วันหยุดช่วงวันแรงงานปี 2558 เราไปเกาะช้างมาแหละ... วางแผนการเดินทางไว้เยอะมาก เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาว กลัวว่าจะไม่มีรถ ไม่มีที่พัก เครียดเลยนะ...จนสุดท้าย เราคิดว่าไปแบบไม่ต้องมีแผนอะไรมากดีกว่า แค่จองที่พักไว้อย่างเดียวพอ อยากเดินทางตอนกลางคืนไปเช้าที่นู่น หาข้อมูลไว้รัวๆ เพราะเป็นครั้งแรกที่เราไป... พอใกล้ถึงวันเดินทางมีเหตุที่ทำให้ไม่สามารถออกเดินทางตอนกลางคืนได้ ต้องไปตอนสายๆ ของวันต่อมา

ปัญหามันเริ่มเกิดตรงนี้แหละค่ะ !!!

การที่จะไปเกาะช้างต้องออกจากกรุงเทพฯ ก่อนบ่าย!!!! ไม่อย่างนั้นจะไปไม่ทันเรือ (เรือหมดทุ่มครึ่ง การเดินทางใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง) ถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ เที่ยงกว่า...เดินรอบอนุสาวรีย์เลยค่ะ รถไม่มี! มีอีกทีบ่ายสามน้อง! ไปไม่ทันเรือหรอก! กรีดร้องงงงงงง!!! (ในใจ) ไปกิน Mac ตั้งสติ (ยังจะกินลงอีก!!) นึกขึ้นได้ว่าเคยอ่านเจอในรีวิวหนึ่ง ว่าเขาต่อคิวเอารถขึ้นเรือตอนห้าทุ่ม ความหวังเริ่มมา...โทรไปท่าเรือเฟอร์รี่เกาะช้าง เขาบอกว่าปกติเรือหมดทุ่มครึ่ง แต่!...ถ้าเป็นช่วงคนเยอะ เขาจะรอจนกว่ารถคันสุดท้ายจะได้ขึ้นเรือ งานนี้มีลุ้นเรากับแฟนตัดสินใจไปค่ะเสี่ยงเลย Where is a where where where (ไหนๆ ก็ไหนๆ ล่ะ) นั่งบีทีเอสไปขึ้นรถทัวร์ที่เอกมัยเลยล่ะกัน มีรถออกทุกชั่วโมง (06.00-23.00) ต้องมีรถแน่ๆ ไปถึงได้รถรอบ 16.30 รอบบ่ายสามเหลือที่เดียว ชีวิต...เชิดชัยทัวร์ค่ะ คนละ 254 บาท

ลุ้นเยี่ยวเหนียวเลย...หกชั่วโมงที่นั่งไป กลัวไม่ทันเรือ ไปถึงบขส. ตราดตอนสี่ทุ่ม รีบลงมาขึ้นรถสองแถว ปกติถ้าคนเต็มคิด 60-80 บาท แต่นี่กลางคืนค่ะ ดึกด้วย ต้องเหมาเท่านั้น ลุงคิด 500 บาท TT พร้อมโทรเช็คที่ท่าเรือให้ด้วย ท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์เรือหมดไปแล้ว ที่เฟอร์รี่เกาะช้างยังมีอยู่ ก่อนลงจากรถเราก็แอบโทร.ไปแล้ว ลุงไม่โกหกแน่นอน ไปจิรออะไรล่ะ มืด เงียบ ซิ่ง ภายใต้แสงจันทร์ เรานั่งไปด้วยความหวัง ลุ้นมากๆ พอรถเลี้ยวเข้าท่าเรือ คนที่นั่งอยู่ตรงร้านค้ามองมาที่รถเราเป็นตาเดียว ลางไม่ดี...ลงจากรถได้ก็รีบเดินไปซื้อตั๋ว แต่!! ทุกอย่างเงียบ ให้เสียงจิ้งหรีดด้วย เอ้า! เงียบมาก เงียบแบบไม่มีอะไรเลย เจอคนเดินมาปิดประตู เขาบอกว่าเรือเที่ยวสุดท้ายเพิ่งออกไปเมื่อห้านาทีที่แล้ว พร้อมกับเล่าปัญหาชีวิตของเขาให้พวกเราฟัง... (เดี๋ยวๆ ตอนนี้ชีวิตเราก็มีปัญหาาาาาาาานะ!!!)

กรีดดดดดดด ร้องงงงงง งอแงงงงงงงงงง ลงดิ้นนนนน พร้อมเขย่าประตูรั้ว (อันนี้เราแค่คิด)

พลาดทุกอย่าง! รถ! เรือ! เสียเงินอีก อยากจะนอนเฝ้ามันตรงนี้ขายตั๋วรอเรือรอบหกโมงเช้าซะเลย!!! ตกลงกับแฟน...จะไปหาที่นอนกันให้ลุงช่วยขับรถพาไปหาที่พัก ลุงก็หาให้ใกล้แหลมงอบเพื่อที่จะได้ไปขึ้นเรือง่ายๆ แต่! ทุกที่เต็มห้าทุ่มกว่าแล้วด้วย ลุงเลยพากลับมาหาโรงแรมในตัวเมือง สรุปค่ารถลุงคิดเพิ่มเป็น 600 แฟนต่อราคาแล้วนะ TT ในความโชคร้ายยังมีโชคดี เราเจอโรงแรมที่โอเคมาก ชื่อ 365 Days Hotel อยู่ตรงข้ามตลาดและใกล้ 7-11 ห้องคืนละ 800 มีสองชั้นแอร์ชั้นละตัวเลยนะเธอ ^^ ตกแต่งได้เก๋ไก๋ เป็นธีมภาพยนต์เรื่องต่างๆ เราได้สไปเดอร์แมน อิอิแฟนบอกว่าพอถึงวันพรุ่งนี้เราจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้หมด แล้วจะเที่ยวให้สนุก ^^

ตอนเช้าไปนั่งดูชีวิตยามเช้าชาวตลาดของคนตราดตรงระเบียงห้อง...

หามื้อเช้าลงท้องเรียบร้อยก็พร้อมลุยแล้ว ข้าวมันไก่ในตลาดอร่อยมากค่ะ น้ำจิ้มไม่เหมือนบ้านเรา อร่อยอีกแบบ คนขายข้าวมันไก่แซวว่าจะไปเกาะช้างเหรอ? ระวังเกาะจมนะเพราะคนไปเที่ยวเยอะ เดี๋ยวๆ นี่แซวหรือประชดเนี่ย! ได้นำแนะนำจากคนขายขนมใบบัว (บัววิกตอเรียซะด้วยเพราะมันใหญ่มาก) ให้เดินไปขึ้นรถตรงร้านขายยา เราขอบคุณแล้วเดินออกมา โอ้โห...ร้านขายยาเพียบเลย เยอะมากๆ เลยถามต่อไปเรื่อยๆ ก็อยู่ตรงหน้าร้านขายยาจริงๆ บอกตำแหน่งไม่ถูก ตรงหน้าร้านขายยานะจ๊ะ ลุงคิดคนละ 60 บาท แต่ต้องรอคนให้ครบจำนวน อยากออกไวจ่าย 70 บาท ยอมสิอยากไปถึงเร็วๆ T0T เป็นสองแถวสีฟ้านะคะ เขียนว่าแหลมงอบมั้งเราลืมถ่ายรูปมา

เรือไปเกาะช้างจะมี 2 ท่าเรือ เซ็นเตอร์พอยท์กับเฟอร์รี่เกาะช้าง เราไปขึ้นเรือที่เซ็นเตอร์พอยท์เเพราะท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์ฝั่งเกาะช้างจะมีมอเตอร์ไซค์ให้เช่า ส่วนเฟอร์รี่เกาะช้างเพื่อนที่ไปล่วงหน้าบอกว่าที่ท่าเรือไม่มีมอเตอร์ไซค์ให้เช่า ต้องนั่งสองแถวต่อไปที่พักคนละ 100-120 บาท แต่เรือของเฟอร์รี่เกาะช้างจะไวกว่าเรือของเซ็นเตอร์พอยท์ เราซื้อตั๋วไปกลับ คนละ 180 บาท กลับเมื่อไหร่ก็ได้ ซื้อตั๋วเสร็จก็นั่งรอรถมารับไปขึ้นเรือ

เย้ๆ ในที่สุดก็จะได้ไปเกาะช้างแล้ว ^^ เดี๋ยวๆ น้ำอะไร!!! มองไปทางเกาะ อื้อหือ...เสมือนท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนทันใด! ต้อนรับดีมากเลยค่ะ!!! จะมีอุปสรรคอะไรอีกไหม?

เรือออกไปได้สักพักท้องฟ้าก็แจ่มใส แดดก็แรงเหมือนเดิม หะแหมมมม...ก็จะต้องทำให้ตื่นเต้นด้วยนะ!!! บนเรือมีพวกน้ำกับขนมขายนะคะ

ลงทางเรือเราก็ทำการเช่ามอเตอร์ไซค์ทันที ร้านข้าวตรงท่าเรือ เดินลงจากเรือมาจะอยู่ทางด้านขวา วันละ 200 บาท มัดจำ 500 บาท ค่ามัดจำขึ้นอยู่กับรถ อีกคันเหมือนจะใหม่กว่าค่ามัดจำ 1000 บาท เจ้าของจะให้หมวกกันน็อคพร้อมแผนที่อธิบายตามจุดต่างๆ เพื่อนเราไปเช่าตรงโลนลี่บีช คันละ 150 บาทต่อวันค่ะ เติมน้ำมันเต็มถังไป 95 บาท ขี่ได้จนจบทริปเลย ^^

แวะเติมลม...นายช่างไม่อยู่ให้เด็กน้อยเฝ้าร้าน เราถามว่าเติมลมยางเท่าไหร่ น้องบอกว่าฟรี!! น้ำใจคนเกาะช้าง...

ทางค่อนข้างน่ากลัวสำหรับคนขี่รถไม่แข็ง ยิ่งตอนกลางคืนมืดมาก ฝนตกที รถติดเลยเพราะตรงโค้งตัวเอสรถไม่สามารถสวนกันด้วยความเร็วได้ช่วงรถติด มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ตลอด...

เรารีบไป check in ที่พักแถวโลนลี่บีช เนื่องจากเราได้จองที่พักไว้แต่เราข้ามมาพักไม่ได้ เสียค่าที่พักฟรีไปคืนหนึ่ง เจ้าของยิ้มแย้มแจ่มใสมาก คุยง่ายมาก ตั้งแต่เราจองเข้ามาแล้ว ที่นี่รับ walk in กับจองผ่าน Agoda บัตรเครดิตก็ไม่มี ไม่เคยจองด้วย ติดต่อไปทางเพจเขารับจองให้ การจองที่พักของเราเลยง่ายมากๆ แถมตอนที่เราบอกว่าเราอาจจะข้ามไปเกาะไม่ทัน ยังไม่แน่นอน ทางที่พักก็บอกว่า ถ้าข้ามมาได้สามารถมารถเข้ามา check-in ได้ตลอด ใจดีจัง ^^ (แต่คืนต่อมาเรากลับเข้าที่พักดึกเห็นล๊อบบี้ปิดนะ น่าจะไม่ได้เปิด 24 ชั่วโมงทุกวัน) อ่านรีวิวและสอบถามมา (ขอบคุณข้อมูลจากเพื่อนๆ ในกลุ่มแบกเป้เที่ยวนะคะ) ค่าที่พักคืนล่ะ 400 ห้องพัดลม แต่เรามาช่วงวันหยุดห้องพัดลม 600 บาทต่อคืน ห้องแอร์พันกว่า (เห็นใน Agoda) เราจองห้องพัดลมมาเพราะอยากปิดทริปด้วยค่าใช้จ่ายน้อยๆ แต่...โดนรายจ่ายข้างบนเพิ่มไป เจ็บปวด TT เครื่องใช้ส่วนตัว สบู่ ยาสีฟันเตรียมมาเองนะคะ ผ้าขนหนูมีให้ค่ะ ^^ ที่นี่...อาณาเขตมีต้นส้มโอเต็มไปหมด เราก็เล็งอยากปีนเก็บมั่ง มีสระว่ายน้ำ มีที่ถ่ายรูปชิคๆ เยอะเลย ปลื้มมาก เราว่าถ้าเราจองห้องแอร์มาจะโอเคกว่านี้มาก นี่หน้าร้อนนะลืมไปหรือไง!!! แต่ตกดึกอากาศเย็นสบายมากเราเปิดหน้าต่าง ประตู หลับสบายเลย... ลืมบอกชื่อที่พักค่ะ เราพักที่ KLKL Hostel ชื่อไทย กะหลกกะลา โฮสเทล

เรารีบเก็บของเข้าที่พัก สถานที่แรกที่เราจะไปคือน้ำตกคลองพลู เราโทร. หาเพื่อนว่าถึงแล้วกำลังไปน้ำตก เพื่อนบอกไปไม่ทันหรอกน้ำตกปิดสี่โมงครึ่ง!!! ดูนาฬิกา บ่ายสามโมงเกือบสี่สิบห้าแล้ว...ดื้อรั้นมาเยอะล่ะ ดื้ออีกสักหน่อยจะเป็นไร จากโลนลี่บีชไปน้ำตกคลองพลูก็ไกลอยู่นะ...จะทันไหม? ความรู้สึกแบบนี้มาอีกแล้ว จะต้องพลาดตลอดเลยเหรอ? TT ดราม่าก่อนเลย ๕๕๕ พอไปถึงสี่โมงเท่าไหร่ไม่รู้รีบไปที่ซื้อตั๋วก่อนเลย เจ้าหน้าที่ขายตั๋วให้ ทันโว๊ย!! ค่าเข้าอุทยานคนละ 40 บาท เราขอตราปั้มด้วย จะเอาไปแปะใน passport ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติต่างๆ ของเรา ^^

ต้องเดินเท้าต่อ เจ้าหน้าที่บอกว่า 500 เมตร ทางเดินสบายมากค่ะ ช่วงนี้น้ำน้อย...ถ่ายรูปมาแทบมองไม่เห็นตก แต่แม่ค้าบอกว่า หน้าน้ำนี่มีน้ำป่ากันเลยทีเดียว ยังมีแอ่งสามารถเล่นน้ำได้นะคะ แต่เราแวะมาถ่ายรูป ^^

เรามีนัดกับเพื่อนที่บางเบ้า จะไปเก็บแสงสีของท้องฟ้ายามเย็น วันนี้คงไม่หวังเห็นพระอาทิตย์ตกดิน เพราะฟ้าครึ้มๆ ยังไงไม่รู้ ตอนขี่รถกลับผ่านจุดชมวิวหาดไก่แบ้คนเยอะอยากถ่ายกับจรวด เอ๊ะ หรือตู้ไปรษณีย์นะ สีแดงๆ ได้แต่ภาพวิวมา ^^

บางเบ้าเป็นชุมชนชาวประมง เรามาเย็นแล้วร้านค้าทยอยปิดหมด เราชอบที่นี่อ่ะ อยากมาพักโฮมสเตย์บ้างบรรยากาศฟินสุดๆ เรือที่ไปไดหมึกกำลังทยอยออกจากฝั่ง เราเดินไปจนสุดทางตรงประภาคารมีคนกำลังมาตกหมึก เพิ่งเคยเห็นปลาหมึกตัวเป็นๆ ครั้งแรก มันร้องได้ด้วย! หน้าตาน่ารักดีอ่ะ แต่มันก็อร่อยมากๆ ไม่กล้าสงสารเลย อิอิ

เย็นวันนี้ท้องฟ้าที่บางเบ้าเป็นใจมาก สาดแสงสีกันใหญ่ ^^

มาถึงบางเบ้าทั้งที อ่านรีวิวเกี่ยวกับร้านอาหารที่ต้องมาลอง ร้านเรือไทยซีฟู๊ด...เมนูเด็ดคือกุ้งแช่น้ำปลา เราสั่งอาหารไปสี่อย่าง มีกุ้งแช่น้ำปลา ซี่โครงหมูทอดกระเทียม หมึกไข่นึ่งมะนาว ต้มยำรวมมิตร (เล็ก) ข้าวเปล่า 1 โถ น้ำแข็ง น้ำเปล่า โค๊กขวดใหญ่ขวดนึง มื้อนี้ 1200 บาทถ้วน เฉลี่ยคนละ 300 บาท ไม่รู้ว่าถูกหรือแพง แต่อาหารอร่อยทุกอย่างเลย ^^ (ถ่ายรูปเมนูเด็ดมาฝากด้วยนะ ^^)

คืนนี้มันต้องไม่จบง่ายๆ มาถึงยากเย็น กินข้าวสวยแล้วก็ต้องกินข้าวหมักสิ เราเลือกร้านไปนั่งชิวกันที่ Nature beach resort ชื่อบาร์ว่า Nature Rocks ส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง...คืนนี้มีโชว์กระบองไฟตอนสี่ทุ่ม มองไปเห็นการ์ดใบเล็กๆ วางไว้บนโต๊ะ โปรโมชั่นของ Fullmoon party!!! เห้ย!!! วันนี้ Fullmoon หรอเนี่ย???? มาตรงจังหวะพอดี ^^ มีจุดพุ โชว์กระบองไฟ มีสีให้เพ้นท์ที่ตัวเรายังเดินไปเพ้นท์มาเลย มีฝรั่งมาเขียนแขนให้เราด้วย รูปอะไรไม่รู้เราฟังไม่ค่อยได้ยิน เขาให้เราเขียนกลับไปที่แขนเขาบ้าง แต่ skill การวาดเราแย่มากสีไหลเต็มแขนเขาเลย ฝรั่งร้อง Oh! Noooooooo! ๕๕๕

วันนี้สุดท้าย...เราจองทริปดำน้ำไว้ ความจริงถ้าเรามาทัน เราจะไปเรือไม้ แต่ความไม่จริงเราจึงได้ไป Speed boat เพราะเราต้องเดินทางกลับตอนเย็น ข้อมูลที่เราไม่รู้คือ ถ้าคนที่เดินทางตอนกลางคืน มาเช้าที่ตราดและจะมาดำน้ำเลยไม่สามารถไปเรือไม้ได้ เราสอบถามข้อมูลเพื่อนๆ และคนที่ขายทริปดำน้ำบอกว่าไปเรือไม้ไม่ทัน เพราะเรือไม้ออกเร็วต้องไปขึ้นเรือที่บางเบ้า ไม่รู้มีรถมารับหรือเปล่า (อันนี้คือข้อมมูลที่เราหามานะคะ ถ้าใครมีข้อมูลที่แตกต่างจากนี้เชิญแนะนำได้นะคะ ^^) เราไป Speed boat มีรถมารับถึงที่พักเลย ขึ้นเรือที่หาดไก่แบ้ค่ะ Speed boat ออก 09.30 น. จบทริปประมาณบ่ายสาม มีเวลาอาบน้ำเก็บของกลับบ้าน เรือลำหนึ่งประมาณ 25-30 คน ชอบตรงคนไม่เยอะเนี่ยแหละ เป็นทัวร์ที่อยู่ตรงไก่แบ้ฮัท เราจำชื่อทัวร์ไม่ได้เพราะเพื่อนเป็นคนจัดการให้หมด มีเพื่อนน่ารักก็ดีแบบนี้แหละ ^^ ราคา 800 ต่อคน ไป 5 เกาะ พร้อมอุปกรณ์ดำน้ำและอาหารกลางวันค่ะ...

เกาะที่เราไปดำได้แก่...เกาะยักษ์เล็ก เกาะยักษ์ใหญ่ แวะกินข้าวกลางวันเกาะรัง เกาะมะปริง อีกเกาะหนึ่งพายุมาซะก่อนเลยไม่ได้ไป เมนูอาหารกลางวันคือผัดผัก หมูผัดขิง ทอดมัน ผลไม้ ตักได้ไม่อั้น!!! ชอบข้าวสวยนุ่มหอมอร่อยมาก กับข้าวอร่อยทุกอย่างเลย ^^ เราอยากฝาก อยากให้ staff ที่ไปกับเรือช่วยอธิบายการใช้อุปกรณ์คร่าวๆ เราว่ายน้ำไม่เป็น ไม่เคยดำน้ำ น่าจะมีการชี้แจงเป็นความรู้คร่าวๆ ก็ยังดีและเรื่องที่สำคัญอีกอย่าง การดำน้ำอะไรที่ควรทำไม่ควรทำ เช่น การให้อาหารปลา จับสัตว์น้ำขึ้นมาถ่ายรูป เราเห็นมีคนทำจริงๆ นะไม่มีใครบอกอะไรเลย...สำคัญมาก เราอยากฝากไว้

เราเตรียมกล้องใส่เคสกันน้ำมาอย่างดี...คิดว่าจะไปถ่ายรูปสวยๆ ใต้น้ำ แต่!!! ลืมคิดไปว่าตัวเองว่ายน้ำไม่เป็น ลงไปตั้งหลักไม่ได้เลยห่วงกล้องก็ห่วง เลยโยนกล้องให้เพื่อนไปก่อน โอ๊ยยยยย กว่าจะเห็นปะการัง กินไปหลายอึก สำลักทีแสบไปถึงรูตูด เอ้ย รูจมูกพอ! เราพยายามถ่ายรูปมา วีดีโอก็ถ่ายมา ฮาสุด...มีแต่ตอนสำลักน้ำ สายรัดเป้าก็ รัดซะ ๕๕๕ นี่คือรูปที่พอจะดูได้...

ขากลับเรานั่ง Speed boat ฝ่าฝนมา เป็นอีกหนึ่งความรู้สึกที่โคตรจะอึดอัดเลย แต่ก็จบทริปดำน้ำไปอย่างราบรื่น ถึงเกาะช้างยังไม่บ่ายสามเลยค่ะ

เรา Check out ออกจากโรงแรมไปแล้วเลยไม่มีที่อาบน้ำ จำได้ว่าเมื่อวานที่น้ำตกคลองพลูมีที่อาบน้ำด้วย เลยแวะเข้าไป อาบฟรีไม่เสียเงินแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จำเราได้ด้วย ถามเราว่า'วันนี้ไม่ไปเที่ยวน้ำตกอีกเหรอ?' เราถามเรื่องกางเต๊นท์นอน เขาบอกว่าสามารถกางได้ที่น้ำตกธารมะยม เรายังไม่เคยไปฝั่งนั้นเลย แต่ที่นี่ก็มากางเต๊นท์ได้นะ ถ้ามาจะหาเต๊นท์ไว้ให้ด้วย เราปลื้มมาก เจ้าหน้าที่ใจดี ^^

อาบน้ำเสร็จ เรารีบไปคืนรถมอเตอร์ไซค์ เกินเวลาคืนมาหลายชั่วโมงแล้ว แต่น้องเขาก็ไม่คิดเงินเพิ่มนะคะ ^^ ก่อนมาถึงท่าเรือ รถยนต์ที่ออกจากเกาะต่อแถวยาวมากกกกกก ทั้งสองท่าเรือเลย คนที่มีตั๋วเที่ยวกลับสามารถขึ้นเรือได้เลย เขาจะเก็บตั๋วเราที่อีกฝั่งหนึ่ง ต้องกลับแล้ว...ยังเที่ยวไม่เต็มที่เลย TT มาถึงอีกฝั่งหนึ่งทุ่มกว่า...เดินไปขึ้นสองแถวลุงเก็บคนละ 60 บาท ไปส่งที่ บขส. เรากลับรถทัวร์ เพราะมืดแล้วและมีรถตู้แน่นอน ได้กลับตอนสามทุ่มครึ่ง ถึงเอกมัยตีสามหน่อยๆ อ่อ...เชิดชัยทัวร์นี่เขามีผ้าห่มให้ไหมอ่ะ เราเพิ่งเคยขึ้นรถทัวร์ครั้งแรก ตอนกลางคืนมันหนาวมาก!!! พนักงานบอกว่าจะมีผ้าห่มแจก หรือว่าเราต้องขอเขา ใครมีข้อมูลช่วยเสริมหน่อยนะคะ ^^ นั่งรถกลับบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาทำงานต่อ นี่แหละชีวิตมนุษย์เงินเดือน ตั้งใจทำงานเก็บเงิน รอวัดหยุดที่จะได้ออกไปลั้นลาอีกครั้ง ^^

ทริปนี้เป็นทริปแรกที่ใช้เป้ใบเดียวกัน มีคนสะพายให้ตลอดใจดีจังเลย...ไปเที่ยวคนเดียวมันก็ดีไปอีกแบบ ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากไปหรอกนะต่อจะให้เจอปัญหาแค่ไหน...ไปด้วยกันอุ่นใจกว่า เนอะ ^^

เราซีเครียดมากกับการวางแผนการเดินทางครั้งนี้...เราเจอปัญหามากมาย...แต่เราก็ตัดสินใจไปแบบคนหัวรั้นทุกอุปสรรคมันส่งเราไปในเหตุการณ์และสถานที่ที่ดี

...ทำให้เราได้ไปพักโรงแรมชิคๆ ที่ตกแต่งเป็นธีมภาพยนต์เรื่องต่างๆ (แต่ก็แอบเสียดายเงินเพราะจองโรงแรมบนเกาะไว้แล้ว)

...ทำให้เราได้ไปน้ำตกในช่วงเวลาที่คนไม่เยอะ

...ทำให้เราได้ทันดูแสงสีของท้องฟ้ายามเย็นที่บางเบ้า ได้เห็นคนมาตกหมึก ได้กินอาหารทะเลร้านอร่อย

...ทำให้เราได้ Full moon party เพ้นท์สีที่ตัว ดูโชว์กระบองไฟ

...ทำให้เราได้นั่งสปีดโบ๊ทไปดำน้ำ โต้คลื่นฝ่าฝน ถึงจะจ่ายแพงกว่าไปเรือไม้แต่ไม่ต้องไปกับคนจำนวนเยอะๆ ให้เสียอารมณ์

...และอีกหลายๆ เหตุการณ์ ที่ถ้าเรามาทัน เราคงไม่ได้เจอ...

ทริปนี้อาจจะเจ็บปวดตอนการเริ่มต้น แต่เราจบทริปด้วยความประทับใจ ตอนนั่งเรือกลับ และเห็นเกาะช้างค่อยๆ หายไปในความมืด เราบอกกับตัวเองว่าจะต้องกลับมาแก้มือใหม่ เราเชื่อว่าเกาะช้างจะทำให้เราประทับใจได้มากกว่านี้

***การเดินทางควรมีแผน แต่อย่าไปยึดติด เรามีแผนไว้เพื่อเป็นจุดมุ่งหมายและเอาไว้ใช้รับมือกับสถานการณ์ ทุกอย่างควรปรับเปลี่ยนได้ เพราะเราไม่รู้ว่าจะเจออะไรข้างหน้า...แล้วจะสนุก ตื่นเต้นมากขึ้น ก็คงเหมือนชีวิตเราแหละ มีกฎเกณฑ์ ยึดติดมากไปก็ไม่สนุก สบายๆดีกว่า เนอะๆ ^^

แป้งเจอนี่เจอนั่น

 วันพฤหัสที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 16.03 น.

ความคิดเห็น