ห่างหายจากการเที่ยวจริงจังกับจังหวัดนี้ไปนานมาก จำได้ว่ามาเที่ยวแบบตั้งใจมาล่าสุดตอนที่ตลาดสามชุกบูมแรก ๆ ที่เหลือก็เป็นทางผ่านมาแวะกินข้าว ส่วนครั้งนี้ได้มาเยี่ยมเยียนจังหวัดนี้อีกครา แล้วก็ได้พบว่าร้านของกินที่จังหวัดนี้อร่อยทุกร้านที่แวะจริง ๆ

จุดหมายของเราไม่เน้นเที่ยวเท่าไหร่ เน้นแวะหาร้านกิน แล้วก็พักผ่อน มันก็จะประมาณนี้

- ร้านอาหารกุ่ยหมง

- ตลาดเก้าห้อง

- ร้านกาแฟ Ricker's cafe'

- ที่พัก ท่าจีนริเวอร์โฮม

- บึงฉวาก

- ร้านอาหารชามซาโส่ย

- วัดไกลกังวล

- ร้านกาแฟ A life cafe & Gallery

- ร้านครัวลุงบิน


เริ่มต้นทริปด้วยมื้อแรกที่ "ร้านอาหารกุ่ยหมง" ร้านนี้มีคนแนะนำมาว่าให้ลองมากิน เป็นร้านเก่าแก่ที่ อ.บางปลาม้า ขนาดมาถึงก็ประมาณ 11 โมง (ร้านเปิด10.30) คนเริ่มมาแล้ว นั่งไปได้ซักพักคนเต็มร้านจ้าาาา ร้านนี้ส่วนมากมาเป็นครอบครัว นี่หาข้อมูลมาก่อนบอกเลยเห็นราคาแล้วรู้สึกว่าสูงเหมือนกันนะ คิดอยู่นานมากกกกกกกว่าจะแวะกินดีมั๊ย 55555 แต่เอาวะมาลองหน่อยจะได้รู้พอได้มาลองแล้วก็รู้สึกว่าราคาเหมาะสมกับอาหารอยู่ แล้วนี่คือมากัน 2 คนก็อยากินเยอะแยะแต่สั่งได้ไม่กี่อย่างเอง


มาอำเภอบางปลาม้า เราก็ต้องกินปลาม้าซิ จานนี้ปลาม้านึ่งมะนาว นี่น่าจะเป็นครั้งแรกเลยกับการกินปลาม้าพึ่งรู้ว่ามันตัวใหญ่ เพราะดูจากชิ้นที่ได้กับก้างปลาคือใหญ่อยู่นะแล้วก็เนื้อแน่นมากกก สด ๆ ไม่คาว นึ่งออกมาได้ดีกินเกลี้ยงจ้า (ปลาม้านึ่งมะนาว 300บาท)


จานต่อมาที่สั่งคือแกงป่าปลาเนื้ออ่อน คือส่วนตัวเป็นคนชอบกินปลาเนื้ออ่อนนะ แต่จะเจอตัวเล็ก ๆ แต่มาร้านนี้จัดให้ตัวใหญ่ ๆ จ้า ตอนแรกเห็นนึว่าได้ปลาไม่กี่ตัว สรุปอยู่ข้างใต้เพียบ รสชาติแกงป่าดีเยี่ยมกินจนเกลี้ยงจานอีกตามเคย (แกงป่าปลาเนื้ออ่อน 200บาท)


มา 2 คนสั่งได้ไม่กี่อย่างเพราะกลัวกินไม่หมด แต่แล้วตาก็เหลือบไปเห็นว่าเมนูแนะนำกะเพราปลากรายกระเทียมโทนมีแบบอาหารจานเดียวด้วย จัดมาซักจานซิจะรออะไร จานนี้ก็ชอบรู้สึกได้กินเนื้อปลากรายจริง ๆ จัง ๆ ซักที (ข้าวราดกะเพราปลากรายกระเทียมโทน 60บาท)


ที่จริงเมนูแนะนำร้านนี้ส่วนมากเป็นกุ้ง เห็นที่เค้ามากินกันก็น่าโดน แต่คนข้าง ๆ ไม่กินกุ้งไงเลยไม่ได้สั่ง กินเสร็จบอกคนข้าง ๆ ว่าร้านนี้ครั้งหน้าจะชวนเพื่อนมากินด้วยจะได้กินได้หลายอย่าง พูดแบบนี้แสดงว่ามันน่าขับรถมากินอีกจริง ๆ

ปล.ขนมสาลี่ร้านแม่บ๊วยอยู่เยื้อง ๆ ร้านกุ่ยหมงอร่อย (ปกติไม่ชอบขนมสาลี่แต่ได้ลองชิมแล้วขนมสาลีแม่บ๊วยถือว่าดี)

เสร็จจากร้านกุ่ยหมงแวะไปตลาดเก้าห้องซะหน่อย ได้ยินชื่อตลาดนี้มาช่วงที่ยุคตลาดสามชุกบูมแรก ๆ ก่อนมาหาข้อมูลมาเค้าบอกว่าที่นี่เงียบไปเยอะ พอมาแล้วถึงรู้ว่าไม่ได้เงียบไปเยอะ แต่เงียบเลยแหละ ร้านที่ขายก็เป็นร้านของคนในชุมชนนี่แหละ เปิดขายนิด ๆ หน่อย ๆ แวะมาที่นี่ก็มาเดินย่อยถ่ายรูปเล่นเอาละกัน (ที่ตลาดนี้มีร้านขนมเปี้ยะอร่อย)


นี่ไงร้านขนมเปี๊ยะอร่อยที่บอก เอาตรง ๆ นะเป็นคนไม่ชอบกินขนมเปี๊ยะแบบนี้ แต่มาเที่ยวอะเนอะ เราก็อยากอุดหนุนร้านค้าไง เลยจัดไส้ฟักมา 1 อัน(ซึ่งเป็นไส้ที่ตัวเองไม่กินด้วย) กับขนมลูกเต๋า สรุปได้กินตอนกลับมาแล้ว ๆ ก็พบว่ามันอร่อยอะ น้องที่ออฟฟิศบอกขนมลูกเต๋าอร่อยมากพี่ ที่เคยกินที่ผ่านมาไม่ได้อร่อยแบบนี้ อ้าว ๆ ๆ ๆ เอาแล้วไง พลาดละซื้อมาแค่ 1 กล่อง กับ 1 ถุงเอง ต้องหาเรื่องไปอีกรอบซะแล้ว


เดินเรียบ ๆ เคียงริมน้ำท่าจีนถ่ายรูปเล่น ข้ามสะพานไปอีกฝั่งเป็นโรงเรียนลานคาตั้งอยู่ในวัดลานคา อาคารเรียนที่นี่สวยงามดีนะ เป็นอาคารเรียนแบบเก่า


ได้เวลาออกเดินทางต่อแล้ว จุดหมายต่อไปคือแวะหาอะไรดับกระหายซักหน่อยที่ Ricker's cafe อยู่ทางผ่านไปที่พักพอดี ร้านนี้เป็นร้านเล็ก ๆ ดัดแปลงจากบ้านทาวเฮ้าท์หลังหัวมุมมาเป็นร้าน ใช้พื้นที่ได้ดีมาก ที่นั่งมีทั้งโซนห้องแอร์ open air ชั้น 2 ก็มีนะเออ



เครื่องดื่มที่ร้านน่าสนใจเยอะ จัดมา 2 แก้วบอกเลยสดชื่นจริง signature ร้านนี้ชื่อสยามมาลา มีกลิ่นหอมของอะไรซักอย่างบอกไม่ถูก


ร้านนี้เป็นร้านนึงที่ลดการใช้หลอดพลาสติก เครื่องดื่มในร้านเสิร์ฟด้วยหลอดกระดาษ ส่วนใครอยากมีหลอดแบบรักษ์โลกไว้ใช้สามารถซื้อได้ที่ร้านเช่นกัน


ขับตรงต่อไปที่พัก ผ่านตลาดสามชุกมองเข้าไปรถเยอะอยู่ขอผ่านละกันขี้เกียจจะวนหาที่จอด อีกอย่างกลัวคนเยอะจะหงุดหงิด เลยรีบไปงีบยามบ่ายดีกว่า ถึงแล้วที่พักสำหรับวันนี้ ท่าจีน ริเวอร์โฮม ชื่อท่าจีนชัดเจนขนาดนี้ แน่นอนว่าต้องติดแม่น้ำท่าจีนแน่ ๆ


ต้อนรับให้หายเหนื่อยด้วยเครื่องดื่มเย็น ๆ ซักแก้ว นำมาให้ถึงห้องพัก ห้องพักคืนนี้ชื่อห้องว่า "หมี" ห้องนี้ติดสระว่ายน้ำพอดี ในก็มีหมีเต็มไปหมดเลยยยย ห้องนี้ราคาคืนละ 1,200 บาท รวมอาหารเช้า สำหรับ 2 คน


ส่วนห้องพักอื่น ๆ ก็ชื่อสิงห์ สา ลา สัตว์ เยอะแยะ แต่ละห้องก็ประดับประดาด้วยสัตว์ชนิดนั้น ๆ ลองไปส่องห้องหมูที่อยู่ข้าง ๆ (พอดีไม่มีคนพัก) มองเข้าไปดูหมูเต็มห้องไปหมดเหมือนกัน

ในที่พักจะมีอยู่โซนนึงจะเก็บของสะสมของเจ้าของไว้ ลูกค้าที่เข้าพักสามารถเดินดูได้ตามสะดวก

อย่างที่บอกว่าที่พักที่นี่ติดแม่น้ำท่าจีน แต่ว่าจะมีเพียงห้องพักเดียวเท่านั้นนะที่ติดน้ำ ส่วนห้องอื่น ๆ กระจายออกไป แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศริมน้ำ พื้นที่ทานอาหารส่วนกลางของที่พักอยู่ริมน้ำท่าจีนเลย มีที่นั่ง และเตียงให้มาชิลล์ได้ จะบอกว่าแม่น้ำท่าจีนนี้เงียบสงบมาก ไม่มีเสียงเรือสัญจรรบกวนเลย

เรื่องอาหารเย็นที่พักไม่มีบริการนะ แต่ถ้าไม่อยากออกไปข้างนอกมีร้านตามสั่งบริการ สามารถสั่งแล้วเอามากินที่พักได้ มีทั้งแบบบริการจัดส่ง กับเดินไปเอาเอง (ร้านที่เดินไปเอาเองอยู่หน้าที่พักเลยไม่ไกล) เรื่องจาน ชาม มีมุมให้ยืม แค่ล้างทำความสะอาดคืนเค้าให้เรียบร้อยพอ แนะนำว่าใครอยากกินข้าวริมน้ำสั่งมากินที่พักนี่แหละ สบาย ๆ

สำหรับเรามือเย็นเราฝากท้องกับร้านชามซาโส่ย เป็นร้านที่อยู่อีกฝากฝั่งแม่น้ำท่าจีน คือถ้ายืนตรงท่าน้ำที่พัก มองไปอีกฝั่งก็จะเห็นบอกเลยว่าอยากพายเรือไปร้านมากเพราะมันใกล้จริง ๆ ขับรถต้องอ้อมออกไปนิดหน่อย ก่อนไปกินข้าวขับรถไปบึงฉวากนิดนึงเพราะอยู่ไม่ไกลมาก แต่ระหว่างทางมีเหตุให้ต้องหยุดรถ เพราะเจอทุ่งนาสีเขียวใกล้ ๆ มีถนนเล็ก ๆ พอให้จอดรถได้ ไม่รีรอรีบลองไปเก็บรูปซักหน่อย

มาบึงฉวากไม่ได้มาดูปลาหรอกนะ แวะมาดูวิวยามเย็นแค่นั้นแหละ

ได้เวลามื้อเย็นแล้วร้านที่บอก ชามซาโซ่ย ร้านใหญ่นะ เดินงง ๆ เข้ามาเดินผ่านคนในร้าน 2-3 คนแต่ว่าไม่มีใครทักทายเชื้อเชิญเรากันเลย อาหารที่นี่เน้นเป็นพวกอาหารฝรั่งเป็นหลัก แล้วก็อาหารมีให้เลือกน้อยไม่หลากหลาย (เมนูข้าวจำไม่ได้แล้วว่ามีหรือเปล่า) แม่ครัวมีคนเดียวก็คือเจ้าของร้าน แล้วก็เป็นคนรับออเดอร์อีก บริการเลยติด ๆ ขัด ๆ


สรุปไปร้านนี้ถือว่ากินบรรยากาศ(ที่จริงสั่งข้าวมาที่ริมน้ำที่พักก็ได้บรรยากาศริมน้ำเดียวกัน) พอไม่ได้กินข้าวแล้วไม่อิ่มไงมาสั่งร้านครัวไม้งานหน้าที่พักเอากล่องไปใส่กลับมากินที่ห้องพักต่อ ร้านนี้อร่อยแนะนำถ้ามาพักที่นี่ไม่ต้องออกไปหาข้าวเย็นที่ไหนสั่งที่ร้านครัวไม้งามมากินริมน้ำที่พักก็ได้


ต้อนรับเช้าวันใหม่ด้วยกาแฟร้อน ๆ ริมแม่น้ำอันเงียบสงบ ถูกใจเป็นที่สุด มื้อเช้าที่นี่มี ABF กับ ไข่กระทะให้เลือก ระหว่างรอไปมุมเล็ก ๆ ก่อน มีขนมปัง ข้าวต้ม สลัดพร้อมให้เราทานรอไปก่อน


เรียบร้อยจากที่พักแวะไปตลาดท่าช้างซักหน่อยอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 5 กม. ที่จริงตลาดนี้มีถนนคนเดินเล็ก ๆ ด้วยนะแต่เราไม่ได้มา เลยมาแวะถ่ายรูปกับตึกนี้ตอนเช้าแทน


แล้วเราจะไปต่อที่วัดไกลกังวลกัน วัดนี้อยู่ในเขตจังหวัดชัยนาทแล้วขับรถไปประมาณ 30 นาทีก็ถึง แต่ระหว่างทางมีอันให้ได้หยุดรถอีกแล้วเมื่อเจอทุ่งนาสีเขียว 55555 เห็นเป็นไม่ได้ หยุดถ่ายรูปอยู่นานสองนานถึงได้ไปต่อ


มาถึงแล้ววัดไกลกังวล วัดนี้มีกวางเยอะมากกกกก เลี้ยงแบบปล่อยนี่เลย มโนว่านี่คือเมืองนาระประเทศญี่ปุ่น 555 แต่กวางที่นี่ตื่นคนนะ เขาใกล้มากไม่ได้ เลยยืนดูอยู่ห่าง ๆ นกยูงก็มีหลายตัวนะสวยด้วย แต่ไม่ได้เก็บรูปมา

ด้านบนภูเขามีรอยพระพุทธบาทให้สักการะ ข้างบนที่จอดรถเยอะ มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล ใครไม่ได้เอารถที่วัดมีรถบริการไป-กลับด้านบนค่ะ เจ้าหน้าที่วัดนี้ดูแลดีทุกคนค่ะ


ได้เวลาวกกลับบ้านกันละจ้า ไม่วายที่จะต้องหาร้านคาเฟ่แวะซักหน่อย ระหว่างทางได้แวะอีกแล้ว เพราะว่าสายตาเหลือบไปเห็นเงาดำ ๆ ในน้ำ ฝูงควายเยอะมาก รีบหาทางเลี้ยวเข้าไปตามเก็บภาพ ป้าเจ้าบอกมีอยู่ 100 ตัวของพามาแช่น้ำเล่น


ถึงแล้วร้านนี้ A life cafe & gallery ที่เราแวะ อยู่ที่ อ.อู่ทอง ร้านนี้เต็มไปด้วยความเขียวขจีของต้นไม้ มีที่นั่งหลายโซน ทั้งในห้องแอร์ open air และ outdoor แต่จะบอกว่ามาวันหยุดลูกค้าเยอะกันเลยทีเดียว


เครื่องดื่มแนะนำครั้งนี้คือ jasmine rose มีความหอมของดอกกุหลาบและมะลิปน ๆ กัน ดื่มในวันอากาศร้อน ๆ ดับกระหายได้อย่างดี


ก่อนจะออกจาก อ.อู่ทองขอหาร้านข้าวกินหน่อย บ่ายแล้วหิว search แบบเร่งด้วนมาเจอร้านนี้ ครัวลุงบิน คือไปถึงคล้อยบ่ายละ ลูกค้าไม่ค่อยมีใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ว่าจะเป็นไงบ้าง สั่งมาแค่ 2 อย่าง สรุปอร่อย 5555 ผัดดอกสลิด (80 บาท) กับผัดเผ็ดปลาบึก (140 บาท)


มาสุพรรณรอบนี้ค้นพบว่าเมืองนี้ของกินอร่อยจริง เมนูผัดเผ็ด ผัดฉ่าอะไรพวกนี้ทำไมอร่อยทุกร้าน ส่วนตัวคือชอบ บอกเลยเดี๋ยวจะชวนเพื่อน ๆ หาเวลามากินใหม่แน่นอน

i am travelaholic

 วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 11.10 น.

ความคิดเห็น