เขาเล่าว่า… คู่รักที่ต้องการเติมความหวานให้กับชีวิต ให้ชวนกันมาเติมพลังแห่งแสงแรกยามเช้า ณ ปลายสะพานอัษฎางค์ และแสงสุดท้ายยามเย็นที่ช่องเขาขาด ณ "เกาะแห่งรัก" นามว่า "สีชัง" จ.ชลบุรี

เข้าหน้าร้อนแล้ว แถมร้อนมากด้วย ถ้าให้แบกเป้ ขึ้นเขา เข้าป่า อย่างที่เคยไปบ่อยๆ เจออากาศแบบนี้คงจะไม่ไหว ที่เที่ยวหน้าร้อนที่นึกออกคงจะหนีไม่พ้นทะเลสินะ เอาเป็นว่าหาที่เที่ยวแนวทะเล เดินทางง่ายๆ ใกล้กรุงเทพละกัน... ปิ๊ง !! คิดออกละ เกาะสีชังละกัน ยังไม่เคยไปด้วย ว่าแล้วก็หาข้อมูลซักหน่อย ถ้าพร้อมแล้วก็เก็บกระเป๋ารอเลยยย

เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี นอกจากจะเป็นเกาะแล้วยังเป็นอำเภอด้วยนะ ตั้งอยู่ในอ่าวไทย ห่างจากฝั่งศรีราชาประมาณ 12 กิโลเมตร ในทริปนี้อยากไปพักผ่อนแบบชิวๆสบายๆ หน่อย เลยเลือกขับรถยนต์ส่วนตัวไป จากกรุงเทพฯ วิ่งเส้นบางนา-ตราด ยาวๆไป ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงหน่อยๆ ที่ท่าเรือเกาะลอย จะมีสวนสาธารณะจอดรถได้ฟรี หรือใครกลัวไม่ปลอดภัยก็มีอาคารจอดรถเอกชนข้างโรบินสัน รับฝากรถคืนละประมาณ 100-200 บาท แต่ก็ต้องเหมาตุ๊กๆให้มาส่งที่ท่าเรืออีกที

หลังจอดรถที่สวนสาธารณะเดินต่อมานิดนึงที่ท่าเรือ ทันเรือรอบ 15:00 น. พอดี ซื้อตั๋วลงเรือ คนละ 50 บาท เป็นเรือแบบ 2 ชั้นอะ ถ้าไปเร็วเจอที่นั่งว่างเยอะๆ แนะนำให้เลือกชั้นบน ถ้าชั้นล่างมันจะร้อนหน่อย เพราะเค้าจะนั่งปิดกระจกกัน คลื่นมันจะสาดเวลาเรือแล่น ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีก็ถึงเกาะ กะเวลาเดินทางให้ทันรอบเรือด้วย ถ้าพลาดไม่ทันเดี๋ยวรอบต่อไปจะได้ไม่รอนาน

ตอนเรือออกเราโทรแจ้งกับที่พักไว้ เค้าจะมีรถมารับที่ท่าเรือ ส่วนถ้าใครจองที่พักแต่ไม่มีบริการรถรับ-ส่งท่าเรือ ตรงนั้นก็จะมี วินมอเตอร์ไซค์ รถสามล้อ จอดรอให้บริการอยู่แถวนั้นแหละ ส่วนใครที่มาเที่ยววันเดียวแบบไม่ค้างคืน ก็มีมอเตอร์ใช้เช่า หรือจะเหมารถพาเที่ยว ก็ลองไปคุยดู

หลังจากขึ้นเกาะ เดินไปนิดนึงก็เจอรถของที่พัก แบกเป้ขึ้นรถ ขับไปไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงที่พักของเราแล้ว

ในส่วนที่พักของเราในคืนนี้ที่ มีชื่อว่า DE' ANCHOR ที่พักริมทะเลตกแต่งสไตล์ลอฟต์ ห้องพักที่จองไว้เป็นแบบ Garden View มองเห็นทะเลอยู่นิดๆ จองตรงผ่าน Inbox ในเฟสบุ๊คของที่พัก ได้ส่วนมา 15% เพราะไปวันธรรมดา ราคาลดแล้วเหลือ 2,125 บาท รวมอาหารเช้า

หลังจากเช็คอิน เข้าห้องพัก นั่งตากแอร์รอให้แดดร่มกว่านี้ ก็ได้เวลาไปสำรวจเกาะซักหน่อย โดยเช่า มอเตอร์ไซค์ของที่นั่นเลย ราคา 300 บาท น้ำมันก็ไม่ต้องเติมคืน เค้าคิดรวมให้แล้ว

จุดที่เราจะไปที่เล็งไว้ในช่วงเย็นนี้ ก็มีแค่ หาดถ้ำพัง แหลมจักรพงษ์ แล้วก็ไปดูพระอาทิตย์ตกที่ ช่องอิศริยาภรณ์ หรือช่องเขาขาด ถ้าพร้อมแล้วก็ไปเลยยย

หาดถ้ำพัง เป็นหาดแห่งเดียวที่สามารถลงเล่นน้ำได้ เพราะพื้นที่ริมทะเลส่วนใหญ่ของเกาะจะเป็นหน้าผา หรือว่าโขดหิน จะลงเล่นน้ำคงไม่สะดวก มีที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร เตียงผ้าใบ ให้บริการ

แหลมจักรพงษ์

ระหว่างทางเจอหมูป่าด้วย

ช่องอิศริยาภรณ์ หรือ ช่องเขาขาด จุดชมพระอาทิตย์ตกของเราในวันนี้

ส่วนเรื่องอาหารเย็น ที่นี่ก็มีร้านอาหารเยอะแยะมากมายเลือกเอา ร้านที่เราไปชื่อร้าน ป้าหน่อยริมทาง มั้งไม่แน่ใจ รสชาติ ก็โอเค อร่อยดีหรือหิวก็ไม่รู้นะ ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เพราะว่าหิวมาก sorry สั่งไป 4 อย่างมี หมึกน้ำดำ กระเพราเห็ด หอยหวานเผา (จริงๆมันคือหอยหมาก) และก็ยำไข่แมงดา โค้กขวดเล็ก น้ำเปล่า ข้าว 2 จาน เช็คบิลมา 7 ร้อย เกือบๆ 8 ร้อย ราคาบนเกาะ พอรับได้ กินเสร็จก็แวะเซเว่น ก่อนจะกลับเข้าที่พัก

ตื่นเช้า ข้าวก็ยังไม่ได้กิน ล้างหน้าแปรงฟันก่อนจะแว็นซ์มอเตอร์ไซค์ออกไปดูแสงเช้าที่แลนด์มาร์คจุดสำคัญอีกหนึ่งแห่งของเกาะแห่งนี้

สะพานอัษฎางค์ สะพานไม้สีขาวทอดยาวไปในทะเล ตั้งอยู่ในส่วนของพระจุฑาธุชราชฐาน ใกล้กันจะมีเรือนไม้สีเขียว ซึ่งถูกปรับปรุงเป็นร้านกาแฟ แต่มาเช้าเกินไปร้านยังไม่เปิด อดกิน

หาดตรงนี้ก็เล่นน้ำได้นะ เมื่อวานแวะมาแปบนึง ก็เห็นมีคนเล่นอยู่

หลังจากเดินเล่น ถ่ายรูป ดูแสงเช้า เสร็จ เริ่มหิว เลยกลับเข้าที่พัก อาบน้ำอาบท่า แต่งตัว แล้วไปกินอาหารเช้าของที่พัก ที่ห้องอาหาร กะลาสี Bar & Restaurant

ถึงเวลากลับแล้ว เราเลือกกลับเรือรอบ 13:00 น โดยเช็คเอ้าท์กก่่ออนเที่่ยง แล้วมานั่งรอที่ล็อบบี้ ตอนเที่ยงครึ่งรถของที่พักจะไปส่งเราที่ท่าเรือ

13:00 เรือออกตรงเวลามาก ใครช้าเอื่อยเฉื่อยระวังตกเรืออละ ตั๋วราคาเดิม 50 บาท ขึ้นเรือกลับฝั่ง เป็นอันจบทริป

สรุปค่าใช้จ่าย

ค่าเรือ คนละ 50 บาท

ค่าที่พัก DE' ANCHOR 2,125 บาท

ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ 300 บาท

ค่ากินประมาณ 1,000 บาท

จริงๆแล้ว เกาะสีชัง มีจุดเช็คอินเยอะแยะมากมาย แต่เราไปน้อย เพราะว่ามันร้อน แล้วก็ขี้เกียจด้วย 555 ไว้มีโอกาสจะกลับซ้ำอีกน้าาา

ก่อนจากขอฝากเพจ ติดตามการเดินทางของเราได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจเล็กๆ อันนี้เลย fb : get a way เข้าไปกดไลค์กดแชร์ให้ด้วยละ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณครับ