"It doesn't matter
where you're going,
it's who you have
beside you."

B&N
02.05.15 - 15.05.15

• 2 May 15 : Bangkok เปลี่ยนเครื่อง Moscow ก่อนไป Vienna
• 3 May 15 : Vienna - Hallstatt
• 4 May 15 : Hallstatt - Cesky Krumlov
• 5 May 15 : Cesky Krumlov - Prague
• 6 May 15 : Prague
• 7 May 15 : Prague นั่งเครื่องมาลง Milan แล้วต่อรถไฟไปเมือง Reggio emilia (บ้านญาติค่า)
• 8 May 15 : One Day Trip Venice
• 9 May 15 : ช้อปปิ้ง Milan ก่อนเข้าสวิสไปพักเมืองในฝัน Lauterbrunnen
• 10 May 15 : ขึ้นเขาชมวิว Jungfraujoch
• 11 May 15 : นั่งรถไฟจาก Lauterbrunnen เข้าเมือง Zurich
• 12 May 15 : ออกจาก Zurich เข้า Austria อีกครั้งที่เมือง Innsbruck
• 13 May 15 : เข้าเมือง Vienna
• 14 May 15 : Vienna Shopping Day
• 15 May 15 : เดินทางกลับบ้าน แวะ Moscow ก่อนถึง Bangkok บ้านเราคร้า

ถึงจะเป็น Honeymoon Trip แต่ระดับเราแล้ว การหาตั๋วราคาถูกคือสิ่งสำคัญค่ะ!!

หลังเสร็จสิ้นภารกิจงานแต่งไปเรียบร้อยเมื่อ Mar 15 เราก้อเริ่มหาตั๋วอย่างจิงจัง Monitor Skyscanner อย่างจิงจังทุกวัน และแล้วบุพเพก้อให้เรามาเจอ Aeroflot กรุงเทพฯ-เวียนนา คนละ 22,xxx.- เบาๆ ลั้นล้าๆๆ

จากนั้นแพลน+วีซ่า จึงเริ่มเกิด เราไปขอวีซ่าของออสเตรียนะคะ เพราะเข้า-ออกที่นั้น และเป็นประเทศที่พักนานที่สุดของทริปด้วย โดยไปขอที่ศูนย์รับยื่นวีซ่า ตึกสืลมคอมเพล็ก ชั้น 15 ค่ะ ไม่ต้องจองคิวค่ะ Walk in ไปได้เลย แค่เตรียมเอกสารให้พร้อม Booking โรงแรมให้ครบจบเลย

สุดท้ายวีซ่า Process เร็วมากๆ เราไปยื่นวันพฤหัสบ่าย (วันศุกร์สถานทูตปิดด้วย) วันพุธถัดมาก็ได้ sms แจ้งให้มารับพาสปอร์ตแล้วค่ะ

DAY1 : ออกเดินทางจาก Bangkok ไปเปลี่ยนเครื่องที่ Moscow ค่ะ อาหารบนเครื่องของ Aeroflot ใช้ได้เลยค่ะ บริการดีตามมาตรฐานทั่วไปค่ะ

แต่คงเพราะ Moscow สภาพอากาศไม่ค่อยดี เครื่องบินวนอยู่เกือบ ชม. แถมจอทีวีบนเครื่องเร็วกว่าเวลาจริงไป 1 ชม. งานเข้าเลยที่นี่เพราะเรามีเวลาเปลี่ยนเครื่องแค่ 2 ชม.เท่านั้น!!!

พอเครื่องลงแตะรันเวย์ปุ๊ป ทั้งไทย เกาหลี รัสเซีย เตรียมหยิบของวิ่งกันเลยค่ะ เพราะที่ดูแผนที่ Terminal มา เราต้องเปลี่ยน Terminal กันด้วย อร้ากกกก!!

ตามสภาพค่ะ พอถึงจุด Transfer ที่ต้องให้ Immigration รัสเซียแสตมป์ก่อน คนเยอะมาก คิวเริ่มไม่มี แถมไม่มีเจ้าหน้าที่สนามบินมาจัดการเลยวุ่นวายกันน่าดู เจอคนไทยนิสัยแอบไม่ดีด้วย คือ พอตัวเองได้คิว ดันไม่ยอมให้คนถัดไป แต่โบกมือเรียกเพื่อนให้ลัดคิวมาเลยเพราะจะตกเครื่องแล้ว เอ่อ จะบอกว่าใครๆเค้าก้อจะตกกันทั้งนั้นแหละคุ้นนน!!

พอมาถึงหน้า Gate บรรยากาศเงียบคนบางตา เลยสงสัยว่าเราตกเครื่อง หรืออาไรกันแน่ ไปดูจอ FIDS เครื่องยังไม่ออก Gate ก้อยังไม่เปิด เหลือบดูเวลา เฮ้ยย นี่ยังไม่ถึงเวลานี่ อีกตั้ง ชม.!! หาอาไรรองท้องหล่ะกัน

มาถึง Vienna ประมาณ 3 ทุ่มนิดๆ (บ้านเราตี 2 กว่าแล้ว ตาจะปิดง่วงชะมัด ) รีบซื้อตั๋วรถบัสเข้าเมืองค่ะ คืนแรกเราพักใกล้สถานี Wien Westbahnhof เลย เพราะวันรุ่งขึ้นต้องนั่งรถไฟแต่เช้า เชคอินเสร็จ ก้อเข้าที่พักกันเลย "Do Step Inn"

DAY 2 : วันนี้ตื่นเช้าตรู่ เพราะจะนั่งรถไฟไป Hallstatt ค่ะ เมืองที่อ่านรีวิว ดูรูปเกิน 50 ครั้งแน่ๆๆๆ 555+ ขนาดว่าอ่านรีวิวมาอย่างดี ก้อมีเหตุให้พลาดเหมือนกันค่ะ โปรดติดตาม...!!!

เราจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าจากเวบ OBB ค่ะ แต่ละเที่ยวราคาไม่เท่ากันนะคะ เราเลยเลือกรอบเช้าหน่อยเพราะราคาถูกกว่ารอบสาย แถมจะได้เที่ยว Hallstatt นานขึ้นด้วย

การเดินทาง - ออกจาก Wien Westbahnhof ไปลงสถานี Steeg-Gosau ใช้เวลาเดินทาง 3.41 hrs. ราคาตั๋วคนละ 19 Euro

**ไม่แนะนำให้ลงแบบนี้นะคะ ให้ไปลงสถานี Hallstatt เลย แล้วต่อเรือค่ะ ของเราพอลงที่ Steeg-Gosau เจ้าหน้าที่สถานีงงเลย รีบมาถามว่ายูจะไปไหน ลงมาทำไม?!! จากนั้นเค้าเลยให้เรานั่งรถไฟขบวนถัดไปไปลงอีกสถานีเพื่อต่อรถบัสแทนค่ะ**

Strongly Recommended!! ครัวซองท์เนยหอมมัน ร้าน "Le Crobag" อร่อยมว้ากกกกก ทานกะกาแฟบนรถไฟ คือทิสุดค่ะ

วิวข้างทางคือดีมากกกกก

ถึงที่พักแล้ว "Gasthof Bergfried" ธุรกิจในครัวเรือน มีคุณแม่เป็น Reception คุณลูกชายสุดหล่อทำความสะอาด ห้องน่ารักมากกก หอมกลิ่นไม้สน อยากนอนทั้งวันเลยย

จากนั้นไม่รอช้า เห็นลูกทัวร์ทั้งไทยทั้งจีนเดินเต็มเมือง เลยขอหลบไปเที่ยวเหมืองเกลือรอคนซาค่ะ ตอนแรกไม่ได้ตั้งความหวังอาไรเลย แอบรุสึกเสียดายค่าตั๋วด้วยซ้ำ แต่สรุปว่าดีมาก ทำให้ได้เที่ยว Hallstatt สนุกไปอีกแบบ

ลงจากเหมืองเกลือ กรุ๊ปทัวร์เริ่มทยอยกลับกันหล่ะ ได้เวลาเดินเล่นก่อนมื้อเย็นพอดี

เคล็ดลับ..หลับสบาย Zzz

Bye Bye Hallstatt..เอาเป็นว่าเมืองน่ารัก มุ้งมิ้งตามรีวิวค่ะ แต่มันไม่ตื่นเต้นแบบที่คิดแฮะ หรือเรามีอาไรพลาดไป แต่ความชอบคนเราคงไม่เหมือนกัน สรุปว่าต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองนะ ดีที่สุด!!