ฉลามวาฬ อลังการเซบู
จริงๆไม่ได้มีแค่ฉลาม แต่มีมากกว่านั้น…
สำหรับทริปนี้เราก็ยังอยู่ในอาเซียนเช่นเดิมนั้นคือเมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นการมาฟิลลิปปินส์ครั้งแรกเลยครับ อะไรที่เป็นครั้งแรกมักจะตื่นเต้นเสมอและสิ่งที่ทำให้พวกเราเดินทางมาที่เซบูก็คือ ฉลามวาฬ ฝูงปลาซาดีน เต่าทะเลและกิจกรรม canyoneering พักหลังๆเห็นรีวิวเยอะมากก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้อยากมาเช่นกัน คนไทยกับคนฟิลิปปินส์หน้าตาคล้ายกันบางทีแยกไม่ออกเลย เรื่องอาหารก็ไม่ได้ต่างจากบ้านเราเท่าไหร่ และค่าครองชีพก็ถูกด้วย อาจจะเป็นประเทศนอกกระแส แต่พวกเราจะปลุกกระแสนั้นขึ้นมาเองครับ ฮ่าๆ ตามติดพวกเรามาเลยครับ
ทริปนี้พวกเราเดินทางวันที่ 15 - 19 ก.พ. 2019 ผู้ร่วมทริป 3 คน พยายามชวนแล้วแต่ก็ได้เท่านี้ 55+ จากที่หาข้อมูลมาการเดินทางด้วยรถสาธารณะ แต่ล่ะเมืองไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าไหร่ บางทีต้องไปแออัดบนรถแล้วนักท่องเที่ยวอย่างเราๆก็ของเยอะซะด้วย ไหนจะกระเป๋าเสื้อผ้า กระเป๋ากล้องอีก พวกเราเลยใช้เงินแก้ปัญหา!!! ติดต่อ local guide จากบริษัท https://www.islandtrektours.com/ ซึ่งเว็บบอกรายละเอียดทัวร์ได้ละเอียดสุดๆ โปรแกรมทัวร์ต่างๆหากไม่ถูกใจเราสามารถจัดแพลนตามใจได้เลย พวกเราใช้บริษัทตั้งแต่ออกจากสนามบินยันมาส่งสนามบินเลยครับ ถือว่าคิดไม่ผิดที่ซื้อทัวร์นี้ แต่เราไปกัน 3 คน ก็ต้องหารกันเยอะหน่อยไปหลายคนจะถูกกว่านี้มาก เรื่องค่าใช้จ่ายจะแจ้งไว้ข้างล่างนะครับ
จากที่เมลไป ต้องบอกก่อนว่าพวกเราจองแบบ private ครับ รถรับ-ส่ง ทุกที่ ทุกเมืองที่ไป ไม่รวมที่พัก 4 คืน เพราะเราบอกว่าจะเลือกเองแล้วเอาชื่อโรงแรมที่จองมาบอกเขา รวมมื้อเที่ยงเป็นบางวันที่เป็นทัวร์เต็มวัน รวมถึงค่าเข้าสถานที่ต่างๆก็รวมหมดแล้ว
Rate for group of 3 persons: Php 16,050 per pax (discounted rate)
- Feb. 15 - Bohol Countryside Tour
- Feb. 16 - Whale Shark + Sumilon Day Tour
- Feb. 17 - Pescador Island Tour
- Feb. 18 - Osmena Peak + Canyoneering
- Feb. 19 - Half Day City Tour
ที่ไม่รวมก็คือ zipline, ATV, ว่ายน้ำกับฉลามคือวันที่ไปดูฉลามวาฬเขาจะพานั่งเรือออกไป ถ้าจะลงไปว่ายน้ำด้วยจะต้องจ่ายเพิ่มคนละ 500 php โดยมีเวลาให้ลำละ 30 นาที
รายละเอียดเพิ่มเติมลองดูในเว็บนะครับ https://www.islandtrektours.com/
อัตราแลกเปลี่ยน
ช่วงที่พวกเราไปได้เรท 1 php = 0.62 บาท หรือ 100 php = 62 บาท
ซิมการ์ด
แนะนำให้ซื้อ sim จากประเทศไทยไปเลยครับมีหลายเจ้าใช้ได้ทุกเจ้าเลยครับ แต่ของผมไปซื้อที่โน่นเพราะเห็นว่าถูกกว่า พวกเราไปถึง 6 โมงเช้าออกมาจากสนามบินก็เจอ เค้าเตอร์ของ Globe คนต่อแถวซื้อซิมเพียบ ก็เลยคิดว่าเดี๋ยวค่อยไปหาซื้อข้างนอก ให้ไกด์แวะให้สักแปบนึง ปรากฎว่ามันเช้าเกินไป หาซื้อของนอกไม่ได้เลยครับ
ที่พัก
- Oslob 2 คืน : Ging-Ging Hotel & Resort อยู่ติดถนนเดินทางสะดวก
- Moalboal 2 คืน Moalboal Beach Resort อยู่ลึกแต่บรรยากาศส่วนตัวมากๆ
แนะนำให้พัก Bluewater ที่เกาะ Sumilon สักคืนครับ
ของฝาก
เห็นแนะนำกัน มะม่วงอบแห้ง ยี่ห้อ 7D ก็ลองแล้วอร่อยใช้ได้เลย
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด(ต่อคน)
- ตั๋วเครื่องบินไปกลับ philippine airlines 9,000 บาท
- ทัวร์ Private 5 วัน 4 คืน 10,900 บาท
- ที่พัก Moalboal Beach Resort 2 คืน 700 บาท
- ที่พัก Ging Ging Hotal & Resort Oslob 2 คืน 880 บาท
- ประกันเดินทาง Msig 230 บาท
- pocket money 7,000 บาท
รวมทั้งหมด 28,710 บาท ถือว่าสูงมาก
วันที่ 1 Bohol Countryside Tour
พวกเราออกเดินทางจากสุวรรณภูมิด้วยสายการบิน Philippins Airline ไฟลท์ ตี 1.30 ถึงเช้าที่เซบูพอดี ออกจากสนามบินก็มองหาคนขับรถ ถือป้ายชื่อพวกเราอยู่ บอกก่อนว่าคนขับรถของเราจะเปลี่ยนทุกวันนะครับ จะให้บริการเรา 1 คนต่อวัน โดยบริษัททัวร์จะส่งเมลมาบอกเราล่วงหน้า 1 วัน ว่าคนขับชื่ออะไรเบอร์โทรอะไร
จากสนามบินนั่งรถต่อไปที่ ท่าเรือเพื่อข้ามไปยังเกาะ Bohol ระหว่างทางพวกเราก็มองหาร้านขายซิม ไม่มีเลยสักร้าน คนขับจะส่งเราแค่ที่ท่าเรือและจะมารับ หลังกลับมาจากเกาะเพื่อเดินทางไป Oslob คืนนี้เลย ข้ามไปถึงเกาะจะมีคนขับอีกคนรอรับอยู่ ทำงานกันเป็นทีมดีจริงๆ 55+ ตั๋วเรือไกด์ได้ซื้อให้พวกเราเรียบร้อยแล้วโดยส่งมาทางเมล ให้เราโชว์ให้พนักงานออกตั๋วที่ท่าเรือดูเพื่อปริ้นออกมา ที่ต้องจ่ายเพิ่มก็คือค่า port terminal fees คนละ 20 php
ระหว่างนั้นพวกเราก็เห็นเคาน์เตอร์ฝากกระเป๋า ก็เลยไปฝาก ในใจก็คิดว่าฝากไว้ตอนกลับค่อยมารับคืน จะได้ไม่เป็นภาระ ระหว่างนั่งเรือใช้เวลาประมาณ 2 ชม.
พอไปถึงเกาะ bohol พวกเราก็ไม่ได้เอะใจอะไร รีบมองหาคนขับรถแล้วไปเที่ยวตามโปรแกรมเลย โดยที่แรกที่แวะคือ Baclayon Oldest Church
ต่อไปแวะ The Butterfly Garden ที่ไม่ได้มีแค่ผีเสื้อ
ผ่านอุโมงค์ต้นไม้ คนลงมาถ่ายรูปกันแต่ต้องระวังรถที่ขับกันเร็วด้วยครับ
ล่องแม่น้ำ Loboc River พร้อมมื้อเที่ยงบนเรือ โดยเราสามารถอัพเกรดอาหารเพิ่มเติมได้ +60 php จะมีกุ้ง ปูเพิ่มเติมให้ และจะได้นั่งแพหลังคาเป็นรูปเต่าดูมีระดับกว่า 55+
เรือเต่ากับเรือธรรมดา
บรรยากาศระหว่างล่องเรือ ชิลมากครับ
เมื่อล่องไปสุดท้ายจะมีคนแต่งชุดชนเผ่า ให้นักท่องเที่ยวได้ชมได้ถ่ายรูป
หลังจากนั้นก็ล่องเรือกลับ
เสร็จจากมื้อเที่ยงก็เดินทางต่อไปดูสัตว์ชนิดหนึ่งคล้ายลิงชื่อว่า Tarsier
และไปยังไฮไลต์ของเกาะนี้คือภูเขา Chocolate hill
พวกเรานำโดรนมาแต่บินไม่ได้ เพราะที่นี่ให้บินได้ก่อน 8 โมงเช้าเท่านั้น เสียใจ T_T
จากนั้นก็เดินทางกลับท่าเรือ แต่ยังไม่ถึงเวลาขึ้นเรือพวกเราก็เลยเดินหาซื้อซิมอีกครั้ง จนได้ซิมแบบ prepaid ซื้อครั้งแรก 40 php ได้ 3 กิก ถ้าใช้หมดก็เติมเงินที่ 7 ได้เลย
ได้เวลาขึ้นเรือเพื่อข้ามไปยังเซบู คนขับรถก็มาจัดการปริ้นตั๋วให้พวกเราเรียบร้อย และต้องจ่ายค่า port terminal fees 20 php อีกครั้ง
หลังจากมาถึงเซบู ก็เริ่มเห็นคนเดินออกจากท่าเรือ ไม่เห็นมีใครกลับเข้าไปรับกระเป๋าที่ฝากเลยครับ เลยเอะใจเดินเข้าไปถามข้างในปรากฎว่ากระเป๋าเสื้อผ้าพวกเราอยู่ที่เกาะ bohol 3 ใบพอดีเป๊ะ ไม่มีใครลืมไว้แบบเราเลย 55+ ที่พีคคือ ไม่มีเรือมาจากเกาะแล้ว ที่เราขึ้นมาเป็นรอบสุดท้าย แล้วตอนนี้พวกเราต้องเดินทางไปเมือง oslob ด้วย พนักงานที่เค้าเตอร์บอกว่ากระเป๋าจะมาถึงพรุ่งนี้เช้า พวกเราก็เลยตกลงกันจะคุยกับคนขับรถให้ติดต่อบริษัทหาคนเอากระเป๋าไปส่งที่ oslob พวกเราพร้อมจ่ายให้ หลังจากคุยกันสักพักคนขับก็บอกว่า กระเป๋าเขาจะให้เพื่อนของเขาเอามาส่งให้ที่ oslob พรุ่งนี้ประมาณบ่าย 3-4 โมง ซึ่งหมายความว่า คืนนี้และพรุ่งนี้เช้าพวกเราต้องใส่ชุดเดิมเที่ยว อุปกรณ์อาบน้ำก็ไม่มี แม่เจ้า!!! คุยกันเรียบร้อยก็เดินทางต่อ
หลับไป 2-3 ชม. ก็มาถึงที่พักที่ oslob เวลาประมาณ 5 ทุ่ม ก็บอกลาคนขับรถและปิดท้ายด้วยเรื่องกระเป๋าเหมือนเดิมเพราะกลัวจะไม่ได้คืน แต่เขาก็บอกได้แน่นอน จากนั้นก็เช็คอินเข้าห้องพัก โชคดี ที่พักมีของใช้ขาย รวมถึงกางเกงในเลยจัดมา 1 แพ็ค คนละตัวพอดี ว่าแต่ตัวเล็กไปนิดนะครับ 55+
วันที่ 2 Whale Shark + Sumilon Day Tour
ได้รับเมลเมื่อคืนว่าคนขับคนใหม่จะมารับ 6.00 เช้า จริงๆโรงแรมมีอาหารเช้าแต่พวกเราไม่ได้กินเลยสักวัน 55+ มื้อเช้าของเราวันนี้คือข้าวเหนียวมะม่วงที่รวมในแพ็คเกจทัวร์แล้ว
เมืองไทยอร่อยกว่าเยอะเลย ไกด์บอกว่าตอนนี้คิวไปดูฉลามวาฬยาวมาก ให้พวกเราไปชิลๆที่น้ำตก Tumalog ก่อน โดยต้องนั่งมอไซค์เข้าไปหรือจะเดินก็ได้ เห็นฝรั่งเดินกัน แต่เราจ่ายทัวร์ไปแล้วเนอะ จะเดินทำไม ฮ่าๆ นั่งคันไหนจำเบอร์คนขับไว้ด้วยนะครับ เพราะขากลับเราต้องนั่งกลับคันเดิม
เกาหลีเยอะมากๆ หยุดยาวเกาหลีหรืออะไร งง
เสร็จจากน้ำตกก็ไปดำน้ำกับฉลามวาฬ
ถึงคิวพวกเราพอดี ไปกันเลยดีกว่า
แน่นอนใครมาก็อยากถ่ายกับฉลามทั้งนั้น เราก็ไม่พลาด แต่ก็ได้มาแค่นี้ 55+ บังหมด
อย่างที่รู้กันการที่ฉลามมาว่ายวนเวียนเพราะคนที่นี่เอาอาหารให้มันกิน เพื่อทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ตามความเป็นจริงควรจะให้มันหาอาหารเอง ไม่งั้นจะเสียสมดุลของระบบนิเวศ แต่พวกเราก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ถ่ายๆๆๆ
ครบ 30 นาที ไกด์ก็เรียกขึ้นเรือกลับเข้าฝั่ง และเตรียมไปชิลๆบนเกาะ Sumilon island ระหว่างรอข้ามฝั่ง วิวตรงท่าเรือก็ใช้ได้เลย
ใช้เวลาจากฝั่งไปถึงเกาะประมาณครึ่งชั่วโมง วิวจากเกาะ Sumilon มองไปทางฝั่งเซบู สวยสาส
น้ำใสมากมาย
พวกเรามีเวลาบนเกาะถึง 4 โมงกว่า ทำอะไรก็ได้ เล่นน้ำ ปั่นจักรยาน พายเรือ นอน พร้อมบุฟเฟ่ต์มื้อเที่ยง
ในส่วนที่พวกเราอยู่เป็นเขตของโรงแรม bluewater โดยเขาจะแบ่งเป็นโซนของคนที่มาพักที่นี่ (สระว่ายน้ำคนที่มาพัก)
กับโซนของทัวร์ one day trip เสียใจพวกเราแค่มาทัวร์ T_T
มีคายัคกับเรือถีบด้วยนะครับ
ทำกิจกรรมมาเยอะต้องพักเติมพลังก่อน มื้อเที่ยงจัดหนักจัดเต็มสุดๆ
ได้เวลากลับเข้าฝั่ง และเราก็ได้ข่าวดีจากคนขับว่า กระเป๋าจะมาถึงพรุ่งนี้เช้าก่อนไปทัวร์ ฮะ!!! ไหนบอกจะมาวันนี้ เขาบอกว่าวันนี้ไม่มีคนมาส่ง เอ่ออออ ใส่ซ้ำอีกสักวันจะเป็นไรไป - -
ถึงที่พักประมาณ 5 โมงกว่า
มุมสูงที่พัก
ตอนแรกกะจะไปหาของกินข้างนอก แล้วจะได้หาซื้อเสื้อ กางเกงในไว้สำรอง สุดท้ายก็ขี้เกียจเลยกินมื้อเย็นที่ที่พักเลย ที่พักเราติดทะเลนะครับ ยามเย็นบรรยากาศดีสุดๆ
วันที่ 3 Pescador Island Tour
ได้รับเมลเมื่อคืน คนขับจะมารับ 6 โมงเพื่อเดินทางไปเมือง Moalboal เหมือนทำภารกิจอะไรสักอย่าง ได้รับ mission ประจำวัน 55+ สำหรับทัวร์วันนี้แค่ครึ่งวันครับ จัดเต็มอะไรกันทุกวันต้องมีวันชิลๆบ้าง
เจอกับคนขับเราก็ถามเรื่องกระเป๋าก่อนเลยครับ เขาก็บอกจะพาไปรับที่ออฟฟิศบริษัท ก็คือแต่ละเมืองจะมีสาขาของบริษัททัวร์อยู่
เมื่อเห็นกระเป๋า โอ้วววววววว นึกว่าจะต้องใส่เสื้อผ้า ชุดเดียวเที่ยวทุกวันซะแล้ว 55+ ไม่รอช้าพวกเราขอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเลย จากนั้นเดินทางต่อประมาณ 2 ชั่วโมง ถึง Moalboal
คนขับจะส่งเราตรงนี้และรอรับไปส่งที่พัก แต่จะมีไกด์ท้องถิ่นพาเราทัวร์ต่อ ไกด์พาไปลงทะเบียนและฟังบรีฟ
ลงเรือมุ่งสู่เกาะ pescador ดูปะการัง
ระหว่างนั่งเรือ เสียงเรือดังมากครับ พอเรือจอดหูดับเลย 55+
พร้อมแล้วก็ลงน้ำได้
จากนั้นนั่งเรือต่อไปชมฝูงปลาซาดีน
และสุดท้ายไกด์จะพาไปว่ายกับเต่าทะเล ไกด์ว่ายหาเต่าให้พวกเรา หาอยู่นานก็ไม่เจอ โชคไม่ดีเลยวันนี้ โชคไม่ดีตั้งแต่ลืมกระเป๋าแล้วเว้ยยย หลังจากกลับมาที่ฝั่ง คนขับก็มารับพอดี ซึ่งตั้งแต่เช้าพวกเรายังไม่ได้กินอะไรเลย บอกคนขับให้พาแวะกินข้าวก่อนที่จะเข้าที่พัก คนขับพาจัดเลย Mc
เสร็จมื้อนี้ก็เดินทางเข้าที่พัก Moalboal Beach Resort ประมาณ 20 นาที ซึ่งอยู่ลึก เป็นทางลูกรัง แต่พอถึง(ถึงประมาณบ่าย2) คือทำเล วิว ความเป็นส่วนตัวเหมาะกับพักผ่อนจริงๆ
มุมสูงอีกครั้ง
ประมาณ 4 โมงก็ออกมาว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำ มองไปห้องอื่นๆ ก็เห็นคนมาพัก นึกว่าจะมีแค่พวกเราซะอีก เพราะมันเงียบเกิน ตอนว่ายน้ำก็มีแค่ 3 คนที่ว่าย
ได้เวลามือเย็น ก็สั่งกับที่พักเลย
ตรงที่นั่งกินข้าวเย็นก็คือล็อบบี้ ซึ่งไฟไม่สว่างเลย อ่านเมนูต้องจ้องอยู่นาน มืดไปหมด
วันที่ 4 Osmena Peak + Canyoneering
วันนี้ก็เป็นอีก 1 ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดเลย canyoneering
7 โมง คนขับมารับพวกเราจากที่พักไปยอด osmena ก่อน ทางไป osmena ชวนเวียนหัวสุดๆ เลยหลับดีกว่า ตอนแรกคิดว่า osmena รถสามารถขึ้นไปถึงเลย แต่ไม่ใช่
พอมาถึงก็จะมีไกด์ผู้หญิงพาเราเดินขึ้นไป
จริงๆก็ไม่ไกลเท่าไหร่นะ 30 นาทีก็ถึงล่ะ ระหว่างทางก็มีของขายด้วยนะครับ
พกหมวกกับใส่เสื้อแขนยาวก็จะดีมากเลยครับ
ใกล้แล้วอีกนิดเดียว
ขึ้นมาถึงก็จะพบกับวิวแบบนี้
เสร็จจากที่นี่ก็เตรียมตัวไป Canyoneering ก่อนอื่นก็เตรียมอุปกรณ์กันก่อน
ทัวร์ของเรามีอุปกรณ์พร้อมให้หมดครับ รวมถึงรองเท้าถ้าไม่มีทัวร์ก็มีให้ ส่วนมือถือเตรียมซองกันน้ำมาเองก็ดีครับ ถ้าไม่ได้เอามาก็มีขายครับ ส่วนพวกกล้องตัวใหญ่ ไม่แนะนำให้เอาไปนะครับ อาจจะเสียหายได้ จริงๆผมอยากเอากล้องไปนะเพราะอยากถ่ายตรงน้ำตก แต่ก็กลัวจะเสียหายเลยเอาแต่ gopro ไปเก็บภาพ
หลังจากลงทะเบียนเสร็จก็ต้องนั่งมอเตอร์ไซค์ต่อไปอีก ไกลอยู่เหมือนกัน 1 คันได้ 3 คน รวมคนขับ ขับกันเร็วเกินทางโค้งแทบไม่เบรคเลย
พอลงจากมอเตอร์ไซค์ ลงทะเบียนอีกและมาฟังบรีฟ
เราต้องเดินเท้าเข้าไปก่อนประมาณ 30 นาที แดดแรงใช้ได้เลยตอนนี้
เริ่มกิจกรรม Canyoneering...
ระหว่างนั้นก็จะมีจุดพัก มีอาหารขายซึ่งตรงนี้เราต้องออกเงินเอง
พีคสุดๆก็คือกระโดดน้ำ 12 เมตรและ 10 เมตร เรียกได้ว่าใครก็ต้องโดด แต่คนที่กลัวจริงๆไม่โดดก็ได้ครับ
ไป 3 คนแต่กระโดดคนเดียว เลยให้เพื่อนมาถ่ายรูปให้ครับ 55+
จุดสุดท้ายที่เราจะไปพักกินข้าวก็คือน้ำตก Kawasan ซึ่งนักท่องเที่ยวทัวร์ไปก็จะเข้ามาเล่นน้ำตกตรงนี้กัน ถ้าไม่ได้ไปกิจกรรมแบบพวกเรา
ทัวร์วันนี้ของพวกเราก็เสร็จประมาณบ่าย 3 จากนั้นก็กลับที่พักนอน + มื้อเย็นที่ที่รีสอร์ทเหมือนเดิม
วันที่ 5 Half Day City Tour
วันสุดท้ายสำหรับทริปนี้ นัดกับคนขับเมื่อคืนให้มารับ 9 โมง เพื่อเดินทางกลับเมืองเซบู ไปเที่ยวในเมืองสักหน่อย ใช้เวลาเดินทางกลับประมาณ 2 ชม.
ที่แรก Magellan’s Cross ไม้กางเขนที่นักสำรวจชาวสเปนนำมาประดิษฐานไว้เมื่อปี 1521 ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของคริสต์ศาสนาในฟิลิปปินส์
เดินเข้าไปข้างในจะเป็น Sto. Nino Church โบสถ์โรมันคาทอลิคที่เก่าแก่ที่สุดในฟิลิปปินส์ ถูกสร้างขึ้นในปี 1565
และไปต่อกันที่ Fort San Pedro ป้อมปราการซานเปโดร สร้างในปีค.ศ. 1565
แต่ล่ะที่ใช้เวลาแปบเดียวเพราะอากาศร้อน ไม่รู้จะถ่ายอะไร และไปต่อที่ Heritage Monument อนุสาวรีย์ที่สร้างโดย
และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ไปวัดจีน Taoist Temple
จริงๆ ในเมืองไม่ค่อยมีอะไรเลย สุดท้ายคนขับก็พาไปซื้อของฝาก เขาบอกมะม่วงอบแห้งอร่อย พวกเราก็จัดกันมาชุดใหญ่เลย
จากนั้นพวกเราก็ให้คนขับพาไปหาของกิน แล้วก็ไปส่งที่สนามบินประมาณ 5 โมงเย็น ซึ่งบินกลับตอน 3 ทุ่มครึ่ง รอกันยาวๆเลยครับ
ในสนามบินก่อนจะออกจากประเทศทุกคนต้องจ่ายค่า Terminal fee ด้วยนะครับ 850 php ประมาณ 500 บาท ซึ่งพวกเราไม่รู้มาก่อนเลย ยังดีที่เหลือเงิน php ไว้พอจ่ายอยู่
สรุปสุดท้ายถือว่าคุ้มกับค่าทัวร์ที่จ่ายไปครับ มากันน้อยก็ต้องจ่ายเยอะเป็นธรรมดา เล่นเหมารถ เหมาทัวร์ทุกวัน ถือว่าซื้อความสบายครับ แล้วดันลืมกระเป๋าไว้อีกถ้าไม่ได้จ้างทัวร์ท้องถิ่น ไม่รู้จะเป็นอย่างไรตอนนั้น แนะนำให้มาสักครั้งครับ สนุกสุดยอด ขอลากันไปด้วยภาพนี้ (ตัดต่อนะครับ) 55+
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและสนุกไปกับการเดินทางของเรา ฝากไลค์ฝากแชร์ฝากแคร์กันด้วยนะครับ
ติดตามเรื่องราวของผมได้ที่เพจ "เที่ยวออกเดิน" by Fun_O
Facebook : https://www.facebook.com/TiewOkDern/
Readme : https://th.readme.me/id/funotravel
Pantip : http://pantip.com/profile/2443477
Fun_O
วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 17.02 น.