รีวิวฉบับนี้จะเน้นให้ข้อมูลเกี่ยวค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่คาใจผู้ที่สงสัยว่า เราควรจ่ายมั้ย แล้วราคาที่จ่ายไปคุ้มมั้ยก็จะลงรูปไว้ให้ตัดสินใจดูเอง เพราะบริบทและความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ถ้าถามเรา เราโคตรฟินเลย ตอนกดจองบอกเลยว่าลังเลมากว่าควรนอนโรงแรมใกล้ๆ เลโกแลนด์ดีมั้ย มันคืนละพันเองนะ แต่โรงแรมเลโกแลนด์ มันครึ่งหมื่นเลยนะคืนนึง ต้องใช้คำว่ากดจองวินาทีสุดท้ายจริงๆ ทำใจไม่ด้าย...บอกก่อนว่าทริปเรา 4 วัน 3 คืน เดินทาง 3 คนพ่อ แม่ ลูก นอนยะโฮร์บาห์รู 2 คืน นอนโรงแรมเลโก้แลนด์ 1 คืน มี one day trip ไปสิงคโปร์ กินแบบปกติ นั่งแท็กซี่เยอะหน่อย เพราะลูกเล็ก หากอยากรู้เรื่องการเดินทางดูได้จากรีวิวนี้ https://th.readme.me/p/27855 เอาหละ มาดูกันเลย

โรงแรมเลโก้แลนด์ให้ check in ตอน 4 โมงเย็น และ check out ตอน 11 โมง ช่างมีเวลาให้เราน้อยเหลือเกินค่าโรงแรมก็แพ๊ง แพงนะ คุณอาจคิดแบบนี้ แต่บอกเลยว่าจริงๆ เค้าคิดมาแล้วว่ามันพอดี เราเดินทางจากยะโฮร์ บาห์รู ตอน 11 โมง มาถึงที่โรงแรม 11.30 น. เข้าไปโรงแรมเพราะจะฝากกระเป๋าเดินทางและลงทะเบียนไว้ก่อน จะรับคีย์การ์ดได้ก็ 4 โมงเย็น ระบบฝากกระเป๋าปลอดภัยมากมาย มีที่จัดเก็บเป็นสัดส่วนเลย สบายใจได้ และบริการส่งถึงห้องเมื่อเรารับคีย์การ์ดแล้ว และเดินมาแจ้งเลขห้องตรงเคาน์เตอร์ตามในภาพเลย

เห็นว่าใกล้เที่ยง เลยตัดสินใจชวนลูกกินข้าวเที่ยงที่ Mall of Medini เพราะจะไปเช็ครอบรถเมล์กลับสนามบินด้วย เรากินในส่วนของซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ชื่อว่า Big อาหารราคาก็แรงกว่าในตัวเมืองอยู่นะ แต่ทำใจมาแล้วว่า มันต้องเป็นแบบนี้

สามีสั่งอะไรซักอย่างหน้าตาคล้ายๆผัดไทยแต่จืดๆ หารูปไม่เจอ อาหารรวมภาษีจะอยู่ที่จานละ 20 ริงกิต ปกติที่ยะโฮร์กินมื้อนึงไม่ถึง 20 ริงกิต 55 อิ่มแล้ว ก็เดินไปเลโก้แลนด์ได้เลย ทางเข้าเลโก้แลนด์จะเชื่อมกับมอลล์นี้เลย คือ ไม่ว่าจะมาทางไหนก็ต้องผ่านมอลล์นี้ ยกเว้นมาจากโรงแรม เรามีทางเฉพาะนะจ้ะ เราจองตั๋วจาก Klook เพราะถูกกว่าหน้าเวปพอสมควร เป็นแบบ one day pass ตอนแรกนึกว่าจะเข้าออกกี่ครั้งก็ได้ ป่าวจ้า...ออกแล้วออกเลยนะ ยกเว้น ลูกค้าโรงแรมอีกแล้ว เข้าออกได้จ้าแต่ต้องโชว์หลักฐานที่ทางโรงแรมให้มานะ ดีจัง ตั๋วของเราเป็นแบบ e ticket ไม่ต้องแลก (redeem) อีกแค่ยื่นภาพ

ที่เซฟไว้ในโทรศัพท์ก็สแกนเข้าไปได้เลยเร็วไปอีก เข้าไปก็จะเจอโซนต่างๆ มาก ชมภาพรัวๆ เลย

โซนนี้สนุกแต่เหนื่อยมาก พ่อ แม่ ลูก ต้องช่วยกันโยกคานให้รถไปถึงจุดที่ไฟไหม้ แล้วลงจากรถไปโยกคานดับไฟ จนกว่าจะมีรูปคนโผล่มาจากหน้าต่าง แล้วกลับมาที่รถโยกกลับ แข่งกันครั้งละ 4 คัน สนุกมากๆ

Shop เลโก้ในสวนสนุกมีหลายร้านมาก ในภาพคือร้านใหญ่ตรงทางเข้าเลย ของเยอะดี แต่จะมีร้านย่อยๆ ในแต่ละโซนซึ่งจะมีสินค้าเฉพาะโซนจำหน่าย สินค้าหลายชิ้นมีแต่ในสวนสนุกในโรงแรมไม่มีนะจ้ะ ฉะนั้นดูของในโรงแรมไปก่อนว่าเหมือนกันมั้ย เพราะคนที่พักในโรงแรมจะมีบัตรส่วนลดให้ 10% ใช้ได้เฉพาะร้านในโรงแรมแต่บอกตรงๆ ของน้อยกว่าในสวนสนุกมากๆ ในสวนสนุกไม่มีส่วนลดน้า...

อันนี้ของแจก ได้มาจากการเล่น Bricks or Treat เพราะเดือนนี้เป็น Theme Halloween

อันนี้น่าจะสนุกมาก เด็กๆ เต็มเลย แบบใส่ลูกบอลละยิงๆ เค้าห้ามผู้ใหญ่ขึ้นไป

โซนนี้สวยสุด Ninja go แอร์เย็นด้วย แต่ตอนเราไปฝนตก แถมเครื่องเล่นมีปัญหาตอนถึงคิวเราพอดีเสียดายมาก

จริงๆ มีรูปเยอะมากแต่เป็นรูปคนซะส่วนใหญ่ ขอไม่ใส่รายละเอียดว่ามีโซนอะไรบ้างเพราะมีรีวิวเยอะแล้ว
แต่ขอแนะนำว่าเด็กอายุ 6-10 ปี จะเล่นที่นี่ได้คุ้มสุดๆเพราะเครื่องเล่นไม่ได้น่ากลัวมาก อายุ 6 ปีเล่นกับผู้ปกครองได้ 8 ปีขึ้นไป และส่วนสูงถึงตามกำหนดในบางเครื่องเล่นเด็กไปคนเดียวได้ ถ้าต่ำกว่า 4 ปี แทบจะเล่นอะไรไม่ได้เลยนอกจากนั่งรถไฟ ซึ่งค่าเข้าแพง ไม่คุ้มรอให้เค้าถึงวัยค่อยไปก็ไม่สาย หากลูกเริ่มเป็นวัยรุ่นแล้วก็จะเริ่มไม่คุ้ม เพราะไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจพอสำหรับสายชอบเครื่องเล่นเสียวๆ (แบบเรา) ไป Universal Singpore จะตอบโจทย์กว่ามาก แต่ถ้าเป็นสายชอบถ่ายรูป คุ้มมากกกก มีมุมให้ถ่ายเป็นพันๆ มุม ของเราโทรศัพท์ 3 เครื่อง กล้อง 1 ตัวพร้อมใจกันแบตหมดเลย หมดแบบใกล้ๆกลับคือไม่มีภาพ แต่ละกิจกรรมระบบเซฟตี้ดีมากแบบที่ในไทยยังไปไม่ถึงไม่ต้องห่วงถ้าลูกจะต้องไปคนเดียว

---

เที่ยวโซนสวนสนุกจนเหนื่อยละกลับมาโรงแรมกันเถอะ...คุ้มแค่ไหนยอมจ่ายคืนละครึ่งหมื่น ห้องพักในเลโกแลนด์พักได้สูงสุดถึง 5 คน คือ ผู้ใหญ่ 2 เด็ก 3 แอบสงสัยว่าถ้าผู้ใหญ่ 3 เด็ก 1 เค้าจะโอเคมั้ย หรือเป็นเพื่อนกัน ผู้ใหญ่ 5 คนเลยเค้าจะว่าไงนะ ตอน check in ไม่มีปัญหาหรอกเพราะอย่างที่บอกบริเวณล๊อบบี้วุ่นวายมาก เค้าไม่รู้หรอกว่าใครเป็นใคร แต่เวลากินอาหารเช้าเราต้องบอกเลขห้อง ซึ่งพอเดินไปเค้าจะติ๊กว่ากินแล้ว ถ้าเดินไปพร้อมๆกันจะเป็นไง ใครลองแล้วมาเล่าบ้างนะ นี่แอบแพลนผู้ใหญ่ 4 เด็ก 1 อยู่ อิอิ

โซนแรกล๊อบบี้ ที่มีน้ำส้มหวานๆ เย็นชื่นใจเป็น welcome drink

เลโก้มีทั่วไปหมด ลูกขอเล่นล๊อบบี้ไม่ยอมกลับห้อง เพราะมีเพื่อน แบบเรานี่เสียดายมาก อยากไปเล่นในห้องพัก

กำแพงเต็มไปด้วยตัว Figure

ตารางกิจกรรมแต่ละวัน มีจนถึงภาคค่ำ 2 ทุ่ม เป็นโชว์มายากล

มีเจลล้างมือทั่วไปหมดเลยคือเฉพาะบริเวณล๊อบบี้นี่เกิน 10 ตู้นะ ไม่ต้องห่วงว่าลูกเล่นจะอันตราย ติดเชื้อ ปล. ในสวนสนุกก็มีหลายจุดนะ ใส่ใจดี เหมาะสำหรับการเป็นที่เที่ยวของเด็ก

ต่อไปเป็นห้องพัก เราพัก theme Pirate อยู่ชั้น 1 เลยได้ขึ้นลิฟต์แปปเดียว 55 เด็กชอบลิฟต์มาก มีไฟเทค ไปชมกันว่าเป็นไง...

เปิดประตูเข้าไปก็จะเจอกับห้องน้ำ พบว่าขนาดห้องเล็กว่าที่คิดนะ แต่อุปกรณ์ครบครันดี

มีอ่างล้างมือเด็กด้วย

อันนี้น่ารักสุดใจ แอบกรี๊ดไปหลายวิ

ต่อด้วยส่วนห้องนอนเด็ก ติดกับห้องน้ำ มีบานเลื่อนเพื่อกั้นส่วนกับพ่อแม่ มี 3 เตียงนะ ข้างล่างดึงออกมาได้อีกเตียง ที่นอนหนานุ่มดีมาก มีไฟส่วนตัวถ้าจะอ่านหนังสือ

กล่องมหาสมบัติของน้องลิง มีเกมส์ให้เล่น ไขปริศนาแล้วเอาของเล่นไป

ได้มาแล้ว ลูกชายตื่นเต้นมากมาย

ห้องนอนหลัก สวยงาม เตียงนุ่มนิ่มนอนสบาย เรานอนคนเดียวเพราะพ่อ ลูก เค้าไป adventure เตียงสองชั้นกันจ้า วิวจากหน้าต่างมองลงไปเห็นเลโก้แลนดืจ้า

มาถึงทีเด็ดอาหารเช้า ราคาค่าห้องนี่รวมอาหารเช้าแล้วนะ อาหารเ

ช้าคือเยอะมากทั้งปริมาณและความหลากหลาย ยังสงสัยนอน 3 คืนจะชิมได้ครบมั้ย มีทั้งอาหารถิ่น จีน แขก นานาชาติ ที่สำคัญอร่อยทุกอย่าง ผลไม้นี่เพียบ

ทั้งปริมาณ

ดุภาพกันจุใจไปแล้วก็ขอย้อนไปถึงตอนที่ว่าเวลา check in กับ check out 4 โมงเย็น กับ 11 โมงเช้า มันพอดียังไง พอดีตรงที่คุณจะมาถึงเลโก้แลน์กี่โมงก้ตามสวนสนุกเปิด 09.00 - 18.00 น. คุณฝากกระเป๋าไว้แบบไร้กังวลแล้วไปเที่ยวให้เพลิดเพลิน 4 โมงเย็นค่อยเข้าห้อง หรือมาเข้า 5 - โมงเย็นเลยก็ได้ หรือเช้ามาตื่นสบายๆ ห้องอาหารทานได้ถึง 10.30 น. ทานเสร็จ Check out ฝากกระเป๋าไว้ ออกไปเที่ยวพอดีๆ กลับมารับกระเป๋ากี่โมงก็ได้ แล้วค่อยไปที่พักของเรา หรือถ้าคุณบินกลับวันนั้นไฟล์ทบ่ายแบบเรา คุณเอ้าท์แล้ว ก้ยังฝากกระเป๋า นั่งเล่นบริเวณล๊อบบี้ มีอาหาร แอร์เย็น ห้องน้ำสะอาด ที่นั่งเพียงพอ ที่สำคัญเด็กๆ มีของเล่น มีเพื่อนเล่น จนกว่าจะถึงเวลาที่นัดรถมารับไปสนามบินได้เลย

หรือไปเที่ยว Outlet ใกล้ๆสนามบิน มีเวลาเหลือเฟือเลย สนามบิน Senai มันเล็ก ไม่ busy ผ่านตม. ไวมาก และไม่ซีเรียสเรื่งน้ำหนักกระเป๋า ร้ากกกตรงนี้

ชมภาพจิปาถะ อยากอวด

ห้องน้ำจ้า

คีย์การ์ดมุ้งมิ้ง อ้ออีกความใส่ใจคือ ห้องตอนที่เข้าไป คือ แอร์เย็นมากจ้า เปิดแอร์เสียบการ์ดสำรองไว้ให้ รู้ละซิว่าเราออกจากสวนสนุกมาร้อนมาก แอร์เย็นฉ่ำ

หากถามว่าข้อดีของที่นี่ คืออะไร

1. ใกล้บ้านเรา ค่าตั๋วเครื่องบินถูกมาก เทียบกับต้องไปเลโก้แลนด์สาขาอื่นๆ

2. ค่าเข้าสวนสนุก กับ ค่าที่พักราคามาตรฐานทั่วโลกคะ เช็คมาแล้ว

3. การซื้อตั๋วผ่าน Agent ใดๆ ก็ตามถูกกว่าหน้าเวปพอสมควร ค่าห้องพักก็เช่นเดียวกัน

4. แม้ค่าเงินจะแพงกว่า แต่ค่าครองชีพพอๆกับบ้านเรา เราไปได้ไม่สะเทือนกระเป๋า อันนี้ไม่รวมถึงสิงคโปร์นะ อันนั้นอย่างโหดจ้า

5. ภาษาอังกฤษของคนมาเลเซียดีมาก จะเด็ก ผู้ใหญ่ คนวัยไหนๆ เค้าสื่อสารได้ดีมาก สะดวกสุดเรื่องนี้ ประกาศต่างๆ ทีวียังมีช่องภาษาอังกฤษเยอะมาก

ข้อเสีย มีแน่นอน

1. ร้อน และฝน เราเจอทั้ง 2 อย่างสลับไปมา ร้อนก็ทนเอา แต่ฝนนี่เครื่องเล่นปิดแทบจะหมดเลย safety first เค้ากล่าวไว้

2. การเดินทางไม่ละดวกเท่าๆ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ยังมีมิจฉาชีพในคราบแท็กซี่ พยายามขูดรีดนักท่องเที่ยว ระบบรถสาธารณะก็ยังไม่ครอบคลุม

3. การให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวยังสับสน อันนี้คือทุกโรงแรมเลยนะ

4. แม้จะเคลมว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับเด็กและครอบครัว แต่ส่วนลดค่าเช้าชมสถานที่ต่างๆ การยกเว้นค่าโดยสารรถสาธารณะ แทบจะไม่มีส่วนลดสำหรับเด็ก การคิดค่าห้องพัก หลายๆ โรแรมในมาเลเซียจะฟรีแค่เด็ก 0 - 2 ปี ซึ่งตรงนี้หากใครไปมาหลายประเทศจะพบว่าช่างแตกต่างเพราะประเทศพัฒนาแล้วหลายๆ ประเทศจะฟรีจนถึงเด็กอายุ 10 - 12 ปี

สรุปค่าใช้จ่ายทั้งทริปดังนี้

1. ค่าตั๋วเครื่องบิน คนละ 4,300 ++บาท รวม 13,000 บาท

2. ค่าที่พักแบบ triple ในยะโฮร์บาห์รู 2 คืน 3,000 บาท

3. ค่าห้องพักเลโกแลนด์ (จองผ่าน agent) 5,510 บาท

4. ค่าเข้าสวนสนุกแบบ Family package 3,675 บาท

5. แลกเงินริงกิตไป 5,000 บาท (ใช้หมดเลยกินข้าวที่สนามบินด้วย)

6. เงินดอลล่าร์สิงคโปร์ (เอาที่ใช้จริง) 1,852 บาท

รวมจ่าย 32,037 บาท ตกคนละ 10,679 บาท

ปล. ตรงนี้ไม่รวมค่าชุดของเล่นเลโก้ ซึ่งเราซื้อแต่มีคนสปอนเซอร์ให้เป็นของขวัญวันเกิดลูก กับหมวกนินจาโก สีเทาที่สามารถรูดบัตรไปนะคะ อันนั้นเค้าอยากจ่าย เป็นทริปที่ไม่ได้ช้อปเลย มันไม่สบายใจ 55 คงชินกะทริปเจแปน ไต้หวัน ช้อปหมดตัว

ถามว่าแพงมั้ย ก็แล้วแต่คนมองอะนะ แต่นี้คือเที่ยวสวนสนุกแล้วพักโรงแรมของสวนสนุก ราคามันก็จะแรงอยู่แล้ว แถมนั่งแท็กซี่ตลอด กินร้านทุกมื้อ จะคุมงบแบบ backpack อยู่ที่ 7 -8 พันบาท คงเป็นไปได้ยากอะนะ เพราะเรามีลูก แต่ถ้าคุณว่าปีละครั้ง เปิดประสบการณ์ให้ครอบครัว พักผ่อนสบายๆ มันก็คือคำตอบที่ดีและน่าสนใจทีเดียว