สวัสดีทุกคน เจอกันอีกซักที เข้าหน้าร้อนเต็มรูปแบบแล้วสำหรับเมืองไทย และที่ไหนจะดีไปกว่าพักร้อนเที่ยวทะเล จริงมะ? รอบนี้เค้าจะพาไปเที่ยวพักผ่อนพักผ่อนแบบมีสไตล์ ในกลิ่นอายหมู่บ้านชาวประมงตะวันตก ฮะหน่อวววว ฟังดูดีชะมะ และที่นี่คือ Peggy's Cove Resort จันทบุรี๊

ซึ่งที่นี่เค้าบอกว่าได้แรงบันดาลใจจาก หมู่บ้านเป็กกี้ โคฟ บนชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก แห่งโนวาสโกเชียร์ แคนาดา บอกเลยว่าที่พักน่ารักมาก บรรยากาศก็เป็นส่วนตัว แต่ก็มีครบ ทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ รวมถึงกิจกรรมน่าสนใจในรีสอร์ทด้วย นั่นแปลว่าทริปนี้เราจะได้รูปสวยๆเพียบเลยน่ะซี่



ในส่วนของที่ตั้งรีสอร์ท ถือว่าเด่นมากเลย เพราะว่าอยู่ติดกับหาดคุ้งวิมาร และอยู่ใกล้กับแลนด์มาร์คเด่นๆของจันทบุรีอย่าง จุดชมวิวเนินนางพญา, อ่าวคุ้งกระเบน, จุดชมวิวหินโคร่ง และอื่นๆ ถ้ามาจากกรุงเทพฯ จะใช้เวลาประมาน 3 ชั่วโมงนิดๆ สามารถเซิร์จชื่อรีสอร์ทจากกู้เกิ้ลแมพได้เลย

และด้วยความตื่นเต้น ทำให้เราไปถึงก่อนเวลาเช็คอิน ฮ่า...
ระหว่างที่รอห้องเลยขอไปฝากท้องกับร้านอาหารของรีสอร์ทซักนิดนึง
Lighthouse Bar & Grill
ที่ร้านเสิร์ฟเมนูค่อนข้างหลากหลาย ทั้งไทยพื้นเมือง-ฟิวชั่น และสไตล์อิตาเลียน



อาหารที่นี่ หน้าตาดี รสชาติดี!! ทีแรกเราก็ไม่ได้คาดหวังมากนะ แต่สรุปเค้าทำมาอร่อยทุกอย่างเลย
และที่ชอบมากคือเส้นจันผัดปูนิ่ม ปูเยอะๆ แล้วก็ปลาหมึกซอสเป็กกี้ คืออธิบายไม่ถูกนะ ว่ามันเหมือนซอสอะไร เพราะว่ายังไม่เคยเจอรสชาติแบบนี้ที่อื่นเลย รู้แค่ว่าอร่อยมั่กๆ
อิ่มแล้วน้องพนักงานก็มาแจ้งว่าสามารถเช็คอินได้เลย ตามไปเช็คอินที่ล็อบบี้กันจ้า
....เราชอบโทนสีและการตกแต่งของที่นี่มาก อยากมีห้องนอนโทนแบบนี้







เอ้อระเหยอยู่ซักพัก เราก็มูฟไปที่ห้องพักของเราคืนนี้ เป็นห้อง Deluxe room อยู่ชั้น 2 ค่ะ




เปิดห้องมาว้าวเตียงก่อนเลย ใหญ่มาก นอนสบาย โดดเตียงดูดดดด


ในส่วนของห้องน้ำนั้นนน วาบหวิววว... แต่มีมู่ลี่เลื่อนปิดได้จ้า


ในห้องเรียกได้ว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ชอบในความใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ
อย่างที่ขยายเสียงมือถือ หรือหมอนหนุนที่มีให้เลือกใช้หลายแบบ ไม่มีกั๊ก




วิวระเบียงด้านนอกก็จะประมานนี้เลย

หลังจากสำรวจห้องกันเสร็จแล้ว เราก็ลงไปเดินสำรวจรอบๆรีสอร์ทบ้าง และเป็นไปตามคอนเซ็ปของที่นี่ เราจะได้ฟินกับบรรยากาศหมู่บ้านชาวประมงแบบน่ารักๆ พร้อมกับมุมถ่ายรูปเยอะมากๆ

ในส่วนของสระว่ายน้ำรวม จะอยู่ทางด้านหน้าของรีสอร์ท


ที่นี่ยังมีลายเพ้นท์สวยๆ ตามจุดต่างๆให้เราถ่ายรูปด้วยนะ เห็นว่าเพิ่งเพ้นท์เสร็จไม่นานมานี้เอง เพิ่มความน่าสนใจมากขึ้น

ตอนสี่โมงครึ่งเรามีนัดทำกิจกรรมทำผ้ามัดย้อม ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 450 บาทต่อคน ซึ่งเราจะได้รับเสื้อที่เราทำกลับบ้านไปด้วยแหละ พูดถึงกิจกรรม จริงๆแล้วที่นี่ยังมีอีกหลายอย่างให้ทำ อย่างเช่นเช่าจักรยานออกไปปั่นดูวิว / ใส่ชุดสไตล์ชาวประมงตะวันตกถ่ายรูป / ล่องเรือนำเที่ยวชมวิถีชีวิตหมู่บ้านชาวประมงในอ่าวคุ้งกระเบน อะไรแบบนี้ ถ้าใครสนใจก็ติดต่อกับพนักงานที่รีสอร์ทได้เลย

พอถึงเวลานัดหมาย เราก็ไปที่จุดจัดกิจกรรม ซึ่งจะมีน้องๆมาแนะนำวิธีการทำผ้ามัดย้อม เทคนิคการย้อมคราม และการทำลายต่างๆ หลังจากนั้นเราก็เริ่มลงมือทำกัน สนุกสนานกันมาก ถือว่าไม่ยากทำได้ทุกวัยทั้งครอบครัว



หลังจากที่เราทำเสื้อเสร็จแล้ว ทางรีสอร์ทก็จะเอาไปตากแล้วก็รีดให้ค่ะ รอค่อยรอรับกลับตอนเช็คเอาท์ หลังจากนั้นเราก็ไปรับไอศกรีมฟรี ที่นี่เค้ามีแจกทุกเย็นเลย แฮ่!!


และสำหรับคู่รักที่เดินทางมาพักผ่อน ที่นี่เค้ามีบริการดินเนอร์แบบพิเศษ ในราคา 1,900 บาทสำหรับสองท่าน มีทั้งเครื่องดื่มและบาบีคิวนั่งทานแบบโรแมนติก แอบเก็บรูปมาให้ดูด้วย




ส่วนวิวพระอาทิตย์ตกหน้ารีสอร์ทก็จะประมาณนี้

อุโมงตรงนี้ตอนกลางคืนเปิดไฟค่ะ

เป็นการปิดวันแบบฟินๆ กลับไปนอนพักผ่อนสบายใจต่อที่ห้อง นอนสบายจนตื่นสายผิดแผนไปอี๊ก แต่ถึงจะตื่นสาย ห้องอาหารเช้าก็ยังรอเราเสมอ อิอิ ห้องอาหารอยู่ที่ชั้นสอง บนร้าน Lighthouse นั่นแหละค่า เป็นอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ มีให้เลือกทั้งอาหารไทยและแบบ อเมริกันเบรกฟาสท์



ก่อนจะถึงเวลาเช็คเอาท์ เรามีเวลาเหลือนิดหน่อย เลยเดินเล่นเก็บบรยากาศของรีสอร์ทอีกซักรอบ คราวหน้าสัญญากับตัวเองว่า ต้องพาคนรู้ใจมาด้วยแน่นอน อิอิ



ถ้าใครมีแพลนจะเที่ยวจันทบุรีละก็ อย่าลืมนึกถึง Peggy's Cove นะจ๊ะ เพราะที่นี่มองข้ามไม่ได้เลยจริงๆ สามารถหาข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็ปไซต์ของรีสอร์ทจ้า

http://peggyscoveresort.com/th/



I'm on it

 วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 13.29 น.

ความคิดเห็น