💦 ทริปมัลดีฟส์ ทริปที่ใครหลาย ๆ คนใฝ่ฝัน และเราก็ไม่คิดว่าเราจะได้ไปเหมือนกัน แต่เมื่อความอยากบังเกิด ก็เริ่มจัดทริปกันเล้ย....



สิ่งที่ทำให้เราจัดทริปนี้ได้ง่ายกว่าเดิมคือ สายการบินนกแดงจัดโปรถูกจ้า เราก็รีบกดกันเลย ได้ตั๋วไป - กลับ (ดอนเมือง - มาเล่) ราคาประมาณ 7,000 ++ จะบอกว่าใครที่กำลังสับสนว่ามัลดีฟส์อยู่ประเทศอะไร ขอบอกว่า มันคือประเทศมัลดีฟส์ เด้อ อย่าเข้าใจผิดว่า เป็นประเทศมาเลเซีย หรือศรีลังกาใด ๆ เพราะก่อนหน้านี้เราเข้าใจแบบนั้น 55555

อ่ะได้ตั๋วกันแล้ว ที่นี่สิ่งที่เลือกค่อนข้างยากก็จะเป็นที่พักนี่แหละ เพราะความสวยงามก็อยู่ที่ที่พักที่เราเลือกที่จะไปด้วย ตอนที่เราหาที่พักก็หนักใจอยู่เหมือนกัน เพราะแต่ละที่พักความสวยงาม ก็ต่างกัน แถมบางที่ต้องนั่ง Seaplane บางที่ก็สามารถนั่ง Speed Boat ได้ แต่ครั้งนี้เราก็ต้องการเที่ยวแบบไม่แพงมาก เลยเลือกที่พักแบบสามารถนั่ง Speed Boat ไปได้ เพราะถ้านั่ง Seaplane ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มอีกเกือบ ๆ 2 หมื่นบาทต่อคน



อ่ะเมื่อผลสรุปเรื่องที่พักเริ่มโอเคขึ้น เราก็ทำการจองผ่าน app จองที่พักสีน้ำเงิน ราคาโหดเอาเรื่องอยู่ ทำการจองไป 2 คืน เกือบ ๆ 5 หมื่น(ราคานี้ยังไม่รวมค่า Speed Boat และภาษีต่าง ๆ ) แต่ ๆๆๆๆ

เราไปเดินงานท่องไทย เที่ยวโลก (จำชื่องานไม่ได้) ไปเจอ agency เจ้านึง ขาย package เกี่ยวกับที่พักประเทศมัลดีฟส์ แบบ All Inclusive (ค่าที่พักรวมอาหาร เครื่องดื่มและค่าเรือ Speed Boat ไป - กลับสนามบิน) ได้ในราคา 22,500 บาท/คน ทำให้เราตัดสินใจเลือกซื้อ Package จากที่นี่ เพราะถูกกว่าจองเอง ที่ต้องมาเสียยิบย่อยอีก



และเราก็ได้ที่พักแบบห้องกลางน้ำ Jacuzzi water villa ที่ Meeru Island Resort & Spa 3 วัน 2 คืน 🐳 (รอดูรูปที่พักกันน้า)



เราแพลนทริปแค่ 3 วัน 2 คืน เพราะมัลดีฟส์มาเที่ยวเสมือนเป็นการติดเกาะ ก็เลยคิดว่ามา 3 วันก็น่าจะพอแล้ว



ช่วงวันเดินทาง 5 - 7 ก.ค 61 ที่ผ่านมา



และวันเดินทางของเราก็มาถึง 💦



ก่อนไป เพื่อน ๆ อย่าลืมแลกเงินไปบ้างน้า ใช้เงิน US Dollar ค่ะ เผื่อไว้ให้ทิปพนักงาน หรือซื้อของบนเกาะ

เราเดินทางกับสายการบินนกแดง มีไฟล์ทเดียวค่ะ คือ เวลา 9:30 น. ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง จะถึงที่สนามบินมาเล่ประมาณ 12:30 น. เวลาที่โน่นจะช้ากว่าไทย 2 ชั่วโมง 🛩



ระหว่างเดินทางก็เขียนใบผ่าน ตม. รอเลยจ้า

ความตื่นเต้นเริ่มขึ้น เมื่อมองเห็นวิวจากบนเครื่อง



ถึงแล้วค่า..... สนามบินมาเล่ น้ำใสมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก 💦



หลังจากผ่าน ตม. เรียบร้อยแล้ว

ก็หา Counter ที่พักเราก่อนเลย เพื่อไป Register สำหรับขึ้น speed boat ต่อไปยังที่พักกันค่ะ ถ้าใครมา Meeru Island resort เดินตรงมาที่ Counter 59 ได้เลย


นั่งรอสักพัก จะมีเจ้าหน้าที่ของโรงแรมมาตามให้ไปขึ้นเรือค่ะ



นั่งเรือไปที่พักกัน ใช้เวลาประมาณ 50 นาที จากสนามบิน ถึงที่พักนะคะ



เย้ ๆ ถึงแล้วที่พักสำหรับทริปนี้

มาถึงแล้วก็รอ Check - in เข้าห้องพักกันก่อนค่ะ



Welcome drink ด้วย Sunrise drink หรือน้ำส้มนั่นเอง




ได้ Key card เรียบร้อย นั่งรถกอล์ฟเข้าที่พักกัน ห้องของเราพักกลางน้ำทำให้ไกลนิดนึง แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ ที่นี่มีรถกอล์ฟบริการตลอด สามารถเรียกใช้บริการได้ฟรีค่า



เวลาผ่านไปประมาณ 5 นาที รถกอล์ฟก็มาส่งถึงหน้าโซนห้องพักเลยจ้า เราได้พักโซน ห้อง 700 ซึ่งเหมาะกับกลุ่มที่ไม่มีเด็กมาด้วย เพราะจะไม่มีส่วนที่กั้นใด ๆ เลย เรียกได้ว่าฟินมากกก มาดูกันเล้ยยยย.....

เดิน ๆๆๆๆ ห้องพักเราอยู่เกือบสุดทางเลยจ้า เพราะเรา Request กับทาง Staff ไปว่าขอห้องที่อ่าง Jacuzzi เปิดออกมาแล้วเจอหาดเลย แล้วก็ได้ดั่งใจพอดี บอกได้คำเดียวว่า สวดยอดแห่งความสวยเลยค่ะ



ห้องพักสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหัวแปลงปลั๊ก Universal , ไดร์เป่าผม, ลำโพงบลูธูท รวมถึงเครื่องดื่มแบบจัดเต็ม ถ้าใครจองแบบ All Inclusive มาสามารถทานได้แทบทุกอย่างเลยค่ะ จะมีใบรายการบอกไว้อยู่ให้สังเกต AIP สีแดง รายการนั้น ๆ คือสิ่งที่ทานได้ค่ะ ถ้านอกเหนือจากนี้จะต้องจ่ายเพิ่มจ้า



หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บของเรียบร้อย เราก็ออกมาเดินเล่นริมหาด รอเวลาไปชมพระอาทิตย์ตกกันเย็นนี้ 🌥🌥



แต่ตอนนี้ขอตัวไป เดินเล่น ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศก่อนน้า.... เดี๋ยวเอาภาพปลาโลมาท่ามกลางแสงยามพระอาทิตย์ตกมาฝาก 🐳🐳



........

มาต่อกันที่กิจกรรมดูพระอาทิตย์ตก พร้อมกับดูฝูงปลาโลมา ซึ่งเป็นกิจกรรมของทางรีสอร์ท เราสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วัน Check-in เลยค่ะ

staff จะพาเรานั่งเรือออกมาประมาณ 5 โมงเย็น (ถ้าฝนตกกิจกรรมนี้จะงดนะคะ)



ฝูงปลาโลมาออกมากระโดดให้เห็นแบบใกล้มากค่ะ และมาเยอะด้วย 🐳🐳


เวลา 1 ชั่วโมงผ่านไป กลับที่พักมา Dinner กันต่อ



อาหารทุกมื้อจะเน้นเป็นตักทานแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติ สำหรับใครที่กังวลเรื่องอาหาร ว่ากลิ่นเครื่องเทศแรง จะบอกว่าไม่เลยค่ะ เพราะว่าอาหารเค้ามีหลากหลาย ทานได้สบาย ๆ เพราะมีเมนูไข่ ข้าว พาสต้าต่าง ๆ ให้เลือกทาน



หลังจากอิ่มเอมกับมื้อเย็นกันแล้ว เราก็เดินต่อมานั่งฟังดนตรีสดชิล ๆ ริมหาด บอกตรงว่าโคตรฟิน เสียงคลื่นซัดเบา ๆ กับดนตรีคลอแบบคลู ๆ นี่ใช่เลย



นั่งชิลประมาณ 2 ชั่วโมง เรากับแฟนก็กลับมานั่งเล่นกันที่ห้องต่อ จะบอกว่าตอนกลางคืนปลาเยอะมาก ทั้ง Baby shark ปลากระเบน ปลาเล็ก ปลาน้อยเต็มไปหมดเลย



และทริปวันแรกของเราก็จบลง เตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้เช้า ด้วยกิจกรรม Snorkeling ตอน 10 โมงเช้าค่า..



ทริปวันที่ 2 ของเราเริ่มด้วยอาหารเช้า อย่างซีเรียล โยเกิร์ต ไข่คน ขนมปังทาแยมและอีกมากมาย เติมพลังก่อนไปดำน้ำตื่นกันค่ะ



มื้อเช้าอิ่มแล้ว ยังมีเวลาเหลือ ออกไปเดินเล่นริมหาดกันค่ะ แต่แอบนอยนิดนึง เพราะมีฝนตกปรอย ๆ ทำให้ฟ้าไม่เปิด



และก็ได้เวลา 10 โมง เตรียมตัวไป snorkeling กันค่ะ



ปล. ภาพใต้น้ำ รอติดตามได้ที่วิดีโอ EP.2 นะคะ 🎬



ดำน้ำกันจนตัวดำแล้ว ก็กลับมาเล่นน้ำต่อกันที่หาดแถวบ้านกันค่ะ 🌴💦

น้ำใสมาก ในระหว่างที่เล่นน้ำ ก็มีปลาเล็ก ปลาน้อยแหวกว่ายตลอด เป็นธรรมชาติที่สวยจริง ๆค่ะ



เล่นน้ำเสร็จแล้วไปอาบน้ำ เดินเล่นรอบหาดต่อกันดีกว่า



ปล. ถ้าเราจองแบบ All Inclusive จะสามารถสั่งอาหารได้ทั่วทั้งเกาะเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Snack หรือเครื่องดื่มต่าง ๆ 😋



และเราก็นั่งเพลิดเพลินกับวิวซะนาน จนถึงเวลามื้อเย็นอีกแล้ว

ด้วยความที่เรายังอยากนั่งชิลต่อ เลยมานั่งกันที่บาร์ แล้วสั่ง Snack มานั่งทานเพลิน ๆ ค่ะ



นั่งเล่นบาร์จนดึกดื่น กลับมาถึงห้องพัก พร้อมกับเจอ Champagne ทางที่พักจัดไว้ให้สำหรับคืนสุดท้ายค่ะ



และแล้วก็มาถึงวันสุดท้าย ที่ต้องเตรียมตัวกันแต่เช้า เพราะว่าไฟล์ทบินกลับ เราคือ 12:50 เราจะต้องรีบออกจากที่พักตอน 9 โมงค่ะ



เพราะต้องเผื่อเวลานั่งเรือไปสนามบินด้วย ด้วยความที่เราอยากดื่มด่ำบรรยากาศก็เลยรีบตื่นแต่เช้า มาเดินถ่ายรูปเล่นกันก่อน

กลับบ้านกันเถอะ...

ภาพของทริปนี้ได้จาก กล้อง Fujifilm X-A2, iPhone x, iPhone 7+



ฝากติดตาม 🎬 ด้วยค่า





ค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้
ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป - กลับ 7,000 ++ /คน
ค่าที่พัก 2 คืน แบบ All Inclusive 22,500 บาท /คน
(All Inclusive รวมค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่ากิจกรรมต่าง ๆ และค่าSpeed boat รับ ส่ง สนามบิน)
ปล. กิจกรรม Snorkeling หากใครไม่มีหน้ากากดำน้ำ จะต้องเช่าเพิ่ม 12 US Dollar

ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จะเป็นทิปพนักงาน ขึ้นอยู่กับเราจะให้ค่ะ


มีโอกาสอย่าลืมไปสัมผัสความสวยงามของมัลดีฟส์ด้วยตัวเองนะคะ

เที่ยวยับ-ฉบับเรา

 วันพฤหัสที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 16.50 น.

ความคิดเห็น