สวัสดีจ้านี่เป็นกระทู้แรกเลย จริงๆเคยตั้งใจจะเขียนหลายครั้งละแต่ก็ไม่ชนะความขี้เกียจได้สักที คราวนี้แหละที่จะได้เขียนสักที

ทริปนี้เราเดินทางในวันที่ 16-18 มีนาคม 2559 เราไปประจวบคีรีขันธ์ ตั้งใจว่าจะไปขึ้นเขาล้อมหมวกแต่ปรากฏว่าปิดจ้า ก่อนไปควรศึกษาดีๆนะ ตอนแรกเราดูรีวิวก็ไม่เห็นว่าจะมีแจ้งแต่เมื่อไปถึงพี่เจ้าหน้าที่บอกว่าเนื่องจากมีคนไปเป็นจำนวนมาก จนเมื่อเดือนกันยา 2558ได้ปิดไปแล้วเปิดใหม่ตอนต้นปี แต่จะเปิดให้เฉพาะวันหยุดยาว

คราวนี้มาดูกันว่าเราจะแก้ไขปัญหานี้ยังไง

นี่เอาแผนที่เมืองประจวบไป เป็นเมืองเล็กๆ ชิคชิค คนน้อย เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนสุดๆ


เราเริ่มเดินทางด้วยรถไฟฟรี ขึ้นที่สถานีรถไฟธนบุรี รอบ 7.30 น.

ก่อนขึ้นรถไฟก็ทานอาหารเช้ากันตรงข้ามสถานีรถไฟมีตลาด

นี่คือเพื่อนร่วมทริปของเรา สอบมิดเทอมเสร็จก็ขอเที่ยวหน่อยยยยย

นั่งมา นอนมา หลับมา ก็หิวเลยตื่นเจอนี่ ก๋วยเตี๋ยวราชบุรี อร่อยดี กล่องละ10 บาทเอง จัดไปเลย 2 กล่อง

ผ่านไป..... 7ชั่วโมง ถึงสักที ปวดตูดมากกกกกกกก หลับแล้วหลับอีกกว่าจะถึง

เดินกันไปเลยจ้าออกจากสถานีรถไฟไปที่พักกัน สามารถเดินไปได้เลย ออกจากสถานีแล้วเดินตรงไปเลย ที่พักอยู่ขวามือชื่อ ยุติชัย

ตัวอาคารอาจจะเก่าแต่ข้างในมีการรีโนเวทใหม่ น่านอนมากกกกกกก

ถูกมาก เรานอน 3คน 1 ห้อง 650บาทเท่านั้น ห้องแอร์นะจ้ะ เข้าไปดูในห้องกัน

อยากบอกว่าแนะนำที่นี่เป็นอย่างมาก เตียงนอนสบายเหมือนอยู่บ้านเลย

เราก็อาบน้ำวางของแล้วเดินออกไปเช่ารถจักรยานมาปั่นชิคชิค

ได้มาละจักรยาน คันละ50บาท 24 ชม. เดินตรงมาจากที่พักเรื่อยๆเลย จนถึงถนนหน้าหาดแล้วเลี้ยวขวา ถ้างงเลื่อขึ้นไปดูแผนที่ได้นะ อ่อลืมบอกไป ของทางที่พักก็มีจักรยานให้นะแต่พอดีมันหมดเราเลยต้องออกไปหากันเอง

มองไปไกลๆเห็นวัดเขาช่องกระจก เด่วจะพาไปปปปปป

ปั่นมาเรื่อยๆไม่นานก็ถึง ที่นี่รถน้อย และขับน่ารักมาก เราปั่นข้ามสี่แยก รถยนต์เห็นเขาหยุดให้พวกเราไปก่อนเลย แล้วเป็นแบบนี้ทุกคันด้วย น่ารักมากกกกก

มาถึงเราจะเจอคุณป้านั่งขายอาหารลิง แต่เราไม่ได้ซื้อเพราะลิงโหดมากกกก แบบเราเห็นมีคนมาให้อาหารลิงแล้วคือลิงจากทั่วสารทิศก็เข้าไปที่คนนั้น แล้วคือลิงเยอะมาก พอไปกองที่คนนั้นเราเลยขึ้นกันสบาย

แอบเห็นเจ้าจ๋อหลับ บอกก่อนเลยนะก่อนขึ้นไปควรเก็บทุกอย่างไว้ในกระเป๋า ขนาดเราสะพายกล้องยังจะเอาเลย 555

มันจับมือกัน น่าร้ากกกกกกกกกกกกก

ขึ้นไปเรื่อยๆเราจะเจอเจ้าจ๋อตลอดทาง

ถึงละ เหนื่อยพอตัว ลมพัดเย็นสบาย เราตั้งใจจะขึ้นมาดูพระอาทิตย์ตก แต่วันนี้ฟ้าหม่นๆ ไม่ค่อยสวย อ่อ ที่นี่พระอาทิตย์ไม่ตกทางทะเล แต่ตกอีกฝั่ง

พอหายเหนื่อยเราลง เราเลยปั่นกันทั่วเลย ปั่นเลียบทะเลไป มีเลนสำหรับจักรยานด้วยนะ แต่ รถยนต์จอด เราเลยขึ้นไปปั่นบนฟุตบาทปลอดภัยดี แล้วเราก็จะแวะไปดูที่กองบินก่อนที่จะขึ้นเขาล้อมหมวกในวันพรุ่งนี้ แต่ ก็ได้ทราบว่า ปิดดดดด ห้ะอะไรนะปิด ตั้งใจจะมาขึ้นเลย เสียใจหนัก นั่งพักริมทะเล ถ่ายรูปเล่นซะเลย แล้วก็ไปหาอะไรกินที่ตลาดโต้รุ่งใกล้ๆโรงแรม แล้วกลับไปนอนเล่น

สักสองทุ่มก็ออกมา ไปนั่งจิบเบียร์ริมทะเลชิวที่โรมซีฟู้ด ที่นี่มีทั้งอาหารทั้งเบียร์ ที่สำคัญคือนั่งริมทะเลจ้าบนฟุตบาทเลย

แล้วเราก็นั่งปรึกษาเรื่องเปลี่ยนแผนเที่ยว

สักสามทุ่มคนน้อยมาก ตั้งแต่มาที่นี่มีแต่ฝรั่งสูงอายุมาพักผ่อน แล้วก็คนท้องถิ่น เลยรูสึกว่า ชิคดีอ่า คนน้อย บรรยากาศดี ของถูกมากกกกกก คนนิสัยดี แล้วเราก็กลับที่พักนอนกัน ที่พักของเราเขาจะปิดประตูเวลา 24.00 น. แต่ถ้ากลับไม่ทันสามารถโทรเรียกได้คุณลุงชอบนั่งเล่นเกมดึกๆ เบอร์โทร.มีให้ข้างล่างนะ

ตื่นมาสายละ ก็กินขนมกับกาแฟที่ที่พักมีไว้ให้บนห้อง

แล้วก็ออกเอาจักรยานไปคืน แล้วเปลี่ยนเป็นเช่ามอไซค์แทน มอไซค์เช่าคนละ 200 บาท/วัน(24ชม.) แต่เราเอา2คันเลยต่อเหลือคันละ 180 บาท

เราขับไปถ้ำพระยานครซึ่งอยู่ปราณบุรี เราขับกันไประยะทางประมาณ 65กิโลเมตร ไปตามถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพ แล้วตัดเข้ากุยบุรีเพราะ ถนนใหญ่รถบรรทุกเยอะ ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ เราขับเลียบทะเลไปเรื่อยๆ

ก็ถึงอุทยานเขาสามร้อยยอดแวะพักที่อุทยานแล้วเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ เขาแนะนำดีมาก บอกรายละเอียดทุกอย่าง

เราขับต่อไปจนถึงทางขึ้นจ่ายค่าเข้าอุทยานคนละ40 บาท ที่นี่มีวิธีไป 2 ทาง คือ

1.เดินข้ามเขาไป 2 ลูก ระยะทางรวมประมาณเกือบๆ 2 กิโลเมตร

2.นั่งเรืออ้อมเขาไป1ลูกแล้วเดินต่อไปอีก 430 เมตร

เราเลือกที่จะนั่งเรือไปเพราะกลัวจะไปไม่ทันแสง ส่องที่ถ้ำพระยานคร ควรจะไปช่วงเวลา10.00-11.00 น คือช่วงเวลาที่แสงสวย เสียค่าเรือไป 400 บาท ลำนึงนั่งได้6คน แต่เราไปสามคนแล้วหาคนมาร่วมด้วย ก็เห็นพี่คนนึงมาคนเดียวเลยลองถามดูว่าจะไปมั้ย พี่เขาไปด้วยยยย พอดีเลย กลายเป็นค่าเรือเหลือคนละ 100 บาท

นี่ไงพี่เขาชื่อพี่โน้ตก็พูดคุยคร่าวๆ เราก็ทราบว่าเราเรียนพระจอมเหมือนกัน พวกเราเรียนพระนครเหนือ แต่พี่เขาเรียนบางมด เราก็เดินขึ้นไปด้วยกันตลอดจนถึงแล้วก็ถ่ายรูปกันคุยกันเหมือนสนิทกันมานาน

หูยยยยยยยยยยยยย สวย แบบอลังอ่า อยากมานานละ ดูไว้ตั้งเเต่ ม.4 ได้มาสักที ต้องขอบคุณเขาล้อมหมวกจริงๆที่ทำให้เราได้เจอกัน

เราถ่ายรูปกันนานมากกกกกก จนเมื่อรู้สึกว่าพอก็ กลับ นั่งเรือกลับมาที่เราจอดรถทิ้งไว้

เลยนั่งกินข้าวกับพี่โน้ต พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ส่งรูป แลกเฟส แลกไอจี เลยได้รู้ว่าพี่แม่งเจ๋งว่ะ พี่เที่ยวโหดมาก แล้วยังเรียนและทำงานอยู่ที่ออสเตรเลีย เป็นประเทศที่เราอยากไปมากกกกก เขาก็เล่าสิ่งที่เจอมา โอ้ยยย สมบุกสมบันมาก เราก็เล่าด้วย กลายเป็นถูกชะตากัน นั่งคุยกันซะนาน ก็จะกลับ ปรากฏ พี่โน้ตเลี้ยงงง วร้ายยยยยย เกรงใจมากกก แต่ก็นะพี่ใจดี อิอิ ทริปหน้าถ้าได้ร่วมทริปกันอีกเดี๋ยวหนูจะเลี้ยงคืนนะพี่

ทุกการพบเจอย่อมมีการลาจาก โบกมือลาแยกย้ายกัน ทางผ่านมีหมู่บ้านชาวประมง น้ำสีสวยมากตอนขับผ่านมา แต่พอขากลับสีน้ำเปลี่ยนไป

เราแวะพักรถที่กุยบุรี นั่งชิวริมทะเล และออกเดินทางต่อ

กลับมาแวะพักที่ที่พักแล้วไปขับรถเล่นชิวๆยามเย็นที่อ่าวมะนาว

ถ่ายรูปกันไปเป็นล้านนนน ไปนอนเตียงผ้าใบริมหาด ยืมกีต้าร์โต๊ะข้างๆมาเล่น เห็นเขาไม่เล่นแล้ว

พอค่ำขับรถกลับมาอ่าวประจวบไปกินจิ้มจุ่มอร่อยดี ถูกด้วย

ขับรถเล่นไปทั่วทุกอ่าว ลัดเลาะไปเรื่อยๆ ก่อนกลับที่พักแวะเซเว่นซื้อเบียร์ ไปนั่งชิวริมทะเลตรงสะพานปลา

ซันไบรท์เซเว่นห่อเล็กเหลือห่อละ1 บาท ซื้อกันมาเหมือนจะเอาไปขาย

นั่งชิวๆ ดูคนตกปลา สะพานนี้ดึกๆจะมาคนในพื้นที่มาตกปลาเป็นแถว นั่งปิกนิกกัน น่ารักดี ที่สำคัญ สว่างไม่อันตราย แล้วเราก็กลับที่พัก

เช้าวันที่สาม ตื่นมาเตรียมไปดูพระอาทิตย์ขึ้นทางทะเล

ปรากฏว่าเมฆเยอะเห็นนิดเดียวเองจ้า

ตอนเดินจะไปขึ้นรถเจอคุณป้าใจดีถามว่าจะไปไหนกันแล้วเขาก็แนะนำว่าร้านนี้เด็ด เลยขับรถกันไป

เด็ดจริงจ้า มีหมูปิ้ง ข้าวหลาม โจ๊ก เกาเหลา หมกย่าง ขนมครก คนเยอะมากกกกก

กลับที่พักมาอาบน้ำ ขับรถไปไหว้ศาลหลักเมือง

แล้วเข้ากองบิน5 ไปดูค่างแว่นเขาว่าสวย เข้ามาในกองบินต้องสวมหมวกกันน็อคและห้ามซ้อน3 และห้ามถ่ายรูปบริเวณลานบินเด็ดขาด

พ่อแม่ลูก น่ารักมากกกกก ซื้ออาหารไปให้อาหารค่างแว่นกัน เขาว่าน่ารักมากไม่เหมือนลิง ไม่แย่งจากมือ เรายื่นไปให้เมื่อไหร่จึงจะหยิบ

จริงค่ะน่ารักมากแต่ซนมากกกกกกกกก วิ่งเล่นปีนป่าย โหนต้นไม้ มั่วหมดเลยจ้า

มีค่างเด็กตัวนึง สีเหลืองทองเหมือนหงอวคง น่าร้ากมากกกกกกกรอตั้งนานกว่าจะลงมาพอคนกลับหมดก็เลยได้แชะรูป น่ารักมากกกกกกก ยืนดูตรงนั้นกันอยู่นานเลย

ขับรถเล่นจนใกล้ได้เวลากลับ ก็เอารถมาคืน เราคืนเกินมา2ชั่วโมง แต่เขาใจดีมากไม่คิดเงินเพิ่มเลย แลดูชิวๆไม่ได้ซีเรียสมาก

เมื่อเอารถมาคืนก็ได้รู้ว่าที่นี่มีบริการไปรับเมื่อมาถึงประจวบไม่ว่าจะสถานี้รถไฟหรือรถทัวร์ เขาจะไปรับเราแล้วมาส่งที่พักแล้วพอไปเช้ารถ เมื่อจะคืนรถก็ขับรถไปคืนแล้วเขาจะมาส่งที่ท่ารถหรือที่พักตามต้องการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากค่าเช่ารถเลย นี่พี่บาสพาเรามาส่งที่พัก

เรากลับรถตู้ของบารมีกรุ๊ป จะมาส่งที่สายใต้ เขาจะมารับเราถึงที่พักเลย ระหว่างรอก็ไปกินขนมหวานตรงสี่แยกใกล้ๆโรงแรม ร้านตี๋ศรอร่อยมากข้าวเหนียวสังขยา ไม่แพงด้วย ถ้วยละ15 บาท ไปสามวันบอกเลยว่ากินทุกวันบางวันกิน2รอบ ร้านจะเปิดประมาณ 5โมงเย็น ปิดก็แล้วแต่ถ้าของหมดก็ปิดก่อนไม่ก็ประมาณ 4-5ทุ่ม

แล้วก็มานั่งร้านกาแฟของที่พักรอรถตู้

นั่งเคลียเงินกันจนครบ สรุปยอดทริปนี้ 3 วัน 2คืน 1500 บาท เอาอยู่จ้า


สรุปค่าใช้จ่าย

ค่าที่พัก2คืน คนละ 434 บาท

เช่าจักรยาน 50 บาท

มอไซค์ 180บาท2คัน 360 หาร3 คนละ 120 บาท

ค่าเรือไปกลับ 400 เหมาลำ คนละ 100 บาท

ค่าอุทยาน 40 บาท

รถตู้กลับ 200 บาท

ค่าอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมด 500 บาท (ไม่นับค่าเบียร์)


ข้อมูลสำคัญ

1.โรงเเรมยุติชัย ห้องแอร์คืนละ 500 บาท(2คน) เตียงเสริมอีก 150 บาท

ห้องพัดลม 250 บาท (ห้องน้ำรวม)

เบอร์โทร.ติดต่อ 089-5009919 ,081-9443410

2.เช่ารถมอเตอร์ไซค์และจักรยานพี่ไก่พี่บาส 087-7567790

3.รถตู้บารมีกรุ๊ปจากประจวบ-สายใต้ 086-1641437


ติดตามคลิปภายหลัง

YOUTUBE : https://www.youtube.com/channel/UC9ClexAOGuHKfk2j4...

FANPAGE : https://www.facebook.com/sugarbrownz2288

INSTAGRAM : https://www.instagram.com/sugarbrownz/


Sugarbrownz

 วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 23.02 น.

ความคิดเห็น