"วังเวียง" เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของ "ดินสอขอเขียน" ว่าสักวันจะต้องไปเยือนที่นี่ให้ได้ เพราะความที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ และความเป็นอยู่อย่างเรียบง่ายของชาววังเวียง ซึ่งล้วนเป็นเสน่ห์ดึงดูนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อมาสัมผัสกับความเป็นธรรมชาติของเมืองแห่งนี้

การเดินทางไปเมืองวังเวียง ประเทศลาว สามารถไปได้หลายเส้นทาง ซึ่งครั้งนี้ "ดินสอขอเขียน" เลือกเดินทางจากจังหวัดอุดรธานี โดยซื้อตั๋วรถของบริษัท บขส. ราคา 320 บาท รถออกจากอุดรธานีประมาณ 08.30 น. โดยจะต้องเขียนใบผ่านแดนที่ จ.หนองคาย ณ จุดนี้สามารถแลกเงินลาวได้เลย เพราะได้เรทดีกว่าในประเทศลาว จากนั้นรถจะจอดพักกินข้าวประมาณ 1 ชั่วโมง และเดินทางไปถึงวังเวียงประมาณ 4 โมงเย็น

"วังเวียง" เป็นเมืองเล็กๆ สามารถเดินไปไหนมาไหนได้อย่างสบาย แต่หากจะไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ควรเช่ามอเตอร์ไซค์ หากขี่ไม่เป็นก็มีรถแท็กซี่ให้บริการ

เราเดินทางมาถึงก็เย็นแล้ว วันนี้จึงทำได้แค่เก็บบรรยากาศยามเย็นของ "แม่น้ำซอง" ที่เต็มไปด้วยความเงียบสงบและสวยงาม โดยสามารถเลือกนั่งกินอาหาร จิบเครื่องดื่มดีๆ แบบชิลล์ๆ ริมแม่น้ำซอง ฟินสุดๆ ไปล่ะตัวเธอว์


วันรุ่งขึ้นเราวางแผนว่าจะไปชมวิวบน "ผาเงิน" ซึ่งนับเป็นจุดชมวิวที่สวยงามของเมืองวังเวียง โดยจะต้องปีนเขาขึ้นไปเป็นระยะทาง 650 เมตร ซึ่งเส้นทางเต็มไปด้วยความยากลำบาก ใครที่มีรองเท้าวิ่งเทรล์ หรือรองเท้าเดินป่า ควรนำมาด้วย เพราะทางโหดมากๆ ที่สำคัญคือ เป็นป่าที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้สุดๆ ถูกใจคนรักธรรมชาติเป็นแน่


ด้วยความที่ร้างลาการเดินป่าไปนานมาก ซึ่งก่อนไปเที่ยว เราก็ออกกำลังกายตลอดนะ แต่ขอบอกตรงนี้เลยว่าถอดใจและท้อใจหลายครั้งมากๆ แต่สุดท้าย เราก็ชนะตัวเอง ขึ้นไปถึงจุดชมวิวผาเงินจนได้ เมื่อได้เห็นความสวยงามอยู่ตรงหน้า ก็ทำให้คลายความเหนื่อยลงไปได้เยอะเลยแหละ


โปรแกรมต่อไป เราซื้อ one day trip ไว้แต่เลือกแบบครึ่งวัน คือ พายคายัคและเล่น zipline โดยจะต้องพายคายัคเป็นระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ก็หนุกหนานกันไป ซึ่งขอบอกเลยว่าวิวสองข้างทางของแม่น้ำซองสวยมากๆ


และก็มาถึงไฮไลท์ของทริปนี้นั่นก็คือ การเล่น Zipline ซึ่งมีทั้งหมด 7 เส้น ยอมรับเลยว่านี่เป็นการไปเที่ยวที่ adventure และตื่นเต้นสุดๆ ตั้งแต่ไปเที่ยวมา แต่พอเราปล่อยตัวไปตามสายสลิง มันก็สนุก ตื่นเต้น และมันส์สุดๆ ไปเลยแหละ


หากต้องการสัมผัสเมืองวังเวียงแบบเต็มๆ ต้องเลือกการท่องเที่ยวแบบ one day trip เพราะจะได้ล่องห่วงยาง และกระโดดน้ำที่บลูลากูนด้วย

จุดหมายสุดท้ายของวังเวียงของเราคือ "สะพานส้ม" สะพานที่ข้ามไปยัง "ถ้ำจัง" ซึ่งเราไปไม่ทัน เพราะเย็นมากแล้ว จึงได้มาเพียงความสวยงามของสะพานส้ม

ทุกการเดินทางล้วนมีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมายทั้งดีร้าย และครั้งนี้ก็เช่นกัน ซึ่งมันจะเป็นอีกประสบการณ์ท่องเที่ยวอีกหนึ่งเรื่องในความทรงจำของเรา...ตลอดไป

"รักนะ...วังเวียง"

ดินสอขอเขียน

 วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 20.46 น.

ความคิดเห็น