สืบเนื่องจากกระทู้ที่แล้ว https://pantip.com/topic/38015682 ที่ผมต้องลงมาจากทริป EBC ก่อนกำหนดเพราะป่วยเป็น AMS เลยต้องนั่งเฮลิคอปเตอร์ลงมาโรงพยาบาล ลงมาจาก EBC ก่อนกำหนดทำให้วันเหลือ เลยคุยกับไกด์ว่าไปเที่ยวไหนดีเลยมาที่นี่ การเดินทางก็สบายๆ นั่งรถทัวสกรุบกริบ 8 ชั่วโมงจ้า หลังจากพักเช็คอาการที่โรงพยาบาล 2 วันก็ออกมาเที่ยวต่อได้และ #whereveego #abc #AnnapurnaBase Camp

หลังจากออกจากโรงพยาบาลก็ออกมาซื้อเสื้อผ้า เพราะไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยนอกจากชุดเดิน hiking กะจะเนียนๆซักหน่อย แต่แค่ผิวก็คนละสีละคงไม่เนียนเท่าไร เป็นการเที่ยว กาตมันดุ แบบจริงๆละ

ร้านขายของแนวลายๆนี่คือของเด็ดที่คนชอบสายนี้แทบคลั่งอยากจะมาซื้อเองมาก

แวะหาของกินที่เป็นอาหารธรรมดาคนเดินดิน ที่ร้าน Minho-cafe-restaurant เข้ามาขอรหัสไวไฟก่อนเลยคือแบบชีวิตต้องการอินเตอร์เนตสุด ถ้าคุณว่าเนตบ้านเราช้านะขอให้คิดใหม่ มาลองที่นี่กลับไปนะเนตบ้านเราคือโคตรไว

อันนี้คือดีมาก เป็นแตงโมชีสสดชื่นมาก ดีกว่าที่คิดไว้เยอะ

อันนี้รสอ่อนไปหน่อยเป็นไก่กับซอสของเค้า

บรรยากาศชั้นบนของร้าน

ร้านแบบสบายๆ จะมีนักศึกษามานั่งทำงานที่นี่กัน

ถ้าติดใจเครื่องเทศ ซื้อติดกลับบ้านได้

หลังจากเติมพลังงานเสร็จก็เริ่มเดินสำรวจตัวเมืองกาตมันดุ

จริงคือร้านนี้มันเท่มันนะเลยขอถ่ายรูปไว้สักหน่อย เรียกว่าร้านกล้วย

ร้านถ่ายรูปนี้เก่าจริงอะไรจริงฝุ่นนอกร้านนี่เข้าไปในร้านตลอดเวลา

นี่ร้านทำฟันจ้า คือกลัวแผลติดเชื้อตายก่อนนะ เป็นแบบเปิดเดินยังต้องปิดปากหน้ากากนี่ขาดไม่ได้แล้วถ้าถอนฟันในสภาพนี้คงไม่น่ารอด

รูปนี้คือเห็นแวปแรกคือ อิหยังว่ะ มันช่างแตกต่างกันสุดขั้วมาก พระพุทธเจ้า ไอดอลเกาหลี จนไปคริสเตียโน่


เส้นทางหลักของย่านนี้คือต้องเส้นนี่เลยฝุ่นเยอะสุด รถเยอะสุด

เจอลุงคนนี้แถวร้านที่ขายนมดังๆคือคนต่อเยอะมากละงงก็เลยไม่ได้ลองกินนมแต่หันมาถ่ายลุงแก่แทนเพราะกำลังนั่งเท่ๆ

เดินจนทั่วละหาร้านแซ่บๆกินซักหน่อยเปิดกูเกิลเจอร้านอาหารจีน คือมันดีจริงๆ ได้อะไรที่แบบอยากกินนอกจากแป้งที่เจอมาทุกวันที่เดินขาขึ้น EBC ละแบบฟิน

ตื่นเช้ามารีบขึ้นรถทัวส ตรงท่ารถจะมีขายของเต็มไปหมดเลย

บนรถคือมีแต่พัดลมละร้อนมากเปิดหน้าต่างตลอด ควรเตรียมผ้ามาปิดปากด้วย

และอยู่ดีๆนั่งมา 3-4 ชั่วโมงรถก็จอดบอกพักประมาณ 20 นาที เราก็งงแต่เห็นร้านขายอาหารเพียบเลยเลยสุ่มมาร้านนึง

บอกเลยต้องลองซักครั้งในชีวิตคือมันก็อร่อยดีนะ เติมแกงไปรอบนึง แกงที่อยู่ข้างๆปลาทอดนั้นละเด็ด

น้ำจิ้มนี่คือช่วยไว้เยอะ เติมรสชาติให้อาหารได้ดี นั่งกินไประวังไปกลัวรถออกก่อนเดี๋ยวตกรถละไปต่อไม่ถูกเลย

นั่งหลับๆตื่นมาหลายงีบ มีแวะจอดพักเข้าห้องน้ำอีกรอบนึง จนครบ 8 ชั่วโมงก็มาถึงเมือง Pokhara

จะไปต่อจากท่ารถคือขึ้นแท๊กซี่ ใช้ตกลงราคากันเอารถหมดเร็วมากเพราะทุกคนรีบไปเจรจาแบบสุดๆ

อันนี้คือชื่อโรงแรมที่ไกด์จองมาให้

อันนี้ตั๋วรถขากลับ

ห้องก็ใหญ่สะดวกสบาย เนตเร็ว

มาเนปาลทั้งทีจะไม่กินได้ไง นี่เลยอาหารเกาหลี มันใช่ไหมเนี่ย เห็นใจคนอดอยากหน่อยนะ คือมันต้องร้านนี่ละหมูย่างต้องมา

เข้ามาหนังสือเพียบ ส่วนใหญ่ภาษาเกาหลี

ร้านนี่ต้นตำรับจริงเพราะเจ้าของร้านนี่คนเกาหลีมาเอง อร่อยจริง

ตกเย็นออกมาเดินดูว่าพรุ่งนี้จะเที่ยวอะไรดี เลยไปเชคราคาค่าเช่าพายเรือ แล้วก็มาจบที่ร้าน อันนี้เป็น คอมบุชา ปรับสมดุลลำไส้ อร่อย

ตื่นเช้ามา โรงแรมให้รถมาส่งที่สนามบิน ค่าเสียหาย 8,000 บาท ขึ้นบิน 60 นาที

มาตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นรถเชคเครื่องยนต์

วันนี้บินทั้งหมด 3 คน แต่นั่งบินมี 2 คน เลยขอขึ้นก่อนเพราะกลัวไม่ได้รูป ก่อนขึ้นเค้าจะให้ใสเสื้อ 3 ชั้นและถุงมือเพราะข้างบนหนาวมาก+ลมแรง

เอากล้องขึ้นได้นะแต่ต้องมีสายคล้องคอเดี๋ยวตกหายหรือหลุดมือไปติดใบพัดละซวยเลย

ตอนเห็น Everest ใกล้ขึ้นเรื่อยนี่มันตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ

พอเห็นใกล้ละขนลุกเลย ไม่ได้ตื่นเต้นนะหนาวมาก ซึ่งเห็นชัดกว่าขึ้น EBC ไปอีก ในใจก็คิดเดินทำไมตั้งหลายวันนี่นั่งมา 20 นาทีถึง

บินชมวิวไป คนขับนี่เด็กแว้นมากซิ่งสุดๆ

อันนี้ภาพจากเครื่องที่เค้าขาย จำไม่ผิดน่าจะราคาประมาณ 200-400 บาท

หลังจากบินแล้วก็ลงมาพายเรือเล่น กว่าจะได้รูปนี่หมุนเรือจนมึน เพราะจะเอา Everest ไกลๆ เป็นฉากหลัง

ตกเย็นคือโรแมนติกดี

แต่อีกมุมนึงก็มีคนแข่งปิงปองแบบจริงจัง ซึ่งผู้เข้าแข่งขันนั้นไม่ใช่ใครคนขับแท๊กซี่นั้นละ ดูปิงปองเสร็จก็เข้าที่พักนอนเตรียมเดินทางกลับ กาตมันดุ

สภาพตอนเช้าจะวุ่นวายนิดนึง

ขนมอันนี้คือสายช๊อคโกแลตคือต้องลงอร่อยจริง

ขากลับก็แวะแบบเดิน กินร้านเดินป้าจำได้เติมไม่อั้นผมนี่กินใหญ่เลย อร่อยเหมือนเดิม

วันนี้ก็เที่ยวตามจุดท่องเที่ยวสำคัญที่เค้าไปๆกัน

รอบจะมีคนไหว้ไม่หยุดเลย บางคนไหว้จนไม้เป็นร่องเลยนะคือไหว้เป็นหมื่นรอบขึ้นแน่นอน

https://www.facebook.com/Whereveego/

#whereveego

หลังจากนั้นก็ไปอีกสถานที่นึงคือวัดดำ คนจะมาไหว้แถวนี้เยอะมาก



ถ่ายไปถ่ายจนเริ่มหิวเลยออกเดินทาร้านแล้วก็มาเจอร้านนี่เป็นโรงแรมเล็กๆบรรยากาศดีร่มรื่น

ซึ่งสั่งอาหารมาอร่อยดี และก็ไม่ลืมสั่งเมนูที่คุ้มเคยคือ MOMO แต่เป็นไส้ผัก จิ้มกับน้ำจิ้มอร่อยร้านนี้แนะนำมีเบเกอรี่ขายด้วย

พอออกมาก็ไปอีกที่นึง เพื่อไปดูการเผาศพ แต่ไปถึงเค้าก็เผาไปแล้วเห็นไฟกำลังไหม้ศพอยู่ แล้วก็เจอเค้าทำพิธีอะไรสักอย่างเอานั้นมาใส่นี่เอาน้ำมาใส่เดี่ยวก็เท เดี๋ยวก็ดื่มก้นั่งดูไปแบบงงๆ

ตรงนี้คืออีกที่ไว้เผาแต่เค้าบอกว่าไว้เผาคนชั้นสูง

นี่คือกำลังไหม้เลยเสร็จแล้วเค้าก็ล้างโดยการเทน้ำสาดและกวาดลงไปในแม่น้ำ

ถ่าย

เดิน

ถ่าย

วนไป

มื้อนี่คือทนไม่ได้จริงๆเริ่มคิดถึงอาหารไทยบ้านเราละ เลยตามหาจนเจอร้านนี้

ดูเมนูมีมันทุกอย่าง จะเยอะไปไหน

ว่าแล้วก็จัดมาจ้า ส้มตำคือฟินสุดจริงๆ รสชาติมันแซ่บ ไก่ทอดคือดีมากกกกกก ฟินสุด

ด้านนอกคือโรแมนติก

แล้วมาต่อที่ขนมหวาน

เช้าวันถัดมาออกมาอีกที่นึงอันนี้จะต้องเดินเยอะหน่อยมีขึ้นเนินบ้าง

อันนี้เป็นบ่อน้ำแต่เดินลงไปไม่ได้นะ

ที่นี่จะเน้นเป็นพวกงานแกะไม่เยอะมากสวยมาก

มีมุมสวยๆเยอะมาก

พอเริ่มเข้าโซนคนอยู่อาศัยร้านค้าจะเยอะ ถ่ายรูปแนวสตรีทสนุกมาก

ถ้าชอบดูวิธีชีวิตคนก้ต้องมาดูว่าเค้าอยู่กันยังไงจริงๆ ตรงที่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว

เดินวนไปมาจนหิว เลยลองมาดูว่ามีร้านไรน่าสนใจ โดนใจเข้าที่ร้านนี้ เรียกว่าเป็นร้านลับก็ว่าได้ลับมากถึงมากที่สุด เพราะทุกอย่างฝุ่นเพียบมากตั้งแต่เมนูยันแก้วน้ำ ไม่รู้ว่าลูกค้าคนสุดท้ายนี่นานเท่าไร สั่งอาหารมาคือกินได้สองคำ เลิกไม่อร่อยเลย ปล่อยให้เป็นร้านลับอย่างนี้ไปนั้นละดีแล้ว

คิดว่าเข้ามาถ่ายรูปเสียค่าเข้าแล้วกัน

ตกเย็นไกด์พาเรามากินอาหารท้องถิ่น พร้อมดูโชว์พื้นบ้าน

มีเหล้าขาวเนปาล คือแค่จิบพอแรงมากถึงมากที่สุด เวลารินจะทำคล้ายๆของจีนกาปากยาวๆ รินสูงๆ อาหารเติมได้แต่ถูกปากแค่อย่างเดียวเอง

ไกด์มอบใบประกาศพิชิต EBC ของทริปที่แล้วให้ เสร็จก็กลับไปพักผ่อนนอน

เช้านี้มื้อสุดท้ายละขอลองร้านอีกสักร้าน

ร้านนี้คือดีอาหารฝีมือคือได้เลย ถ้าชอบแนวอาหารฝรั่งมาร้านนี้ถูกปากแน่นอน แต่ห้องน้ำคานเตี้ยนะเวลาเข้าระวังโดนหัว

กินเสร็จไปสนามบินกลับบ้านจ้า หายมาเกือบเดือน จนพ่อแม่ตามกลับบ้านแล้ว



ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ

IG: whereveego

facebook: https://www.facebook.com/Whereveego/

ความคิดเห็น