สวัสดีค้าาา วันนี้จะมารีวิวทริปการท่องเที่ยวญี่ปุ่น กับจำนวนเวลาทั้งสิ้น 6 วัน 5 คืน ในงบสองหมื่นเจ็ดนะคะ



เราเดินทางวันที่ 7-13 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมานี่เองค่ะ ... 10 กว่าวันแระแต่ยังคิดถึงอยู่เลย

เดินทางด้วยสายการบินไทยแอร์เอเชียค่ะ ตั๋วไปกลับ ดอนเมือง-นาริตะ-ดอนเมือง

ได้ราคามาคนละ 7,000 รวมอาหารบนเครื่อง +นน.กระเป๋า+ประกันภัยการเดินทาง



สำหรับเลทเงินที่แลกไปคือ 100 เยน = 0.286 บาท (ถูกกว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้วมากตอนนั้นตั้ง 0.33 บาทแหน่ะ)

สัญญานอินเตอร์เน็ตเราซื้อซิมของเอไอเอสไป 1 ซิม แล้วแชร์ไวไฟกันค่ะ (วิธีนี้สะดวกดี ถ้าไปหลายคนก็ซื้อแบบความเร็วแรงไปเลย)



สำหรับปลายทางในฝันครั้งนี้ของเราก็คือ บ้านตุ๊กตา หรือ หมู่บ้านมรดกโลก Shirakawako และก็ Nikko นั่นเองค่ะ .......



สำหรับเงินไทยที่แลกไป เราแลกไปทั้งสิ้น 20,000 บาทค่ะรวมค่าตั๋วรถ+ค่าบัตรเข้าชม+ค่าที่พัก+ค่าอาหาร+ค่าของฝาก

จาก 20,000 แจงเป็นค่าใช้จ่ายดังนี้นะคะ



1. ค่ารถไฟ (ขาไป) นาริตะ - อาซากุซะ เราเดินทางด้วย Keisei Access Express (สีส้ม) 1,290 เยน เปลี่ยนขบวนที่สถานี (KS09) Aoto

2. ค่ารถไฟ (ขากลับ) โอเอโนะ - นาริตะ เราเดินทางด้วย Keisei Access Express (สีส้ม) 1,240 เยน ไม่เปลี่ยนขบวน

3. ค่ารถบัสไปกลับ โตเกียว-ทาคายามา-โตเกียว 12,040 เยน ขึ้นที่ชินจูกุ

4. ค่ารถบัสไปกลับ ทาคายามา - ชิราคาวาโกะ-ทาคายามา 4,420 เยน

5. ค่ารถพาส (รถไฟ+รถบัส) ไปกลับ อาซากุซะ-นิกโกะ-อาซากุซะ (เราซื้อแบบ all area แบบ 4 วัน) ตอนแรกกะจะไม่ซื้อพาส แต่คำนวณดูค่ารถแล้ว ซื้อพาสจะคุ้มกว่าค่ะ แต่ซื้อแบบเปลี่ยนขบวนนะคะ ราคา 4,150 เยน แต่ถ้านั่งยาวไปเลยต่อเดียวจะราคา 4,520 เยนค่ะ

6. ค่าที่พักคืนที่ 1 ที่อาซากุซะ Toukaisou 7,200 เยน/2 คน ตกคนละ 3,600 เยน

7. ค่าที่พักคืนที่ 2 ที่ทาคายาม่า Relax Hostel Takayama Station ราคา 2,800 เยน/2 คน รวมอาหารเช้า เฉลี่ยคนละ 1,400 เยน

8. ค่าที่พักคืนที่ 3 nine hours Shinjuku-North ราคา 11,200 เยน/2 คน เฉลี่ยคนละ 5,600 เยน

9. ค่าที่พักคืนที่ 4 ที่อาซากุซะ Toukaisou 7,200 เยน/2 คน ตกคนละ 3,600 เยน

10.ค่าที่พักคืนที่ 5 ที่ Nikko Station Hotel Ⅱ ราคา 10,000 เยน/2 คน รวมอาหารเช้า เฉลี่ยคนละ 5,000 เยน

10. ค่าที่พักคืนที่ 6 ราคา 0 เยน / พักที่สนามบินนาริตะ



รวมค่าใช้จ่ายหลักๆทั้งสิ้น 42,340 เยน (หรือเงินไทยประมาณ 11,855 บาท)

ปล. ตั๋วเดินทางต่างๆซื้อที่เค้าท์เตอร์ทั้งสิ้น ไม่ได้จองทางออนไลน์ค่ะ



เริ่มการเดินทางกันเลยนะคะ

เราบินจากดอนเมือง ไปนาริตะไฟล์ท 10.45 น. ถึงนาริตะ 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (อ่อ ถ้าใครบินลงเวลานี้แล้วพักที่อาซากุซะ ตารางเดินรถไปจะไม่มีนั่งตรงถึงอาซากุซะเลยนะคะ ถ้าใครจะลงอาซากุซะก็ต้องเปลี่ยนขบวนที่ Aoto ค่ะ)



ถึงปุ๊บก็ไปซื้อตั๋วเข้าอาซากุซะเลยค่ะ

เดินออกมาทางออกเลย แล้วลงบันไดเลื่อนลงมาข้างล่าง จะมีที่ขายตั๋วของ Keisei แจ้งคนขายว่า ซื้อตั๋ว Keisei Access Express (สีส้ม)

ซื้อแล้วก็ถามเค้าก็ได้ว่าขึ้นชานชาลาที่เท่าไหร่ (ชานชาลาที่ 1) จะมีป้ายบอกชัดเจนค่ะ

ถ้ากลัวหลง ก็ขอ Map จากเจ้าหน้าที่ไว้ดูไล่ตามก็ได้ค่ะ หน้าตาแบบนี้ หรือจะปริ้นส์ไปเองเลยก็ได้

เรานั่งจาก KS41 เพื่อไปเปลี่ยนขบวนเป็นขบวนข้างๆที่สถานี KS09 Aoto หลังจากนั้นก็นั่งยาวไปลงสถานี A-18 ค่ะ



คืนแรก ไม่มีอะไรมาก เราพักที่อาซากุซะ Toukaisou 7,200 เยน/2 คน ตกคนละ 3,600 เยน

มาถึงปุ๊บ ก็วางกระเป๋า เช็คอินที่พัก แล้วก็ออกมาหาข้าวทานข้างหน้าห้าง ROX เดินเที่ยวในวัดเซ็นโซจินิดหน่อยค่ะ

ปล. แต่บรรยากาศดีมาก ไม่มีคนเลย อากาสก็โคตรจะหนาว ฮรือออฟินมาก เดินเที่ยวถ่ายรูปเสร็จก็เข้าไปช๊อปปิ้งที่ดองกี้ต่อ



เช้าวันที่ 2 (8 มีนาคม 2562)

เริ่มต้นด้วยการเช็คเอ้าท์ทิ้งกุญแจห้องไว้ที่กล่องด้านหน้าของที่พัก แล้วก็เดินทางไปสถานีชินจูกุเลยค่ะ เพราะวันนี้เรามีแพลนเดินทางไปทาคายามา และนอนค้าง 1 คืน



จากสถานีอาซากุซะ เราเดินทางโดยซับเวย์ค่ะ กดเหรียญหน้าตู้เลย ง่ายมาก สนุกด้วย (จาก G18 ลง G09 แล้วเดินไปต่อ M16 ไปลง M10 ออกทางออก E10 ) ค่าตั๋วจำไมไ่ด้แล้วค่ะว่ากี่เยน



โพล่มาเจอแบบนี้


สำหรับตั๋วไปทาคายาม่า เราเลือกรอบ 08.15 น. ถึงทาคายาม่า 13.45 น.ค่ะ เวลายังเช้าอยู่ เราเดินไปหาอะไรรองท้องกันก่อนที่ด้านล่างตึกกันก่อนนะ อ่อ ใครอยู่ด้อม GOT7 เดี๋ยวเราจะพาไปดู Shinjuku Box ของกัซกันค่ะ



มาถึงตรงนี้ ขอรีวิว GOT7 BOX นิดนึงนะคะ

สำหรับวิธีการไปคาเฟ่ GOT7 คือ เดินไปทางขวามือของตึก JR Shinjuku Station เลยค่ะ จะเจอรั้วสีเหลือง

ให้ข้ามรั้วสีเหลืองแล้วเดินตรงไป

เราก็จะเจอร้าน สตาร์บัคส์ ให้เดินไปอีกนิดนึง ก็จะเจอเลย

ส่วนการเข้าไปใช้บริการ ต้องจองที่นั่งผ่านเว็บเท่านั้นเด้อ ถึงจะสั่งอาหาร หรือเครื่องดื่ม หรือกู๊ดส์ได้

ส่วนการวอล์คอิน มีบางเมนูที่สามารถ Take Home ได้ค่ะ

08.15 น. รถบัสมาตรงเวลามากค่ะ เราไปรอที่ชานชาลาที่ 3 ยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่ แล้วนั่งตามเลขที่นั่งของตัวเองเลยค่ะ

บนรถมีไวไฟฟรี มีที่เสียบปลั๊ก มีที่เสียบยูเอสบี มีห้องน้ำ มีเลดี้ซีท และก็มีฮีทเตอร์ 555+ รถจะพาแวะประมาณ 2 สถานีๆละ 10 นาทีนะคะ

สำหรับวิวระหว่างทาง คือ 10/10 เลยค่ะ สวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สวยแบบลืมนอนไปเลย มันสวยมันว้าวตั้งแต่ออกจากโตเกียวเลยค่ะ

เนี่ยๆ ขับออกไปคุณฟูจิซังก็มาส่งเราด้วยอ่ะ สวยมากกกกกกกกก



แวะพักรถที่สถานีนี้ 10 นาทีค่ะ ......... โอ้ยยยยเวลาน้อยไปมากถ้าเทียบกับวิวที่อยู่เบื้องหน้า .........



หลังจากเราผ่านทางคดเคี้ยวเลี้ยวโค้ง ผ่านเขื่อนสีเขียมมรกตสดใสมาแล้วก็จะเจอ ............. หิม๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

สถานีนี้คือดีงามมาก วิวสวย ใกล้ๆคือลานสกี แต่จำชื่อไม่ได้ค่ะว่าสกีอะไร แต่สวย สวยมากๆ ฮรือออแม่จ๋า ร้องไห้แล้ว

ไปต่อค่ะ ความสวยยังไม่หมดแค่นี้ ...

เหมือนหลุดเข้าไปนิยาย เหมือนอยู่ในหนังนาร์เนีย ......... ฮรือ สวยยยยยยยยยยยยยย

คือ ก่อนมา ไม่ได้คิดว่าจะมาเจออะไรที่สวยแบบนี้ เพราะก่อนมากังวลแค่ว่า กลัวอากาศจะหนาวมาก กลัวเสื้อผ้าไม่พอ

กลัว ไม่อยากเจอหิมะ กลัวหนาวตาย 555555555555+++ แต่พอเจอละเล่นไม่ยอมเลิกเลย



นั่งมาอีกนิดก็ถึงทาคายาม่าแล้วค่ะ โอ้ยไวมาก นี่ชั้นยังฟินไม่เสร็จเลย

คืนนี้เราพักที่ Relax Hostel Takayama Station ดีงาม เอาไป 10/10 เลย เพราะใกล้สถานี Nohi Bus มาก และที่พักสะอาด

ปลอดภัย ห้องน้ำนี่แทบจะนอนได้เลย ดีมาก จริงๆ



เช็คอิน จ่ายตังค์เสร็จ เดินเที่ยวในทาคายาม่าค่ะ เมืองคือ เงียบมาก บ่าย 3 โมง ร้านอาหารยังไม่เปิดเลย เงียบสุด

เดินกินขนาฆ่าเวลาค่ะ อากาศตอนนี้ก็ราวๆ -1 หนาว มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก



ปล. ที่บอกว่าเงียบ คือคนเข้าไปผิงไฟกันตามร้านขายของที่ระลึกอะค่ะ เพราะอากาศด้านนอกมันหนาวมาก ไม่ใครสู้เลย 555+

เมืองนี้ส่วนใหญ่จะขายเนื้อฮิดะนะคะ แต่พวกเราไม่ทานเนื้อเลยหาร้านซูชิทานกัน จนมาเจอร้านนี้

ทานเสร็จต้องรีบกลับค่ะ เพราะหนาวมาก หนาวจนหยดน้ำข้างๆตอนนี้จับตัวกันเป้นก้อนน้ำแข็งล้าววว



เช้าวันที่ 3 (9 มีนาคม 2562)



เราเดินทางเข้าหมู่บ้านชิราคาวาโกะ โดยรถ Nohi Bus รอบแรกเลยค่ะ (เดินไปขึ้นรถที่เดิมกับที่เราลงเมื่อวานเลย)

อ้อ สำหรับตั๋วรถ ถ้าใครกลัวตั๋วเต็มก็ซื้อล่วงหน้าไว้เลยนะคะ มาถึงปุ๊บ ไปซื้อไว้ก่อนเลยค่ะ



นั่งประมาณ 45 นาที ก็ถึงหมู่บ้าน อันดับแรก แนะนำให้นั่งรถขึ้นไปจุดชมวิวด้านบนก่อนนะคะ เพราะถ้าสายๆจะมีกลุ่มทัวร์เยอะมากๆเลย

ไปจุดนี้ก่อนคือดีสุด เดินมาขึ้นรถด้านในหมู่บ้าน ค่ารถคนละ 200 เยนค่ะ

สงบมาก สวยมาก ฮรือออ น้ำตาจิไหล นี่หรือที่ดั้นด้นมา .... สวยไปทุกมุม ถึงแม้หิมะจะละลายแล้วก็เถอะ


อยู่ด้านบนซักพัก เราก็เดินลงค่ะ เดินตามทางลงมาเลย วิวพ้อยท์ต่อไปของเราก็คือ บ้านสามหลังท้ายหมู่บ้านค่ะ

เดินทะลุไปเลย



เดินเข้าไปในหมู่บ้าน ก็ยังมีหิมะกองเล็กกองน้อยให้ได้เล่นอยู่นะคะ



เดินเข้าไปอีกนิดนุงก็เจอบ้านสามหลังในตำนานล้าวว อ้อ ขากลับออกมา อย่าลืมไปแวะสะพานนะคะ นั่นคือ แลนด์มาร์ค



ภาพจากโปสเตอร์ในสถานี คือสวยมาก



เรากลับจากหมู่บ้านชิราคาวาโกเวลา 12.35 น. ค่ะ มาถึงทาคายาม่าก็มารับกระเป๋าที่ฝากไว้ แล้วก็ซื้ออาหารจากเซเว่นมาทาน

อร่อยมากอีกล่ะ แล้วก็นั่ง Nohi Bus กลับเข้าชินจูกุรอบ 15.00 น. ถึงชินจูกุประมาณ 20.30 น.ค่ะ ขากลับ กลับทางเดิม เพิ่มเติมคือวิวร้าน

สตาร์บัคส์ สวยมากกกกกกกกก



จุดแวะพักรถขากลับเข้าชินจูกุ ฮรือออ สวยอ่ะ กลางคืนนี้ ยิ่งกว่าดาวบนดินอีก



ถึงสถานีชินจูกุ ตามเวลาเป๊ะเลยค่ะ 20.30 น. หลังจากนั้นเราก็ตั้งจีพีเอสไปที่พักคืนนี้เลย

Nine hours Shinjuku-North ไม่เหมาะกับผู้มีอายุมากนะคะ เพราะว่ามันเล็กแล้วก็เป็นเตียง 2 ชั้น

ห้องนอนกับห้องน้ำอยู่คนละชั้น ล๊อคเกอร์ ใช้ระบบกระดาษที่มีคิวอาร์โค๊ด



แต่ความดีงามอยู่ตรงที่ของกินนะคะ อาหารอร่อยมาก และยิ่งอาหารเกาหลีนี่เยอะมากเลยค่ะ เพราะย่านนี้คือย่านเกาหลีทาวน์

เช้าวันที่ 10 มีนาคม 2562



จริงๆวันนี้มีแพลนว่าจะไปดูคุณฟูจิซังที่ คาวากูชิโกะนะคะ แต่เพราะเราหมั่นเช็คสภาพอากาศ ดูในไลฟ์แล้ว

คือฟ้าปิด แต่ปิดแบบเห็นฟูจิซังนะคะ แต่ไม่สวย เพราะเมฆลอยต่ำมาก ก็เลยตัดใจเที่ยวดูซากุระในโตเกียวดีฟ่าาา



จุดแรกมาแวะนี่ก่อนเลยค่ะ ตลาดปลาซึกิจิ ... นั่งซับเวย์เหมือนเดิมค่ะ

ปล. ถึงเค้าจะย้ายการประมูลปลาไปที่ใหม่แล้ว แต่ร้านอาหารก็ยังมีอยู่นะคะ

แต่จะเปิดสายๆหน่อย จากที่เคยมาตี 4 ก็ไม่ต้องมาละเด้อ



อาหารเช้าเราวันนี้ คือซูชิร้าน Sushi Zanmai ค้าาาาาา โอ้วโห คนเยอะไปไหน เยอะจนต้องรอคิว

แต่ปลาสดจริงค่ะ หัวปลาแซลมอนออร่อยมากกกกกกก สั่ง 2 จานเลย 555+



ทานเสร็จ ปิดท้ายด้วยของหวาน ฮรืออ สตรอเบอรี่ฉ่ำมาก โมจิก็อร่อย ... ซื้อกลับไปกินอีก 2 ลูก ถ่ายรูปโชว์ทั่วโตเกียวเลย 555+

ทานเสร็จ เราเดินทางต่อไปยังฮาราจูกุค่ะ ไปขอพรที่ศาลเจ้าเมจิกัน

อ้อ วันนั้นสงสัยเป็นวันมงคลมั้ยคะ เราเจอบ่าวสาวมาทำพิธีในศาลตั้ง 6 คู่แหน่ะ



กลับจากขอพร เราก็เดินต่อไปที่สวน Yoyogi Park กันต่อค่ะ เพราะน้องซากุระรอเราอยู่

สวย หวาน หอม ละมุน มีทั้งสิ้น 4 ต้นถ้วน



เที่ยวมาทั้งวันแล้ว คืนนี้เราต้องกลับมาพักที่อาซากุซะที่เดิมค่ะ เพราะพรุ่งนี้ แพลนของเราคือ นั่งรถไฟไปนิกโกะ

ปล. ร้านปิ้งย่างในซอยตรงข้ามห้าง ROX คือดีมากค่ะ ช่วยเยียวยาชะนีผู้หิวโหยหมูกะทะได้มากๆเลย



เช้าวันที่ 11 มีนาคม 2562

ต้องตื่นแต่เช้าเช่นเคย ....... ซื้อพาสเข้านิกโกะค่ะ



สำหรับการนั่งรถไฟแบบ Local ไม่ยากเลยค่ะ เพราะมันจะมีเลขที่สถานีบอกอยู่แล้ว เราแค่ลงจากคันเดิม ไปขึ้นอีกคัน

ขาไป ขึ้นที่ Asakusa (TS01) 09.33 น. ไปเปลี่ยนขบวนที่สถานี (TS04) Hikifune 09.38 น. และ

นั่งยาวไปจนถึงสถาที (TN03) Minami-Kurihashi 10.35 แล้วนั่งยาวอีกจนไปถึง (TN25) Tobu-Nikko เลยค่ะ

หรือถ้ากลัวผิดขบวนก็ถามนายสถานีได้ค่ะ



มาถึงปุ๊บ ก็ไปฝากกระเป๋าไว้ที่พักเลยค่ะ เดินไปไม่ไกลเลย จากหน้าสถานีเดินตรงออกมาข้ามถนนเดินเข้าซอยนิดนึงเลี้ยวซ้ายจะเจอตึก

เดินเข้าไปเลยค่ะ ดีงามอีกแล้ว

ปล. แต่เช็คอินได้หลังบ่าย 3 นะ



เช็คอินเสร็จ รีบมาขึ้นรถไปน้ำตก กับทะเลสาปกันเลยค่ะ สำหรับการขึ้นรถตรงสถานีมีป้ายบอกนะ

ว่าถ้าจะไปโซนธรรมชาติต้องขึ้นที่ป้ายไหน

- รถที่สามารถนั่งไปเที่ยวโซน น้ำตก Kegon + ทะลเสาบ Chusenji ก็คือสาย 2A กับ 2B ไปได้ทั้งสองสายเลย

ส่วนตอนลง ก็ลงป้าย 26 ค่ะ แล้วเดินต่อไปน้ำตกนิดหน่อย

จ่ายค่าตั๋วเข้า + ลงลิฟต์ ประมาณคนละ 500 เยนค่ะ



ขึ้นมาจากน้ำตก เราเดินไปทะสาปต่อค่ะ ใกล้ๆกันเลย

อากาศตอนนั้นคือ หนาวมาก หนาวสุดๆ ทั้งฝน ทั้งลม ทั้งหิมะ

แต่เราก็สู้ .... 555+



หลังจากเดินเที่ยวชม ทะลเสาบ Chusenji แล้ว ให้เดินข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม เพื่อมาขึ้นรถกลับไปที่สถานีรถไฟ Tobu Nikko

ได้ที่ป้ายหมายเลข 26 ได้เลยค่ะ



คือ ทนหนาวไม่ไหว ต้องรีบกลับเข้ามาในเมือง หาอะไรร้อนๆ

ร้านนี้คืออร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แต่จำชื่อร้านไมไ่ด้ค่ะ

แต่จำได้ว่าอยู่เยื้องๆร้านเครปคุณป้าอะ

ปล. เครปคุณป้าก็อร่อยนะคะ





6 โมงเย็น ควรเข้าที่พักได้แล้วนะคะ เพราะอากาศข้างนอกคือ หนาวมาก

สำหรับที่พักของเราคืนนี้ รวมอาหารเช้าด้วยนะคะ อาหารอร่อยอีกแระ

มีทั้งแบบญี่ปุ่น และก็อเมริกันค่ะ อร่อยจริงๆ



เช้านี้วันที่ 12 มีนาคม 2562



ออกเดินทางแต่เช้าอีกแล้ว ซึ่งวันนี้เราจะไปตามเก็บโซนมรดกโลก แล้วก็จะไปซ้ำโซนธรรมชาติอีกนิดหน่อยค่ะ

ออกมาแต่เช้า คนยังไม่เยอะ คือดีค่ะ



วันนี้มีเวลาอยู่ที่นี่ทั้งวันค่ะ เดินช้าๆ ชมเพลินๆไปเลย



สวยมากเลยค่ะ หันไปทางไหนก็สวยไปหมด



ขากลับก่อนถึงสถานีโทบุนิกโกะเราลงถ่ายรูปกับสะพานนิดหน่อยคะ (ป้ายที่ 7)



วันนี้คงอัพได้ไม่หมด ยังงัย ขอต่อพรุ่งนี้นะคะ

ขอบคุณที่ติดตามมาจนถึงเม้นท์นี้ค่ะ

และเนื่องจากเรายังพอมีเวลาอีกนิดหน่อย เราก็เลยนั่งรถกลับขึ้นไปโซนธรรมชาติอีกรอบค่ะ

เพราะตั้งใจไปถ่ายทะเลสาป Chusenji อีกรอบ ในบรรยากาศที่ฟ้าใสๆ



ปล. จุดขึ้นกระเช้า คือปิดปรับปรุงนะคะ ........ อดขึ้นกระเช้าเลยยย TT

ส่วนเปิดวันไหน สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นิกโกะเลยค่ะ



แพลนวันนี้ของเราคือ

เราจะนั่งรถไฟกลับไปยังอาซากุซะรอบเวลา 14.31น. ถึงอาซากุซะ 15.31 น. นั่งรถไฟ Lacal แบบเปลี่ยนขบวนเหมือนเดิมค่ะ



พอถึงอาซากุซะแล้ว เราจะนั่งซับเวย์ไปโอเอโนะ เพราะซื้อตั๋วเข้าสนามบินนาริตะในรอบสุดท้ายของวันนี้

และเมื่อซื้อตั๋วเสร็จ เราก็จะเอากระเป๋าเดินทางไว้ล๊อคเกอร์ (ตรงสถานี Keisei) แล้วนั่งซับเวย์ ย้อนมาอาซากุซะอีกรอบ

เพื่อซื้อของฝากที่ดองกี้ค่ะ (ของฝากที่ดองกี้ถูกกว่าสนามบินเยอะมาก)



ปล. ถ้าไม่อยากย้อนกลับไปกลับมา ตอนบินมาลงนาริตะ สามารถซื้อตั๋ว Keisei ไปกลับที่สนามบินไว้ก่อนเลยก็ได้ค่ะ

ถามเจ้าหน้าที่ว่ารอบสุดท้ายวันที่เราจะเดินทางกลับกี่โมง แล้วก็ซื้อไว้เลย


ตัดภาพมาที่ ซื้อตั๋วเข้าสนามบินเรียบร้อย ฝากกระเป๋าเรียบร้อย แล้วก็นั่งซับเวย์มาอาซากุซะเรียบร้อย

เราก็หาข้าวกิน แล้วก็รีบบบบ เข้าไปดองกี้เลยค่ะ ซื้อๆแล้วรีบกลับไปโอเอโนะ เพื่อขึ้น Keisei Access Express

รอบสุดท้าย วันนั้นคือรอบ 20.45 น. (เกือบไม่ทันค่ะ วิ่งแบบหอบมาก)5555+



หลังจากเราใส่เกียร์หมาวิ่งมา เราก็ขึ้นรถไฟขบวนสุดท้ายนี้ทัน นั่งยาวๆ ไปลงสนามบินนาริตะเทอร์มินอล 2 (KS41) เลยค่ะ



สำหรับคืนสุดท้าย

เหตุผลที่เรามานอนสนามบินก็เนื่องจาก เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เราเคยพักที่อาซากุซะแล้วรู้สึกว่า เราก็นอนไม่หลับ

คือกลัวตกเครื่องอะคะ และกว่าจะจัดกระเป๋า อาบน้ำ ก็ล่วงไปตี 2-3 ละ สุดท้ายก็ไม่ได้นอนอยู่ดี

เลยคิดว่า ไปพักที่สนามบินดีกว่า จัดกระเป๋าที่นั่น และที่สำคัญ ที่นั่นปลอดภัย และห้องน้ำสะอาด

มีไวไฟ มีปลั๊กชาร์ทไฟ มีพี่ๆรปภ.คอยเดินตรวจความเรียบร้อยปลอดภัยทั้งคืนอะ ทำให้เราอุ่นใจไปเลย แถมเพื่อนเยอะด้วย

อีกอย่าง มีที่พักแบบแคปซูล ให้พักด้วยนะคะ ถ้าใครต้องการพักแบบสบายๆ แถมราคาก็ไม่แพงอีก



แต่ส่วนตัวเราคือ ชอบบรรยากาศในสนามบินนะคะ

เค้าเตอร์เช็คอินชั้น 3 เปิด 06.30 น. และจุดตม.เปิด 07.30 น.

เราก็ต่อแถวเข้าไปตามระบบค่ะ

เช้านี้เราบินกลับ กทม. เวลา 09.15 น.ถึง กทม. ประมาณบ่าย 4 โมง (ใช้เวลาประมาณ 7-8 ชม.เลยค่ะ)

กัปตันแจ้งว่าสภาพอากาศแปรปรวน



* ปิดท้ายทริปด้วยเกร็ดน้ำแข็งตรงหน้าต่างนะคะ นี่อุตส่าห์หอบผ่านไต้หวัน ฮานอย ลาว มาได้ พอถึงเขตไทยแลนด์ปุ๊บ ละลายหมดเลยค่ะ *



กฎของการชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากบนเครื่องบิน



ดอนเมือง - นาริตะ = นั่งซ้าย

นาริตะ - ดอนเมือง = นั่งขวา



แต่ถ้าคนดวงนก จะออกทะเล TT แงงงงงงง ร้องไห้หนักมาก



ความคิดเห็น