...เรื่องมันมีอยู่ว่า ....เนื่องจากเราพลาดโมโกจู ที่ถูกจองเต็มด้วยเวลาไม่ถึงนาที .. (อันนี้สาระ) เราจึงเบนมาเขาช้างเผือก ดั๊นนน ช้างป่า ช้างจริงๆ ไม่ออกจากพื้นที่ ทางอุทยานเลยปิดในปีนี้ ... แล้วไงดีละ ก็แบบอยากเหนื่อย อยากลองกำลัง ... เลยปรึกษากัน


" เราต้องหาสักที่ลงกันสักที่ละหละพี่ ... "

สุดท้าย ... ได้มาที่นี่ " สันหนอกวัว " มันเป็นยังไง มีอะไรหรอออ .... ต้องลองไปดูกัน..

ผมยกเลิกภูกระดึงกัน ฟอร์มทีม.... แล้วก็ลุยยยย !!!!

สำหรับทริปนี้เราก็ตกลงจะนอนเต้น ทำกับข้าว มื้อเย็นวันที่ 6 และ เช้าวันที่7 กันเอง จึงเตรียมของกันไปพอสมควร
เราออกเดินทางด้วยการขับรถไปกันเอง ช่วงคำวันที่ 5 ถึงที่นั่นก็ เที่ยงคืนถึงตีหนึง ระยะทางไปอทยานแห่งชาติเขาแหลมนั้นก็ตก 300 กว่า กม ดังที่เห็น ก็เลือกตามความชอบเลย


>>>เขาสันหนอกวัว เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี มีระดับความสูงที่ 1,767 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ตั้งอยู่ทางเหนือของที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอสังขละบุรี ในแนวเทือกเขาเขียว ที่เป็นป่าฝั่งตะวันตกของพื้นที่อุทยานฯ มีส่วนที่ติดต่อกับพื้นที่ป่าในเขตทุ่งใหญ่นเรศวร จึงมีความเป็นธรรมชาติค่อนข้างสมบูรณ์ สภาพป่ามีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น และยังคงมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ คำว่าสันหนอกวัว มาจากลักษณะของยอดเขาที่นูนออกมา รูปร่างคล้ายกับส่วนที่เป็นสันนูนบนหลังของวัว ที่เรียกว่าโหนก หรือหนอก
การเดินทางจะเริ่มจากเจ้าหน้าที่ขับรถนำไปยังจุดเริ่มเดินเข้าไปในป่า ที่จะต้องมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ นำทางไปเท่านั้น ระยะทางจากด้านล่างไปยังจุดตั้งแค้มป์ ประมาณ 9 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง ไม่สามารถเดินทางไปกลับได้ภายในวันเดียวได้ จะต้องพักค้างแรม กางเต็นท์นอนบนเขา <<<

cr http://www.kanchanaburi.co/th

หลังจากนอนพัก ซึ่งจะจองที่พัก หรือกางเต้นนอนในพื้นที่นี้ได้เลย เพื่อรอช่วงเช้า ทำภาระกิจแล้ว ก็ไปรวมตัวที่ลานจอดรถด้านหน้าเพื่อ เช็คชื่อ ขึ้นรถ จัดกลุ่มเดินทาง หากจะมา + กับกลุ่มอื่น ก็ตกกลุ่มละประมาณ 10 ท่าน... ทุกกลุ่มจะมารวมตัวกันที่ลานจอดรถ เช็คชื่อขึ้นรถ และเราจะได้เจอลูกหาบ ผู้นำทางกันที่นี่ ล้อหมุนเวลาประมาณ 9 น. นั่งรถ เลาะตามป่าเขาสักพัก ก็มาถึงทางเข้า

ทางเข้าจะมีไม้ไว้พยุงตัว เวลาเดิน ซึ่งสำหรับผมมันช่วยได้นะ แต่ในกลุ่มหลายคนก็ไม่ได้เอาไป เอาละ 9 กิโลเมตร ต่อจากนี้ เดินกันเลยดีกว่าาาา ... การเดินท่ามกลางป่าเขาในรอบนี้นั้นเย็นสบาย เสียงของใบไม้ที่ถูกประทะด้วยลมนั้น มันทำให้เราคิดเสมอว่าต้องมีน้ำตกอยู่ข้างหน้าแน่ๆ แหงนหน้ามองไปข้างบนมันช่างสดชื่นอะไรแบบนี้ ...

..แต่ภาพสุดท้ายนี่ทีมผมดูหน้าซีดๆ ไปนะ ...


เหนื่อยนักพักหน่อย ช่วงนี้เติมหวานกันด้วยเจเล่ ส้ม อะไรก็ได้ที่ให้สดชื่น :] สังเกตดีๆ จะมีคนนึงแต่งตัวยังกับมาเดินสยามแน๊ะ ใจคอออ 555++

เดินไปจนใกล้เที่ยง เริ่มหิวกันละสิ แต่ทางพี่ที่นำทางบอกกับทีมเราว่า ให้ผ่านจัดที่ชันที่สุดไปก่อน และเดินไปอีกนิดก็จะถึงจุดที่พักกินข้าว ที่เป็นแบบนี้คงกลัวกินก่อนละอ๊วกกันออกมารึป่าว อันนี้มาดูทางกันก่อน :]

หืมมีไต่เชือก ทางแคบ และหน้าผา ... งั้นค่อยกินละกันข้าวน่ะ ...

ก็แอบมีวิวสวยๆให้เรามองอยู่นะ เราจะเห็นเขาเรด้าอยู่ไกล ๆ


ถึงจุดพักกินข้าว ก็ได้เอนแอบ พักผ่อนกันสมใจ เราพักจุดนี้กันประมาณ 1 ชม. ส่วนอาหารมื้อนี้จะซื้อข้าวห่อจากอุทยานด้านล่างมาเลย .. ขอเก็บรอยยิ้มแต่ละท่านไว้นิสนึง ณ จุดนี้ ...

ออกเดินทางอีกนิดด.... แล้ววววก็.... ถึงแล้วววววว เว้ยยยยยยยยยยยย !!!!!

เกือบบ่ายสองพวกเรามาถึง จองจุดกางเต้น ซึ่งทีมไหนขึ้นมาก่อนก็จะได้เลือกก่อนเลย ... พวกเราเลือกตรงหน้าผา เน้นลมเย็น... วิวสวยๆ สวยของเรา...

หากถาามว่าเหนื่อยไหม ....พวกเราตอบเลยว่า... ไม่ๆ ไม่ตอบ ดูภาพดีกว่า...

..แดดแรงๆ นี่ไม่สนหลับกันก่อน . ...

จุดตักน้ำจะอยู่ทางตีนเขาไกลหน่อย หากลงไปอาบน้ำ ขึ้นมาก็ได้เหงื่ออยู่ ทางพี่นำทาง พี่ๆลูกหาบก็ไปจัดการหาฟืน ตักน้ำ เพื่อจะมาก่อไฟ ทำอาหารเย็นกัน ..

ด้านบนมีห้องน้ำแบบ รด. ฟิลนั้นเลย

ตอนนี้เราเพิ่งมารู้ว่าลืมเต้นใหญ่ไป ทำให้แน่นอนมีมีบี้ในเต้นแน่นอน .... คืนนี้ ..

พักให้หายเหนื่อย แล้วมาดูดีกว่าว่าเราขึ้นไปที่หนอกแล้ว ได้อะไรมาบ้าง :]

มีอีกหนอกที่พวกเราต้องไป :]

มาดูบรรยากาศกันดีกว่า :]



พี่บี๋ กับ พี่ฮัน นี่ก็มาาาาาา.....ตกลงปลงใจกันแน่ๆคู่นี้ ...

เย็นแล้วเราก็ลงมาทำกับข้าวกัน จะเห็นว่าเต้นจะตั้งเป็นแนวอย่างที่เห็น ก่อไฟกันยังค่ายลูกเสือเลยทีเดียว มื้อนี้ทางเรามีหมู่ย่าง ต้องบอกว่าทีเด็ดจริงๆ... ตบท้ายด้วยมาม่า คุณค่าที่คุณคู่ควร มันก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่า ทำไมมาม่านั่นกินหลายๆคนอร่อยมากกกกก... :]

อากาศค่อนข้างหนาวครับ ลมแรง ได้ฟิลไปอีกแบบ ...

รูปสุดท้ายสงสัยตรวจจับเจอคลื่นแรงโน้มถ่วง ...

ก่อนนอนผมขึ้นไปบนหนอกเพื่อเก็บภาพเล็กๆน้อยๆ อีกครั้ง ...

พอลงมานั้นเต๊นท์ บิ๊ก ซี ของผมโชคดี ที่ต้องนอนบี้ 3 คน ..

..ถือว่านอนกอดกันให้อุ่นๆก็แล้วกันเน๊อะ ... ฝันดีครับบบบ พรุ่งนี้มาล่าช้างกัน..


เราได้ทราบมาว่าช่วงเดือนนี้ช้างเผือกจะมาทางทิศตะวันออกช่วงเวลา ตี 5 เลยขึ้นมาเก็บภาพกัน เป็นประสบการณ์ช้างเผือกครั้งแรกของพวกเราด้วย ....

กลับลงมาทางทีมงานห้องเครื่องตื่นแล้วกำลังวุ่นกับการทำอาหารเช้า .. เมนูคือ

- แซนวิชทูน่า

-กาแฟ โอวันติน

-สปาเกตตี้

คือนี่อยู่บนเขา บนดอยหรอ !!! หรูกว่าอาหารที่กินที่ กรุงเทพ ทุกวันๆ อีก ... อร่อยและอิ่มมาก ... ไม่อิ่มได้ไงดูจากการกิน ไม่สิไม่เรียกกิน นี่สูบชัดๆ !!! กินได้เป็นของเรา ... !!!

เราเก็บของแล้วเตรียมตัวลง ...

แต่ยังยังไม่จบภาระกิจ ... พวกผมจะขึ้นไปถ่ายภาพอีกครั้ง และนำธงชาติไทยไปเปลี่ยนธงเก่าที่ขาดแล้ว ตรงป้ายบนหนอกวัว ซึ่งเมื่อเย็นวานผมได้สอบถามทางพี่เจ้าหน้าที่อุทยาน และได้คำตอบว่า " ยินดีมากครับถ้าเปลี่ยนให้ :] "

ใช้เวลาอยู่พักหนึ่ง ต้องขออภัยพี่ๆที่รอถ่ายภาพด้วยครับ ^^"


ได้เวลา เดินทางลง บรรยากาศการเดินขาลงนั้นจะไวมาก ครับ แต่ไม่ใช่ไม่เหนื่อยนะ หนืดๆ ใช้ได้เลย เก็บบรรยากาศมาฝากกัน

ก็ว่าอยู่ว่าทำไมเพื่อนๆ ใช้ให้ไปแบกของ ...

เสี่ยงโหวกเหวกโวลยวายลั่นป่า ใกล้เข้ามาๆ มันทำให้เรารู้ว่าภาระกิจเใกล้จะจบแล้ว

เที่ยงนิดๆพวกเราก็ลงถึงด้านล่าง ใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่าๆเอง .. ขาลงนี่ลงมากับทีมนี้เลย ลองไปหาดูคลิปวิดีโอเพลง " การเดินทาง " ทริปนี้ของพวกเขาดู ได้ฟิลดีครับ

เราจได้เกียรติบัตรด้วยนะ :]

จากนั้นรถกระบะของเจ้าหน้าที่ที่รอเราอยู่ ก็จะพาเรากลับอุทยาน ....

ภาระกิจการปีนเขาสันหนอกวัว จบลงแล้ว :]

มีพิธีมอบเกียรติบัตรกันด้วย ด้วยที่ผมแต่งตัวสายผู้ใหญ่บ้านมากที่สุดเลย ได้เป็นตัวแทนนน ป้าที่ป้อมทางเข้าก็ฮากันไปดิ .... 555+

ลงมาพร้อมๆกันแบบนี้เราเลยหนีมาโดดน้ำให้นี้ให้ฉ่ำกันเลยยยยย ... จากนั้น แยกย้ายกันกลับละครับบบ :] จบไปอีกทริปแล้ววว :]



คุยกันหลังทริป :]

สำหรับทริปนี้ความรู้สึกแรกเมื่อลงมาถึงทางเข้าคือ...." ทริปหน้า เราไปปีนเขาที่ไหนดี ?.. "

อันนี้จริงมันให้ความรู้สึกแบบนี้จริงๆ ทั้งๆที่เหนื่อยจนซึมไปหลายคน 555+

...ด้านข้างบนจุดกางเต้นนั้นไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้เลย ทุกอย่างต้องขนขึ้นไปเอง มันคือเสน่ห์อย่างหนึ่งของการเดินป่า เป็นที่ที่เหมาะแก่การเริ่มต้นเดินป่าทั้งเวลาและการเดินทาง

....การที่ได้เดินผ่านป่าเขา มองต้นไป เจอท้องฟ้า เสียงลมที่พัดไป ความมืดสนิทที่ทำให้เห็น ท้องฟ้า และดวงดาวที่ชัดเจน มันทำให้นึกถึงเพลง " ชีวิตสัมพันธ์ " หลายสิ่งหลายอย่างเกื้อกูลกัน และยังมีที่ให้เราได้ค้นหา ได้เห็น ... ผมจะติดกล้องไว้กับตัวเสมอ ทั้ง DSLR หรือ Compack พยายามถ่ายภาพในทุกๆ โอกาส เพราะบรรยากาศที่เราเห็น เราก็ไม่รู้จะได้ขึ้นมาอีกช่วงไหน ....

"..ผมชอบเขานะ..." พูดได้เต็มปากเต็มคำ :]

ว่าด้วยเรื่องมิตรภาพนอกจากพี่ ป้าๆ ลุง ๆ ที่เราเจอทักทายกัน กลุ่มที่เสนอเบียร์ให้เรากระป๋องละ 100 ( VDO การเดินทาง ) สาวคนที่ให้ขนมเติมหวานระหว่างขาลง ^^ พี่ๆเจ้าหน้าที่นำทาง ลูกหาบ ล้วนคือความประทับใจ และแน่นอนทีมเรา คือ

-พี่บอล รหัสทีม ชีฟ
-เดี๋ยว ตั้ม สายเอนเตอร์เทน ( จบทริปได้กันเรียบร้อย )
-ปุ้ย ผึ้ง สายห้องเครื่อง สายถึก พลเสบียง
-ป๊อก โอ อันนี้มาแพคคู่ เชฟอาหารเย็นดรีกรี อ.ยิ่งศักดิ์ ..เคยย่างไก่เลือกแดง แล้วกดเองหมดจาน
- นิว ตากล้องสายเงียบขรึม
-พี่แจ็ค ปกติไม่ค่อยเที่ยวแบบนี้เท่าไร แหมมม !!!
-และผม เดอะลุง ไปทริปนี้ค้วยคอนเซปที่ว่า จะใส่เสื้อทีมชาติไทย โบกธงชาติไทย

ไม่มีทุกคนทริปนี้คงไม่เกิดเน๊อะ ^^

ขอบคุณรูปสวยๆจากทุกท่าน :]

สำหรับค่าใช้จ่ายทริปนี้ ก็มี

-ค่าลูกหาบ 2 คน 2800 บาท

-ค่ารถกระบะรับ-ส่ง 2 คัน 2000 บาท

-ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง 1000 บาท

- ค่าเข้าอุทยาน 10 คน 700 บาท

อื่นๆ ค่าอาหารที่ขึ้นไปทำด้านบน ค่าขนม ค่าน้ำมัน รวม 10 คน

หารกันทั้งทริป ตกคนละ ไม่ถึง 1200 บาท

....จบจริงๆ จบไปอีกทรปแล้วเป็นไงบ้างครับ :]

สันหนอกวัวก็เป็ที่แนะนำอีกที่ครับ เที่ยวเมื่อไทยใครไม่ไปพวกเราจะไปเอง :] เที่ยวให้สนุก ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ

...สวัสดีครับ....

Facebook : https://www.facebook.com/theeranit.w

Facebook page : https://www.facebook.com/Theeranit.Photography

: https://www.facebook.com/NitVigator/

Instagram : Theeranit.w



ปล.สำหรับ ตั้ม สายเอนเตอร์เทน .....

ผมว่าใช่ว่ะ !!!!!


n i t v i g a t o r

 วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 20.15 น.

ความคิดเห็น