เป็นการรีวิวหนแรก ถ้าผิดพลาดอะไรขออภัยไว้ ณ ที่นี่

โดยทริปนี้ เริ่มต้นที่หาดใหญ่ ตอนแรกคิดอยู่จะไปไหนดี จากหาดใหญ่ มีหลายทางเลือกให้ไปเที่ยวได้โดยรถไฟ คิดไว้ 2 ทางเลือก

1 ไปปีนังนั่งรถไฟไปบัตเตอร์เวริ์ธ

2. ไปสุไหงโกลก นั่งรถไฟไปให้สุดทาง

คิดไปคิดมา สรุปได้ เที่ยวไทยดีกว่า งั้นไปสุไหงโกลก

ทริปนี้เริ่มแต่เช้า 6.40 ที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ ซึ่งเราจะขึ้นรถไฟขบวน 171 จากกรุงเทพ-สุไหงโกลก

เข้าคิวซื้อตั๋วที่สถานีรถไฟหาดใหญ่

บอกจะไปลงสถานีวันช้างไห้ คนขายตั๋วบอก ไม่มีตั๋วนั่งแล้วนะ มีแต่ตั๋วยืน จะไปไหม คิดในใจ ยืนแค่ชั่วโมงนิด ๆ ยืนก้อได้ ตั๋วรถไฟจากหาดใหญ่ - วัดช้างให้ขบวน 171 ราคา 50 บาท ตั๋วยืน พอได้ตั๋ว ก้อเข้าไปในสถานี ถ่ายรูปซะหน่อย

เดินมาขึ้นรถขบวน 171 ซึ่ง ดูซิคนจะแน่นแค่ไหน ที่บอกที่นั่งเต็ม

ขึ้นมาก้อหาที่ยืนกันเลย ซึ่งแน่นจิง ๆ ระหว่างที่รถไฟเริ่มออกจากสถานี ก้อมีการตรวจตั๋ว แล้วตามที่ พี่ ๆ ทหาร เดินตรวจในตู้ขบวน ขอตรวจบัตรประชาชน

พี่ทหารตรวจบัตรประชาชน ดูแลความเรียบร้อย

พอเขาตรวจบัตรเราเสร็จ ยืนพักตรงที่เรายืนอยู่ ก้อคุยกัน พี่ทหารก้อถาม จะไปไหนหรอ บอกจะไปเที่ยววัดช้างไห้ แล้วไปต่อสุไหงโกลก เขาบอก ทำไมไม่ขึ้นขบวน 175 ก่อนหน้านี้ล่ะ ที่ออกจากหาดใหญ่เหมือนกัน มิน่า ตอนที่ซื้อตั๋วอยู่ มีหลายคนรีบวิ่งไปขึ้นรถไฟ ที่แท้มีขบวน 175 ไปสุไหงโกลกเหมือนกัน จอดอยู่ก่อนหน้านี้

คุยกับแป๊ปนึง พี่ทหารก้อเดินไปทำหน้าที่เขาต่อ เช็คทุกคนทุกตู้

แล้วเราก้อมาถึง สถานีวัดช้างไห้ ตามกำหนดการ ต้องถึง 8.26 ดีเลย์หน่อยไม่ว่ากัน มาถึง 8.45

สถานีรถไฟวัดช้างไห้

สถานีรถไฟห่างจากวัดประมาณ 100 เมตร เท่านั้นมีเวลาเที่ยวชิลล์ ๆ 40 นาที เดินไปวัดกันเลย




แวะว่ายพระที่วัดช้างไห้

วัดนี้ขึ้นชื่อ พระเครื่อง พอบอกเพื่อน เพื่อนบอกฝากเช่าพระให้ด้วย

เลยได้พระเครื่องติดไม้ติดมือกลับมา

เช่าพระเครื่องที่วัดช้างไห้

เดินชมวัดเรียบร้อย เรามีกำหนดเวลาขึ้นรถไฟขบวนถัดไปเพื่อไปสุไหงโกลกเวลา 9.36

9.20 ก้อเดินออกจากวัน กลับไปสถานีวัดช้างไห้ ซื้อตั๋ว ทุกสถานี 3 จังหวัดชายแดน มีทหารตรวจทุกสถานี

ขบวนต่อไป เราจะไปต่อรถไฟ จากวัดช้างไห้ ไปสถานีรถไฟสุไหงโกลก เที่ยวนี้ถามนายสถานี ว่ามีที่นั่้งไหม

ไม่อยากยืนเหมือนเที่ยวมา เขาบอกเป็นรถท้องถิ่น ว่างตรงไหนน่ังไปเลย แล้วก้อเลยจองตั๋๊วขากลับด้วยเลย คราวนี้จองตั๋วรถด่วน 172 ชั้น 2 พัดลมขายกลับ (กลัวเดี่ยวตั๋วเต็มอีก จะซวยต้องยืน 4 ชมตลอดทาง)

รถไฟขบวนท้องถิ่นมาเกือบตรงเวลา ค่าตั๋ว 26 บาท จากวัดช้างไห้ - สุไหงโกลก

รถไฟกำลังเข้าสถานี

บรรยากาศรถไฟ

ขบวนนี้ก้อมีเจ้าหน้าที่ทหารตรวจเหมือนกัน คนเยอะ แต่บางสถานทีคนลงกันเยอะ จนรถโล่งก้อเลยได้นั่ง

แล้วเราสุไหงโกลกตอน 12.25 ตอนแรกว่าจะถ่ายรูปที่สถานที เลย แต่แบกกระเป๋ามาด้วย เลยเดินไปโรงแรมเลยดีกว่า ร้อนมาก ๆ ด้วยเราเลือกที่พักโรงแรมเกนติ้ง สุไหงโกลก ตอนแรกโทรไปจองห้องก่อน เขาบอกไม่ต้องจอง ตอนนี้ห้องว่างเยอะ ช่วงถือศีลอด โรงแรมห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 500 เมตร

ค่าห้องพัก 690 บาท

ห้องพักโรงแรมเกนติ้ง

คิดว่าจะเดินข้ามด่านไปดิวตี้ฟรีที่มาเลย์ซะหน่อย แต่อากาศร้อนมาก เลยอยู่ในห้องดีกว่า ระหว่างอยู่ในห้องมีแม่บ้านมาเติมของในตู้เย็น เลยถามแม่บ้านเรื่องรหัส wifi

I : มีรหัสไวไฟไหม พอดีผมลืมขอที่ฟร้อนมา

แม่บ้าน : ทีนี่ไม่ต้องใช้รหัสไวไฟ เข้าได้เลย

เราก้อลองเข้า ไม่ต้องใช้รหัสจิง ๆ

แม่บ้าน : เขาได้นะคะ ที่นี่ไม่ต้องใช้รหัสไวไฟ แต่ถ้าอยากเข้ารหัสมีหมอนวดนะคะ

เราก้อไม่ทันฟัง

แม่บ้าน : ที่นี่ไม่ต้องใช้รหัสไวไฟ อยากเข้ารหัสมีหมอนวดนะคะ (รอบ 2)

I : ไม่เป็นไร ขอบคุณคับ

แล้วเราก้อนอนพักในห้องไปถึง 15.00น. ออกจากโรงแรมเดินไปเที่ยวในสุไหงโกลก

ที่แรกที่ไป ศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ มาถึงที่เขาก้อควรไปไหว้สิงศักดิ์สิทธิ์กันก่อนเดินจากโรงแรมไม่ไกลประมาณ 5-600 เมตร

ศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ

เมื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ เสร็จ ก้อเดินมาสถานีรถไฟสุไหงโกลก ตอนมาถึงไม่ได้ถ่ายรูป เลยมาถ่ายซะหน่อย ตอนมาถึง สถานี โล่มาก ไม่มีคนแล้ว เพราะไม่มีรถไฟเข้าหรือออกแล้ว

ในสถานี มีห้องสมุดรถไฟ สถานีสวยมาก

บรรยากาศสถานีรถไฟยามเย็น

ด้านหลังสถานีรถไฟสุไหงโกลก มีห้องสมุดรถไฟ

เดินถ่ายรูปเสร็จ 5โมงกว่าแหละ เดินไปหาอะไรกินที่ตลาดดีกว่า ด้านข้างโรงแรม มีเหมือนตลาดนคนเดิน เลยหาซื้ออะไรกินซะหน่อย ได้ของกินมานิดหน่อย ให้ลองชิมอาหารมุสลิม

ไก่กอแระ

มะตะบะใส้เนื้อ

ปลาหมึกยัดไส้ข้าว ก้ออร่อยไปอีกแบบ

เสร็จไป 1 วัน วันรุ่งขึ้น

กินอาหารที่โรงแรม ถามเจ้าหน้าที่โรงแรม สุไหงโกลกมีของฝากบ้างไหม จะซื้อกลับกรุงเทพ เขาบอก ไม่มีเลย ถ้าจะซื้อของฝาก ไปซื้อที่หาดใหญ่ดีกว่า คนที่สุไหงโกลก ก้อไปซื้อหาดใหญ่กัน

กินข้าวเสร็จ 9 โมง วันนี้กำหนดการรถไฟที่จะกลับไปหาดใหญ่ ที่จองตั๋วไว้ ขบวน 172 จะออกจากสุไหงโกลก 11.30 น.

เช็คเอ้าออกจากโรงแรม 10.45 เดินชิว ๆ ไปสถานี ไม่มีรีบร้อน ไปถึงสถานีสุไหงโกลก คนเพียบเลย เราไปก่อนเวลา แล้วก้อได้ยินประกาศ ขบวนรถ 171 จะล่าช้าไปประมาณ 20 นาที คิดในใจ 20 นาทีก้อแป๊ปเดียว (กำหนดการณ์ ขบวน 171 ต้องมาถึงสุไหงโกลก 10.45 น. แต่ตอนนี้11.15 แล้ว ไม่เห็นมาเลย แล้ว 172 จะอย่างไงนี่) และแล้ว ขบวน 171 ก้อมาถึง เวลา 12.25 ดีเลย์จากกำหนดการ 1.40 นาที โอแม่เจ้า แล้ว 172 ที่จะกลับจะออกกี่โมงนี่

ขบวน 171 มาถึง

รถไฟขบวน 171 มาถึง เจ้าหน้าที่ยังไม่ให้ขึ้นรถนะคับ เจ้าหน้าที่ทำความสะอาด เร่งมือทำความสะอาด เก็บขยะ เปลี่ยนน้ำ ถูกรถ อย่างเร่งด่วน เพื่อให้ขบวน 172 ออกได้เร็วที่สุด ในเวลาประมาณ ครึ่งชม ให้ขึ้นรถได้ และรถขบวน 172 ก้อได้ออกเวลา 13.00 น. ดีเลย์ตั้งแต่สถานีแรก 1.30 ชม แล้ว รถไฟไทย

ขากลับนั่งสบาย ๆ รถชั้น 2 พัดลม

รถไฟชั้น 2 ตู้พัดลม

ขากลับ เราก้อเจอพี่ทหารคนเดิมที่คุยกันตอนขามา ชบวน 171 พี่แกทัก หน้าคุ้น ๆ นะ แก้ไม่ตรวจอะไรผม คนรู้จักกัน 5555

นั่งยาว ๆ ไปจนถึงหาดใหญ่ แต่เรื่องดีเลย์ของรถไฟไทยก้อทำใจ จากที่ต้องถึงหาดใหญ่ 15.40 กลายเป็นเวลา 17.15 น. ได้เดินตลาดกิมหยง 30 นาที เพราะ ต้องมีมาต่อรถไฟกลับกรุงเทพต่อ (ถ้าจากสุไหงโกลกถึงกรุงเทพ ได้นั่งรถไฟเกือบ 22 ชม)

ขอจบแค่ตรงสถานีหาดใหญ่นะคับ ขอบคุณคับที่เข้ามาดู

Warapat Soongsombat

 วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 11.05 น.

ความคิดเห็น