สวัสดีค่ะ ห่างหายการเขียนบล็อกไปพักใหญ่ วันนี้จะมาเล่าย้อนหลังการท่องเที่ยวแนวผจญภัย อย่าเรียกว่าการพักผ่อนเลยเพราะออกแนว Adventure มากกว่า กับช่วง 20 วันที่หยกไปผจญภัยในประเทศโมร็อคโคมา บอกเลยว่าได้ประสบการณ์ เรื่องราวพร้อมภาพสวย ๆ มาเล่าให้ฟังกันมากมาย
ก่อนจะเริ่มรีวิว มาที่การแจกส่วนลดกันก่อน หยกมีส่วนลดจาก Booing.com มาให้เพื่อน ๆ สามารถเอาไปใช้กันได้ ง่าย ๆ แค่คลิกที่ลิงก์นี้ https://www.booking.com/s/44_6/kutepi07 แล้วเข้าไปจองกันได้เลย
# Code นี้สามารถใช้เป็นส่วนลดได้ 550 บาท แต่จะได้เมื่อจองโรงแรม เข้าพัก และ Check out เรียบร้อยแล้ว
#การรับเงินคืนจะได้รับเป็นเงินเข้ามาในบัตรเครดิต ง่าย ๆ แค่แอดบัตรเครดิตที่จะรับเงินเข้าไปยัง Setting > บัตรเครดิต > เพิ่มบัตรเครดิตสำหรับรับยอดสมนาคุณ
ใครมีแพลนจะจองที่พัก เอาไปใช้รับรองได้เงินกลับเข้ากระเป๋ามาแบบฟรี ๆ
พร้อมแล้วมาเริ่มต้นการเดินทางกันเลย ทริปนี้เราต่อไฟลท์ไปจากเมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสายการบิน Easy Jet ได้ไฟลท์ไป-กลับมาในราคาแค่ 3,000 บาทบินไปลงเมืองมาราเกซ ใช้เวลาเดินทางแค่ 3 ชั่วโมง ทริป 20 วันของเราแพลนไว้ว่าจะขับรถขึ้นไปจากมาราเกซ จบที่คาซาบลังก้า โดยจุดหมายหลักก็คือ Trek camp ที่ทะเลทรายซาฮาร่า ซึ่งบอกเลยว่าค่อนข้างสมบุกสมบันเลยทีเดียว
สำหรับตอนแรกนี้มาเริ่มที่เมืองมาราเกซกันก่อน
มาราเกซเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศโมร็อคโค ซึ่งเป็นประเทศที่อยู่ใทวีปแอฟริกา เมืองนี้ถือเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวมากมายเพราะมีจุดเด่นและเอกลักษณ์แบบเฉพาะตัวมาก จะเป็นอย่างไร ไปชมภาพพร้อมคำบรรยายกัน
มาถึงสนามบินช่วงวันแรกที่อยู่มาราเกซเรายังไม่เช่ารถ เพราะไม่จำเป็น และในเมืองขับยากมากกกกก (ที่นี่ขับรถชิดขวานะคะ) เพราะฉะนั้นก็ใช้บริการ Airport shuttle บัสนั่งจากสนามบินเข้าเมืองกันก่อน
มาถึงย่านใจกลางเมือง ลงรถที่ป้ายรถเมล์ แล้วก็เดินต่อไปยัง Hostel ที่จองไว้
มาถึงโฮสต์ก็ให้การต้อนรับอย่างดี ยกชามาให้ ที่โมร็อคโคนี่เค้านิยมดื่มชานะคะ เป็นชามิ้นต์รสชาติดีมาก ๆ
จิบชา เช็กอิน นอนพักกันสักครู่ก็ไปเดินตลาดหาอะไรกินกัน ใครมาเมืองมาราเกซต้องไปเดินตลาดนะคะ เพราะจะได้บรรยากาศ Local ของเมืองนี้แบบสุด ๆ
บอกไว้ก่อนสำหรับคนที่จะไปเที่ยวโมร็อคโคว่าคนที่นี่เค้าไม่ชอบให้ถ่ายรูปนะคะ ต้องถ่ายแบบแอบ ๆ หรือทำเป็นถ่ายวิว ไม่งั้นจะโดนดุได้
หิวแล้วแวะนั่งหาอะไรทานกันดีกว่า
จานนี้คือ Tagine เป็นอาหารท้องถิ่นของโมร็อคโคจะเป็นการตุ๋นมาในภาชนะดินเผา สามารถสั่งได้ว่าจะเอาทาจีนผัก เนื้อวัว เนื้อแกะหรือไก่ทานกับมันฝรั่งปรุงรสด้วยเครื่องเทศ อร่อยดี แต่ประเทศนี้เค้าเป็นอิสลามเลยไม่มีหมูนะคะ
ที่นี่เวลาทานอาหารเค้าจะเสิร์ฟพร้อมขนมปังและมะกอก
ส่วนนี่คือ couscous (คูสคูส) ทำจากจากเม็ดข้าวสาลีนึ่งทานกับสตูเนื้อสัตว์และผัก
Moroccan Salad
ไส้กรอก
จัดหนักไปมื้อใหญ่แล้วก็พาไปเดินเที่ยวกันต่อ
ที่โมร็อคโคเค้าใช้ลาทั้งเป็นยานพาหนะและใช้ขนของกันด้วย เป็นเรื่องปกติ พบเห็นได้บนท้องถนนทั่วไป วิ่งปะปนกับรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์นั่นแหละ เหอๆ
หลังจากไปเที่ยวตลาด หาอะไรกินกันแล้วก็พามาเที่ยววังเก่ากันบ้าง El Badi Palace เป็นวังของสุลต่าน Ahmad al-Mansur สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1578
กระเบื้องโมเสคสไตล์ของแท้สไตล์โมร็อคโค
มีรังนกอยู่บนนั้น นกตัวใหญ่มากก
เดินเข้ามาข้างในก็เจอกับโถงโล่งกว้าง พร้อมสวนส้มตรงกลาง
ประเทศนี้ street cats เยอะนะคะ
ถ่ายวิวจากมุมสูง มองเห็นบ้านเมืองของมาราเกซมาให้ชมกัน
ออกจากวังเก่าไปเดินเที่ยวกันต่อ
ช่วงที่หยกเดินทางไปเป็นเดือนมกราคม อากาศยังหนาวนะคะ ประมาณ 15-20 องศา เพราะฉะนั้นผู้ชายเมืองนี้เค้าจะนิยมใส่ชุดยาว ๆ มีหมวกคลุมแบบนี้ เรียกว่าชุด Djellaba
ร้านขายเครื่องเทศ
** ฝากสิ่งที่ต้องระวังสำหรับเมืองมาราเกซเอาไว้นิดนึงว่าอย่าหลงเชื่อคนที่บอกว่าไม่ได้เป็นไกด์และให้เดินตามไปจะพานำทางไปทางลัดโน่นนี่นะคะ เพราะเค้าจะพาเราไปยังร้านค้าที่เค้าจะขายของ และจะพาเดินไปทางมืด ๆ น่ากลัวนิดนึงค่ะ
สถาปัตยกรรมหลังคาไม้ลายฉลุของโมร็อคโคก็พบเห็นได้ทั่วไป
เดินเหนื่อยก็มานั่งพักดื่มน้ำทานขนมกันไม่ต้องรีบร้อน
วันนี้พอแค่นี้ก่อน ทานอาหารเย็นแล้วเข้าพี่พัก นอนหลับพักผ่อน เดี๋ยวจะพาไปลุยต่อค่ะ
รุ่งเช้าวันใหม่เรามาเริ่มต้นด้วยอาหารเช้าของโฮสเทล เป็นขนมปังทานกับกาแฟและน้ำส้ม
วันนี้เรานั่ง Shuttle bus กลับไปสนามบินเพื่อไปเอารถเช่าสำหรับการเดินทาง แล้วจะขับไปเที่ยว Atlas Mountain กัน
เริ่มเห็นวิวภูเขา Atlas และน้องอูฐ
ขับขึ้นเขาไปชมวิวกันนิดนึง
มาถึงจุดชมวิวเทิอกเขา Atlas
ที่นี่เป็นเหมือนโซนต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน Atlas ใครจะขี่อูฐ หรือจะซื้อเครื่องปั้นดินเผาติดมือกลับบ้านก็ลงไปชมกันได้
ขากลับแวะทานอาหารพร้อมชมวิว บรรยากาศดีมาก
จานนี้คือ Poulet Grille คือเนื้อและตับย่าง
มีพี่มาริโอ้มาชวนเด็ก ๆ เล่นด้วย น่ารักดี
วันสุดท้ายของการเที่ยวเมืองมาราเกซ เราจะพาไปเที่ยว Jardin Majorelle สถานที่ที่เป็นอนุสรณ์สถายของดีไซน์เนอร์ชื่อดัง Yves Saint-Laurent กัน หากใครในตัวเมืองมาราเกซก็สามารถเดินไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้เลยนะคะ ไม่ไกลและง่ายมาเดินตาม GPS 1ปเลย ก็จะได้ชิวบรรยากาศของบ้านเมืองเค้าไปด้วย
สตรีทฟู้ดก็พบเห็นได้ทั่วไป
และแล้วก็เดินมาถึง Jardin Majorelle การเข้าชมที่นี่จะต้องซื้อบัตรเข้าไปนะคะ เรียบร้อยแล้วก็เข้าไปดูข้างในกันเลย
ข้างในจะเป็นลักษณะคล้าย ๆ เหมือนบ้านในสวน สามารถเดินชมได้เป็นโซน ๆ
สวนส้ม
เจอน้องแมวนอนหลับอยู่กลางสวนไผ่ 1 ตัว
สวนกระบองเพชร
เข้ามาชมภายในพิพิธภัณฑ์กันบ้าง ก็ได้รวบรวมสมุดภาพและเรื่องราวเกี่ยวกับดีไซน์เนอร์ชื่อดัง Yves Saint-Laurent เอาไว้
รวมถึงยังมีเครื่องหนังเป็นกระเป๋า รองเท้าจำหน่ายด้วย
จากนั้นเราก็ไปต่อกันที่อีกหนึ่งสถานที่ ก็คือ The Saadian Tombs เป็นสุสานที่ฝันศพของกษัตริย์ราชวงศ์ซาเดียนของโมร็อคโค
ข้างในประดับด้วยหินอ่อนและโมเสคสวยงามตามสไตล์โมร็อค
ปิดทริปวันสุดท้ายที่เมืองมาราเกซ กลับไปพักผ่อนเพื่อเตรียมเก็บของ แพ็คกระเป๋าย้ายเมืองกัน
ทริปโมร็อคโคยังอีกยาวไกล ตอนหน้าจะพาไปเที่ยวเมืองอะไรไปติดตามกันต่อนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ของ Yoko Go Around ได้ที่ :
https://www.facebook.com/YokoGoAround/
https://th.readme.me/id/yokogoaround
Time2Travel
วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 16.30 น.