ใครที่ติดตามเพจเราอยู่แล้ว จะรู้ว่าเราสองคนไปเกาะช้างกันบ่อยมากกก พอ ๆ กับพัทยาเลยแหละ555 ก็เพราะที่นี่ทะเลสวย แถมยังเดินทางง่าย บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับการมาพักผ่อนที่แท้ทรู มากี่ครั้งก็ไม่เบื่อเลย
รอบนี้เรามาพักกันที่ KC Grande Resort & Spa เป็นที่พักที่ตั้งอยู่ริมหาดทรายขาว ซึ่งเป็นหาดที่เงียบสงบและสามารถลงเล่นน้ำได้แบบไม่ติดโขดหินแบบหาดอื่น ๆ
ขอพูดถึง Hillside กันก่อนดีกว่า ห้องพักจากฝั่งนี้จะเน้นความเงียบสงบ จุดเด่นที่สระว่ายน้ำที่มีสไลเดอร์และสระว่ายน้ำบน Roof Top (เสียดายที่ช่วงที่พวกเราไปเขาปิดปรับปรุงพอดี เลยเก็บภาพมาให้เพื่อน ๆ ดูได้แค่ส่วนหนึ่งก่อนน้า)
มุมนี้ถ่ายจากฝั่ง Hillside สังเกตได้ว่าระยะทางไม่ห่างกันเยอะ สามารถเดินข้ามถนนไปได้เลย
บริเวณล็อบบี้ค่า สำหรับใครที่พัก Hillside ก็จะเช็คอินที่ฝั่งนี้
ห้องพักโซนนี้เขามีสไลเดอร์และสระว่ายน้ำอยู่ตรงหน้าเลยค่ะ จะพุ่งลงน้ำเมื่อไหร่ก็ได้555
สำหรับคนที่ชอบวิวภูเขา หรือมาเป็นคู่รัก ไม่ต้องการห้องใหญ่มาก แนะนำ Hillside เลยค่ะ
มาต่อกันที่ฝั่ง Seaside กันบ้าง ฝั่งนี้เป็นฝั่งที่พวกเราเลือกพัก เพราะเราสองคนชอบเสียงคลื่น ลมทะเลเป็นที่สุดเลย
พวกเราเข้าเช็คอินตอน 13.00 น. (หลังจากที่ลงเรือและขับรถจากท่าเรือมาประมาณ 10 นาที)
โชคดีมากที่ฝนไม่ตก เช็คอินเสร็จก็ตระเวนถ่ายรูปกันก่อนเลยค่ะ
ห้องพักของเราในทริปนี้ คือ Paradise Beachfront Villa
เป็นห้องพักติดริมหาด ขนาด 60 ตารางเมตร มีที่นั่งพักด้านหน้าติดริมหาด เตียงควีนไซต์
ห้องน้ำสวยมากกกก แบ่งเป็นห้องอาบน้ำ ห้องน้ำ และตั้งอ่างอาบน้ำไว้ตรงกลาง เพื่อให้มองวิวด้านนอกได้ ตอบโจทย์คนที่ชอบความเป็นส่วนตัวสุด ๆ
นอกจากห้องประเภทนี้แล้วยังมีห้องประเภทอื่นอีกกว่า 9 Type ให้เลือก เพื่อน ๆ สามารถเข้าดูรูปได้ที่ลิ้งค์นี้เลยค่ะ : http://www.kckohchang.com/rooms-suites.html
มาพูดถึงพื้นที่ส่วนกลางกันบ้าง สำหรับที่นี่สิ่งที่เฟิร์นคิดว่าแปลกและโดดเด่นกว่าที่อื่น คือการมีสระว่ายน้ำถึง 4 สระ! ทั้งสระใหญ่ติดริมหาด , สระว่ายน้ำเล็ก , สระว่ายน้ำพร้อมสไลเดอร์และสระว่ายน้ำบน Rooftop (มีใครให้มากกว่านี้มั้ยคะ 5555
สำหรับในฝั่งของ Seaside ที่เราสองคนพัก จะเป็นสระว่ายน้ำสระใหญ่ติดริมหาด
(บริเวณสระใหญ่ ที่เฟิร์นยืนอยู่ในภาพนี้ก็จะมีสระเด็ก อยู่ทางด้านขวามือด้วยนะคะ )
วิวดีมากกกกก และยังมี Pool Bar ให้บริการด้วยค่ะ
ส่วนภาพด้านล่าง คือ สระว่ายน้ำเล็ก อยู่ในโซนของห้องพักเลย เป็นทางผ่านจากส่วนกลางมายังห้องพักของเฟิร์นเองค่ะ ^^
นอกจากนั้นยังมี Activity อีกเยอะแยะเต็มไปหมด ทั้ง ฟิตเนส สปา ซาวน์น่าและ Kids Club เรียกได้ว่าตลอดการเข้าพักที่นี่ มีอะไรให้ทำไม่เบื่อเลย
ดินเนอร์คืนแรกเรามาทานอาหารกันที่ The Beach Restaurant (ห้องอาหารของโรงแรม) บริการทั้งอาหารไทยและต่างชาติให้เลือก ใต้แสงเทียนสุดโรแมนติก
สำหรับเมนูอาหารในวันนี้ของพวกเราเป็น International Food ที่เชฟ Recommend มาว่าต้องทาน! ทั้ง Magarita Pizza (พิซซ่าหน้ามะเขือเทศและมอสซาเลร่าชีส , Greek Salad , ซุปครีมเห็ด , ปลากะพงย่างเสิร์ฟพร้อมซอสครีมมะนาว , Braise Lamb Shank ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่ม Cocktail กันซะหน่อย บรรยากาศดีขนาดนี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าฟินขนาดไหน
Day 2
เช้าวันที่ 2 วันนี้ตื่นเช้ากันหน่อย เพราะเรามีทริปไปดำน้ำกันถึง 4 เกาะ! รีบมาทานข้าวเช้ากันก่อนที่ The Beach Restaurant
อาหารเช้าของที่นี่เป็นเมนูนานาชาติ มีให้เลือกเยอะมากกกก ทั้งขนมปัง ชีส พาสต้า ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว ซีเรียล สลัด อาหารไทยอย่างแกง ข้าวผัดและเครื่องดื่มอีกหลายเมนู
ห้องอาหารนี้จะเปิดบริการตั้งแต่ 6.00-10.30 น. บรรยากาศห้องอาหารจะติดริมทะเล อากาศดี ลมโกรกสบาย
ชาร์จพลังกันเสร็จแล้ว รถของทัวร์ดำน้ำก็มารับเราถึงหน้าโรงแรมกันเลยค่ะ
ทริปดำน้ำของพวกเราวันนี้เป็นทริป 4 เกาะครึ่งวัน 10.00 – 15.00 น. พวกเราเลือกใช้บริการทัวร์ดำน้ำ ของ Sea Hunter (เป็นเจ้าประจำที่มากี่ครั้งก็ต้องเจ้านี้) ออกเดินทางจากชุมชนบางเบ้า ไปจนถึงเกาะหวาย ไล่ไปยัง เกาะคลุ้ม,เกาะเหลายาและเกาะสุดท้ายที่เกาะง้าม เรียกได้ว่าดำน้ำกันแบบจุใจให้หายอยาก
สำหรับใครที่ยังไม่เคยดำน้ำที่เกาะช้าง จะเล่าให้ฟังแบบคร่าว ๆ น้า บริเวณที่ทัวร์จะมาปล่อยให้ดำน้ำ มีความสูงประมาณ 5-6 เมตร และใกล้ชิดปะการังมาก ๆ ไม่ควรเหยียบหรือโดนพวกเขา เพราะอาจตายได้น้า สำหรับเฟิร์นคือดำน้ำที่นี่ดีอีกอย่าง เพราะใกล้ปลามาก ๆ แบบว่ายผ่านตัวเลย สำหรับใครที่ดำน้ำครั้งแรก หรือไม่ได้ดำอึดขนาดนั้น แนะนำเป็นทัวร์ครึ่งวัน ก็พอนะคะ ถ้านานกว่านี้ตัวจะเปื่อยเอา5555 ราคาทัวร์ดำน้ำครึ่งวันโดยประมาณอยู่ที่ 600 บาท/คน รวมอาหารกลางวัน เครื่องดื่มและผลไม้แบบบุฟเฟ่ต์ (คุ้มเลยน้าา)
(เนี่ย กินได้แบบไม่อั้น อาหารเยอะมาก กินอิ่มกันทุกคนแน่นอนค่ะ)
มีบริการถ่ายรูปให้ด้วยน้าา และสำหรับใครที่ว่ายน้ำไม่เป็น ก็จะมีทีมงานคอยประกบ บอกเลยว่าประทับใจทุกครั้งที่มากับ Sea Hunter ค่ะ
และทริปดำน้ำวันนี้ของพวกเราจบลงที่ช่วงบ่าย 3 กลับที่พักเตรียมตัวทานอาหารเย็นกัน
ดินเนอร์วันนี้เราขอออกนอกโรงแรมกันบ้าง บุกร้านอาหารที่ได้ยินมาว่าเป็น Hidden Place แห่งหนึ่งในเกาะช้างกันเลย นั่นก็คือ Good View Restaurant นั่นเอง
ที่นี่เป็นร้านอาหารทะเลและพื้นบ้าน ที่มีทั้งร้านอาหารและรีสอร์ทในตัว จุดเด่นคือบรรยากาศธรรมชาติ ติดทะเลแบบนี้ มาที่นี่จะได้ทั้งวิวทะเลและภูเขา แถมยังมีสะพานทอดยาวออกไป ให้ถ่ายรูปกันสวย ๆ
อาหารแนะนำของเขาที่อยากให้ลอง คือ อาหารพื้นเมืองตราด รสชาติจะติดหวานนิด ๆ แต่ยังคงความแซ่บอยู่น้าา ไม่ว่าจะเป็น ห่อหมกทะเล , แกงคั่วหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์สัปปะรด , หลนกุ้งสดเนื้อปู , แกงคั่วไก่หน่อไม้สัปปะรด และแกงหมูใบชะมวง (เมนูโปรดของใครหลาย ๆ คน)
สำหรับใครที่ชอบฟิน ๆ อินกับธรรมชาติแนะนำที่นี่เลย จะนอนพักที่นี่หรือจะแวะมาทานอาหารก็ดีค่ะ
Day 3
ก่อนกลับวันนี้ เราขอแวะมาเก็บภาพบรรยากาศริมหาดกันอีกซะหน่อย อย่างที่บอกไปด้านบนว่าที่พื้นที่กว้างมาก ๆ และถูกแบ่งเป็น 2 โซน
ที่นี่จึงตอบโจทย์ลูกค้าไม่ว่าจะอยากพักผ่อนแบบไพรเวท หรือมากันเป็นครอบครัวใหญ่
ส่วนเรื่องอาหารการกินก็ไม่ต้องห่วง ที่นี่มีให้บริการกันถึง 3 ห้องอาหาร กับหลากหลายเมนูนานาชาติ เรียกได้ว่ามาที่เดียวจบ ครบ ฟินแบบนี้เลย
และนี่คือเหตุผลในการมามาเกาะช้าง Green Season รอบนี้ของพวกเรา ฟินไม่รู้ลืมเลยแหละ อยากให้เพื่อน ๆ มาตามรอย ทั้งที่พักและกิจกรรม 3 วัน 2 คืน หวังว่าทุกคนจะชอบน้าา ส่วนใครที่ชอบมาทะเลแบบพวกเราสองคน รีบเคลียร์คิวให้ว่างแล้วมาเลยค่ะ ใครว่ามาทะเลช่วงนี้ไม่ฟิน นี่เถียงขาดใจ อยากให้มาสัมผัสด้วยตัวเองจริง ๆ #แท็กแฟน #อ้อนแฟน #พาไปหน่อย #KCGrandeKohchang #kckohchang #SeaHunter #เกาะช้าง #ดำน้ำเกาะช้าง
การเดินทาง
ขับรถจากกรุงเทพ ไปตราด ใช้เวลาโดยประมาณ 4-5 ชม.
ขึ้นเรือที่ท่าเรือเซ็นเตอร์พ้อยท์หรือท่าเรืออ่าวธรรมชาติ ได้ตั้งแต่เวลา 6.30 – 17.00 น. (เรือออกทุกครึ่งชม.) ค่าโดยสาร 80 บาทต่อคน รถคันละ 120 บาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับห้องพักที่ได้ที่ KC Grande Kohchang
สนใจทัวร์ดำน้ำ ครึ่งวัน 4 เกาะ ติดต่อ Sea Hunter
Papainhoi Couple
วันพฤหัสที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 22.32 น.