เราพักที่ภูปายอาร์ทรีสอร์ท ทานอาหารเช้าเสร็จ เก็บข้าวของสัมภาระ ออกเดินทางประมาณ 9 โมง มีจุดแวะพักรายทางที่น่าสนใจ ถึงจุดชมวิวดอยกิ่วลมปางมะผ้า - แม่ฮ่องสอน (ห่างจาก อ.ปาย ประมาณ 20 กม.)
สถานีต่อไป หิวข้าวแล้ว เป้าหมายของเราก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่ ระยะทางจากปายถึงบ้านจ่าโบ่ ประมาณ 52 กม. ตามเส้นทาง 1095 ผ่านอำเภอปางมะผ้า (เดินทางไปอีกประมาณ 10 กม. จะเจอ 3 แยก เลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 3 กม.)
กองทัพเดินด้วยท้อง อิ่มกับบรรยากาศและก๋วยเตี๋ยวแล้ว เรามุ่งหน้าที่บ้านผาบ่อง ระยะทางจากบ้านจ่าโบ่ - บ้านผาบ่อง ประมาณ 70 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. ว่าจะไปดูความสดชื่นของท้องทุ่ง แต่สิ่งที่เห็นคือ555
สภาพทุ่งนา แห้งแล้ง อากาศร้อนมาก ๆ บางจุดกำลังซ่อมแซม
พิกัดบ้านผาบ่อง สะพานข้าว 9 เพื่อสุข
ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ผิดหวังเล็กน้อย มุ่งหน้าเข้าวัดดีกว่า555 จากบ้านผาบ่อง - วัดพระธาตุดอยกองมู ระยะทางประมาณ 13 กม. ขึ้นมาชมวิวตัวเมืองแม่ฮ่องสอน มองเห็นสนามบินอยู่ลิบ ๆ
มองลงไเห็นวัดพระธาตุจองคำ
ให้รู้ว่าเราผ่านโค้งมาตั้ง 1,864 โค้งเชียวนะ555
ได้ป้ายล่ะ ไปต่อเลยละกัน เราไปถึงปางอุ๋งเกือบสี่โมงเย็น ระยะทางประมาณ 45 กม. จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ตามเส้นทาง 1095 ไปประมาณ 10 กม. เลี้ยวซ้ายจะมีป้ายบอกทางไปปางอุ๋ง และบ้านรักไทย ซึ่งใช้เส้นทางเดียวกัน ขับไปเรื่อย ๆ ช่วงแรก ๆ มีโค้งประปราย เข้าสู่ 15 กม. สุดท้าย เริ่มมีโค้งหักศอก ทางชัน อยู่ 4-5 จุด มีหวาดเสียว กันบ้าง จะผ่านจุดสำคัญเช่น พระตำหนักปางตอง 1 , น้ำตกผาเสื่อ ,พระตำหนักปางตอง 3 จุดสังเกตทางเข้าปางอุ๋ง ที่แยกบ้านนาป่าแปก เลี้ยวซ้าย
ทิวทัศน์ระหว่างทางไปปางอุ๋ง
ถึงแล้วป่งอุ๋ง วันที่เราไปฝนตกปรอย ๆ พอได้ชุ่มฉ่ำ เฉอะแฉะ555
เส้นทางจากบ้านนาป่าแปกไปปางอุ๋ง ระยะทางประมาณ 6 กม. ทางชันและแคบ กรุณาขับรถด้วยความระมัดระวัง ใช้แตรก็งานนี้แหล่ะ555 (ปกติเป็นคนไม่ชอบใช้แตร) มาถึงปางอุ๋งประมาณ 4 โมงเย็น ใช้บริการล่องแพเที่ยวละ 150 บาท นั่งได้ 3 คน ใช้เวลาล่องประมาณ 25 - 30 นาที คนยังไม่เยอะ ถ่ายรูปชิว ๆ เลยฮะ
มีฝนตกปรอย ๆ พอได้บรรยากาศ ใช้เวลา ประมาณ 40 นาที มุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางที่ต้องการ "ลีไวน์รักไทย" บ้านรักไทย ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 12 กม. แต่ใช้เวลาเดินทางเป็นครึ่งชั่วโมงเชียว 555ก็โค้งเยอะงัย ถึงแล้วลีไวน์รักไทยที่รัก ลีไวน์รักไทยยามเย็น แต่ก่อนเข้าพักทางรีสอร์ทจะโทรติดต่อกับเราก่อน ขั้นตอนการจองที่พักให้ไปที่เพจของลีไวน์รักไทยโดยตรงนะครับ ระบุจำนวนผู้เข้าพักแม้แต่เด็กเล็ก เขาเตรียมผ้าเช็ดตัว อุปกรณ์ต่าง ๆ ครบคนเลย อันนี้ดีมากเลย (ตอนที่เราไปทราบว่าที่พักถูกจองเต็มยาวถึง 8 มกราคม 2562 กันเลย)
บรรยากาศบ้านรักไทยยามค่ำคืน
ค่อยมาดูบรรยากาศยามเช้ากันต่อนะครับ คืนที่เราเข้าพัก เกิดฝนตกไฟดับนะครับ55555555 ดีนะที่อากาศตอนนั้นกำลังเย็นสบาย สำหรับคนอาบน้ำดึก ไฟฉาย หรือไฟจากโทรศัพท์ได้ใช้ประโยชน์เต็มที่เลย555 ตื่นเช้ามา น้ำค้าง น้ำหมอก น้ำฝน ปนกันไปทั่ว
อาหารเช้า ทางร้านเปิดสายหน่อยนะครับ ตั้งสองโมงเช้าเลย
ช่วงที่รออาหารเช้า ถ่ายภาพเล่นชิว ๆ รอก่อน
รีสอร์ทและร้านค้าข้างเคียงครับ มีร้านอาหาร ร้านค้า จำหน่ายสินค้าให้เลือกมากมาย
บรรยากาศภายในหมู่บ้านเล็ก ๆ น้อยๆ ก่อนกลับครับ ความแตกต่างจากปี 2558 ที่เราเคยมาคือ ที่พักผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เหมือนกับทั่ว ๆ ไป
มองจากฝั่งตรงข้ามลีไวน์รักไทยครับ
จุดหมายต่อไป เป็นจุดแวะขากลับ "สะพานซูตองเป้" ระหว่างทางขากลับจากบ้านรักไทย. เกิดเหตุนิดหน่อยครับ ต้นไม้ใหญ่ล้มทับเสาไฟฟ้า ขวางถนนอยู่ นั่นไง สาเหตุไฟดับทั้งคืน😂😂😂😂 เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเคลียร์พื้นที่ราวๆ ครึ่งชั่วโมง. ระหว่างรอ ใช้เวลาเที่ยวชมน้ำตกผาเสื่อ ทำให้บรรยากาศไม่น่าเบื่อ😊😊😊
หลังจากเจ้าหน้าที่เคลียร์เส้นทางแล้ว ก็มาต่อกันที่สะพานซูตองเป้ ตั้งอยู่ที่บ้านกุงไม้สัก ตำบลปางหมู อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ห่างจากตัวเมืองประมาณ 8 กิโลเมตร มีความกว้าง 2 เมตร ยาวประมาณ 500 เมตร เป็นสะพานไม้ซึ่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมอีกแห่งหนึ่ง ซูตองเป้ เป็นภาษาไทใหญ่แปลว่า อธิษฐานสำเร็จ หรือบางคนก็บอกว่าแปลว่า ความสำเร็จ พิกัดที่ตั้งของสะพาน เข้าได้ 2 ทาง คือทางบ้านกุงไม้สัก อีกทางคือฝั่งสวนธรรมภูสมะ พวกเราไปปลายเดือนตุลาคม ข้าวกำลังตั้งท้องเต็มที่กลางเดือนพฤศจิกายนคงได้เก็บเกี่ยวกัน ถ้าเป็นช่วงเช้าตรู่คงถ่ายภาพได้สวยน่าดูเลย
ทำบุญปล่อยปลา หาโชคหาลาภกัน555
ส่วนเราเข้าทางฝั่งบ้านกุงไม้สัก เพราะเดินทางมาจากบ้านรักไทย เสร็จสิ้นภารกิจสำหรับทริปนี้ ขาดตกบกพร่องก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ เป็นการรีวิวแบบบ้าน ๆ เน้นภาพถ่ายทิวทัศน์ และเส้นทาง เป็นหลัก ขอบคุณที่เข้ามาดูนะครับ
Khundet
วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.42 น.