สวัสดีค่ะทุกโค้นนนนน วันนี้จขกท.จะมาแนะนำทางเลือกสำหรับใครที่อยากกางเต็นท์ใกล้กรุง แถมได้บรรยากาศ แม่น้ำ น้ำตก ป่าไม้ พายเรือ ต้องบอกเลยว่าหนีไปไหนไม่ได้เลย ที่นี่ค่ะ "อ่างเก็บน้ำวังบอน" ใช้เวลาเดินทางไม่มาก 2ชม.ก็ถึงแล้วว ทริปนี้เรามีสมาชิก 10+1คนค่าาาาา
วังบอนไม่มีรถประจำทางผ่านเด้อ เราต้องมีรถส่วนตัว แต่ส่วนของจขกท.คือ เหมารถตู้น้าของเพื่อน จากรังสิต-อ่างเก็บน้ำวังบอน ราคาเหมา 1,200฿
นั่งไม่ถึง2ชม.เราก็มาถึงนครนายก จากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปที่แม็คโครทางผ่านพอดี เพื่อที่จะซื้อข้าวของไปทำอาหารกินที่นั่น ค่าอาหารส่วนกลางเราออกกันคนละ 100฿ เราก็ได้พวกนี้มาจ้าา
จากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปอ่างเก็บน้ำกันเล้ยยย
ประมาณ 10:00น. เราก็มาถึงอ่างเก็บน้ำกันแล้ว เราต่างลงจากรถ บางคนไปลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ บางคนไปจับจองพื้นที่กางเต็นท์ บางคนไปติดต่อเช่าอุปกรณ์การทำกินของเราต่างๆ บอกไว้ก่อนเลยนะคะว่าที่นี่มีร้านอาหารนะคะ ราคาไม่แพงด้วย สำหรับใครที่ไม่มีเต็นท์สามารถเช่าเต็นท์ที่นี่ได้ ราคา 220฿ พร้อมเครื่องนอนทุกอย่าง
กางเต็นท์เรียบร้อยเราก็ไปหาอะไรลงท้อง กองทัพต้องเดินด้วยท้องเหมือนที่เขาบอกไว้555 เมนูของเราก็คือก๋วยเตี๋ยวราคา 40฿
กินเสร็จ เราทั้ง11เลือกที่จะเดินถ่ายรูปเล่นก่อนที่จะไปพายเรือค่ะ บรรยายกาศที่น่าเก็บไว้ที่สุดดด
พอเดินเล่นสำรวจอ่างเก็บน้ำเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่ทุกคนทั้งทริปรอคอย นั่นก็คือ พายเรือคายัคเจ้าค่าาา ส่วนตัวเจ้าของจขกท.เองเป็นคนไม่เคยพายเรือมาก่อนเลย ก็มาเซียนพายเรือที่นี่ละค่ะ5555 สำหรับราคาพายเรือที่นี่นะ ราคาต่อคน50฿ จำกัดเวลาไหม? ไม่เชิงค่ะ ถ้าคนเยอะเรือหมด เขาจะกำหนดเวลาค่ะ แต่ถ้าคนไม่มี เรือไม่หมด พายทั้งวันเจ้าหน้าที่ก็ไม่มาตามให้คืนเรือหรอกค่ะ5555
แดดแรงมากๆค่ะ
ที่แรกที่เราจะไปนั่นก็คือ น้ำตกกลางค่ะ สามารถขึ้นไปเล่นน้ำตกได้ ส่วนที่อื่นไม่สามารถขึ้นไปเล่นได้ ระหว่างทางฝนก็ตกปรอยๆลงมาอีกค่าาา
นี่คือน้ำตกที่เราขึ้นมาแล้ววว น้ำตกใหญ่นะคะ หินเยอะ ระวังกันด้วยนะคะ
หน้าตาของสมาชิกในทริปครั้งนี้
พอเราเล่นน้ำหน่ำใจเราแล้ว เราก็ลงเรือเพื่อที่จะพายไปดูอีกน้ำตกหนึ่ง........
พายเรือไปเรื่อยๆค๊าบบบบบ
นี่คือน้ำตกใหญ่ของที่นี่นะคะ แต่ว่าเราไม่สามารถขึ้นไปเล่นน้ำข้างบนได้ เอาจริงคือมันไม่มีทางขึ้นนั่นเอง55555
วนหลายรอบมากกว่าจะได้รูปนี้มา เพราะทั้ง2คนก็ไม่เคยพายเรือคายัคมาก่อนในชีวิต แอบสงสารตัวเองนิดๆ
จากนั้นเราก็มองดูเวลาบ่งบอกว่า เวลานี้คือ15:40น. เราพายเรือเล่นนานพอสมควร ตะวันก็เริ่มลับขอบฟ้า เราจากลากันด้วยรอยไหม้แดดที่หน้า เป็นสิ่งที่น่าจดจำเป็นที่สุดดด รอไรล่ะ พายเรือกลับสิค่า พายไปนอนไปเป็นอะไรที่เริ่ดที่สุดแล้วค่ะ
พอส่งเรือให้กับเจ้าหน้าที่เสร็จ เราก็ต่างแยกย้ายไปอาบน้ำ ทำธุระส่วนตัว ห้องน้ำมี2ฝั่ง บางห้องน้ำไหล บางห้องไม่ไหล แต่ว่าก็ใช้ได้ค่ะ ระหว่างนั้นร้านค้าก็จะเอาไฟ100฿ เตา2ชุด60฿ ถ่าน2ถุง40฿ ตะแกรงปิ้งย่าง2อัน40฿ กระติกน้ำแข็ง+น้ำแข็ง30฿ ราคาทั้งหมดประมาณ 270฿ิ 11คนก็ตกคนละ 25บาท จากนั้นแม่ศรีเรือนอย่างพวกเราก็พากันจัดเตรียมอาหารกันสิค่าาาาา
ลูกชิ้นชาโคลไม่ดราม่านะคะ ไฟที่นี่มันแรง5555
จับอะไรได้ก็ใส่ไปให้หมดเลยจ้าาาา กินไม่ได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง
ตบท้ายด้วยข้าวโพดเหลือง หวาน หอม
สภาพหน้าสดของแต่ละคนนนน เป็นภาพที่มีความสุขมากที่สุด
กินเสร็จเราต่างนั่งพูดคุยกันเล็กน้อย และแยกย้ายกันเข้านอนเพื่อพรุ่งนี้เราจะได้ลุยกันต่อจ้าาาาาา
--เช้าที่สดใสวันแรกของเราก็มาถึง แสงสีส้มกระทบเต็นท์ของเรา ทำให้เราตื่นขึ้นมาพร้อมกับความแปลกตากับแสงสีส้มนี้
จากนั้นเราก็นั่งคุยกันแปปเดียว ก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำแต่งตัว เพื่อที่จะไปวัด ทำบุญกฐินวันออกพรรษาที่วัดใกล้ๆอ่างเก็บน้ำวังบอน นั่นก็คือ "วัดเขาพระธรรมขันธ์"
เจดีย์ขาวที่สูงสง่า ขับรถมาก็สะดุดตากับเจดีย์สีขาวนี้
อารมณ์เหมือนวัดป่าค่ะ สงบ และเงียบมากกกก
เงินที่พวกเราร่วมกันทำบุญกฐินในวันนี้ค่ะ
จากนั้นเราก็เดินสำรวจวัดเล่นค่ะ
ก่อนขึ้นรถกลับน้องหมา2ตัวนี้ก็ตามมาส่งถึงรถค่ะ น้องๆที่นี่น่ารักมากกกกกก
ก่อนกลับไปอ่างเก็บน้ำ เราก็มีผู้ใหญ่ใจดีเลี้ยงข้าวเช้า+เที่ยงค่ะ เป็นใครไม่ได้นอกจากน้าของเพื่อนค่ะ (ประหยัดงบเราจ้าาา)
น้าเขาเลี้ยงข้าวก่อนที่จะกลับบ้านจ้า น้ามีธุระต่อ
จากนั้นเราเดินทางกลับอ่างเก็บน้ำ กลับไปถึงเวลาประมาณ12:30น. แดดกำลังเผาทุกสรรพสิ่งเลยจ้า โดยเฉพาะหน้า แขน ขา ของฉ๊านน
เราได้แต่รอเวลาให้แดดอ่อนกว่านี้ นั่งไปนั่งมาก็ง่วงเหมือนกัน5555 แต่จขกท.ไม่พ่ายแพ้ความง่วงหรอก พาตัวเองไปเก็บภาพบรรยายกาศของที่นี่ค่า
--14:00น. เราเริ่มที่จะอดใจรอไม่ไหว เอาไงเอากัน ไหม้ก็ไหม้เลยจ้าา ลุยลูกเพ้
น้ำตกนี้คนจะเยอะมากแม่
เราเล่นได้แปปเดียวก็กลับไปลงเรือ เพราะคนเยอะมาก เยอะจริงงงงงง
เราก็พายเรือเล่นเรื่อยๆ
ไม่นานเจ้าหน้าที่ก็ขับเรือมาบอกเราว่า"หมดรอบแล้วครับ" โอเค ได้ วันนี้คนเยอะ เรือหมดเร็ว55555 ไม่ว่ากันนนน
กว่าเราจะพายเรือถึงฝั่ง ก็กินเวลาไปเกือบ 16:00น.
จากนั้นต่างพากันอาบน้ำ เราสลับกันไป ใครจะไปอาบน้ำก็อาบ ใครจะเตรียมอาหารก็เตรียมกันเลยจ้า ระหว่างนี้ก็จะมีร้านค้ามาถามว่าเอาไฟฟ้าไหม เราก็บอกว่า"เอาจ้า"แต่วันนี้เราเสียแค่100฿ แต่ได้พัดลมมาอีกต่างหาก เราเช่าเตาต่ออีก1คืนพร้อมกับถ่านราคา40฿ หาร10คนตกละคะ 14฿
เมนูต่อไปนี้ ไม่ต้องพูดถึง ของหมดค่ะ เหลือแค่มาม่ากับผักเล็กๆน้อยๆ ตามที่เห็นเลยจ้าาาาา
ยากันยุงไม่ต้อง จุดไฟเผายุงจ้าาา ไล่คนด้วยย (จุดไฟเพื่อเผามันม่วงค่ะ)
จากนั้นกินข้าวเสร็จเรียบร้อย นั่งคุยกันสักพักก็เข้าเต็นท์นอนกันเลยจ้าาา กลัวพรุ่งนี้ไม่ตื่น5555 (คืนนี้ฝนตกแบบหนักมาก เต็นท์เกือบพัง)
--เช้าแล้วพี่น้อง ตื่นนนน ตื่นเช้ามาก็จะมีหมอกลอยตุ่มป่องๆบนยอดเขา
จากนั้นทุกคนต่างอาบน้ำทำธุระส่วนตัว และเก็บข้าวของกลับเมืองกรุงกันจ้าาาาาา ไม่อยากกลับเลย ร้องไห้--
เก็บข้าวเก็บของเสร็จก็พากันไปกินข้าวก่อนขึ้นรถกลับค่ะ อาหารที่นี่ราคาถูกมาก พ่อค้าแม่ค้าที่นี่ใจดีมาก ข้าวตามสั่งเริ่มต้น40฿ จานใหญ่โต
กินข้าวเสร็จเราก็ไปเหมารถกลับค่ะ แต่ไม่ได้กลับรังสิต แต่เหมารถไปที่แยกนเรศวรค่ะ เพื่อที่จะขึ้นรถตู้กลับรังสิต ราคาเหมานะคะ 400฿ หารกัน10คน ตกคนละ 40฿ จากนั้นก็ต่อรถตู้กลับรังสิตค่ะ ราคา 100฿
ทริปนี้ก็จบลงแล้วค่าาา เป็นการนอนพักผ่อนที่ดีที่สุดเลยทีเดียว ได้ทั้งป่า แม่น้ำ พายเรือ โอ้ยย ปลื้มมากจ้าาา
สรุปค่าใช้จ่าย
-ค่ารถตู้เหมาจากรังสิต-วังบอน 120 ฿
-ค่าส่วนกลางอาหาร 100 ฿
-ค่าเช่าอุปกรณ์2คืน 39 ฿
-ค่าพายเรือคายัค2วัน 100 ฿
-ค่าข้าวกะเพราหมูกรอบ 40 ฿
-ค่าเหมารถไปแยกนเรศวร 40 ฿
-ค่ารถตู้นครนายก-รังสิต 100 ฿
-ค่าจิปาถะ 200 ฿
####รวมค่าใช้จ่าย 739 ฿ บอกแล้ว 800 มีทอน
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่กางเต็นท์ ใกล้กรุงเทพฯ และมีกิจกรรมสนุกๆให้เล่น จขกท.ขอแนะนำอ่างเก็บน้ำวังบอนค่ะ เชื่อเถอะ ไม่ผิดหวังแน่นอนจ้า
ปลอดภัยค่ะ เจ้าหน้าที่ดูแลตลอดทั้งคืน ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเด้อออออ
Urailak Chanthiman
วันพฤหัสที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 17.08 น.