาดบางเทา


11:00-11:20 จากหาดบางเทา ขับรถไปไม่ไกลก็จะถึง หาดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหาดที่ผมว่าสีของน้ำทะเลสวยมากที่สุดแห่งหนึ่งของภูเก็ต ในวันที่อากาศแจ่มน้ำจะเป็นเขียวมรกตเลยทีเดียว …อย่างไรก็ตามหาดสุรินทร์เป็นหาดที่ไม่กว้างมากนัก ทำให้ค่อนข้างพลุกพล่านในฤดูกาลท่องเที่ยวจึงไม่เหมาะที่จะแทรกตัวลงไปเล่นน้ำสักเท่าไหร่ ส่วนในช่วงมรสุมคนไม่เยอะแต่คลื่นลมที่นี่จะแรงมากจึงค่อนข้างอันตรายสำหรับการเล่นน้ำ สรุปแล้วดูสวย ๆ แต่ไม่ค่อยแนะนำให้เล่นน้ำครับ


11:30-11:45 ขับรถจากหาดสุรินทร์ขึ้นเนินไปไม่ถึง 5 นาทีให้มองขวาไว้ จะเห็นศาลาชมวิวขนาดเล็ก ปาดขวาเข้าไปจอดได้เลย ที่นี่คือจุดชมวิวแหลมสิงห์ จากจุดนี้ไม่ต้องเดินให้เหนื่อยครับ วิวตรงหน้าสวยมาก หาดที่เห็นใกล้ ๆ คือแหลมสิงห์มีหาดเล็ก ๆ ให้เล่นน้ำได้ด้วยแต่ต้องเดินลงไป ไม่เหมาะกับผู้ที่ข้อเข่าไม่ดี … มองไปไกล ๆ จะเห็นอ่าวกลมลา กับเนินเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของบรรดาโรงแรม luxury ทั้งหลายที่เรียกว่า Millionaire mile ราคาวิลล่าแต่ละหลังแถวนั้นหลักร้อยล้านทั้งน้าน วู้ววว แค่เห็นก็เป็นบุญตาแล้วไม่ต้องพัก 555


ขับเลยไปอีกหน่อย จะมีจุดชมวิวหาดกมลา แต่ต้องจอดรถที่ไหล่ทางซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังสักหน่อยครับ


12:00-12:20 ขับเลยจุดชมวิวไปไม่ไกลก็จะถึง หาดกมลา ซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเก็ตแฟนตาซีที่ใคร ๆ ก็รู้จัก แต่ยังไม่ต้องเข้าไปตอนนี้นะ เค้ายังไม่เปิดจ้า โชว์เริ่มตอนค่ำ ๆ โน่นแหละ … ถ้าจะแวะถ่ายภาพที่หาดกมลาแนะนำให้จอดรถใกล้สนามฟุตบอลชั่วคราวอยู่เลยโรงแรมโนโวเทลมาราว 400-500 เมตร พูดง่าย ๆ ขับลงเนินมา เจอสะพานเล็ก ๆ จะมีลานกว้าง ๆ ทางซ้ายมือก็ขับเข้าไปจอดเลย จากนั้นก็ข้ามถนนเดินเลียบคลองลงหาดได้เลย … ฝั่งนี้เป็นฝั่งที่ค่อนข้างเงียบของหาดกมลมเมื่อเทียบกับอีกด้านซึ่งอยู่ใกล้กับแหล่งร้านค้าครับ


12:40-13:10 ที่หาดกมลา บริเวณถนนสายหลังซึ่งเป็นเส้นทางที่เราจะใช้เดินทางต่อ มีร้านอาหารเยอะครับ เลือกทานได้ตามอัธยาศัย แต่ถ้าอยากทานแบบวิวสวย ๆ แนะนำว่าขับเลยไปอีก 1 เนินเขาใหญ่ ๆ จะเจอร้านอาหารทำเลดีริมทางชื่อร่มไทรบ้านนาคาเลและถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวก็ได้ ร้านนี้เป็นร้านส้มตำที่มีอาหารตามสั่งด้วย ทานข้าวเที่ยงไปดูวิวสวย ๆ ของทะเลอันดามันไป รับรองว่าเป็นมื้อที่อร่อยมาก ๆ ราคาผมว่าแทบไม่ต่างจากร้านทั่วไปในภูเก็ตครับ (ไม่ถูกนะ แต่ไม่แพงเวอร์เหมือนร้านตามหาด) ส่วนรสชาติถือว่าอร่อยเลย


13:20-13:30 อิ่มจากมื้อเที่ยงแล้ว ออกเดินทางต่อไปยังหาดที่ชื่อเสียงดังที่สุดของภูเก็ต นั่นคือป่าตอง แต่ก่อนถึงเราแวะหาดเล็ก ๆ กันก่อนชื่อว่าหาดกะหลิม ซึ่งมี 2-3 ช่วง ช่วงต้นถนนจะเลียบหาดเลย หาทำเลแวะถ่ายภาพสวย ๆ ได้ตามใจชอบ เลยไปหน่อยจะมีแนวโขดหินสลับกับหาดเล็ก ๆ ให้ถ่ายภาพอีก 2 จุด เลือกแวะกันได้ตามใจชอบ …. ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวจะมีเรือสำราญขนาดใหญ่มาลอยลำที่ทะเลใกล้ปากอ่าวป่าตอง ซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากหาดกะหลิมเช่นกัน


13:45-14:15 ส่วนตัวผมไม่ได้ปลื้ม หาดป่าตอง สักเท่าไหร่ เพราะมันพลุกพล่านมาก แต่ถ้าจะไปเอาบรรยากาศความคับคั่งของนักท่องเที่ยวก็ต้องที่นี่แหละครับ สำหรับชายหาดป่าตองนั้นก็ยังถือว่า ok อยู่ครับ โดยเฉพาะฝั่งที่ติดกับกะหลิม แต่อีกด้านหนึ่งดูเหมือนจะมีน้ำเสียจากโรงแรมลงไปค่อนข้างเยอะ มีทั้งลงไปตรง ๆ และผ่านคลองน้ำกร่อยที่อยู่สุดหาด … อันที่จริงสีสันของป่าตองนั้นคือกลางคืนครับ ถ้าชอบและอยากสัมผัสล่ะก็ให้กลับมาที่นี่อีกครั้งหลังมื้อค่ำ รับรองว่ามีอะไรตื่นตาตื่นใจเยอะแยะไปหมด แต่วันนี้ผมมาธีมทะเลเลยขอข้ามไปเนอะ


1 4:30-14:50 ที่สุดหาดป่าตอง จะมีถนนชัน ๆ นำเราข้ามเขาไปยังหาดไตรตรัง อีกหาดที่ค่อนข้างลับหูลับตาคนและเข้าถึงยากสักหน่อย เนื่องจากพื้นที่ริมหาดถูกจับจองสำหรับสร้างโรงแรมหมดแล้ว การจะไปที่นี่ต้องไปจอดรถไว้ที่สุดหาดแล้วเดินผ่านร้านอาหารลงไปในหาด หรือใช้ถนนทางเข้าตรงศาลพระภูมิโรงแรมไตรตรังบีชก็ได้ … จุดเด่นของที่นี่คือต้นไม้ขนาดใหญ่ริมหาดที่ให้ร่มเงาลงไปถึงในทะเล ซึ่งหาไม่ได้ที่หาดชื่อดังอื่น ๆ ของภูเก็ต จะว่าไปที่นี่ก็เหมาะกับการเล่นน้ำมากเหมือนกันหากเป็นช่วงน้ำขึ้น เพราะทรายขาวน่านั่ง แต่ถ้าเป็นช่วงน้ำลงจะมีโขดปะการังเยอะไปหน่อยไม่เหมาะกับการว่ายน้ำ


15:10-15:30 จากหาดไตรตรัง ต้องขับย้อนไปที่หาดป่าตองแล้วใช้ถนนรอบเกาะเดินทางต่อไปยัง หาดกะรน ซึ่งเป็นหาดที่สวยและมีความยาวของหาดค่อนข้างมาก แม้ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวจะมีนักท่องเที่ยวเยอะ แต่ด้วยความที่หาดค่อนข้างยาวและไม่มีโรงแรมมากั้นระหว่างถนนกับหาด ทำให้หาพื้นที่ในการพักผ่อนได้ค่อนข้างสะดวก หาดนี้เป็นหาดนึงที่สามารถเล่นน้ำได้ในช่วงเดือน พ.ย.-เม.ย. แต่ถ้าเป็นช่วงมรสุมก็ไม่ค่อยแนะนำนักเพราะคลื่นลมค่อนข้างแรงทีเดียว


15:45-16:45 จากกะรน ขับรถข้ามเนินเขาเล็ก ๆ ไปก็จะถึงหาดกะตะ ซึ่งเป็นหาดที่อยู่ในมุมอับลม สามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัยทั้งในฤดูท่องเที่ยวหรือแม้แต่ช่วงมรสุม สามารถหาที่ว่าง ๆ ริมหาดจอดรถได้เลย ทั้งนี้ในช่วงเทศกาลอาจมีคนเยอะสักหน่อย แต่ผมว่าที่นี่เหมาะที่สุดแล้วล่ะสำหรับการว่ายน้ำ เพราะพื้นทรายจะค่อนข้างราบเรียบไม่ชันเหมือนหลาย ๆ หาดที่หันหน้าเข้าหาทิศทางลมโดยตรง … นอกจากนี้ทรายที่หาดนี้ก็ขาวสะอาดเหมาะกับการลงไปนอนเกลือกกลิ้งยิ่งนัก ผมเลยให้เวลาที่นี่เยอะหน่อยเผื่ออยากจะเล่นน้ำทะเลก็ลงได้เลย


17:00-17:30 จากหาดกะตะขับรถต่อไปบนเส้นถนนรอบเกาะ ขึ้นเนินไปไม่ไกลก็จะถึงจุดชมวิวกะตะน้อย ซึ่งจะว่าไปก็เป็นจุดชมวิวแบบไม่เป็นทางการ แต่มีมุมเปิดพอให้ถ่ายภาพที่ระลึกกับหาดกะตะน้อยได้ หากไม่อยากจอดรถริมทางขับเลยไปอีกไม่ไกลก็คือจุดชมวิว 3 อ่าว ซึ่งมีลานจอดรถและศาลาชมวิว ที่นี่สามารถมองเห็นหาดชื่อดัง 3 ของภูเก็ต อันได้แก่ กะตะน้อย, กะตะ และกะรนตามลำดับ และที่นี่คือหนึ่งในจุดชมวิวมหาชนของภูเก็ตเลยทีเดียว


จุดชมวิวกะตะน้อย

จุดชมวิวสามอ่าว


17:50-18:10 จากจุดชมวิวขับรถลงเนิน ลัดเลาะไปตามเส้นทางที่ผ่านชุมชนใสยวน จากนั้นเลี้ยวไปยังเส้นทางสู่หาดในหาน ซึ่งมีทิวทัศน์สวยงามมาก มีอ่างเก็บน้ำขนาดย่อมอยู่ก่อนถึงหาด ช่วงเย็น ๆ จะเห็นคนมาออกกำลังกายกันเต็มไปหมด ตัวหาดในหานเองก็มีสเน่ห์ไม่ใช่เล่น เพราะนอกจากทรายที่ขาวเนียนแล้ว ยังมองเห็นกังหันลมขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเนินใกล้ ๆ กัน แต่ผมอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ขับเลาะไปทางขวา (เมื่อหันหน้าเข้าหาทะเล) ผ่านโรงแรมแห่งหนึ่ง จากนั้นใช้ถนนที่ผ่านไปตามไหล่เขา ทั้งนี้จะเป็นถนนแคบ ๆ ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ และบางจุดอาจสวนกันลำบาก ถ้าเป็นมอเตอร์ไซด์ก็ง่ายหน่อย แต่ถ้าเป็นรถยนต์คงต้องหาช่องเบี่ยงหลบกัน … ขับไปเรื่อย ๆ จะเริ่มเห็นมุมเปิดที่มีทุ่งหญ้าอยู่บนไหล่เขา มองกลับไปทางในหานจะเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามมาก อีกด้านจะมองเห็นอ่าวเล็ก ๆ ที่ชื่ออ่าวเสน ผมจึงขอเรียกจุดชมวิวนี้ว่าจุดชมวิวอ่าวเสนละกัน ในช่วงเย็นแสงทองของพระทิตย์จะช่วยขับให้ต้นหญ้าที่พริ้วไหวสวยขึ้นอีกเป็นกอง นับเป็นอีกจุดที่เหมาะมากกับการถ่ายภาพบุคคลหรือแม้แต่ถ่าย pre wedding


หาดในหาน

จุดชมวิวอ่าวเสน


18:30-18:45 จากจุดนี้เราขับรถย้อนไปยังในหาน แล้วใช้ถนนรอบเกาะขับไต่เขาขึ้นไปยัง จุดชมวิวกังหันลม ที่เรามองเห็นตั้งแต่ตอนอยู่ในหาน ที่นี่เป็นมุมเปิด 180 องศา เบื้องหน้าคือทะเลอันดามันกว้างใหญ่ ฝั่งซ้ายคืออ่าวยะนุ้ยที่มีคาแรกเตอร์พิเศษเป็นแหลมเล็ก ๆ อยู่กลางหาดยื่นไปในทะเล ฝั่งขวาคือหาดในหาน … ที่สำคัญตรงจุดนี้มีต้นตาล ทุ่งหญ้า อันเป็นองค์ประกอบที่เหมาะมากกับการถ่ายภาพพระอาทิตย์ตก บางวันมีกลุ่มคนที่ชอบกีฬาแนว extreme มาเล่น paramotor ด้วย ยิ่งทำให้จุดชมวิวแห่งนี้เป็นจุดที่ผมอยากแนะนำให้มาสัมผัสกับแสงสุดท้ายของวัน


อันที่จริงขับรถไปอีกนิดเดียวก็จะถึงแหลมพรมเทพซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ดังที่สุดของภูเก็ต แต่ผมว่าที่นั่นพลุกพล่านไปหน่อย และต้องเดินไกลจากจุดจอดรถไปยังจุดชมวิว หากทำตามโปรแกรมข้างต้นแล้วอาจดูพระอาทิตย์ตกไม่ทัน แต่ถ้าเพื่อน ๆ สามารถทำเวลาได้ดีอาจไปชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรมเทพก็ได้ครับ สวยไม่แพ้กัน


19:00 ชมพระอาทิตย์ตกกันแล้ว ขับรถต่อไปอีกหน่อยก็จะถึงหาดราไวย์อันเป็นหาดใต้สุดของเกาะภูเก็ต เป็นที่ซึ่งผมแนะนำให้ทานมื้อค่ำกัน จะเลือกพวกร้านอาหารริมหาดก็ได้ หรือจะเลือกซื้อของจากทะเลสด ๆ แล้วให้ทางร้านปรุงให้ที่ร้านมุกดีก็ได้ ทั้งนี้ผมแนะนำอย่างหลังดีกว่า ได้สนุกกับการต่อรองราคาอาหารทะเลสด ๆ ด้วย และได้ลิ้มรสกับเมนูหลากหลายที่ร้านจะทำให้เรา สนนราคารวม ๆ แล้วก็จะถูกกว่าไปทานตามร้านที่รองรับนักท่องเที่ยวโดยทั่วไป แถมของจะสดกว่าด้วย ข้อเสียคือหาที่จอดรถยากหน่อย และคนเยอะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นนักท่องเที่ยวที่ได้รับการบอกต่อกันปากต่อปากนั่นแหละครับ


จุดที่สามารถเลือกซื้อซีฟู้ดสด ๆ และร้านมุกดีอยู่ใกล้ ๆ สะพานที่หาดราไวย์

เสร็จจากมื้อค่ำก็สามารถขับตรงเข้าเมืองเพื่อ check in ที่โรงแรมได้เลย ยิ่งถ้าเป็นโรงแรมแถวหาดราไวย์, กะตะ หรือกะรนก็ขับไปอีกราว 10 กม. เศษ ๆ ก็ถึงแล้ว แต่ถ้าที่พักอยู่ไปทางด้านเหนือของเกาะก็คงต้องมีการปรับแผนหน่อยครับ ไม่เหมาะที่จะนำแผนนี้ไปใช้ได้โดยตรง


ก็หวังว่าโปรแกรมนี้ รวมถึงข้อมูลของหาดและจุดชมวิวต่าง ๆ จะช่วยให้เพื่อน ๆ วางแผนเที่ยวภูเก็ตได้คุ้มค่ามากขึ้นนะครับ และเจอกันใหม่กับ “วันเดียวเที่ยวหนักมาก ภาค 2" นะครับ

หมายเหตุ

  • ภาพข้างต้นถ่ายในหลายวาระโอกาสทั้งในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว และฤดูมรสุม บรรยกาศของแต่ละแห่งอาจจะแตกต่างไปตามฤดูกาล สภาพอากาศ และน้ำขึ้นน้ำลงครับ
  • จุดชมวิวที่ผมแนะนำในแผนที่จะมีเกิน 5 จุดนะครับ แต่ขอนับเฉพาะที่เป็นทางการก็แล้วกัน อิอิ

สำหรับ map ผมได้ทำพิกัดบน Google map ไว้ให้แล้วตาม link นี้เลยครับ

นายมด

 วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 22.43 น.

ความคิดเห็น