สวัสดีค่ะ..ใครที่กำลังเบื่อและอยากหนีความวุ่นวายในเมืองกรุง แต่ไม่อยากเดินทางไกลหรือมีเวลาไม่มากนัก และอยากลองสัมผัสกับวิถีชีวิตชุมชนเรียบง่ายเรามีสถานที่ที่น่าสนใจแนะนำค่ะ เพื่อนๆพอจะทราบกันใช่ไหมคะ ว่ากรุงเทพของเรานี้มีพื้นที่ที่อยู่ติดกับทะเล วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวกันที่ ชุมชนแสนตอ บางขุนเทียนชายทะเล กรุงเทพมหานครนี่เองค่ะ
ประวัติชุมชนแสนตอ
ชุมชนแสนตอเดิมชื่อสันตอ คือคลองไม้มันจะล้มไปในคลองแล้วจะขวางน้ำเป็นสันๆเป็นสันตอ ต่อมากลุ่มชาวบ้านเรียกเพี้ยนป็นคำว่าแสนก็เลยกลายเป็นแสนตอมาจนถึงปัจจุบัน ชุมชนแห่งนี้จะเป็นชุมชนเล็กๆ เป็นชุมชนกระจาย ชุมชนนี้มีทั้งหมด51-52 หลังคาเรือนและประชากรทั้งหมด 200 กว่าคน ส่วนเนื้อที่ของชุมชนรวมทั้งมดแล้ว 1,600 ไร่ คนในชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเลี้ยงกุ้ง ทำนากุ้งและนาหอยรวมกันใช้ระบบเศรษฐกิจพอเพียงผสมผสานกัน
เริ่มต้นกันที่การเดินทาง การเดินทางมาที่ชุมชนนี้ ก็เดินทางมาไม่ยากนะคะ
จากหน้าบิ๊กซีพระราม2 เลี้ยวซ้าย ตรงไปจนสุดทางประมาณ20กม. เลี้ยวซ้ายอีกครั้งนึง ตรงไปอีก2กม. สังเกตร้านเปาปังขวามือ(ป้ายจะเล็กมากนะคะต้องมองดีๆ) แล้วเราก็จะเจอลุงสอนมารอรับค่ะ
แต่เราเลือกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวค่ะ เราได้โทรติดต่อกับคุณลุงสอนเจ้าของโฮมสเตย์บ้านลุงสอนเอาไว้ พอมาถึงที่เราก็จอดรถเอาไว้ที่ๆคุณลุงสอนมารอรับ เสียค่าจอดรถคันละ 20 บาท และคุณลุงจะพาเรานั่งเรือต่อเข้าไปข้างใน ตากแดดลุยๆกันไปเลยค่าาา
เรานั่งเรือมาไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ
และนี่คือบ้านของลุง สอนบรรยากาศนี้ทำให้นึกถึงบ้านยายที่ ตจว. เลยล่ะค่ะ ^^
เรามาถึงที่ชุมชนเกือบจะเที่ยงแล้ว คุณป้าได้ทำอาหารเตรียมไว้ต้อนรับพวกเราแล้วพวกเราเลยเลือกที่จะทานอาหารกันก่อนที่จะทำกิจกรรมอื่นๆ เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้องนี่คะ5555
อาหารที่คุณลุงคุณป้าได้เตรียมไว้ให้มีทั้งหมด 5 อย่าง มีกุ้ง หอยแครง(หอยที่นี่ตัวใหญ่และสดมากค่ะ) ปูผัดผงกะหรี่ ปลาทอด และต้มยำทะเล มีผลไม้เป็นสัปปะรดไว้ให้ล้างปาก
พอเราทานจนอิ่มแล้วก็นั่งกินลมชมวิวกัน ที่นี่อากาศดีมากๆถึงแดดจะร้อนแต่ลมแรงมาก มีเปลให้ได้นั่งสัมผัสอากาศแบบชิวๆ
ที่บ้านลุงสอนจะมีนักท่องเที่ยวมาพักอยู่เสมอค่ะซึ่งเค้ามากันบ่อยมากอารมณ์แบบเป็นบ้านของตัวเองเลยค่ะ เริ่มบ่ายหน่อยเราก็เริ่มทำกิจกรรมกัน เริ่มจากตกปลา ที่นี่มีเรือคายัคไว้ให้ด้วยค่ะ เราพายเรือกันไม่เป็นสักคน แรกๆเลยพายเป็นวงกลมอยู่ที่เดิมซะนาน แต่พอเริ่มจับทางได้แล้วก็สนุกดีค่ะ แม้จะพายกันไม่ค่อยเก่งแต่ก็ถือว่าสนุกและเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ได้ลองทำ
และตอนที่เรากำลังจะพายเรือขึ้นฝั่งก็ได้เห็นคนที่มาพักที่โฮมสเตย์บ้านลุงสอนเค้าเก็บหอยนางรมกันค่ะ แต่ส่วนนี้เราไม่ได้ลงไปเก็บเลยได้แต่ดูวิธีการเก็บและทำความสะอาด หอยนางรมที่ตัวใหญ่และสดมาก คุณลุงได้พาพวกเราพาไปปลูกป่าโกงกางที่อยู่แถวๆหน้าบ้านคุณลุงด้วยค่ะ
พอเริ่มเย็นเราได้ไปงมหอยแครงกัน ตอนแรกคุณลุงจะให้เราลงไปงมเองแต่น่าเสียดายที่เราไม่ได้เตรียมชุดไปเปลี่ยนกัน เลยเลือกที่จะพายเรือแล้วใช้มืองมเอา หอยแครงที่นี่ตัวใหญ่มากถ้ามีเวลาก็อยากจะงมให้ได้หลายๆตัวเลยค่ะ ลุงสอนบอกว่าหอยน้อยหน่อยนะเพราะเค้าเพิ่งงมกันไปเอง
เราเลยได้ส่งผู้กล้าไป2คนค่ะ..
เรางมหอยกันอยู่สักพักใหญ่ๆ ก็เริ่มเย็นแล้วจึงขึ้นมา หอยที่เรางมกันมาได้ทั้งหมด 5 ตัวถ้วนค่ะ 555555 คุณลุงสอนแกคงสงสารเลยไม่ได้คิดตังค่าหอยที่งมได้
พวกเราอยู่ที่นี่จนเย็นและเตรียมตัวกลับกัน คุณลุงได้พาเรานั่งเรือกลับ ตอนเย็นๆบรรยากาศแตกต่างจากตอนมามาก เพราะบรรยากาศที่ว่าสงบอยู่แล้วกลับสงบยิ่งกว่าเดิม บวกกับช่วงพระอาทิตย์เริ่มตกดิน บรรยากาศจึงร่มเย็นและดูอบอุ่นมากค่ะ
เราจบทริปหนึ่งวันของเราด้วยบรรยากาศพระอาทิตย์ตกสวยๆ ถึงแม้จะเป็นทริปสั้นๆ แต่เราก็ได้อะไรจากทริปนี้มากมายค่ะ คุณลุงและคุณป้าน่ารักมากค่ะ และให้การดูแลเราอย่างอบอุ่นตลอดทริปเลยค่ะ
ปล.ที่นี่ไม่ค่อยมีสัญญาณโทรศัทพ์นะคะ อาจจะโทรติดยากนิดนึง หรือใครที่ต้องการอัพโซเชียลอาจจะลำบากหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มแน่นอนค่ะ
ถ้าเพื่อนๆอยากมาลองสัมผัสกับวิถีชีวิตเรียบง่าย สไตล์ชุมชมแบบพวกเรา สามารถมาได้ที่โฮมสเตย์บ้านลุงสอน เบอร์ 087-0717242 นะคะ
https://www.youtube.com/watch?v=3nYW98HzSy8
ฝากเพื่อนๆเข้าไปดูคลิปกิจกรรมที่เราได้ไปทำที่บ้านลุงสอนด้วยนะคะ
butteroly
วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 22.26 น.