น่าน หน้าฝน

NaN Green Season

น่านหน้าฝน ลองมาแล้วจะหลงรัก...

น่านเป็นจังหวัดเล็กๆที่ เรียบง่าย สงบ น่าอยู่ และยังเต็มไปด้วยเสน่ห์ของวัดวาอารามและทุ่งนาที่เขียวขจี โดยเฉพาะในหน้าฝนที่มองไปทางไหนๆก็สบายตากับความเขียวของทุ่งนาและฝืนป่า ทริปนี้เราจะไปไหว้พระกันในตัวเมืองน่านและไปสโลว์ไลฟ์ใช้ชีวิตช้าๆกันที่ ปัว อ.เล็กๆที่เต็มไปด้วยเสน่ห์กันครับ รูปเยอะอย่าเพิ่งเบื่อกันนะครับ ฝากกดไลค์เกดแชร์เพจให้กำลังใจเราด้วยน๊าสจะได้มีแรงสู้พาเพื่อนๆไปเที่ยวบ่อย ๆ

https://www.facebook.com/TeawKannnn/

https://www.facebook.com/yuttana.pichanchai

หลังจากได้ที่พักในคืนแรกในตัวเมืองน่านแล้วเราก็ไปไหว้พระกันที่วัดพระธาตุเขาน้อย ซึ่งตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย มีพระพุทธรูปปางลีลาองค์ใหญ่ ชื่อ พระพุทธมหาอุตมมงคลนันทบุรีศรีเมืองน่าน จุดนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองน่านได้ทั้งเมืองแบบ 360 องศา ถ้าหากใครไปเที่ยวน่าน ก็อย่าพลาดมาไหว้พระและชมวิวที่นี้กันด้วยนะครับ ดูพระอาทิตย์ตกดินเสร็จด็ตั้งใจว่าจะไป ถนนคนเดิน น่าน แต่เค้าเปิด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ก็แห้วไปได้แค่หาอะไรง่ายๆกินแล้วกลับที่พักนอนเอาแรงไว้ลุยวันพรุ่งนี้


ตื่นเช้ามามีฟ้าใสๆให้เห็น ไปเราไปไหว้พระกันครับเริ่มที่วัดนี้ล่ะกัน วัดสีทองเอ๊ยวัดศรีพันต้น เป็นวัดที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ ด้วยสีทองอร่ามเรืองรองของวิหารยิ่งเช้าๆแบบนี้สีทองตัดกับสีของทองฟ้ายิ่งสวยงามขึ้นไปอีก ภายในประดิษฐาน พระพุทธสลี พระพุทธรูปปางมารวิชัย เป็นที่เคารพบูชาของคนเมืองน่าน



มาต่อกันที่วัดภูมินทร์ ตั้งอยู่ตำบลในเวียง ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์หันออกด้านประตูทั้ง 4 ทิศ สวยงามมากๆ ครับ





วัดสุดท้ายที่ผมได้เข้าไปไหว้พระก็คือ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร ตั้งอยู่กลางเมืองน่านตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน มีวิหารขนาดใหญ่ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบล้านนาไทย เสียดายที่วันที่ผมไปเจดีย์ด้านหลังคลุมผ้าไว้น่าจะกำลังบูรณะ ไม่งั้นคงได้รูปสวยๆอีกสักมุมสองมุมถ่ายรูปเพลินออกมาจากวิหารก็ปรากฎว่าฟ้าใสๆได้หายไปเสียแล้วกลายเป็นเมฆฟ้นครึ้มๆมาเลย

หลังจากนั้นวิ่งข้ามถนนมาอีกฝั่ง เพื่อมาเก็บรูปสถานที่เช็คอินในเมืองน่านที่ทุกๆคนไม่ควรพลาดเพราะเป็น Signature ที่สำคัญคือ ภาพซุ้มต้นลีลาวดีหรือต้นลั่นทม บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติน่าน


แวะเติมพลังก่อนออกจากตัวเมืองมุมสู่ อ.ปัว กับร้านเด็ดของเที่ยวกานนน 555 (อันนี้ตั้งเอง) กับร้าน ข้าวซอยต้นน้ำ ที่เด็ดก็ต้องนี้เลยครับ ข้าวซอยไก่และข้าวซอยเนื้อ

แต่จะกินแค่นี้คงไม่พอกระเพาะผมเลยสั่งขนมจีนน้ำเงี้ยวมาอีกชาม

ออกจะตัวเมืองน่านได้สักพักฝนก็เริ่มตกลงมาเบาๆ ตลอดทาง จุดหมายแรกที่ปัวก็คือ วัดภูเก็ต ก็ก่อนจะถึงจุดหมายก็มีวิว ธารน้ำใสๆ กับวิถีชีวิตให้ได้ดูตลอดเส้นทาง จุดหมายอ่ะสวยงามแต่ระหว่างทางก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กันครับ

จริงๆตอนแรก ปัว ในความคิดของผมคือหมู่บ้านในชนบทเล็กๆ แต่พอได้มาสัมผัสก็อดแปลกใจไม่ได้เพราะบ้านเรือนใหญ่โตสวยงาม ความเจริญเข้าถึงทั้งหมดน่าจะมีครบทุกยี่ห้อของร้านสะดวกซื้อ แบบนี้มาเที่ยวได้สบายไม่อดตายแน่นอน 555 แล้วก็มาถึงวัด ภูเก็ต ผมลืมถ่ายวัดเพราะมั่วแต่ถ่ายภาพทุ่งนาบนจุดชมวิวของวัดครับ สวยสบายตาจริงๆ




ทุ่งนา ทิวเขา สายหมอก บวกกับบรรยากาศฝนตกเบาๆ อ่อมันก็ลงตัวดีเนาะ



เดินทางกันต่อครับไปขับรถกินลมชมวิวกันที่ถนนลอยฟ้า จริงๆตั้งใจจะเอาโดรนมาบินถ่ายภาพถนนมุมสูงแต่เจ้าโดรนน้อยของผมก็ชิงตกเข้าป่าที่เนินมะปรางไปซะก่อนแต่มาถึงนี้แล้วยังไงก็ต้องไป

ข้างบนเราก็จะเห็นทิวเขาสลับกับสายหมอกมองไปทางไหนก็เขียวดีจริงๆ แต่ก็ยังเห็นป่าแหว่งๆเพราะพื้นที่การเกษตรเป็นช่วง คนตัดต้นไม้นี้เก่งเนาะป่ารกๆภูเขาเป็นลูกก็ตัดกันได้ 555

เที่ยวที่นี้ไม่ต้องรีบนะครับขับช้าๆชมวิวสวย ๆ

ได้เวลาเข้าที่พักครับคืนนี้เราพักที่ บ้านมาดีโฮมสเตย์ ราคาไม่แพงครับคุณลุงคุณป้าใจดีมากๆ เอาผลไม้จากสวนมาให้ทาน แถมวิวที่นี้ก็สวย มีสะพานไม้ไผ่ให้เดินชมทุ่งนาด้วย วันที่เข้าพักนี้คือเหมือนเหมาโฮมสเตย์เลยเพราะมีเราพักห้องเดียว 555 ห้องพักสะอาดมีดาดฟ้าให้นั่งชมวิวจากด้านบนด้วยแต่วันที่ไปฝนตกก็นั่งชิลหน้าระเบียงห้องแทนล่ะกัน









น้ำเก๊กฮวยเย็น ๆ กับบรรยากาศแบบนี้เข้ากันได้ดีจริง ๆ



เช้านี้พอมีแสงแดดออกมาให้เห็น พอให้ได้เก็บภาพวิวสวย ๆ ก่อนที่น้องฝนจะตกลงมาอีกรอบ หลังจากนั้นก็ทานข้าวต้มร้อน ๆ กับของหวาน มีกาแฟโอวัลตินกับขนมปังปิ้งด้วยนะ ค่าที่พัก คืนล่ะ 1000 บาท ห้องแอร์น้ำอุ่นพร้อมอาหารเช้า กับวิวดีๆหลักล้านแบบนี้เกินคุ้มครับ

ลาคุณลงคุณป้าแล้วก็ออกเดินทางต่อแวะจุดเช็คอินยอดฮิต ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ นั่งจิบกาแฟชมวิวสวย ๆ หรือใครอยากมาช๊อปผ้าทอพื้นบ้านที่นี่ก็มีให้มาเลือกช๊อปกันตามสบายครับ ปิดทริปน่านกันที่นี้ก่อนออกเดินทางต่อไปแม่กำปองใครอยากตามไปเที่ยวด้วยกันก็ฝากกดไลค์กดแชร์ให้กำลังใจเราด้วยน๊าสสสส



Yuttana Pichanchai

 วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เวลา 12.15 น.

ความคิดเห็น