วันแรกของการเดินทาง 22.10.15 " ตั้ ง ใ จ "



สวัสดีครับพบกันอีกครั้ง :] หลังจากกระทู้แรกสังขละบุรี ก็เนื่องจากหยุดยาวและฟังการบอกเล่าถึงโปรแกรมของเพื่อนๆหลายๆคน ก็มานั่งคิดว่า เออจะไปไหนดีละ ..... จ๊นนน.. ได้มาอ่านกระทู้จากเพื่อนคนนึงที่อยุ่ปายว่าไปหมู่บ้านหนึ่ง ...ซึ่งมีครบทั้งธรรมชาติ และวิถีชีวิตของชาวชนเผ่าลาหู่ .... “ บ้านจ่าโบ่ “



แล้วเราต้องไปยังไงละ !!! มาร่วมเดินทางด้วยกันดีกว่า



ผมจัดแจงเคลียร์งานเพื่อให้ได้วันหยุด 4 วัน และสอบถามเพื่อนเบื้องต้นจึงได้แนวทางว่าจะการเดินทางจะเป็นประมาณนี่



นั่งรถไฟฟรีจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ นั่งรถบัสแดงหวานเย็นจากเชียงใหม่ ไปปาย แล้วเช่ารถมอไซต์เข้าไปยังบ้านจ่าโบ่ ซึ่งจะเป็นต้องเช่าเพราะไม่มีรถผ่าน กำหนดการเดินทางครั้งนี้คือ 22-25.10.15

รอบนี้ผมบอกทางบ้านไปก่อน 1 วัน แม่ผมถึงกับทำหมูทอดข้าวเหนียวมาให้เลย รวมถึงผลในตู้เย็นเอามาผมเทศบาล หน่วยป้องกันของบูดอยู่ละ ผมมาถึงหัวลำโพงสิบโมงกว่าๆ ไปติดต่อขอตั๋วรถไฟฟรี ดังภาพ รอบนี้เอา N700 ไปทัวสายเหนือด้วย


บรรยากาศรอบๆหัวลำโพง วันนี้คนเดินทางเยอะมากครับ


ฝนหยุดก็มืดเลยครับผมไปต่อวันที่สองเลยดีกว่า :]



Facebook : https://www.facebook.com/theeranit.w

Facebook page : https://www.facebook.com/Theeranit.Photography

Instagram : Theeranit.w



#บ้านจ่าโบ่ #ก๋วยเตี๋ยวชมวิวบ้านจ่าโบ่วันที่สองของการเดินทาง 23.10.15 " อิ่ ม ท ริ ป "



เที่ยงคืนกว่าๆผมมามีสติอีกทีเมื่อรถไฟถึงสถานีศิลาอาสน์ เป็นสถานีสุดท้ายก่อนที่รถไฟจะเข้าทำการวิ่งขึ้นเขา ผมลุกมองดูการไต่ขึ้นเขาของรถไฟตั้งแต่ออกจากสถานีศิลาอาสน์ แสงจันทร์ เทือกเขา เส้นทางคนเคี้ยว รวมถึงล้อรถไฟที่ขบกับรางเกิดไฟแล๊บๆเป็นระยะๆ จนผมตั้งใจว่าขากลับ จะต้องบันทึกภาพให้ได้ และเมื่อหันมองไปรอบๆ ก็มีผู้ร่วมมางหลายคนทำเช่นเดียวกับผม



16 ชั่วโมงของการเดินทาง ...



ประมาณ 6 โมงเช้าก้ถึงเชียงใหม่ ผมรีบนั่งรถแดงไปสถานีอาเขตเชียงใหม่ เพื่อต่อรถไปปาย ( หรือจะสายชิล เดินมาก็ได้ 2.6 กม. ) เมื่อไปถึงรถบัสหวานเย็นเต็มซะแล้ว ถามไปมาก็ได้ไปรถตู้ ผมจองไปกลับเลย (ดูจากคนที่จองก่อนหน้า ) คือไปวันนี้ 23.10.15 เวลา 07.30 น. และเที่ยวกลับ 23.10.15 เวลา 16.00 น. รวม 300 บาท ซึ่งจะใช่เวลาในการเดินทาง ประมาณ 4 ชม. หากเป็นรถบัสหวานเย็นบวกเพิ่มไป ประมาณ 2 ชั่วโมง



...อะไรกันนี่เที่ยวแป๊ปเดียวเองหรออออ ... นั่นคือคำถามที่เกิดขึ้นในใจ...

บรรยากาศข้างทางไปปาย แน่นอนครับสวยและโค้งเยอะสมที่ล่ำลือ ผมรู้สึกตื่นเต้นเพราะมาครั้งแรก รถจะจอดแวะกลางทางรอบเดียว


ผมมาถึงปายตอนสิบโมงกว่า ๆ โทรหาเพื่อนผมที่อยู่ปาย " สิงห์ " เปิดร้านเช่าจักรยาน Chang Bicycle for Rent / Sale อยู่ที่ถนนคนเดิน ซึ่งตรงนี้หากเพื่อนมาที่ถนนคนเดินมาร้านสิงห์ บอกมาจากกระทู้นี้ แล้วเช็คอิน ก็จะได้ส่วนลด 15 % และสติ๊กเกอร์สวยๆ ไว้สะสมกัน :]


ก็ได้พูดคุย กินข้าวเที่ยง อาบน้ำและผมก็ขอไปต่อโดยเช้ามอไซต์วันละ 200 บาท น้ำมันเติมเอง :]


เริ่มออกเดินทางต่อเที่ยงกว่าๆ กับระยะทางกว่า 50 กม. นั้นวิวข้างทางสวยมาก จดรถถ่ายรูปได้เป็นระยะๆ จะผ่าน หมู่บ้านต่างๆ ดอยกิ่วลม และศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าว แม่ฮ่องสอน



ไปเรื่อยๆ ผมเลยทางเข้าบ้านจ่าโบ้ไป 10 โลกว่าๆ ต้องเปิด GPS เช็ค เพื่อความแน่ใจไม่งั้นไปเรื่อยๆแน่ๆ 555+ สำหรับเส้นทางนี้จะมีสัญญาณมือถือไปตลอดทางอยู่ครับ



แต่สรุปคือไปตามทางหลวงหมายเลข 1095 และเลี้ยวขวาเข้าเส้น 1226 ต้องระวังในช่วงทางเข้าเพราะถนนสึกไปพอสมควรสำหรับทางเข้า

..และในที่สุดดดดด ....ก็มาถึงบ้านจ่าโบ่...


ภาพข้างหน้ามันก็ทำให้เรายิ้มแบบหน้าบานๆได้เหมือยกันนะ....



" .... กูมาถึงละเว้ยยยยย ... " ลั่นดังๆอยู่ในใจ 555+

ภาพจากร้านก๋วยเตี๋ยวลอยฟ้า หากมองลงมาจะเห็นอีกหมู่บ้านคือบ้านแม่ละนา


..~ 27 ชม.กว่า ๆ เรากินเผื่อละนะ เกาเหลาแก... Just nowhere ∞ ...



ผมได้นั่งกินและเสพบรรยากาศอยู่พักนึงคนทางร้านก็บก็บอกว่า มีคนจองที่พักให้ผม เออไอเราก็ลืมไปใจคอนั่งนิ่งไม่รู้ว่าจะนอนไหนเหมือนกัน สิงห์ครับส่งข้อความมาทางเพจของบ้านจ่าโบ่ จนผมได้ที่พักซึ่งในวันนั้นว่าง 1 หลังสุดท้ายเพราะมีน้องๆจากอยุธยาเข้ามาศึกษาวิถีของหมู่บ้านนี้



ภาพบริเวณหมู่บ้าน และภายในที่พักของผม ผมจัดการเก็บของ และลุยต่อเพื่อลงไปยังบ้านแม่ละนาซึ่งอยู่ด้านล่าง



ผมกลับขึ้นมาอาบน้ำ ทางเจ้าบ้านที่ผมได้อยุ่โฮมสเตย์ได้เรียกผมทานข้าว ผมก็ได้ทีเลยนำหมูทอด ไข่ต้มที่เตรียมไปเอาลงไปกินด้วย กับข้าวมีหลายอย่างน้ำพริกถั่วเน่า (น่าจะเป็นเต้าเจี้ยว ) น้ำพริกมูเซอ ต้มผัก ผัด ก็ได้สนทนากันว่าเขามีลูกสามคน สองคนไปทำงาน คนเล็กไปเล่นยังไม่กลับ และสักพักแฟนพี่เขาก็มา โอโหหหห กินข้าวเยอะมากครับ เป็นกะละมัง แต่ก็เอาน่า ผมก็กดไป 3 จาน ไม่ค่อยหิวเท่าไรเล๊ยยย .... ทางพี่ๆเขาชมว่าหมูอร่อย ทำไงไม่เคยกินเลย ผมก็เล่าไป ..... และก็ให้เขาเก็บไว้ที่นี่เลย ช่วงเช้าจะได้มาต่อ กินข้าวเสร็จก็จะมีจิบชา .. ชิลไหมละ .... :]


และพอดีน้องๆที่มากันเป็นทีมนั้น ก็กิจกรรมร่วมกับชาวบ้าน ก็เป็นการเต้นออกเสต็ปแบบชาวเผ่า ก็มีหลายสเต็ปอยู่


ขณะกำลังจะเข้านอนนั้น ผมได้ถูกชักชวนจากชาวบ้านว่ามีงานบุญอยู่อีกหมู่บ้านไปด้วยกันไหม มีหรือจะพลาดครับ เส้นทางเอาเรื่องไกลอยู่พอสมควร สอบถามคร่าวๆนั้นคือ คล้ายๆงานเรียกขวัญแก่ผู้ป่วยครั้งใหญ่ ซึ่งจะมีก็ต่อเมื่อครั้งเล็กไม่มีผล ครั้งนี้จะมรชาวบ้านจากหลายๆหมู่บ้านมากันเลยทีเดียว ก็จะมีการร่วมทานอาหารกัน จานหลักเลยคือ วะซะจ๊า เป็นหมูดำนำมาตุ่นแต่ไม่มีผัก จะคล้ายๆคากิบ้านเรา ซึ่งความเชื่อนั้นบอกว่าต้องกินเพื่ออุทิศส่วนบุญให้เขา ( ผู้ป่วย ) และก็ดื่มกันนิดหน่อย หรือไม่นิดนะ แรงอยู่สำหรับผม .... กินไปล้างคอด้วยชาร้อนๆไป เอ้ยยย .. เลยครึ่งขวดละ พอก่อนๆๆๆ 555+ แหมมมม !!!



มาดูพิธีรอบแท่นนี้ก็จะมีศิลปินจากหลายๆหมู่บ้านมาบรรเลงและร่วมเต้นรำตามเสต็ปกัน พิธีนี้จะยาวเลิกกันเกือบเช้า เราก็แอบขากระตุกอยู่เหมือนกัน ...ไม่ใช่ไรหรอกดินนี่ติดเท้าเตะก่อนเบ่อเร่อออออ...
และจากที่ได้นั่งพูดคุยกันนั้นความตั้งใจของกลุ่ม " CBT Baan Jabo การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชนบ้านจ่าโบ่ " อยากจะให้ที่นี่เป็นแบบนี้รักษาความงดงามประเพณีต่างๆไว้ โดยปลุกฝังกันตั้งแต่เด็ก และทำความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยวถึงบางสิ่งที่อาจไม่ได้มีตามที่ต้องการ :]



ผมยิ้มและคิดว่า



" . . . ผมอาจต้องเดินทางไปไกลขึ้นเพื่อไปสัมผัสสิ่งสิ่งนี้ . .. เราจึงต้องช่วยกันรักษาไว้ . . . "วันที่สามของการเดินทาง 24.10.15 " เ ก็ บ เ กี่ ย ว "



จากแผนการเมื่อคืนผมตั้งเวลาไว้สามสเต็ป 04.30น. 05.50น. 06.00น. แน่นอนครับด้วยอากาศที่เย็นสบายนั้นหลับกันเนียนๆเลยมาสะดุ้งตื่นเองตี 5 กว่า แต่ก็พอที่จะออกมาเก็บภาพไว้ได้ :] มาดูรูปช่วงเช้ากันก่อนเลยดีกว่า ...

ขับลงมาบ้านแม่ละนาอีกรอบ ซึ่งโดนปกคลุมไปด้วยหมอก หากเรามองลงจากรา้นก๋วยเตี๋ยวลอยฟ้า ซึ่งเราจะได้ยินเสียงค่างชะนี แว่วก้องในหุบเขา ซึ่งป่าแถวนี้น่าจะยังคงสมบูรณ์อยู่พอสมควร


วันนี้แปแป ลูกของเจ้าของโฮมสเตย์มากินข้าวกับผมด้วย :]


อาบน้ำเก็บของเสร็จก็สมควรแก่เวลา ผมร่ำล่ากับเจ้าของโฮมสเตย์ และค่าเสียหายก็ 400 บาท :]



Bye Bye Baan Jabo ...

เก้าโมงปลายกับเส้นทางที่กลับ อากาศที่เย็น และแวะถ่ายรูปตลอดทาง ผมได้รู้สึกถึงอิสระบางอย่าง และรู้แล้วว่าการชาร์ตแบตในวันหยุดนี้มันเต็มจริงๆ และอยากกลับไปทำงานเพื่อทริปต่อไป .... ( จบประโยคนี้หลายคนถึงกับเบะปาก 555+ )



จะออกไปเป็นไบค์เกอรรรรรร์ แต่เหมือนน้ำมันในถังไม่เข้าจายยยยย...



..กลับเข้าสู่อีโคโหมดทันที ...



กลับมาถึงปาย เที่ยงครึ่ง คืนรถโดยจะถูกผู้ที่ให้เช่ารถนั้นตรวจสภาพรถพอสมควร ไงก็ขับระวังๆกันนะครับ ค่าน้ำมันทั้งหมดที่เช้ารถ 24 ชม. ผมใช้ไป 90 บาท กับระยะทาง มากกว่า 120 กม. และก็ไปหาเพื่อนผมที่ร้านจักรยานเพื่อลากันนิดหน่อย และช่วงนี้ที่ปายมีงานประจำปีพอดี


กลับมาถึงอาเขตประมาณทุ่มนิดๆ ก็ดิ่งไปสถานีรถไฟเพื่ออาบน้ำและมาแวะที่ป้อมตำรวจ สภ.แม่ปิง มานั้งทบทวนเขียนบันทึก :] ไม่เข้มข้นเราไม่นอน คืนนั้นก็ไม่นอนจริงๆ :]


กลับมาถึงอาเขตประมาณทุ่มนิดๆ ก็ดิ่งไปสถานีรถไฟเพื่ออาบน้ำและมาแวะที่ป้อมตำรวจ สภ.แม่ปิง มานั้งทบทวนเขียนบันทึก :] ไม่เข้มข้นเราไม่นอน คืนนั้นก็ไม่นอนจริงๆ :]วันสุดท้ายของการเดินทาง 25.10.15 " ก า ร เ ดิ น ท า ง ที่ แ ส น วิ เ ศ ษ "



05.00 น. หลังจากหาอะไรรองท้องแล้วก็มารอรับตัวรถไฟฟรีขากลับกัน จะเริ่มให้รับตั๋วตอนตี 5 ครับ ขบวน 102 ออกจากเชียงใหม่ 06.30 ถึงกรุงเทพฯ 21.10 น.

ผมโชคดีได้ขบวนที่ 8 ซึ่งเป็นขบวนปิดท้าย คิดว่าจะเก็บภาพจากหลังขบวนรถเยอะๆ


เส้นทางนั้นลัดเลาะสวยงามมากในป่าและหุบเขา พร้อมทั้งมีหมอกลงมา



รถไฟจอดเพื่อส่งคนก่อนลอดอุโมงค์ขุนตาน

...แล้วทำไมต้องรถไฟละ ...



อาจเป็นเพราะ. . .

คำอวยพรจากคนแปลกหน้า



*พี่คนนี้ได้ลงที่สถานีรถไฟแม่เมาะ พอรถจะออก ผมก็ได้ถามว่า " พี่ไม่ไปหรอครับรถจะออกแล้ว "



" ไม่ไปแล้วจ๊ะ แล้วจะไปไหนละพ่อหนุ่ม " " กรุงเทพครับ ฯ "



" เดินทางดีๆ รักษาตัวนะพ่อหนุ่ม โชคดี " ประโยคก่อนที่พี่จะหันหลังเดินไป



ผมได้แต่ยืนนิ่ง...และอิ่มอยู่ในใจ



เราจะได้เจอคนที่ชอบเก็บความทรงจำแบบคุณ



เพื่อนร่วมทางต่างวัยที่เป็นดังสีสัน...



เพื่อนร่วมทางที่ไปกับคุณทั้งขาไปและขากลับ



ป้าเสี่ยงดังๆที่มีเรื่องเล่าตลอดทาง



เด็กน้อยผู้ที่อาจจะเป็นเหมือนเราในอนาตต



ความงดงามของครอบครัว



คนรุ่นใหม่กับมุมมองใหม่ ....



*น้องคนนนี้ชื่อลูกเจี๊ยบ นั่งตรงข้ามกัน เราได้พูดคุยหลายเรื่อง ผมชอบที่พวกเขามากับกลุ่มเพื่อนและเดินทางไปเรื่อยๆ บ่นกันบ้างอะไรบ้าง แต่ผมเชื่อว่ามันจะเป็นความลำบากที่น่าจดจำและจะเป็นเรื่องที่อมยิ้มกันในอนาคต ...



...ช่วงผมหลับนี่น้ำลายยืดดดดด แทบปาดไม่ทัน ..มองไปเจอไอลูกเจี๊ยบ เออ กรูเบากว่ามันเยอะ ...



การได้คุยกับตัวเอง...



....หรือออ.....สิ่งนี้..

" จะไปไหนหรอ .. "



" .. จะไปแอ่วลำปาง "



ขนาดไม่อยากถ่ายน่ะนี่...



เส้นทางไปลำปางน่าจะไกลกว่านี้นะ :] ใครรู้จักเธอ



หรือหากเธอได้อ่านกระทู้นี่ติดต่อกันมาหน่อยนะครับ :]

.

.

.

.



หรืออีกกก...



"...เหมือนว่ามีบางสิ่งขาดหาย ..... คล้ายๆจะเป็นเงิน " .... เพลงเจ็บที่ต้องรู้ท่อนแรกดังมาเลยทีเดียววว...

21.28 น. ลงที่นี่ละครับ


ณ. รถไฟฟ้าใต้ดิน 80 ชม.กับการเดินทางครั้งนี้ สิ้นสุดแล้วครับ :]




ผมขอนำข้อความจากเพจ CBT Baan Jabo การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชนบ้านจ่าโบ่ มาให้อ่านครับ

" การท่องเที่ยวโดยชุมชน ไม่ใช่เพียงแค่การเที่ยวในชนบทที่ห่างไกลเพียงเพื่อพากันไปดูของแปลกแตกต่างจากวิถีคนเมืองใหญ่ มุ่งแสวงหาความสุขส่วนตน มองเพียงความแตกต่างอย่างผิวเผิน หากมองให้ลึกๆ การได้เรียนรู้ถึงภูมิปัญญาที่ซ่อนเร้นอยู่ในความธรรมดาสามัญที่ไม่รีบเร่งไปตามกระแสธารแห่งยุคสมัย ผ่านการจัดการโดยชุมชนเอง หากซึมซับที่มาของสิ่งต่างๆเหล่านั้น ค้นหาความคงอยู่ของสิ่งแวดล้อมวัฒนธรรมดั้งเดิม ปัจจัยที่ทำให้ผันแปร แม้ว่าการเดินทางเรียนรู้นั้นแลกด้วยความลำบากทั้งด้านการเดินทางที่ยาวไกล อาหารที่ไม่คุ้นชิน ที่พักที่ไม่สะดวกสบาย รายจ่ายที่เกิดขึ้นทุกบาททุกสตางค์จะกระจายสู่ทุกๆส่วนของชุมชนอย่างสมเหตุสมผลเป็นธรรม ส่งผลให้ชุมชนเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนมากขึ้น ชุมชนแหล่งท่องเที่ยวและวิถีงามๆคงไม่ถูกทำลายไปเหมือนกับการท่องเที่ยวตามกระแสหลัก เชื่อเถอะว่าการเรียนรู้ที่เกิดขึ้น ย่อมสร้างความสุขความอิ่มเอมให้กับการเรียนรู้อย่างคุ้มค่า คงเป็นการเที่ยวที่ลุ่มลึกยิ่งขึ้นกว่าครั้งไหนๆ เนอะ..."

ขอบพระคุณข้อคิดและภาพอันสวยงามจาก อาจารย์ปอ

Cr. Jittasak Putjorn, Oct 2015

จากข้อความด้านบนคงเข้าใจมากขึ้นในความตั้งใจ หากเราไม่ช่วยกันเราอาจต้องเดินทางไปไกลแสนไกล หรือไม่ก็หาสิ่งเหล่านี้ไม่เจอแล้ว

" บ้านจ่าโบ่ อาจคือจุดหมายปลายทางของผม แต่สิ่งที่เจอระหว่างทางนี่สิ มันคือเมโลดี้เพราะๆ ที่ทำให้ยิ้มในความไพเราะของมันได้ตลอดการเดินทาง... "

สำหรับทริปนี้ค่าใช้จ่ายก็ตกราว ๆ 1,100 บาท ซึ่ง หลักๆ ก็ค่า โฮมสเตย์ 400 ค่ารถไปกลับปาย เชียงใหม่ 300 ค่าเช้ามอไซต์ + น้ำมัน 290 และก็อื่นๆ เล็กน้อย

การเดินทางครั้งนี้ต้องขอขอบคุณ

> แม่ผมสำหรับหมูทอด อร่อยไม่อร่อยชาวบ้านจ่าโบ่บอกว่า มั๊กมากกกก :]

> สิงห์ สำหรับการดูแลเป็นอย่างดี อย่าลืมแวะไปเช่าจักรยานร้านนี้นะครับตอนไปปาย

> เอก สำหรับเลนส์ fix ยาวเลย... 555+

> ออมสำหรับขาตั้งกล้อง

> พี่ๆ สภ.แม่ปิง เชียงใหม่

> ชาวบ้านจ่าโบ และบ้านแม่ละนา

> ทุกคนในความทรงจำบนรถไฟ และเพื่อนๆที่ติดตามในทริปนี้



Facebook : https://www.facebook.com/theeranit.w

Facebook page : https://www.facebook.com/Theeranit.Photography

: https://www.facebook.com/NitVigator/

Instagram : Theeranit.w

...ขอบคุณครับบบ.....

n i t v i g a t o r

 วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 20.27 น.

ความคิดเห็น