ภูเก็ต 11 พิกัดเที่ยวหน้าฝน
ภูเก็ต เดี๋ยวนี้ไม่ได้น่าเที่ยวแค่ฤดูร้อนเท่านั้น แต่ฤดูไหนๆก็เที่ยวได้ ทริปนี้มีเวลา 3 วัน 2 คืน การวางแผนท่องเที่ยวภูเก็ตหน้าฝนกับ 11 พิกัดเที่ยว จะน่าสนใจ ตื่นเต้น สนุก มันแค่ไหน ตามมาค่ะ
ภูเก็ต เป็นจังหวัดหนึ่งที่อยู่ในภาคใต้ของไทย นับเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อยู่ทางฝั่งทะเลอันดามัน มีหาดน้อยใหญ่อยู่รอบเกาะเป็นจำนวนมาก และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกเยอะแยะมากมาย จึงทำให้ภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แวะเวียนกันไปท่องเที่ยวตลอดทั้งปีเป็นจำนวนไม่น้อยเลย
แอมมีโอกาสได้ไปท่องเที่ยวยังภูเก็ต ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว เชื่อไหมว่ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกเยอะแยะมากมายที่ยังไปไม่หมด มิหนำซ้ำหลายๆสถานที่ที่เคยไปมาแล้วก็ยังรู้สึกอยากกลับไปเที่ยวซ้ำอีก สำหรับทริปนี้มีแผนการเดินทางคร่าวๆดังนี้ค่ะ
วันที่ 1 : หาดไม้ขาว - หมี่สะปำ คุณยายเจียร - Nook-Dee Boutique Resort - จุดชมวิวสามอ่าว - The Feelsion Café
วันที่ 2 : หาดป่าตอง - Sweet Talk - Ciao Bistro & Coffee Talk - หาดยะนุ้ย
วันที่ 3 : วัดไชยธาราราม (วัดฉลอง) - น้ำตกโตนไทร - Three Monkeys Restaurant
มาถึงสนามบินภูเก็ตตั้งแต่เช้าตรู่เลยค่ะ เรียกว่าเช้ามืดก็ได้นะ เลยหาที่นั่งพักนอนพักผ่อนอยู่ประมาณชั่วโมงกว่าๆเพราะรอเวลาเคาน์เตอร์ Avis เปิดตอน 7 โมงเช้า การเดินทางในภูเก็ตทริปนี้ต้องขอขอบคุณ Avis Thailand ค่ะ ที่นี่เขามีให้บริการรถเช่าที่หลากหลาย ทั้ง บริการรถเช่าแบบขับเอง เช่าแบบพร้อมคนขับ ลีมูซีนพร้อมคนขับ และมีให้บริการมากถึง 29 สาขาทั่วประเทศเลยด้วย
ปีที่แล้วมาลงที่สนามบินแล้วต้องนั่งรถตู้ออกไปรับรถเช่าข้างนอก แต่มาปีนี้สนามบินมีการปรับปรุงเรียบร้อยแล้วดังนั้นรถเช่าจึงจอดอยู่ภายในพื้นที่สนามบิน มีแผนผังให้ดูด้วยค่ะ
เดินออกไปหาเจ้าหน้าที่แป๊บเดียวเอง ยื่นเอกสารนี้ที่ได้รับมาจากเคาน์เตอร์ให้กับเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ
เจ้าหน้าที่จะนำรถออกมาจอดแล้วให้ตรวจเช็คสภาพรถรอบคันอีกครั้งหนึ่งก่อนจะเซ็นชื่อรับรถนะคะ
1. หาดไม้ขาว
จุดมุ่งหมายแรกของเราคือ “หาดไม้ขาว” หาดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูปคู่กับเครื่องบินใกล้ๆนั่นแหละค่ะ อยู่แค่ด้านหลังสนามบินนี้เองออกไปไม่นานก็ถึงแล้ว
เมื่อเข้ามาถึงลานจอดรถจะมีพี่ๆรถพ่วงรออยู่ สามารถใช้บริการเข้าไปยังหาดได้ ราคาอยู่ที่คนละ 20 บาท/เที่ยว
แต่ต้องเช็คกันมาดีๆนะคะเพราะว่าเครื่องบินจะมีการเข้าออกทั้งสองฝั่ง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและทิศทางลม อย่างแอมเองไป 2 ครั้งแล้วก็ยังไม่ได้ใกล้ชิดเครื่องบินสักครั้งเลย ได้เห็นแค่เครื่องบินฝั่งขาออกสูงๆแบบนี้
เข้าฤดูฝนแบบนี้คลื่นลมจะแรงกว่าปกติ ดังนั้นจะมีธงสีแดงเอาไว้ตามแนวฝั่งชายหาดเตือนนักท่องเที่ยวว่าไม่ควรลงเล่นน้ำทะเล เนื่องจากเสี่ยงอันตราย
จึงเดินเล่นถ่ายรูปเล่นริมชายหาดเรื่อยๆ ไหนๆก็มาแล้วนะอย่าให้เสียเที่ยว
มองดูเขาจับจักจั่นทะเลเพื่อนำมาตกปลาตามที่เห็นว่ามีเบ็ดปักอยู่
2. หมี่สะปำ คุณยายเจียร
ไปต่อกันที่ร้าน “หมี่สะปำ คุณยายเจียร” เป็นร้านอาหารพื้นเมืองภูเก็ตที่อยู่คู่ภูเก็ตมาอย่างยาวนานถึง 50 กว่าปี และมีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ร้านตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ 56/8 ริมถนนเทพกระษัตรี ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมืองภูเก็ต
เมนูเด็ดๆก็อย่างเช่น หมี่สะปํา โอวต้าว ดูจากชื่อแล้ว.. มันคืออะไร มีหน้าตาเป็นอย่างไร มาชมกันค่ะ
หมี่สะปํา ก็คือ ผัดหมี่ฮกเกี้ยน คุณยายเจียรมีเชื้อสายฮกเกี้ยน เดิมคุณยายได้ขายผัดหมี่ฮกเกี้ยนที่หมู่บ้านสะปำ ด้วยรสชาติอร่อยจึงใช้ชื่อเรียกตามสถานที่นั้นๆ จึงเรียกติดหูต่อๆ กันมาว่า หมี่สะปำ นั่นเองค่ะ
โอวต้าว หรือ โอต้าว เป็นอาหารพื้นเมืองประจำจังหวัดภูเก็ตอีกหนึ่งอย่าง มีหน้าตาคล้ายกับหอยทอดผสมออส่วน เป็นอาหารของชาวจีนฮกเกี้ยนที่ถูกนำเข้ามาที่จังหวัดภูเก็ต สิงคโปร์ และปีนัง ซึ่งโอวต้าวของแต่ละเมืองก็จะมีความแตกต่างกันไป
ปอเปี๊ยสด จริงๆแล้วเมนูนี้ก็มีขายหลายร้าน แต่ความแตกต่างของร้านนี้อยู่ที่ ชิ้นใหญ่ ไส้แน่น รสชาติหอมมันเต็มปากเต็มคำ
ห่อหมกปลา รสชาติถึงเครื่องดีมาก เข้มข้น หอมกะทิและเครื่องแกงที่เข้ากัน อร่อยเลยแหละ
เต้าหู้ทอด กรอบนอกนุ่มใน มีกลิ่นเต้าหู้ชัดเจน จิ้มกับซอสผสมถัวลิสงป่นหยาบ
3. Nook-Dee Boutique Resort
จากนั้นมาเข้าที่พักกันค่ะ ครั้งนี้แอมพักที่ Nook Dee Boutique Resort, Kata Beach by Andacura เรียกสั้นๆว่า หนุกดีรีสอร์ท ก็แล้วกันนะคะ ตั้งอยู่ที่ฝั่งหาดกะตะ จากที่พักเราสามารถมองเห็นชายหาดกะตะและทะเลสีสวยๆได้อย่างกว้างไกลเลยล่ะค่ะ
ให้ดูตั้งแต่ทางเข้าเก๋ๆเลย
ฟร้อนท์ของรีสอร์ทมีความเก๋ไม่แพ้กัน รับลมได้สบายๆ เดินออกไปชมวิวสวยๆได้อย่างกว้างไกล
ไปอีกนิดก็จะได้พบกับสระว่ายน้ำที่ติดกับตัวอาคารของรีสอร์ท ทางปลายด้านหนึ่งจะมองเห็นทะเลและหาดกะตะ
เช็คอินแล้วจะได้รับคีย์การ์ด ตารางชัตเตอร์บัสให้บริการระหว่างรีสอร์ทและชายหาดกะตะ คูปองรับ Welcome drink ด้านบนดาดฟ้า คูปองส่วนลดสำหรับเครื่องดื่มอื่นๆที่ดาดฟ้า และคูปองส่วนลด 300 บาท สำหรับนวดสปาอีก 2 ใบ
มีซุ้มให้บริการนวดริมสระด้วยนะ
นอกจากนี้ริมสระยังมีบาร์ Yadong Bar ให้อารมณ์เหมือนซุ้มยาดองที่ดูดเก๋ดูดีขึ้นมาอีกระดับนั่นแหละ
และบริเวณนี้ในแต่ละวันยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมทำกันอีกด้วยอย่างเช่นวันนี้เป็นการทำน้ำแข็งไส
ตรงนี้ ทางขึ้นลงที่ใช้สำหรับไปยังห้องฟิตเนสและห้องสปาได้ มาเดินถ่ายรูปเก๋ๆตรงนี้ก็สวยดีเหมือนกันนะคะ
มาถึงห้องพัก Delux Sea View ของเราในทริปนี้ อยู่กันทั้ง 2 คืนเลย ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทุกอย่างจริงๆ
เดินเข้าไปซ้ายมือจะเป็นตู้เสื้อผ้า มีเสื้อคลุมอาบน้ำ ร่ม ตู้เซฟ ตะกร้าใส่ผ้าเช็ดตัวสำหรับนำลงไปใช้ที่สระว่ายน้ำ รองเท้าใส่ในห้อง และไม้แขวนเสื้อ
ทางขวามือเป็นห้องน้ำ มีการกั้นห้องอาบน้ำแยกโซนเปียกโซนแห้งไว้อย่างชัดเจน และที่สำคัญคือมีอ่างอาบน้ำด้วย สามารถเปิด - ปิดม่านให้ได้มองเห็นทะลุผ่านกระจกกันเลยทีเดียว
ถัดจากตู้เสื้อผ้าเข้าไปก็คือตู้กับข้าว เอ้ย! ตู้เย็นค่ะ เป็นตู้เย็นที่อยู่ในตู้กับข้าวน่ารักมากเลย เนื่องจากคอนเซ็ปต์ของรีสอร์ทจะเน้นความเป็นไทยแฝงอยู่ในความโมเดิร์น
มี Welcome Fruit เป็นกล้วยเล็บมือนางครอบฝาชีเอาไว้น่ารักมาก
และบรรยากาศโดยรวมของห้องนี้ กว้างขวาง สะดวกสบาย เตียงใหญ่ โซฟานุ่ม มีตุ๊กตาน้องช้างอยู่บนเตียงด้วย น่าร้าก..
ความดีงามอีกอย่างของห้องนี้คือ สามารถออกไปยืนชมวิวทะเลริมระเบียงห้องได้เลย
ที่อยู่ : 216/ 9 ถนนกกโตนด, หาดกะตะ, กะรน, จังหวัดภูเก็ต 83100
โทรศัพท์ : 076-688-888
Facebook : https://facebook.com/nookdeephuket
4. จุดชมวิวสามอ่าว
จากนั้นออกมาต่อกันที่ “จุดชมวิวสามอ่าว” หรือ Karon View Point ออกมาจากรีสอร์ทแล้วเลี้ยวขวาไปไม่ไกลก็ถึงแล้ว ด้านบนจุดชมวิวจะสามารถมองเห็นอ่าวทั้งสามอ่าว ได้แก่ กะตะน้อย กะตะใหญ่ และกะรน
เอาทุเรียนบ้านที่ซื้อมาตอนเข้าร้านหมี่สะปำมานั่งกินกันที่ด้วย นั่งฉีกกินกันข้างล่างใกล้ๆถังขยะ นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินผ่านมองแล้วอมยิ้มตามกันเป็นแถวเลย อยากกินล่ะสิ ฮ่าๆๆๆ ซื้อมากิโลกรัมละ 50 บาท จริงๆก็เคยเห็น โลละ 30 40 ก็มีนะ ทุเรียนบ้านหวานหน่อยๆ มันจัด หอมกลางๆ เมล็ดค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ฟินนะจ๊ะ ^^
5. The Feelsion Café
มื้อค่ำของวันแรกมาฝากท้องไว้ที่ “The Feelsion Café” เรียกเป็นภาษาไทยว่า เดอะฟีลฉัน เป็นคาเฟ่สวยเก๋ มีการผสมผสานลูกเล่นต่างๆเอาไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว มีหน้าร้านที่ดูเหมือนโครงเหล็กใหญ่ๆแบบนี้
ภายในตกแต่งได้อย่างสวยงาม มีหลายมุมให้เลือกนั่งหรือเลือกเดินถ่ายรูปกันได้อย่างอิสระ แต่ละมุมก็จะมีเสน่ห์มีเอกลักษณ์มีความน่าค้นหาเอาไว้ทุกๆมุมเลยล่ะ
ห้องน้ำก็เก๋ชะมัดเลย ตอนแรกงงว่าทำไมในห้องน้ำไม่มีไฟ มองหาสวิตช์ไฟตั้งนาน แต่พอปิดประตูไฟก็เปิดขึ้นมาอัตโนมัติ ^^"
เมนูของร้านจะเป็นอาหารคาวที่มีหลากหลายโดยเฉพาะที่ห้ามพลาดเลยคือ เมนูฟิวชั่น ที่มีการนำเอาอาหารอีสานมาผสมกันกับอาหารญี่ปุ่น ฟังดูไม่ค่อยคุ้นหูสักเท่าไหร่แต่จะบอกว่า หน้าตาดีรสชาติเด็ด นอกจากนี้ยังมีเมนูของหวาน ไอศกรีม และเครื่องดื่มต่างๆอีกมากมาย
สุวรรณรัญจวน เมนูเครื่องดื่มชื่อเพราะๆหวานๆ เข้ากับหน้าตามาก นมปั่นผสมกับฝอยทองมีท็อปปิ้งเป็นวิปครีมและฝอยทองรสชาติหวานมันเข้มข้นอร่อย
น้ำผึ้งพระจันทร์ ชื่อเมนูชวนฝัน ดูสีสันน่ารับประทานสุด เป็นบลูพาราไดซ์ โซดา มีท็อปปิ้งเป็นไอศกรีมส้ม เชอร์เบท
Control Your Passion เป็นเมนูใหม่ของร้าน ที่ให้สามารถเทผสมรสชาติได้ตามต้องการ เมนูของสายแอลแนวหวาน
Sugar Lime Blue หน้าตาหวานๆแต่เหมาะกับสายแอลนะจ๊ะ ท็อปปิ้งเป็นไอศกรีมโยเกิร์ต
ส้มตำทอดกุ้งเทมปุระ ตอนแรกนึกไม่ออกเลยว่าญี่ปุ่นกับอีสานมันจะเข้ากันได้ยังไง แต่พอเห็นเมนูนี้เท่านั้นแหละ อ๋อ..เข้าใจแล้ว ^^ อร่อยเด็ดจริง
แซ่บแห้งเนื้อเปื่อย ใครชอบทานเนื้อห้ามพลาดเมนูนี้นะคะ แฟนบอกว่าอร่อยมาก แซ่บถึงเครื่องจริง เนื้อเปื่อยก็นุ่ม
ข้าวปั้นสาหร่ายลาบหมู โดยส่วนตัวคิดว่าลาบหมูน่าจะใส่มาเยอะกว่านี้มีน้ำยำราดให้ได้รสชาติมากกว่านี้อีกหน่อย หรือไม่ก็เป็นโชยุให้จิ้มข้าวปั้นไปเลย แต่โดยรวมก็ยังอร่อยใช้ได้ เหมาะกับคนที่ชอบทานรสกลางๆ
ชุดหมูย่างฟีลฉัน เมนูเด็ดของร้านที่อร่อยลงตัวทุกอย่างจริงๆ จานที่ใช้เสิร์ฟเป็นเขียงไม้ อย่างเท่อะ ภายในนั้นประกอบไปด้วย ข้าวปั้นทอด หมูย่างแบบ medium rare น้ำจิ้มแจ่ว และส้มตำรสแซ่บ
สรุปรวมเอาเป็นว่าร้านนี้ดี สวย เก๋ อาหารหน้าตาดีรสชาติอร่อย มีเพลงเพราะๆให้ฟังด้วย
ช่วงค่ำเวลาประมาณ 6 โมงเย็น จะมีศิลปินมาบรรเลงเปียโนเพราะๆซึ้งๆให้ฟัง และตั้งแต่ 1 ทุ่มเป็นต้นไป จะมีดนตรีสดเล่นให้ฟังกันด้วยนะจ๊ะ
ที่อยู่ : 445/1 ถนน ภูเก็ต ตำบล ตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83000
เวลา : 10.00 - 24.00 น.
โทรศัพท์ : 088-242-9646
Facebook : https://facebook.com/thefeelsioncafe
กลับมาที่รีสอร์ท ขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าเพื่อไปแลก Welcome drink ค่ะ ด้านบนนี้จะเปิดตั้งแต่ 5 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน สามารถขึ้นมาชมพระอาทิตย์ตกสวยๆด้วยนะ แอมขึ้นมาซะมืดเลย แต่ได้เจอบรรยากาศโรแมนติกมาก
ตื่นเช้าลงมาทานอาหารที่ ห้องอาหารหรอยดี กันค่ะ เป็นบุฟเฟ่ต์ที่มีอาหารเยอะแยะเต็มไปหมด มีตั้งแต่ชากาแฟโบราณ ก๋วยเตี๋ยว แฮม ไข่ดาว ขนมปังต่างๆ เครื่องดื่มอีกมากมาย ผลไม้สดก็มี น้ำส้มคั้นเองได้ด้วยนะ กาแฟแบบเครื่องอัตโนมัติก็สั่งได้ ทานกันไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียว รสชาติก็อร่อยซะด้วยสิ
ภายในห้องมีที่นั่งให้เลือกนั่งเยอะ แต่ที่เป็นไฮไลท์ก็คือด้านนอกที่สามารถชมวิวทะเลไปด้วยได้นี่แหละ
6. หาดป่าตอง
มาเดินเล่นกันที่หาดป่าตอง แดดยิ่งร้อนก็ยิ่งถ่ายรูปสวย หาดแห่งนี้ยังคึกคักเหมือนเคยมีนักท่องเที่ยวอยู่เต็มเลย เครื่องเล่นต่างๆก็มีไว้ให้เช่าเล่นได้อย่างเต็มที่ หรือจะมาเดินเล่นชิลๆนั่งถ่ายรูปสวยๆก็ได้นะ
7. Sweet Talk - Ciao Bistro & Coffee Talk
จากนั้นไปต่อกันที่หาดกะรน แต่ไม่ได้เดินเล่นที่ชายหาดนะคะ เพราะมาหาอะไรอร่อยๆทานกัน แวะที่เดียว แต่เข้าได้ถึง 3 ร้าน ได้ทั้งอาหารคาว เครื่องดื่ม และเบเกอรี่ โดยทั้ง 3 ร้านอยู่ภายในพื้นที่ด้านหลังของ ถาวร ปาล์ม บีช รีสอร์ท ริมถนนกะรน ข้ามถนไปก็เป็นหาดกะรนนั่นเองค่ะ 1. Sweet Talk เป็นคาเฟ่ หรือร้านเบเกอรี่ที่เน้นของหวานให้ได้ละเลียดในห้องแอร์เย็นๆฟินๆกันได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำ มีทั้งไอศกรีม จะใส่โคนใหญ่ๆหรือแบบถ้วยก็ได้ มีให้เลือกหลายรสชาติ หรือจะเป็นบิงซูเย็นๆรสชาติต่างๆก็ขายดี หรือเบเกอรี่เมนูอื่นๆ เช่น โทสต์ บราวนี่ ช็อกโกแลตลาวา ก็อร่อยไม่แพ้ที่ไหนเลย
โคนใหญ่ๆแบบนี้ กินคนเดียวแทบไม่หมด ใส่ได้มากสุดถึง 3 ลูกใหญ่
ฮันนี่โทสต์ ละมุนดี หวานมันกลมกล่อม
บิงซูสตรอว์เบอร์รี ถ้วยใหญ่เย็นๆฟินๆ
2. Coffee Talk ให้บริการทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็น ชา กาแฟ น้ำผลไม้ มีหมด เรียกได้ว่าจะคอไหนก็มาดื่มร้านนี้ได้ (ยกเว้นสายแอลนะจ๊ะ) นั่งชิลกันได้ยาวๆ ที่สำคัญกาแฟของร้านนี้หอมและเป็นวัตถุดิบชั้นดี ห้ามพลาดนะ
กาแฟชั้นดี หลากหลายสายพันธุ์
Choccolate Cube เก๋ตรงที่ก้อนน้ำแข็งนั่นคื
กาแฟร้อน มีการตกแต่งฟองนมเป็นหน้าต่
Green tea Latte หอมชาเขียวดีมาก เข้มข้นกลมกล่อมกำลังดี / Mixed Berries Smoothies หวานอมเปรี้ยว อร่อยเว่อวังจริงๆแก้วนี้ / Blueberry Lavender Iced Tea หอม หวามเบาๆ ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น / Pineapple Mint หอมกลิ่นมิ้นท์นิดๆ ผสมกับน้ำสับปะรดรสชาติหวาน
3. Ciao Bistro Ciao อ่านว่า เชา เป็นภาษาอิตาลี ใช้เป็นคำทักทายแบบกันเอง ให้บริการอาหารแบบฝรั่งๆค่ะ พิซซ่า สปาเก็ตตี้ เป็นต้น รสชาติอาหารจะถึงเครื่อง ออกรสออกชาติกว่าทั่วๆไป พูดง่ายๆคือถูกปากทั้งคนไทยและฝรั่งเลยล่ะค่ะ
Pizza for two ถาดใหญ่ๆมีหลายหน้าอยู่ในถา
Zuppa Di Pesce เป็นเฟสตูชินี่ หรือพาสต้าเส้นแบนผัดซอสมะเ
Ciao เป็นเมนูที่ใช้ชื่อเดียวกัน
Braciola Di Maiale สเต็กพอร์คช็อป (เนื้อหมูสันติดกระดูก) ราดด้วยซอสเพสโต้ หรือซอสโหระพานั่นเอง เสิร์ฟพร้อมกับสลัดผัก และเฟรนช์ฟรายส์
ที่อยู่ : 311 ถ.ปฏัก ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต 83100
เวลา : 09.00 – 22.00 น.
Facebook : https://facebook.com/sweettalkphuket และ https://facebook.com/ciaobistrophuket
8. หาดยะนุ้ย
จากนั้นไปยัง “หาดยะนุ้ย” ตั้งใจว่าจะชมพระอาทิตย์ตกและเล่นน้ำทะเลกันที่นี่ หาดยะนุ้ยเป็นหาดเล็กๆที่อยู่ไม่ไกลจากแหลมพรหมเทพ จึงสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงามไม่แพ้กัน
นักท่องเที่ยวมานั่งชมวิวนั่งเล่นเดินเล่นกันเยอะเลยล่ะค่ะ บ้างก็มาถ่ายพรีเวดดิ้ง มาถ่ายรูปชุดครุย บ้างก็เดินขึ้นเขาเล็กๆตรงทางด้านซ้ายนู่น บ้างก็เดินขึ้นไปบนโขดหินฝั่งขวา นับว่าเป็นหาดเล็กๆที่มีความงดงามและน่ามาเยือนเป็นอย่างยิ่ง
9. วัดไชยธาราราม (วัดฉลอง)
เช้าวันที่สาม หลังจากเช็คเอ๊าท์เที่ยงๆแล้ว มุ่งหน้าไปทางวัดฉลองกันต่อค่ะ แวะทานข้าวแกงใต้ริมทาง แล้วก็เข้าวัดไชยธาราราม หรือวัดฉลองนั่นเอง เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองที่มีชื่อเสียงของภูเก็ต มานมัสการหลวงพ่อแช่ม แห่งวัดฉลอง เพื่อเป็นสิริมงคล ที่นี่มีความงดงามและมีจุดเด่นดึงดูนักท่องเที่ยวอยู่ตรงที่ พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมี ประกาศเป็นที่ประดิษฐสถานของ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่นำมาจากศรีลังกา
ที่อยู่ : หมู่ที่ 6 ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต 83000
โทรศัพท์ : 076-381226
10. น้ำตกโตนไทร
เพิ่งรู้ว่าที่ภูเก็ตก็มีน้ำตกด้วย จึงขับรถไปเที่ยวชมยัง “น้ำตกโตนไทร” บริเวณน้ำตกเป็นสวนรุกขชาติ ร่มรื่น เป็นน้ำตก ขนาดเล็ก น้ำจะไหลแรงอยู่ในฤดูฝน อุทยานน้ำตกแห่งชาติโตนไทร อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาพระแถว
ในวนอุทยานมีป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ต้นไม้เหล่านี้มีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี บรรยากาศดีสุดๆไปเลยค่ะ ไม่เสียค่าเข้าด้วยนะคะ
ที่อยู่: ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต 83110
11. Three Monkeys Restaurant
ช่วงค่ำก่อนกลับ มาทานอาหารเย็นเบาๆกันที่ “Three Monkeys Restaurant” คาเฟ่สุดหรูอยู่ในป่า บอกได้คำเดียวว่า ต้องมา! สวยมาก ร่มรื่นมาก ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย บรรยากาศเหมือนอยู่ในป่าจริงๆเพราะมีต้นไม้น้อยใหญรายล้อมดูชะอุ่มไปทั่วรอบด้าน มีดีไซน์เก๋ๆที่แปลกตาและดึงดูดเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อเดินขึ้นไปด้านบน ถึงกับร้องว้าวเลยค่ะ ตะลึงกับความงดงามของการดีไซน์รูปทรงร้าน ซึ่งดูเข้ากับบรรยากาศธรรมชาติที่รายลอบ
มีโซนต่างๆทั้ง ด้านบน ด้านล่าง ด้านหลัง มีที่นั่งมากมาย แต่ละมุมก็มีบรรยากาศดีๆที่แตกต่างกันออกไป
ตอนนี้ทางร้านกำลังต่อเติมพื้นที่บางส่วนเพิ่ม จะมีมุมที่สามารถชมวิวเมืองได้แบบกว้างๆ
มีดนตรีเพราะๆคอยบรรเลงให้ฟัง สุนทรีย์สุด นักร้องร้องสดไพเราะมากจริงๆ ถึงกับต้องแอบฮำเพลงแล้วโยกตัวเบาๆตามทุกเพลง
อาหารคาวหวาน เครื่องดื่ม ครบค่ะ สำหรับที่นี่ เท่าที่ได้ลิ้มรสไปกับเมนูเบาๆนั้น อร่อยไม่น้อยเลย จานใหญ่ คุณภาพดี
ตำวานร ส้มตำเครื่องแน่น มีทั้งเส้นมะละกอ หัวปลี มะเขือเปราะ เห็ดหูหนู ถั่วฝักยาว ถั่วลิสงคั่ว ใส่กะปิหน่อยๆ รสชาติเข้มข้นแซ่บถึงเครื่องจริงๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับผักสดๆให้ได้ทานควบคู่กันไป
ไก่ย่างวานร เป็นไก่หมักเครื่องเทศสูตรพิเศษของร้าน ได้กลิ่นหอมจากการย่าง เนื้อไก่นุ่ม ทานคู่กับน้ำจิ้มที่เสิร์ฟมาพร้อมกันยิ่งอร่อยเข้มข้นมาก ในจานยังมีสลัดผักสดๆมาให้ทานควบคู่กันไปอีกด้วย
มาที่นี่รู้สึกฟิน รู้สึกอิ่มเอมกับบรรยากาศดีๆมีดวงไฟอยู่ทั่ว เสียงเพลงเพราะๆอาหารอร่อยๆ เป็นการปิดท้ายทริปด้วยความสุขจริงๆค่ะ
ที่อยู่ : หมู่ที่ 4 105 ถนนเหมืองเจ้าฟ้า ตำบล วิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83000
เวลา : 08.00 - 22.00 น.
โทรศัพท์ : 098-010-8838
Facebook : https://web.facebook.com/threemonkeysphuket
GowithAmp
วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 20.25 น.