ห่างหายไปนานกลับมากับ One day trip ที่บางปะอิน

---------------

ทริปนี้เกิดขึ้นเพราะอยากไปวัดนิเวศน์ธรรมประวัติ และเลือกเดินทางด้วยรถไฟ ขบวน 201 ออกเดินทางจากหัวลำโพง 9:25 ค่าโดยสาร 12 บาท



พอถึงสถานีรถไฟบางปะอินก็ต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปกระเช้าข้ามไปวัดนิเวศน์ธรรมประวัติค่ารถ 20 บาท กระเช้าข้ามน้ำจะมี 2 ตัวสลับกันไปมา กระเช้าของทางวัดจะมีกล่องรับบริจาคเพื่อช่วยค่าไฟ



ข้ามมาถึงฝั่งวัดก็เริ่มเดินสำรวจวัดไปเรื่อย ๆ วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ในสังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศล เมื่อเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน ใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมกอทิกเลียนแบบโบสถ์คริสต์




พระอุโบสถของวัดนั้นสร้างเลียนแบบโบสถ์คริสต์ โดยภายในประดิษฐาน "พระพุทธนฤมลธรรโมภาส" เป็นพระประธาน โดยพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการทรงออกแบบ โดยลักษณะที่ผสมผสานศิลปะแบบประเพณีนิยม และศิลปะแบบตะวันตกเข้าด้วยกัน ซึ่งมีพุทธลักษณะคล้ายสามัญชน นอกจากนี้ บริเวณฐานชุกชีก็มีลักษณะเหมือนที่ตั้งไม้กางเขนแบบโบสถ์ และฝาผนังโบสถ์ด้านหน้าของพระประธานนั้น เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 5 ที่ประดับด้วยกระจกสี




ด้านในพระอุโบสถงดงามมากๆ เราใช้เวลาที่นี่ชั่วโมงกว่าๆ แดดส่องกระจกสีงดงามจนคนจีนที่เข้ามาชมถ่ายแต่กระจกสีอย่างเดียว




รูปสุดท้ายได้คนใจได้ถ่ายให้ ต้องขอบคุณมาก ถ่ายสวยกว่าเราเยอะเลย


ออกจากพระอุโบสถมาที่ซุ้มประตู มุมนี้ก็ถ่ายรูปได้ดี



ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นต้นที่รัชกาลที่ 5 ทรงปลูก



จุดอื่นๆ ของวัดก็มีให้เลือกเดินชมตามความชอบ










รูปสุดท้ายที่ด้านหลังพระอุโบสถก่อนนั่งกระเช้าข้ามน้ำกลับไปฝั่งพระราชวังบางปะอิน



เดินมาที่ทางเข้าพระราชวังบางปะอิน ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30 บาท การแต่งกายต้องสุภาพ เราเลยต้องต่อขากางเกงก่อนเข้าชม ได้รับ brochure ที่มีรายละเอียดพร้องแผนที่



ก่อนเดินสำรวจ มาทำความรู้จักกับพระราชวังบางปะอินกันก่อน

พระราชวังบางปะอิน ตั้งอยู่ในตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระราชวังโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เนื่องจากเป็นที่ประสูติของพระองค์ และเป็นเคหสถานเดิมของพระมารดาซึ่งเป็นหญิงชาวบ้านที่สมเด็จพระเอกาทศรถทรงพบเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินโดยเรือพระที่นั่งแล้วเรือเกิดล่มตรงเกาะบางปะอิน พระเจ้าปราสาททองทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดขึ้นบนเกาะบางปะอินบริเวณเคหสถานเดิมของพระมารดาในปี พ.ศ.2175 พระราชทานชื่อว่า “วัดชุมพลนิกายาราม” และให้ขุดสระน้ำสร้างพระราชนิเวศน์ขึ้นกลางเกาะเป็นที่สำหรับเสด็จประพาส แล้วสร้างพระที่นั่งองค์หนึ่งที่ริมสระน้ำนั้นพระราชทานนามว่า พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ใช้เป็นสถานที่ที่ทรงใช้ประทับแรม ของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ด้วยเป็นพระราชวังใกล้พระนคร

พระราชวังบางปะอินได้รับการบูรณะฟื้นฟูอีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างพระที่นั่งองค์หนึ่งสำหรับเป็นที่ประทับ มีเรือนแถวสำหรับฝ่ายในและมีพลับพลาริมน้ำ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างพระที่นั่งและสิ่งก่อสร้างต่างๆขึ้น ดังที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน

ปัจจุบัน พระราชวังบางปะอินอยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง และยังใช้เป็นสถานที่แปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย แต่ได้เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมได้ โดยต้องแต่งกายให้สุภาพ

เขตพระราชฐานชั้นนอก

- หอเหมมณเฑียรเทวราช



- พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพย์อาสน์



- กระโจมเนตร



- พระที่นั่งวโรภาษพิมาน



พระราชฐานชั้นใน

- ประตูเทวราชครรไล



- หอวิฑูรทัศนา



- พระที่นั่งเวหาศจำรูญ



- เก๋งบุปผาประพาส



- พระตำหนักฝ่ายใน






- ประตูสาครประพาส



เก็บตกเล็กๆ น้อยๆ ก่อนถึงเวลาพระราชวังปิด






ขากลับมาแวะถ่ายรูปพลับพลาที่ประทับบริเวณสถานีรถไฟบางปะอิน ด้านในมืดมากพยายามส่องแล้วไม่เห็น เดี๋ยวค่อยหาเวลาไปส่องใหม่



ขากลับได้รถเร็วขบวน 112 ออกจากสถานีบางปะอิน 16:16 น. ค่าโดยสาร 20 บาท ระหว่างทางแดดยังดีอยู่และวิวข้างทางก็ดีด้วย



พอใกล้ถึงดอนเมืองฟ้าก็สวยพอดี




ติดตามทริปเดินทางอื่นๆได้ที่:

เพจ: ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว

IG : prapat



ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว

 วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 02.43 น.

ความคิดเห็น