ผ่านมาปีกว่าละ จากวันนั้นถึงวันนี้ยังนั่งนึกขอบใจตัวเองที่กล้าเอาชนะความกลัวต่างๆในใจ แล้วพาตัวเองมาที่นี่ "ป่าบงเปียง" อำเภอแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ กว่าจะมาถึงที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ต้องนั่งรถกว่าสองชั่วโมงจากตัวเมืองเชียงใหม่ ผ่านเส้นทางที่จะมุ่งไปดอยอินทนนท์ แล้วเลี้ยวซ้าย แยกไปยังอำเภอแม่แจ่มอีกที ถนนหนทางเส้นนี้ก็หนักหนา โค้งไปโค้งมาพอๆกับทางที่ไปปาย แม่ฮ่องสอนยังไงยังงั้น
เราจอดรถ ณ ที่ทำการอุทยานน้ำตกแม่ปาน หลังจากนั้นเช่ารถกะบะของคนพื้นที่ต่อไปอีกที เพราะเส้นทางหลังจากนี้ รถธรรมดาอย่างเราๆไม่สามารถขึ้นไปได้แล้วนะคะ ถนนเต็มไปด้วยหลุม ด้วยบ่อโคลน นั่งขโยกไปเรื่อยๆอีกร่วมชั่วโมง ตลอดทางคิดว่า ตรูมาทำอะไรที่นี่ฟระ นอนตากแอร์อยู่บ้านก็ดีอยู่ละ จนสุดท้ายยยย รถมาจอดบนเขา ทางเข้าบ้านป่าบงเบียง วินาทีนั้นเราเลยได้คำตอบที่ถามอยู่ในใจตลอดมา เข้าใจเลยว่า สวยจนลืมหายใจเป็นยังไง...
เราพักกันที่โฮมสเตย์ของคนพื้นที่ ฉนนราคา 500 บาทต่อหัว รวมข้าวเย็นและข้าวเช้าอีกมื้อ ที่พักไม่มีเตียง ไม่มีไฟฟ้าหลังหกโมงเย็น ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆเลย มีเพียงที่นอนฟูกธรรมดาๆกับผ้าห่ม และเทียนไขอีกไม่กี่เล่ม เราใช้เวลาเดินเล่นผ่านเข้าไปในคันนา เพลินเพลินกับการถ่ายรูปไปเรื่อยๆ พอตกเย็นก็ต้องรีบมาอาบน้ำ เพราะถ้าอาบดึกอากาศจะหนาวมากจนอาบไม่ไหว น้ำเย็นเจี๊ยบบบบบ จับไปถึงขั้วหัวใจ แต่พอผ่านขันแรกไป น่าแปลกใจที่มันกลับอุ่นสบายดี
และภาพสุดท้ายก่อนหลับตาลงของเรา คือภาพหมู่ดาวนับร้อยพัน แข่งกันเปล่งแสงระยิบระยับบนท้องฟ้า เราขดตัวนอนใต้ผ้าห่มอุ่นๆหลายชั้น นอนมันริมระเบียงนี่แหละ เราอยากเก็บภาพจำภาพนี้ไปอีกนานๆ เพราะไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสกลับมาที่นี่อีกเมื่อไหร่ บ้านป่าบงเปียงทำให้เราเข้าใจซักทีว่า "ที่พักหลักร้อย วิวหลักล้าน" มันมีอยู่จริง...
ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่เข้าอ่านรีวิวนี้นะคะ ถ้าชอบกิน ชอบเที่ยว มีความสุขกับการเดินทาง ฝากเพจเล็กๆ ที่เขียนด้วยใจ https://www.facebook.com/wanderermeannie/ นี้ไว้ด้วยนะค้าาาาา
Wandererme
วันพฤหัสที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 11.44 น.