เราทำงานหนักๆ มาทั้งปี ก็ต้องมีซักช่วงนึงอยากพักบ้างไรบ้าง ถึงจะไม่ได้ไปช่วงไฮซีซั่นแต่ไม่เป็นไรขอแค่ใจรักทะเลก็พอ อิอิ ไปผ่อนคลาย พักสมอง จริงๆ เที่ยวช่วงนี้ก็ดีน๊า คนไม่เยอะไม่พลุกพล่านมีความส่วนตัวดี แต่ต้องลุ้นกับพายุฟ้าฝน ต้องพกดวงไปเยอะๆ หน่อยเน้อ

เชียงใหม่-ตรัง ไม่มีบินตรง เราต้องนั่งเครื่องสองต่อไปลงดอนเมืองแล้วต่อไปตรัง หรือมีอีกทางเลือกคือนั่งเครื่องไปลงหาดใหญ่หรือจังหวัดใกล้เคียงแล้วนั่งรถไปตรัง แต่เราเลือกแบบต่อเครื่อง


ออกจากเชียงใหม่ 8.40 น. ถึงเดือนเมือง 09.45 น. แล้วรออีกรอบ 13.00 น. ระหว่างที่รอก็หาไรกินเพลินๆ เขี่ยมือถือโซเชี่ยวไปพลางๆ แปปๆก็ได้เวลาไปต่อ

ถึงแล้วจังหวัดตรัง สวัสดีน้ำทะเล


คืนแรกเราจองที่พัก Pakmeng Guesthouse ห้อง ลอฟท์ซีวิว 950.-/คืน รถรับส่งสนามบิน +500 บาท อยู่หาดปากเมงใกล้กับท่าเรือที่เราจะข้ามไปเกาะมุกในวันพรุ่งนี้ (ที่พักดี สะอาด เจ้าของน่ารักมากๆ พี่เอฟเป็นกันเองสุดๆ เป็นคนไปรับไปส่ง ใจดีมากๆ อาสาพาไปส่งท่าเรือวันพรุ่งนี้ด้วย


เราถึงที่พักก็ประมาณสามโมงกว่า จะเดินเล่นหาไรกินก็ง่ายๆเดินไปตามถนนมีร้านอาหารและมินิมาร์ทตลอดทาง


ถ้าไม่เดินหาไรกินก็สะพายกล้องมาถ่ายรูปกันเลยสิรออะไร เบาๆ ไปก่อนวันแรก ><


เหยียบทุ่งหญ้าป่าเขาเชียงใหม่บ่อยๆ เปลี่ยนมาเหยียบเปลือกหอยมันดีไม่ใช่น้อยเลยนะ

อรุณสวัสดิ์เช้าวันใหม่ ด้วยท้องฟ้าสีคราๆ..... ครึ้มมม T.T


ถึงบอกว่าต้องวัดดวง ถ้าไม่หยุดก็ข้ามไปเกาะไม่ได้ ได้แต่ภาวนาหาที่พึ่งทางใจ และในที่สุดคนฟ้าฝนก็เป็นใจหยุดซักที

แอบถ่ายพี่เอฟเจ้าของที่พัก อาสาพาไปส่งท่าเรือแล้วยังจะอาสามารับวันที่กลับจากเกาะอีก โอยยย ใจดีสุด

จากที่พักมาท่าเรือควนตุ้งกูประมาณ 15 นาที เราจะใช้วิธีเหมา 600.-/ลำ ปกติถ้ารอรอบเรือประจำก็คนละ 30 บาท แต่เราจะไม่รอเพราะกลัวฝนตกอีก

ถึงฝนจะหยุดแต่ยังมีลมแรง ออกจากท่าเรือมาได้ซักพักเรือโยกโครงเครงน้ำสาดเข้าเรือน่ากลัวมากกอดชูชีพแน่นมาก นั่งเรือประมาณ 20 นาที เรารอดแล้วววว

พี่คนขับเรือบอกว่าคลื่นที่เราเจอสูงในระดับกลางๆ โอ้โหวว แค่นี้หน้าแม่ก็ลอยมาแล้วจ้าาาา ยิ้มหวานแล้วเจอกันอีกสองวันข้างหน้าาาา

welcome drink น้ำสับปะรดแก้วิงเวียนจากการเมาเรือได้ดีทีเดียว

และที่แห่งนี้คือ เกาะมุกสิวาลัยบีชรีสอร์ท จองกับ agoda ห้องละ 2,435.-/คืน มาช่วงนี้ก็จะลดราคาแรงมาก แต่ก็เสี่ยงกับฟ้าฝน ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง พี่อัสนี วสันต์ ร้องฮำวนไป


ได้เวลาพักผ่อน กิน นอน ถ่ายรูป ฮูเล่!!

บรรยากาศรอบๆ รีสอร์ท



ตัดภาพมาของเช้าวันใหม่


กิน นอน ถ่ายรูป ชาร์ตพลังเต็มแล้วก็ได้เวลาบู๊ เช่าจักรยานออกมาดูวิถีชีวิตของชาวเกาะมุกดีกว่า

ปั่นจากรีสอร์ทออกมา ไปเที่ยวที่โป๊ะขายปลาไปหาซื้อของทะเลาสดๆ ไว้มือเย็น


จำไม่ได้ว่ากี่บาท แต่ราคาน่ารัก ซื้อวัตถุดิบไปให้ครัวที่รีสอร์ททำเมนูละ 150

วัตถุดิบที่ซื้อมาก็เป็นเมนูตามนี้เลย

อิ่มหนำสำราญ พุงกาง คางย้อย

แป๊ปๆ ก็จะถึงวันกลับแล้ว ในส่วนของที่พักเกาะมุกสิวาลัยบีชรีสอร์ทเป็นรีสอร์ทที่ส่วนตัวมาก คนไม่พลุกพล่าน เงียบสงบ ธรรมชาติยังสวยงาม อาหารอร่อย ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีในการพักผ่อนหย่อนใจ


และเป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับมาถ่ายรูป มุมไหนก็สวย ถ่ายมุมไหนก็ได้ไม่ต้องหลบคน ชอบบบบ



สุดท้ายจริงๆ ต้องกลับแล้ว เรือมารอแล้ว

ออกจากรีสอร์ทประมาณ สิบโมงครึ่ง เผื่อเวลานั่งรถเล่นในตัวเมืองตรัง

ถึงท่าเรือควนตุ้งกู พี่เอฟคนดีคนเดิมก็มารอรับไปเที่ยวในเมือง อิอิ

ก่อนกลับยังพาช้อปของฝาก ของดีประจำจังหวัด

ของกินทั้งน้านนนน ขนมเค้กเมืองตรัง

ขนมเปี๊ยซอย9 เค้าว่ากันว่าของฝากที่ขายดีที่สุดในเมืองตรัง

หมูย่างทั้งตัวหนังกรอบๆ อิ่มซ้ำอิ่มซ้อน ตัวจะแตกแล้ว


บ๊ายบายเมืองตรังที่สวยงาม ถือว่าเป็นทริปที่ประทับใจอีกทริปนึงค่ะ ได้พบเจอคนที่ดีๆ มีน้ำใจมากมายในการเที่ยวครั้งนี้ ขอบพระคุณพี่เอฟเจ้าของปากเมง เกสต์เฮ้าส์ ที่ดูแลพวกเราเป็นอย่างดีทั้งขาไปและขากลับ ถ้าพี่มีโอกาสได้มาเที่ยวเชียงใหม่อย่าลืมเรียกพวกมาชดใช้พี่นะคะ ฮ่าๆ) ขอบพระคุณเพื่อนๆ ที่อ่านจนจบหวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อย บกพร่องหรือผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยจ้า


Suweera Srikritsanapol

 วันพุธที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.25 น.

ความคิดเห็น