" ถ้ า เ ธ อ เ บื่ อ เ ข า . . . . . ไ ป ท ะ เ ล กั บ เ ร า ก็ ไ ด้ น๊ า "

ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการแล้วค่า

#ไปทะเลกันเถอะ

ทริปนี้เราจะไปเที่ยวชิลๆแบบ 3 วัน 2 คืน

และการเดินทางครั้งนี้มีความพิเศษกว่าทุกครั้ง

เพราะว่าเราจะพาไปเที่ยวเมืองริมทะเลฝั่งอ่าวไทยกันค่า

..

!!!! แค่ไปเที่ยวเมืองริมทะเลฝั่งอ่าวไทยแล้วมันพิเศษตรงไหน มีดีอะไรหรอ !!!!

..

ถ้าอยากรู้ ก้อกดไปดูที่วีดีโอด้านล่างนี้กันเลย

v

v

และความพิเศษของทริปนี้ก็คือ

เราจะพาไปสัมผัสเมืองริมทะเลฝั่งอ่าวไทยถึง 2 แห่งกันเลย

สองเมืองที่เราพูดถึง...ก็นี่เลย


> > PATTAYA & HUAHIN < <

ในทริปนี้เราจะเที่ยวพัทยา และหัวหินโดยการนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามอ่าวไทย

จาก Pattaya ไป HuaHin และจาก HuaHin กลับมา Pattaya

โดยแต่ละรอบใช้เวลาเดินทางแค่ 2 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้นเองค่า

เรียกได้ว่า แค่ 2 ชั่วโมงก็ได้สัมผัสทะเลอ่าวไทยถึง 2 ฝั่งกันเลย

..

ปล. ซึ่งปกติแล้วถ้าเราเดินทางด้วยรถยนต์จากพัทยาไปหัวหิน

ก็จะใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงเลยน๊า

นั่งเรือเฟอร์รี่แค่ 2 ชั่วโมง อยากไปแบบไหนก็เลือกเอา !!

ในการเดินทางข้ามทะเลอ่าวไทยครั้งนี้ เราได้มาลองเปิดประสบการณ์ใหม่

โดยการใช้บริการเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากพัทยา-หัวหินกันค่ะ

Royal Passenger Liner

เป็นเรือเฟอรี่ที่เป็น High Speed Catamaran ความเร็วสูง

เป็นการขับเคลื่อนด้วยระบบ Water Jet

พร้อมทั้งยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย

และเค้ามีการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด !!

ภายในมีอุปกรณ์ Safety ครบ รวมถึงได้รับรองความปลอดภัยในระดับสากล

จากกรมเจ้าท่า และหน่วยงานรัฐบาล เรียบร้อย

สำหรับพนักงานก็ได้ผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรสากลมาแล้ว

และทุกคนมีความเชี่ยวชาญ พร้อมให้บริการแบบมีมาตรฐานเลยนะคะ

..

การันตีกันขนาดนี้

เพราะฉะนั้นเรื่องความปลอดภัย ไร้กังวล หายห่วงกันได้เลยเน้อ

:: Day 1 ::

ในทริปนี้เราจะเริ่มต้นด้วยการนั่งเรือเฟอร์รี่จากพัทยาข้ามไปหัวหินก่อน

ไปพักผ่อนไปชิลที่หัวหิน 1 คืน และกลับมาเที่ยวและพักที่พัทยาอีก 1 คืน

..

โดยเราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 9 โมงเช้า

ถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย เกือบๆเที่ยงค่ะ

พอถึงท่าเรือ ก็ไปจอดรถไว้ที่อาคารจอดอัติโนมัติ

จอดรถไว้ที่นี่สะดวก ไม่ต้องเสียเวลาไปวนหาที่จอดรถ

และมั่นใจได้ว่าปลอดภัย เพราะมีคนดูแลรถให้ตลอดเวลาเลยนะคะ

อัตราค่าบริการจอดค้างคืน ( 24 ชั่วโมง ) 250 บาท

เกิน 24 ชั่วโมงก็คิดเพิ่มตามราคาชั่วโมงปกตินะคะ

..

ตั๋วโดยสารแอบเก๋ เพราะแต่ละใบจะมีลายแตกต่างกันไป

ใครนั่งบ่อยๆก็สะสมให้ครบเป็น Collection โล้ด

..

หลังจากที่เราได้ตั๋วมาแล้ว ก็เดินไปขึ้นเรือที่ท่าเรือพอร์ต C

( ห้องจำหน่ายตั๋วอยู่ที่อาคารจอดรถอัติโนมัติ ชั้น 2 นะคะ )

ก่อนเข้าด้านในต้องทำการ Check In ให้เรียบร้อยก่อน

โดยเคาเตอร์ Check In จะอยู่ด้านหน้าท่าเรือพอร์ต C นั่นล่ะ

และเราควรจะต้องมา Check In ก่อนเวลาเรือออกครึ่งชั่วโมงด้วยน๊า

( ในการ Check In ใช้บัตรประชาชน หรือพาสปอร์ต นะคะ )

..

หลังจาก Check In เรียบร้อยก็จะผ่านช่องตรวจกระเป๋า

( เหมือนตอนไปขึ้นเครื่องบินเลย )

เสร็จจากตรงนี้ ก็ไปนั่งรอเวลาขึ้นเรือได้เลยค่า

พี่ๆลูกเรือน่าร๊าก ช่วยดูแลสัมภาระผู้โดยสารก่อนขึ้นเรือด้วย

ใครของเยอะไม่ต้องห่วงเลย มีคนช่วยยกให้ เดินสวยๆขึ้นเรือไปได้เลยค่า

แถมพี่ๆลูกเรือยิ้มแย้มกันตลอดเวลา ดูเป็นมิตรกับผู้โดยสาร ไม่แสดงอารมณ์ว่าเหนื่อยเลยสักนิด

ให้คะแนนการบริการไป 10 10 10 เลยค่า

สำหรับ Royal Passenger Liner นอกจากภายนอกจะดูสวย ดูอลังแล้ว

ภายในห้องโดยสารยังกว้างมาก สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 300 ที่นั่งเลยนะคะ

และมีบริการด้วยกันสองชั้น ด้านล่างเป็นชั้นประหยัด( Economy Class )

และด้านบนเป็นชั้นธุรกิจ ( Business Class และห้อง VIP Room )


เราไปดูในส่วนของห้องโดยสารกันดีกว่า

- Economy Class -

- Business Class -

- VIP Room -

- Toilet -


" ได้เวลาออกเดินทางแล้ว "

เรือจะมีบริการจาก Pattaya ---> HuaHin วันละ 1 รอบ

ออกจาก Pattaya เวลา 13:00 น. ถึง HuaHin เวลา 15:00 น.


และมีบริการจาก HuaHin ---> Pattaya วันละ 1 รอบเช่นกัน

ออกจาก HuaHin เวลา 16:00 น. ถึง Pattaya เวลา 18:00 น.


ในการเดินทางครั้งนี้เรานั่งแบบ Economy Class ค่ะ

ซึ่งเป็นห้องโดยสารที่อยู่ชั้นล่าง ภายในกว้างเลยแหละกว้างมาก ค่อนข้างโล่ง ไม่แออัด

เบาะนั่งสบาย เหมือนเค้าออกแบบมาให้เข้ากับสรีระของเรา นั่งยาวๆไม่มีเมื่อยเลยสักนิด

และช่องว่างระหว่างที่นั่งก็ไม่ได้แน่นจนเกินไป ยืดแขน ขา สบายเลย

เราใช้เวลาเดินทางจากพัทยา ---> มาถึงหัวหิน

2 ชั่วโมงครึ่งโดยประมาณค่ะ

โดยเรือจะมาจอดส่งที่ท่าเรือเขาตะเกียบ

หลังจากส่งผู้โดยสารลงหมดแล้ว ก็จะรอรับผู้โดยสารรอบต่อไปกลับพัทยาไปด้วย

^_^ ฮาโหล หัวหิน ^_^

การเดินทางในหัวหินเราเช่ารถใช้กันค่ะ ราคาเช่าวันละ 900 บาท

รถเช่าจะมารอรับที่ท่าเรือเลย ลงเรือปุ๊ปรับรถไปต่อได้ทันที

หัวหินวันนี้เริ่มต้นด้วยการไป Check In ที่ Cafe เก๋ๆ ริมหาดเขาตะเกียบ

Skoop Beach Cafe

ตั้งอยู่ใน Veranda Residence HuaHin

ร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากท่าเรือเขาตะเกียบที่เราลงเรือ เป็นร้านที่สายคาเฟ่ต้องห้ามพลาดเลยค่า

เพราะที่นี่บรรยากาศดีเวอร์ มุมถ่ายรูปสวยๆ ชิคๆเยอะ มีรีวิวเพียบ

ช่วงเย็นๆ สั่งเครื่องดื่มมานั่งชิลหน้าร้าน ฟังเสียงคลื่น สัมผัสลมทะเล ฟินกันไป


ร้านนี้มีที่นั่งทั้งด้านในแบบร่มๆ และด้านนอกแบบชิลๆ

ปล.ไม่ได้ถ่ายบรรยากาศในร้านมาให้ดูน๊า วันนั้นคนล้นมาก


:: รายละเอียดร้านเพิ่มเติม ::

www.facebook.com/skoopbeachcafe

เปิดบริการทุกวัน เวลา 09:00 น. - 20:00 น.

ปล. ฝั่งพัทยาก็มีร้าน Skoop Beach Cafe เหมือนกันน๊า

หลังจากดื่มด่ำกับความหวานริมทะเลไปแล้ว มาต่อด้วยมื้อเย็นริมทะเลกันต่อ

ร้านอาหารทะเล โรงแรมสายลมหัวหิน

เป็นร้านอาหารวิวดี บรรยากาศดีอีกร้านที่อยากแนะนำมากค่ะ

ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้นล่างของโรงแรมสายลม เป็นร้านที่อยู่ติดริมทะเล

หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักร้านนี้ แต่ต้องบอกว่าถ้าได้มาแล้วรับรองจะติดใจ

เพราะที่นี่อาหารรสชาติอร่อยมาก ของทะเลสด สะอาด เมนูหลากหลาย

ช่วงเย็นๆคนจะเยอะมาก แนะนำโทรจองโต๊ะก่อนล่วงหน้าดีกว่าน๊า


:: ข้อมูลร้านอาหารเพิ่มเติมค่ะ ::

www.sailomhotelhuahin.com

Tel : 032-511890-1 หรือ 081-7361800

ร้านอยู่ที่ หัวหินซอย 81 เปิดบริการทุกวัน 11:00 น. - 22:00 น.

จบจากมื้อเย็น เราแวะไปเดินเล่นกัน ก่อนที่จะเข้าที่พัก

ที่ Cicada Market

ที่นี่เป็นตลาดชิคๆ ยามค่ำคืน สถานที่ยอดฮิตของหัวหิน

ใครมาหัวหินถ้าไม่หาของกินที่ตลาดโต้รุ่ง ก็จะมาหาอะไรเบาๆทานที่ Cicada นี่แหละค่ะ

ส่วนของที่มาขายในตลาดจะเป็นพวกของ HandMade เก๋ๆ ไอเดียเริ่ดๆ

มีทั้งเสื้อผ้า ของใช้ ของกิน แสงสี ดนตรี การแสดง เดินกันเพลินไปเลยค่า


พิกัดตลาด อยู่ที่ สวนศรี เขาตะเกียบ

www.cicadamarket.com

เปิดบริการวันศุกร์-วันอาทิตย์ เวลา 16:00 น. - 23:00 น.

ได้เวลาเข้าที่พักกันแล้ว คืนนี้เราพักกันที่

I Style Hua-Hin

เป็นโรงแรมเล็กๆ ออกจากตัวเมืองหัวหินไปนิดนึงค่ะ

ห้องพักราคาหลักร้อย แต่ความน่ารักหลักพัน

เพราะภายในโรงแรมตกแต่งได้น่ารัก มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปเยอะ

โรงแรมค่อนข้างสงบนะคะ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย มีความเป็นส่วนตัว

และจากที่พักเพียงแค่ 1 กิโลเมตรก็สามารถไปเดินเล่นริมชายทะเลได้เลย

..

เราเข้า Check In ค่อนข้างดึก แต่พนักงานต้อนรับยังยิ้มแย้ม หน้าตาดูสดชื่น

ดูแล และบริการเราเป็นอย่างดี ดึกแค่ไหนก็ยังรู้สึกว่าเค้ายังยินดีให้บริการ

เลิฟการบริการของที่นี่จัง :)

..

...คืนนี้ขอไปพักผ่อนก่อนน๊า...


:: Day 2 ::

Check Out แล้วไปเที่ยวกันต่อ

ก่อน Check Out แอบเก็บภาพมุมน่ารักๆของโรงแรมมาให้ดูด้วยแหละ


:: สำหรับใครที่มาเที่ยวหัวหินกำลังมองหาห้องพักน่ารักๆ ราคาเบาๆ เข้าไปจองในลิ้งนี้ได้เลย ::

www.facebook.com/istylehuahinhotel

วันนี้เราจะพาไปดูสัตว์น่ารักๆ ไปถ่ายรูปสวยๆ ก่อนกลับไปเที่ยวพัทยาค่ะ

ออกจากโรงแรมขับรถมาทางชะอำ เราจะไปกันที่

Camel Republic สวนอูฐ ชะอำ

ฟิลเหมือนได้มาอยู่ในดินแดนโมร็อคโค ท่ามกลางกำแพงสีสันสดใจ

ด้านในจะมีทั้งสวนสัตว์ และสวนสนุก แต่น่าจะเน้นไปทางสวนสัตว์มากกว่านะคะ

ที่นี่มีสัตว์ที่หาดูได้ยาก น่ารักๆเต็มไปหมด เราสามารถเข้าไปใกล้ๆ และให้อาหารได้ด้วย

ในนี้มีมุมเก๋ๆ และบรรยากาศดีๆให้ถ่ายรูปสวยๆเพียบเลย

มาแล้วมีรูปกลับไปอัพลง IG ได้เป็นเดือนเลยค่า


:: เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย ::

www.camel-republic.com

Tel : 092-269-5055, 032-890-860-2

เปิดให้บริการทุกวัน จันทร์-ศุกร์ 10:00 น. - 18:00 น.

เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัติฤกษ์ 09:00 น. - 18:30 น.

อยู่ที่ Camel Republic สวนอูฐ ชะอำ อยากจะเป็นอะไรก็ได้ที่ใจเราต้องการ

... วันนี้ขอเป็นอูฐนะ !!! ...

พี่อูฐ อยู่นี่งายยยย

ใครอยากจะขี่อูฐก็ได้น๊า

น้องแพะที่นี่ แรงดีสุด กระชากขันไปแขนช้านแทบหลุดเลยจ้า

ไม่ให้กิน ก็จะเอาเขามาสะกิด กลัวแล้วๆ ><"

ฟามิงโก้ จุดนี้คือ Love มาก

น้องฟามิงโก้น่ารักมากกก ด้านหลังเป็นกำแพงสีสดใสถ่ายรูปสวยเวอร์

เราสามารถเข้าไปให้อาหารน้องได้แบบระยะประชิดเลยนะคะ


ได้เวลากลับไปเที่ยวพัทยาต่อแล้วค่า

ออกมาจาก Camel Republic เรามุ่งไปที่ท่าเรือเขาตะเกียบเลย

รอเวลาขึ้นเรือไปพัทยา เรือออก 16:00 น.


ได้ตั๋วมาแล้ว พร้อมเดินทางต่อ

...บ๊าย บาย หัวหิน...

2 วัน 1 คืนที่นี่ มัน Feelgood มาก

หัวหินเป็นเมืองที่ตาลมาบ่อยจนเรียกว่ารู้แทบทุกซอกทุกซอยละ

แต่ไม่ว่าจะมาบ่อยแค่ไหน ก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อที่นี่นะ

เพราะมาแต่ละครั้ง ก็จะมีที่เที่ยว ที่กิน ใหม่ๆ ให้เรารู้สึกตื่นเต้นได้ตลอด

ภายในเรือจะมีบริการอาหารเครื่องดื่มด้วยนะคะ

ด้านหน้าที่นั่งจะมีเมนูให้เราเลือกค่ะ อยากทานอะไรสั่งลูกเรือได้เลย

และมีน้ำดื่มแจกฟรี ! คนละ 1 ขวดในทุกๆรอบ

เวลา 18:20 น. มาถึงพัทยาแล้วค่า

ขากลับแอบมีอาการเมาเรือนิดหน่อย เนื่องจากคลื่นลมแรง

แต่หมดห่วง เพราะเราพกยาแก้เมาเรือมาด้วย ^^

ใครเดินทาง ทางเรือ พกยาแก้เมาเรือติดตัวไว้ เป็นดี

สำหรับการเดินทางกับ Royal Passenger Liner ในครั้งนี้

ทำให้เราได้ประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางข้ามทะเลอ่าวไทย

เป็นทางลัดที่สามารถพาเราเที่ยวได้ 2 เมืองริมทะเลในเวลาแค่ 2 ชั่วโมง

ทำให้ " หัวหิน - พัทยา ใกล้กันนิดเดียว "

เริ่มต้นค่ำคืนแรกของพัทยากันที่

D.I.B Sky Bar Pattaya

Rooftop บนโรงแรม D Varee Jomtien Pattaya Beach

ร้านอยู่ด้านบนชั้น 38 บรรยากาศดีมากจริงๆ อยากให้ทุกคนได้ลองมาเห็นด้วยตัวเอง

บนนี้จะมีบริการทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ช่วงเย็น สามารถมองเห็น Sunset สวยมาก

ได้มานั่งฟังเพลงเพราะๆ มองวิวรอบๆพัทยาจากมุมสูง แค่นี้ก็แฮปปี้แล้ว


www.facebook.com/dibskybar

เปิดให้บริการทุกวัน 11:00 น. - 22:00 น.


ที่พัทยา เราเลือกไปพักที่

P Plus Hotel

เป็นโรงแรมในเครือของ The Shining Star Hotels Group

เครือนี้โรงแรมเค้าเยอะมาก ซึ่งเราเคยไปใช้บริการมาแล้วรวมที่นี่เป็นโรงแรมที่ 3

สำหรับ P Plus Hotel ถือเป็นโรงแรมที่ครบวงจร

มีทั้งร้านอาหาร สระว่ายน้ำ และฟิสเนส

กลางวันร้อนถ้าไม่อยากออกไปไหน แค่ใช้ชีวิตอยู่ในโรงแรมก็คุ้มแล้ว


:: สอบถาม / จองห้องพัก ::

www.pplushotelpattaya.com

Tel : 038-411543 / 097-2320045

Lobby จะค่อนข้างโล่ง กว้าง เป็น Open Air ค่ะ

มีสระว่ายน้ำด้วย สระก็กว้างพอสมควร กลางคืนก็จะมีแสงสีด้วยแหละ

ในส่วนของห้องพัก จะเป็นห้องแบบ Studio Room นะคะ

ผนังห้องจะมีลายเก๋ๆ น่ารัก ชวนฝันได้อีก

ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ 1,000 บาทรวมอาหารเช้า

ถูกและดีขนาดนี้ มาสิคร๊า ^_^

สำหรับระเบียงหลังห้อง ออกไปจะมองเห็นสระว่ายน้ำค่ะ

รอบๆสระจะมีต้นไม้สีเขียว มองแล้วสดชื๊นสดชื่น

และที่นี่เค้ามีฟิสเนสด้วยน๊า

เปิดให้บริการตั้งแต่ 07:00 น. - 22:00 น.


:: Day 3 ::

วันนี้เราจะพาไปสัมผัสอากาศเย็นติดลบแบบขั้วโลกกันค่ะ

เมืองไทยก็มีอากาศแบบติดลบน๊า....รู้ยัง

ที่นี่ไง

FROST Magical Ice Of Siam

หรือหลายคนจะรู้จักในชื่อเมืองน้ำแข็งพัทยา

ที่นี่จะเป็นประติมากรรมน้ำแข็งแกะสลักขนาดใหญ่ ภายในเต็มไปด้วยน้ำแข็งลวดลายต่างๆ

ส่วนด้านหน้าทางเข้าเราจะเห็นรูปปั้นสีขาวๆ ตรงนั้นจะเป็นปฏิมากรรมทรายขาว

ที่นำมาจัดแสดงไว้ก่อนทางเข้าเมืองน้ำแข็ง

ด้านในจะเป็นยังไงบ้าง ไปดูในรีวิวต่อกันเลย


:: สอบถามเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย ::

www.facebook.com/frostpattaya

Tel : 063-669-4559

เปิดให้บริการทุกวัน 09:00 น. - 20:00 น.

ซื้อตั๋ว รับเสื้อกันหนาวเรียบร้อย เตรียมพร้อมเข้าไปด้านในละค่า

ส่วนใครที่ต้องการถุงมือ หรืออุปกรณ์กันหนาวอื่นๆ

สามารถขอเช่าที่นี่ได้ หรือจะพกมาเองก็ได้น๊า

ด้านในจะมีบ้านเอสกิโม สไลเดอร์น้ำแข็ง และน้ำแข็งแกะสลักอื่นๆอีกเยอะแยะ

แต่ไฮไลท์เด็ดคงหนีไม่พ้นสไลเดอร์น้ำแข็งค่ะ

มาแล้วก็ไปเล่นสไลเดอร์สักหน่อย สนุกจนลืมหนาวไปเลย

เค้ามีเคาน์เตอร์บาร์บริการ Soft Drink ด้วยนะคะ

น้ำหวานเย็นๆในแก้วแกะสลัก ดื่มกันในที่อุณหภูมิติดลบไปเลย

ซึ่งเราจะใช้หางตั๋วเข้าเมืองน้ำแข็งมาแลกฟรีได้ 1 แก้ว

** หางตั๋วมีค่าอย่าทิ้งนะคร๊า **

( เวลาที่เราได้ตั๋วเข้าเมืองน้ำแข็งมา จะมีคูปองท้ายบัตรแนบมาให้ด้วยค่ะ )

ปิดท้ายทริปนี้ด้วยการไปดู Landmark สำคัญของหลายๆประเทศ

ไปค่ะ ไปเที่ยวกันทุกประเทศเลย ในเวลาแค่ 1 ชั่วโมง !!!!


Mini Siam


:: รายละเอียดเพิ่มเติมกดไปที่ลิ้งนี้น๊า ::

www.facebook.com/Mini-Siam

Tel : 081-735-6340

เปิดให้บริการทุกวัน 07:00 น. - 21:00 น.

" Bonjour "

ตอนนี้เราอยู่ที่ฝรั่งเศสค่ะ หอไอเฟลวันนี้คนโล่งมาก มาถ่ายรูปได้สบายเลย

คืนนี้เรายังไปต่ออีกหลายประเทศนะ ไปไหนบ้างไปดูกัน ^^

จบละค่า ทริป 3 วัน 2 คืน

..

พัทยา - หัวหิน เมืองยอดฮิตติดลมบนของทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ

สองที่นี้ไม่ได้มีดีแค่ทะเล ยังมีที่เที่ยวสวยๆ และสถานที่บรรยากาศดีดีอีกเพียบ

สำหรับทริปนี้ต้องขอบคุณเรือเฟอร์รี่ข้ามอ่าวไทยพัทยา-หัวหิน

Royal Passenger Liner

ที่ช่วยให้ทริปธรรมดาของเรา กลายเป็นการเดินทางที่สุดพิเศษ

ใครที่อยากได้ประสบการณ์การเดินทางดีดีแบบนี้

จองตั๋วโดยสารเลยค่า

www.royalferrygroup.com

ช่วงนี้น้ำทะเลกำลังใส หาเวลาไปเที่ยวกันนะ

^_^




ขอบคุณที่ติดตามรีวิวมาจนจบนะคร๊า :)

ไปติดตามกันต่อที่นี่เลย : www.facebook.com/paigunmai

paigunmai

 วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 00.44 น.

ความคิดเห็น