หนองคาย...เป็นจังหวัดชายแดนของไทยทางฝั่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือติดกับประเทศลาว ถ้าพูดถึงจังหวัดนี้เราจะนึกถึงคือความเงียบสงบ ธรรมชาติ และ ประเพณีความเชื่อของชาวบ้านริมฝั่งโขง จังหวัดนี้เป็นจังหวัดที่เรากลับมาเป็นรอบที่ 3 แล้วคิดว่ารอบที่ 4 จะต้องตามมาอีกแน่นอน เพราะหลงรักในความสงบ และอัธยาศัยของชาวบ้านริมโขงจังหวัดนี้


ประเพณีและความเชื่อของจังหวัดนี้จะถูกถ่ายทอดออกมาในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ใน จังหวัด ถ้าใครนึกไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหน แล้วมีเวลา แค่ 2วัน 1 คืน จังหวัดนี้ก็เป็นอีกจังหวัดที่ไม่น่าพลาดเลยน้า แลนด์มาร์คแต่ละที่ก็ไม่ควรพลาดจริงๆแหละ มีครบทุกบรรยากาศเลย ^^


🛵 ถ้ำดินเพียง วัดถ้ำศรีมงคล



วัดถ้ำศรีมงคล หรือวัดถ้ำดินเพียง ตั้งอยู่ที่ ต.ผาตั้ง อ.สังคม มีความมาตั้งแต่โบราณว่าถ้ำนี้สามารถเดินทะลุไป-มาระหว่างหนองคายกับเวียงจันทน์ได้







ลักษณะภายในเป็นถ้ำดินคล้ายเมืองบาดาลของพญานาคตามความเชื่อของชาวบ้าน ภายในถ้ำค่อนข้างชื้น และมีน้ำไหลภายในตลอดปี มีก้อนหินเป็นแท่งตั้งวาง บางก้อนลักษณะคล้ายโลงศพ มีส่วนเว้าโค้งของหินภายในถ้ำที่สวยงาม

การเดินทางภายในถ้ำจะต้องมีผู้นำทาง โดยจะเป็นชาวบ้านในละแวกนั้น ไม่ต้องติดต่อจ้างล่วงหน้า มีเจ้าหน้าที่บริเวณด้านหน้าเลยค่ะ








ภายในมีการประดับไฟสี สวยงาม ใครที่จะไปเดินชมในถ้ำก็เตรียมตัวนิดนึงเนาะ มันต้องมุด ก้ม ลอดถ้ำกันนิดนึงจ้า

เวลาเปิดทำการ : 08.30 - 16.30

การเดินทาง : ทางหลวงหมายเลข 211 เรียบแม่น้ำโขง อ.สังคม (ทางไปวัดผาตากเสื้อค่ะ)



🛵 สวนรุกขชาติน้ำตกธารทอง



เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลลดหลั่นกันลงมาก่อนจะตกลงสู่แม่น้ำโขง ความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร จุดที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขงจะสูงประมาณ 30 เมตร จะมีน้ำมากในช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคมของทุกปี




ชาวบ้านนิยมมาพักผ่อน รับประทานอาหารชิวๆบริเวณนี้ ใครที่จะมาละแวกวัดถ้ำศรีมงคลหรือวัดผาตากเสื้อลองแวะมาดูนะคะ

เวลาเปิดทำการ : 08.30 - 16.30

การเดินทาง : ทางหลวงหมายเลข 211 หลักกิโลเมตรที่ 74 (ทางเดียวกับวัดผาตากเสื้อค่ะ)



🛵 วัดผาตากเสื้อ


วัดนี้ตั้งอยู่ที่อำเภอสังคม ห่างจากตัวเมืองประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้าใครมาจังหวัดหนองคายแล้วไม่มาวัดนี้ถือว่าพลาดมากๆเลย ไฮไลท์เขาอยู่ที่ sky walk ที่เป็นกระจบใสรูปตัว U






วัดนี้มีกำหนดเวลาปิดอยู่ที่6โมงเย็น จุดชมวิวที่ห้ามพลาดอีกที่หนึ่งในบริเวณวัดคือผาตากเสื้อ สามารถมองเห็นทางแยกของแม่น้ำโขงเป็นรูปตัว Y สวยงามมากค่ะ ถ้าใครมาจากวัดป่าภูก้อนจะมีทางเลาะริมโขงมาที่วัดนี้ตรงได้เลยก่อนที่จะเข้าตัวเมืองหนองคายได้เลย




🛵 วัดศรีชมภูองค์ตื้อ



เป็นอีกวัดนึงที่ถ้ามาหนองคายแล้วไม่แวะมาไหว้ถือว่าพลาดพอสมควรเลย วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปขนาดใหญ่หล่อด้วยทองคำ ปางมารวิชัย







โดยชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ ตัววัดตั้งอยู่เส้นทางอุดรธานี-หนองคาย ถ้ามาจากอุดรวัดนี้จะถึงต่อจากวัดผาตากเสื้อค่ะ









เวลาเปิดทำการ : 08.30 - 16.30

การเดินทาง : ทางหลวงหมายเลข 211 หลักกิโลเมตรที่ 31 (ทางเดียวกับวัดผาตากเสื้อค่ะ)




🛵 พระธาตุบังพวน






ตัวองค์พระธาตุเดิมเป็นเจดีย์สร้างด้วยอิฐเผา มีรูปทรงแบบสถาปัตยกรรมท้องถิ่น ลักษณะเจดีย์ เป็นรูปสถูปแบบอินเดียรุ่นเดียวกับองค์พระปฐมเจดีย์ เจดีย์องค์ปัจจุบันบูรณะขึ้นใหม่โดยกรมศิลปากรใน หลังจากที่องค์เดิมได้พังทลายลงเนื่องจากฐานทรุด พระธาตุองค์ปัจจุบันมีฐานทักษิณ 5 ชั้น กว้าง 17.20 เมตร สูงถึงยอดฉัตร 34.25 เมตร รูปปรางค์สี่เหลี่ยมต่อกันเป็นบัวปากระฆังชั้นที่ 6 เป็นรูประฆังคว่ำ ชั้นที่ 7 เป็นรูปดาวปลี และเหนือชั้นไปเป็นที่ตั้งฉัตรและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้








ภายในวัดนอกจากจะมีพระธาตุโบราณแล้วยังมีพระพุทธรูปโบราณศิลปะล้านช้าง โบสถ์โบราณที่เหลือเพียงซากอิฐก่อระดับเอว







สระมุจลินท์ เป็นสระน้ำเก่าแก่มีตำนานเล่าว่าหลังอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ในองค์พระธาตุได้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดมีสายน้ำพุ่งออกมาจากพื้นดิน ซึ่งเชื่อว่านี่คือปากปล่องภูพญานาคที่เฝ้าปกปักรักษาพระธาตุบังพวน จึงมีการขุดเป็นสระน้ำขึ้นในภายหลังและมีการสร้างรูปปั้นพญานาค 7 เศียรไว้กลางสระแห่งนี้






ภายในวัดยังมี “สัตตมหาสถาน” คือ การจำลองสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้า 7 แห่ง ได้แก่ “โพธิบัลลังก์” “อนิมมิสเจดีย์” “รัตนจงกรมเจดีย์” “รัตนฆรเจดีย์” “อชาปาลนิโครธเจดีย์” “มุจลินทเจดีย์” และ “ราชายตนะเจดีย์” ซึ่งในวัดพระธาตุบังพวนแห่งนี้นับเป็นที่เดียวในโลกที่ยังหลงเหลือซากโบราณของสัตตมหาสถานจากอดีตครบทั้ง 7 สิ่ง


เวลาเปิดทำการ : 08.00 - 17.00

การเดินทาง : ทางหลวงหมายเลข 211 ห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร




🛵 ศาลาแก้วกู่ หรือ วัดแขก




เป็นสถานที่แทนภาพดินแดนแห่งการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง














ศาลาแก้วกู่นี้มีงานประติมากรรมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในสวนทั่วบริเวณ ส่วนมากจะเป็นงานประติมากรรมที่บอกเล่าถึงเรื่องราวต่างๆ ตามตำนานความเชื่อทางพุทธศาสนา พราหมณ์ ฮินดู และคริสต์




เวลาเปิดทำการ : 06.00 - 18.00

การเดินทาง : ทางหลวงหมายเลข 212 เส้นหนองคาย-โพนพิสัย ห่างจากตัวเมืองประมาณ 6 กิโลเมตร

ค่าบริการ : 20 บาท









ประติมากรรมขนาดใหญ่ที่เชื่อกันว่าเป็นต้นแบบของเจ้าแม่นาคีค่ะ








🛵 พระธาตุหล้าหนอง หรือพระธาตุกลางน้ำ


เดิมพระธาตุเก่าตั้งอยู่กลางบริเวณวัดธาตุริมฝั่งแม่น้ำโขง ต่อมากัดเซาะตลิ่งจนพังทลายหายไปอยู่กลางแม่น้ำ โดยด้านหนึ่งโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำเพียงครึ่งฐาน ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ก่อสร้างพระธาตุหล้าหนององค์จำลองขึ้นแล้วบรรจุชิ้นส่วนพระธาตุองค์จริงไว้ข้างใน







ในช่วงที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดระดับลงจะสามารถมองเห็นส่วนฐานพระธาตุกลางน้ำที่ล้มตะแคง จากน้ำโขงกัดเซาะตลิ่งได้ #ริมโขงยามเย็น







บริเวณรอบๆวัดจะเป็นสวนสุขภาพให้ได้พักผ่อนหย่อนกายกัน

เวลาเปิดทำการ : 06.00 - 18.00 (จริงๆมาได้ตลอดนะคะ ถ้าจะอยู่แค่บริเวณรอบนอกเพราะวัดตั้งอยู่ริมโขงเลยค่ะ)

การเดินทาง : อยู่ ต.ในเมืองริมโขงค่ะ เลยจากลานวัฒนธรรมไปประมาณ 4กิโลเมตร


🛵 วัดโพธิ์ชัย



เป็นวัดเก่าแก่อีกวัดของจังหวัดหนองคาย เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อพระใส เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่มีตำนานผูกพันกับผู้คนลุ่มน้ำโขงแห่งนี้






โดยส่วนตัวเราชอบภาพวาดฝาผนังของที่นี่มากนะ เป็นภาพวาดที่ใช้สีสรรสดใส ทำให้ดูแล้วสบายตามาก

เวลาเปิดทำการ : 07.00 - 18.00

การเดินทาง : อยู่ ต.ในเมือง เส้นหนองคาย-โพนพิสัย




🛵 ลานวัฒนธรรมริมโขงหน้าวัดลำดวน


เป็นอีกจุดไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดจริงๆแหละ เป็นลานวัฒนธรรมที่ให้เดินเล่นพักผ่อนริมโขง และยังมีรูปปั้นพญานาคคู่หันหน้าเข้าหากันตั้งอยู่ริมโขง เห็นในรูปที่คนอื่นถ่ายมามีพ่นน้ำด้วย แต่วันที่เราไปไม่เจอ รอบๆก็มีร้านอาหาร และรถอาหาร






🛵 ตลาดท่าเสด็จ และ ถนนคนเดินเมืองหนองคาย




หรือ ตลาดแคมของ ถือเป็นถนนคนเดินที่บรรยากาศดีมากเลย เพราะลัดเลาะริมโขง โดยเริ่มจากท่าเรือหายโศก จนถึงตลาดท่าเสด็จ เปิดทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 4โมงเย็นถึง4ทุ่ม มีตั้งแต่ของกินยันของใช้




บรรยากาศถนนคนเดินค่ะ มีตั้งแต่ของกินยันของใช้เดินยาวๆริมโขงยันถึงตลาดท่าเสด็จเลยค่ะ



ที่พักที่หนองคายก็มีมากมายหลายราคา หลายแนวทั้งริมโขง กลางเมือง บนภู ซึ่งทางเราได้ลองแล้วทั้ง 3 แบบ แต่ที่ชอบแล้วอยากนำเสนอที่สุดคือที่พักครั้งล่าสุดที่พวกเราพักกัน เป็นโฮสเทลน่ารักๆกลางเมือง "ศิลป์โสภา Silsopa hostel" ที่พักราคาไม่แพงคนละ 288 บาท/คืน มากันเป็นก๊วน 10 คนก็สามารถนอนในห้องเดียวกันได้ น้องเจ้าของน่ารัก บรรยากาศที่พักดีงาม ก ไก่ ล้านตัว ใครที่ชอบสไตล์แบบเรา ลองดูนะคะ (แอบเชียร์เบาๆ)

ด้านบนจะเป็นที่พัก ด้านล่างเป็นที่สอนศิลปะ และเป็นแกลเลอรี่โชว์ผลงานเบาๆ รูปสวยทุกรูปเลยค่ะ

ชุดอาหารเช้ารับเพิ่มชุดละ 99 บาท สามารถเลือกได้ว่าเป็นไข่กะทะ/โจ๊ก ขนมปัง/ป่าท่องโก๋ กาแฟสดหรือเครื่องดื่มร้อนทุกชนิด ดีงามเกินราคาจริงๆค่ะ


น้องเจ้าของที่พักค่ะ


การเดินทาง : จากกรุงเทพไปหนองคายมีหลายวิธีให้เลือกจ้า


- เครื่องบิน วิธีนี้น่าจะเป็นวิธีที่นิยมที่สุด เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาว่างที่สามารถระบุได้ชัดเจน เพราะถ้าจองตั๋วตอนโปรเหลือ ไป-กลับ ไม่ถึงพันแบบที่พวกเราได้มาแน่นอน แต่ไม่ได้ลงที่หนองคายนะ เพราะหนองคายไม่มีสนามบิน พวกเราจะต้องไปลงที่ที่จังหวัดอุดรธานีแล้วนั่งรถตู้จากสนามบินไปที่หนองคาย ถ้าราคายังไม่ขึ้นจากที่เคยขึ้นเที่ยวละ 200บาทค่ะ


- รถไฟ เป็นอีกวิธีที่น่าลอง แต่เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาพอสมควร ราคาแล้วแต่ประเภทรถไฟที่เลือกเลย ที่เราเคยลองนั่งคือ รถไฟด่วนพิเศษอีสานมรรคา โดยรถขบวนนี้จะออกจากหัวลำโพง 2 ทุ่ม ถึงหนองคายประมาณ 7โมงเช้า โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม หรือ จองตั๋วออนไลน์ได้ที่ http://www.railway.co.th


- รถทัวร์ มีหลากหลายค่าย แต่เราไม่เคยไปด้วยวิธีน้า


การเดินทาง : การไปยังสถานที่ต่างๆในหนองคาย แนะนำเช่ารถขับเองจะสะดวกกว่าเยอะเลยค่ะ หรือ เช่ารถสกายแลปได้น้า เราก็เคยลองมาแล้ว หัวฟูดีจ้า 555

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกๆคนที่กำลังจะเดินทางไปจังหวัดนี้เนาะ จะพยายามพัฒนาต่อไป ขอบคุณข้อมูลจากทุกแหล่งที่ไปสรรหามาค่ะ ถ้าเพื่อนๆจะสอบถามเพิ่มเติม comment หรือ inbox ในเพจของเรามาได้นะคะ

สุดท้ายนี้ฝากเพจเราด้วยนะคะ ฝากกดไลค์กันด้วยน้า https://www.facebook.com/porjaipaii/

(บรรยากาศระหว่างทาง แสงสวยมากค่า)


#Porjaipai
#หนองคาย
#Nongkhai
#เที่ยวไทยเมืองรองก็สนุกนะ

Porjaipai : พอใจไป

 วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.35 น.

ความคิดเห็น