สวัสดีค่ะ^^ ไม่ได้เขียนblog มานานโขเลย คิดถึงกันมั้ยย555 ที่จริง กับแฟน ไปทริปนี้ตั้งแต่เดือนธันวาคมช่วงคริสมาสตร์ปีที่แล้วค่ะ ตอนแรกตัดสินใจกันว่าจะไม่ลงเพราะ รูปที่ถ่ายมาถ่ายไม่ค่อยดี ปัญหาก็เยอะ ตอนไปทะเลาะกันตลอดทริป(เลยตั้งชื่อทริปนี้ว่า 'The imperfect Taiwan trip) แต่เพิ่งจะมาเปลี่ยนใจเพราะอยากเก็บไว้เป็นความทรงจำค่ะ งั้นเราไปอ่านกันดีกว่า
ปล. ขออภัยเรื่องรูปไม่สวยไว้ ณ ที่นี้เลยนะคะ
สายการบินที่ กัปแฟน นั่งไป เป็นของ Tiger air ราคาตกคนละประมาณหมื่นบาทถ้วน ค่อนข้างแพงเพราะไปช่วงHigh season ราคานี้ยังไม่รวมค่ากระเป๋ากับอาหารนะคะ T.T ร้องไห้ห แต่ด้วยความที่อยากไปช่วงนั้นเลยยอมจ่ายค่ะ (แนะนำซื้อน้ำหนักกระเป๋าออนไลน์นะคะ ประมาน600-900บาท 25kg อย่ามาซื้อตอนcheck in เพราะ กับแฟน จ่ายไปตั้ง 1800 เพราะความโง่แท้ๆ)
เครื่องออกประมาณห้าทุ่ม ถึงสนามบินเถาหยวนประมาณตีสามค่ะ (ไต้หวันเร็วกว่า 1 ชั่วโมงค่ะ) บอกเลยว่าเหมือนชีวิตมีกรรม นั่งเครื่องมาสามสี่ชั่วโมงไม่ได้งีบเล้ยย เพราะมีเด็กอยู่บนเครื่อง เด็กร้องไห้ตั้งแต่เครื่องขึ้นยันเครื่องลง....
Taoyuan Airport MRT เปิดหกโมงเช้า ด้วยความขี้เกียจรอและอยากอาบน้ำ เลยพากันเดินไปนั่งรถบัสสาย 1819 ของบริษัท Kuo-Kuang Motor Transport (ขึ้นรถที่T1 ชั้น B2/T2 ชั้น 1) ปลายทางสถานี Taipei Main Station รถออกทุกๆ 10-40 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ราคาต่อคน คนละ 140 NT
โรงแรมที่ กับแฟน พักอยู่ใกล้กับTaipei Main station มากๆ เพื่อความสะดวกต่อการเดินทางค่ะ พอถึงโรงแรมกันก็รีบอาบน้ำ เก็บของ รอให้ฟ้าสว่างแล้วก็เริ่มเดินทางกันเลย
บริเวณย่านที่พักแถวTaipei Main จะเป็นแหล่งช้อปปิ้ง น่าเดินมากๆ
Day 1
อากาศประมาณ 16-17 องศา พอประมาณ 7 โมงเช้า ก็พากันออกจากโรงแรม ไปเดินดูรอบๆ และแวะไปกินน้ำเต้าหู้กับเสี่ยวหลงเปาร้านซื่อไห่โต้วเจียงต้าหวัง (ร้านเปิด 6โมงเช้าถึง4ทุ่ม)
(Taipei Main Station ข้างในมีของกิน ร้านอาหารเยอะมาก มีของให้ช้อปปิ้งอีกด้วย สถานีนี้เป็นสถานีหลักไว้นั่งรถไฟต่อไปยังสถานนีต่างๆ)
ทางระหว่างเดินไปกินน้ำเต้าหู้ (ดูจาก google map เลยค่ะ ยึดพิกัด Museum of Co NTemporary Art ก็ได้ค่ะ อยู่ใกล้กัน)
แวะ familymart ระหว่างทาง
แชะภาพซักหน่อย
บรรยากาศบ้านเมืองที่นี้ ค่อนข้างร่มรื่น ดูอบอุ่น รู้สึกสบายย
ถึงร้านน้ำเต้าหู้ซื่อไห่โต้วเจียงต้าหวังแล้ว คนเยอะไม่เยอะดูที่รูป
ก่อนทานน้ำเต้าหู้แนะนำให้คนข้างใต้ก่อนนะคะ เพราะทางร้านจะใส่น้ำตาลไว้ใต้ถ้วย กับแฟน ไปทานก็พากันทานแบบไม่คน ค่อยมารู้กันตอนกินไปเกือบครึ่งถ้วย555 ก็พากันบ่นอยู่ตั้งนานว่า จืดชิบ* ส่วนเสี่ยวหลงเปานี้แนะนำมากๆ อร่อยมากค่ะยิ่งทานกับน้ำจิ้มนี้เข้ากันสุดๆ
ราคารวมก็ประมาณ 200-300 NT ค่ะคร่าวๆ
พอทานเสร็จก็พากันเลินลัดเลาะไปศาลเจ้าไห่เฉิงหวงกันต่อแต่พอเดินออกจากร้านน้ำเต้าหู้ได้แปปเดียว ฝนก็ตก...
บอกได้เลยว่าเปียกชื้นแฉะมาก โชคดีที่มีFamilymart อยู่ใกล้ๆเลยได้ร่มกันไปอีกคนละคันค่ะ ราคาร่มคันละประมาณ 140 NT
การเดินทางไปศาลเจ้าไห่เฉิงหวงจากร้่นน้ำเต้าหู้น่าจะประมาณกิโลกว่าๆโดยคร่าวๆค่ะ ซึ่ง กับแฟน ใช้Googlemapในการเดินทางตลอดทริปเลย จึงไม่สามารถลงละเอียดการเดินทางไปยังที่ต่างๆได้ บวกกับความลืมค่ะ555 เพิ่งจะมาเขียนหลังจากที่ไปแล้วมาสองเดือน
ฝนตกตลอดเวลาเลยค่ะ พอไปถึงก็ไม่ได้ไปไหว้ แค่ดูรอบๆกับเดินเล่นถ่ายรูป
ตึกแถวนั้นจะออกแนวจีนๆดูโบราณๆหน่อยแต่เก๋ใช่ย่อย
พอเดินเลานถ่ายรูปได้พอประมาณแล้วก็เดินกลับไปแถวโรงแรมไปเปลี่ยนรองเท้าค่ะ555 รองเท้าที่ใส่มาเปียกชื่นสุดๆเลยเดินไปแวะกินร้านนี้
คนต่อคิวรอเยอะมากกก
รสชาติเหมือนซาลาเปาแต่ข้างนอกจะค่อนข้างแข็ง ราคา 50 NT
พอเปลี่ยนรองเท้า นั่งพักทำธุระเรียบร้อยแล้วก็เดินทางไปชมวิวเขาช้าง เซี่ยงซาน ขึ้นสถานี taipei main station (สายสีแดง) ลงสุดสถานี Xiangshan ทางออก2 เดินตรงขึ้นไปตามทางข้างสวนสาธารณะ ประมาณ500 เมตรแล้วเดินเลี้ยวซ้ายเดินขึ้นทางเนินไปจนสุดทาง เลี้ยวขวาเดินผ่านหน้าวัดไปบันไดขึ้นเขาจะอยู่ทางซ้ายมือ อยากจะบอกว่าเหนื่อยสุดๆ แนะนำว่าถ้าใครสังขารไม่ดีก็อย่าไปเลยค่ะ เพราะต้องขึ้นบันไดเป็นกิโล
ระหว่างเดินขึ้นเขาฝนก็ตกปรอยๆอยู่ตลอดเวลาค่ะ
สรุปคือ กับแฟน ขึ้นไปไม่ถึงยอดค่ะ ถึงแค่จุดพักชมวิวก่อนสุดท้ายแค่นี้ก็เหนื่อยสุดๆแล้ว
หลังจากลงมาจากจุดชมวิวก็แวะนั่งคาเฟ่แถวๆนั้นให้หายเหนื่อยซักแปปนึงแล้วก็ไปต่อที่ร้านอาหารใกล้ๆตึกไทเปค่ะ เลือกไม่ถูกว่าจะทานอะไรกันดีเลยเข้าร้านอาการเกาหลีซะเลย555 มาไต้หวันแต่มากินอาหารเกาหลี
ร้านนี้ชื่อร้าน Honey Pig เป็นปิ้งย่างเกาหลี อร่อยมากกกชอบแต่ถ่ายรูปมาไม่เยอะ เพราะโมโหหิวกันอยู่ตอนนั้น555
ที่สั่งมาก็จะมี set เนื้อหมูสามชั้นกับสันใน แพนเค้กทะเล ตบท้ายด้วยข้าวผัดค่ะ
ชอบข้าวผัดมากๆเพราะมันค่อนข้างเข้มข้น มีไหม้เกรียมๆนิดหน่อย อร่อยมากค่ะ
ราคาเบ็ดเสร็จรวมsevice charge ก็ประมาณ 2000 NT ค่ะ
หลังจากอิ่มแปล้แล้วก็เดินไปขึ้นตึกไทเป 101 กันต่อค่ะ(ลงสถานี Taipei 101 ทางออก4) ค่าเข้าประมาณคนละ 600NT
เนื่องจากฝนตกมีหมอกลง เค้าเลยไม่เปิดชั้น91ให้ขึ้นค่ะ ได้อยู่แค่ชั้น 88 89 90 ค่ะ วิวที่ได้ดูก็จะไม่ค่อยชัดเพราะมีหมอกลง ถ้าถามว่าประทับใจมั้ย? เฉยๆค่ะ (แฟนบอกประทับใจลิฟอย่างเดียว เพราะมันขึ้นเร็วดี) ไม่ได้ตื่นตาตื่นใจอะไรมาก คนเยอะมาก ยืนรอลงลิฟต์นาน
หลังจากลงมาจากตึกไทเป 101 แล้วก็พากันนั่งรถไฟmrt มาลงสถานี Chiang Kai-shek Memorial Hall ทางออก5 ถ่ายรูปกับอนุสรณ์สถานแห่งชาติ เจียงไคเช็ก ฝนตกปรอยๆ อากาศเย็นสุดๆ ตัวเปียกชื้นนน~ เลยพากันรีบถ่ายรูปแล้วกลับโรงแรมไปเปลี่ยนเสื้อ
หลังจากกลับถึงโรงแรมเรียบร้อยแล้ว ก็พากันอาบน้ำหอมๆ เพราะเน่ามาทั้งวัน พออาบน้ำเสร็จก็มากันมานอนเล่นที่เตียง พอถึงเตียงเตียงก็นิ่ม พอรู้สึกนิ่มมันก็สบาย พอรู้สึกสบายก็พากับหลับ55555 แล้วโปรมแกรมที่วางไว้สำหรับตอนกลางคืนก็ล่ม.....
Day 2
ตื่นเช้ามาอากาศแจ่มใส ฝนตกปรอยๆตาม style ไต้หวัน อุณภูมิ 14-15 องศา นี่แหละเมืองในฝัน
ไต้หวันเป็นประเทศที่มีระเบียบ สะอาดสะอ้าน ทันสมัยแต่ยังมีกลิ่นไอของวัฒนธรรมเต็มไปหมด...
หลังจากทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้วก็พากันไปทานข้าวเช้าที่ ร้านข้าวหน้าหมูสับไต้หวันจิงฟง ไปลงสถานี chiang kai shek แล้วก็ออกจากประตู Exit 2 และเดินประมาณ 1 นาที ร้าน จะอยู่ข้างๆ ตลาด NanMen (ร้านเปิดแปดโมง)
รูปหน้าร้าน. คนค่อนข้างเยอะเลยค่ะ
เมนูมีแต่ภาษาจีนอีกแล้วว กับแฟน เลยใช้สูตรเดิมคือให้เจ๊โต๊ะข้างๆช่วย
จานแรกชื่ออะไรไม่รู้ รสชาติใช้ได้ แต่ยังไม่ถึงกับว้าว
จานสองนี่แหละ สุดยอดอร่อยโครตตต ใครไปร้านนี้ต้องสั่ง แนะนำเลยค่ะ (ชื่อเมนู หลู่โร่วฟ่าน)
ราคาตกจานละประมาณ 70-80 NT
ภาพบรรยากาศแถวนั้น
หลังจากทานเสร็จก็แวะกินขนมตามร้านแถวๆนั้นนิดหน่อย แล้วก็พากันนั่งmrt กลับสถานี Taipei MainStation เพราะวันนี้มีทริปออกนอกเมือง
ก่อนไปขึ้นรถไฟ TRA ก็ต้องฉีดน้ำตาลเข้าเส้นเลือดก่อน เลยแวะกินชาไข่มุกร้านหนึ่ง
รสชาติใช่ได้ แต่ยังไม่โดนมาก (อย่าสั่งหวานน้อยเป็นอันขาดนะคะ เพราะ หวานน้อยของบ้านเค้าคือ จืดของบ้านเรา) พอสิบโมงนิดๆ ก็ได้เวลาขึ้นรถไฟแล้ววว
รถไฟ กับแฟน จองไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนไปแล้วค่ะ จำราคาไม่ได้ แต่ราคาไม่แพงมากค่ะ
สามารถจองได้ตามเว็บด้านล่างนี้เลยค่ะ
https://www.railway.gov.tw/en/index.aspx
รองเท้าคู่ก็มา อิอิ
บรรยากาศดี๊ดี
ถึงสถานี houtong 11 โมง โดยประมาณ พากันแวะหมู่บ้านแมวโหวถงเป็นอันดับแรก
ถึงแล้วหมู่บ้านแมว
ทางขึ้นบันไดข้ามไปตรงหมู่บ้านแมวค่ะ
นับต่อจากนี้ จะโดนด่ามั้ย...ถ้าไม่ได้ถ่ายบรรยากาศรอบๆเพราะมัวแต่ตื่นตาตื่นใจกับน้องแมวดั่งกับเมืองไทยไม่มี555
พอข้ามสะพานมาก็มีน้องออกมาต้อนรับแล้ว
หล่อเชียวน้องง
โชคดียังมีรูปวิวบ้าง5555
มีร้านกิ้ฟช้อปขายของลายน้องแมวด้วยน้า แต่ไม่ได้ถ่ายไว้
มากินขนมกันเร็ววน้อง
วิวดีมากอากาศเย็นสบาย เสียดายที่ฝนปนรอยตลอด
หนาวไม่ห่วง ห่วงอย่างเดียวคือความสวย
สถานีต่อไปคือ Shifen ซื้อตั๋ว 1 day pass ตรงสถานี houtong(หมู่บ้านแมว) นั่งรถไฟไปสถานีท่องเที่ยวต่างๆของสายผิงซี
คนเยอะเกิ๊น ยืนไปจนถึงสถานีหน้าเลยจร้า
ถึงแล้ว รถไฟจะมาทุกๆหนึ่งชั่วโมงนะคะ มาค่อนข้างตรงเวลาด้วย
ปลาหมึกชุบแป้งทอดอร่อยมาก นุ่มเวอร์
สถานีนี้คนค่อนข้างลงเยอะค่ะ เพราะขึ้นชื่อเรื่องการปล่อยโคมลอย
มาปล่อยโคมกันเถอะ ราคาของโคมลอยขึ้นอยู่กับความหลากหลายของสีในโคมแต่ละอันค่ะ ยิ่งมีสีเยอะจะยิ่งแพง ส่วน กับแฟน เอาสีเดียวพอคือสีเหลือง หมายถึงความมั่งคั่ง เพราะเราหน้าเงิน55555
พอปล่อยโคมเสร็จก็พากันเดินซื้อของบลาๆกันไปจนสุดทางค่ะ
แล้วพากันมาแวะทานอาหารกลางวันที่ร้านนี้ ส่วนเมนูนะหรอ ก็เหมือนเดิมจร้า ภาษาจีน ให้โต๊ะข้างๆช่วยเหมือนเดิม คนไต้หวันใจดี
อย่างแรกที่สั่งมา มันเหมือนออส่วนหอยนางรม น้ำซอสอร่อยมาก กินกับแป้งก็เข้ากันดี มีชื่อว่า เอ๋ออ่าเจียน
เมนูต่อมาไม่รู้ชื่อ เหมือนบะหมี่รสชาติจืดๆ
อันนี้ recommend เลยค่ะอร่อยมาก ไก่ยัดไส้ข้าว ราคาประมาณ 75-80 NT
เมื่อยมากก กลับมานั่งสวยๆรอรถไฟเพื่อนั่งไปสถานีต่อไปค่ะ...
ปล.shifen มีน้ำตกด้วยนะคะ เผื่อใครสนใจ แต่พอดี เรากับแฟนขี้เกียจเดิน เลยไม่ไป
*ขอนอกเรื่องหน่อย ที่ไต้หวันมีร้านรองเท้าชื่อร้าน fufa ขอบอกเลยว่าใส่สบายมาก แล้วก็สวยด้วยค่ะ made in taiwan โดยเฉพาะเลย ราคาก็ไม่แพง เรากับแฟนเลยจัดกันมาสี่คู่เลย เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปร้านไว้ แต่ร้านมีหลายสาขาค่ะ ทั้งshifen jiufen taipei ก็มีค่ะ
ไว้มาต่อกัน part 2 นะคะ มารอติดตามกันนะคะ เดี๋ยวจะรีบลงให้เร็วที่สุด ^^
เพื่อนๆสามารถติดตาม Blog อื่นๆของ กับแฟนได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้เลยนะคะ
https://th.readme.me/id/kubfan
senhorita lele
วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 19.00 น.