มนต์เสน่ห์แห่งมรกตเมืองใต้ "ท่าปอมคลองสองน้ำ" จังหวัดกระบี่
ชื่นฉ่ำกับธรรมชาติที่สร้างสรรขึ้นมาผสมผสานระหว่าง น้ำทะเล และน้ำจืด เลยกลายเป็นน้ำกร่อยที่เย็นสบาย เหมาะกับการถ่ายรูปได้อย่างลงตัว
คลองท่าปอม เป็นลำธารสายสั้นๆ ยาวประมาณ 5 กิโลเมตร กำเนิดจากแอ่งน้ำผุดบนเขาช่องพระแก้ว ไหลผ่านสระน้ำกลางป่าก่อนที่ไหลลงสู่ทะเลอันดามัน โดยคลองท่าปอมอยู่บริเวณรอยต่อของน้ำจืดกับน้ำเค็มพอดี ยามน้ำทะเลหนุนสูง น้ำในคลองที่จืดสนิทจะกลายเป็นน้ำกร่อย ครั้นพอน้ำลง น้ำจืดจากป่าต้นน้ำก็จะดันน้ำทะเลออกหมด ทำให้พื้นที่ธารน้ำท่าปอมเป็นป่าพรุ ที่มีลักษณะพิเศษคือ มีน้ำเค็มและน้ำจืดไหลมาบรรจบกัน มีพื้นที่ราว 300 ไร่ กลายเป็นระบบนิเวศเล็กๆ อันชวนพิศวง เพราะนอกจากจะเป็นรอยต่อ 2 น้ำแล้ว ยังทำให้เกิดจุดบรรจบของ 3 ป่าอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มีป่าโกงกาง พังกาหัวสุม ไม้พืชป่าชายเลน อยู่ร่วมกับชมพู่น้ำ ไม้ป่าพรุอย่างกลมกลืน โดยมีหลาวชะโอน ไม้ป่าดิบชื้น
สำหรับป่าชนิดไหนมีลักษณะอย่างไรว่าหากมาเดินในเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ป่าท่าปอมสังเกตไม่ยากเนื่องจาก ป่าแต่ละประเภทต่าง ก็มีลักษณะเด่นแตกต่างกันออกไปโดย ป่าชายเลนจะเห็นเป็นจุดแรกตั้งแต่ก่อน เข้าสู่เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ซึ่งจะเห็นรากของ ต้นโกงกางที่เป็นดังพระเอกของป่าชายเลน ขึ้นโชว์รากระโยงรยางค์อยู่ ทั่วไปเมื่อเดินไปทางขวาบนสะพานประมาณ 20 เมตร ก็จะได้เห็น ป่าพรุน้ำจืด ที่เป็นป่าหาดูได้ยากโดยป่าพรุ ท่าปอมมีลักษณะต่างจากป่าพรุทั่วไป คือเป็นป่าพรุบนดอนที่น้ำไม่ท่วมขัง เหมือนป่าพรุอื่นๆ
นอกจากนี้ที่ป่าท่าปอมยังมีแก่งหินที่สีเหลืองคล้ายมัสตาร์ดที่เป็นความมหัศจรรย์ธรรมชาติอย่างหนึ่ง โดยแก่ง หินเหลืองนี้เกิดจาก หินดินดานทำปฏิกิริยากับอากาศจนเกิดเป็นโขดหินสีเหลืองทั่วไปในลำน้ำ เรียกได้ว่าในผืนป่า ท่าปอมนี่มีธรรมชาติที่ชวนให้ อัศจรรย์ใจอยู่มากหลายซึ่งคิดว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผืนป่าท่าปอมคง ความมหัศจรรย์ มาถึง ทุกวันนี้ก็เพราะเรื่องราวตำนานอาถรรพ์ ของผืนป่าแห่งนี้