"ภูป่าเปาะ" หรือ "ฟูจิเมืองเลย"
เรามาถึง ภูป่าเปาะ ในเวลา เที่ยงครึ่งกว่าๆ แดดงี้ ร้อนเปรี้ยงๆ เลยค่ะ
แต่ในเมื่อคณะบ่มีใครยั่น ทรายเองก็บ่ยั่นคือกัน พร้อมสู้แดดจ้า
ด้วยความที่แดดจ้า ภาพก็เลยออกมา สวยสดงดงามแบบนี่นี่แหละ
ถ้าจะให้แนะนำ ขอให้มาตอนเช้า มาดูทะเลหมอก รับอากาศหนาวๆ ดูพระอาทิตย์ขึ้น
หรือมาตอนเย็น ดูวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ น่าจะเพิ่มความฟินน์ได้อีกนิด อีกนิดนั่นแหละ
เราจอดรถที่จุดบริการนักท่องเที่ยว เพื่อเปลี่ยนขึ้นรถ อีแต๊ก ในราคา ไปกลับ คนละ 60 บาท
ทางขึ้นก็จะประมาณนี้ บางจุดค่อนข้างชัน ถ้านั่งด้านหน้าคนขับจะรู้สึกตื่นเต้น
ในที่สุด เราก็เดินทางมาถึงจุดชมวิวจุดที่ 1 กันแล้วค่ะ
เป็นจุดที่จะเห็น ภูหอ หรือ ภูเขาที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ภูเขาก้นถ้วย หรือ ฟูจิเมืองไทย ชัดที่สุด ใกล้ที่สุด
วิวก็จะเป็นแบบนี้ >>>>
มีไกด์ท้องถิ่นคนสวยบรรยายให้ฟังด้วย
ไปต่อกันที่ จุดชมวิวที่สองกันเลยดีกว่าค่ะ
ไฮไลท์ของจุดนี้ น่าจะอยู่ที่ ภูเขารูปทรงคล้ายผู้ชายนอนกอดอก
แต่ จขกท ถ่ายมายังไงไม่รู้ มองไม่เห็นเป็นรูปแบบนั้นเลย
ถ้าใครมีโอกาสได้ตามไป ก็ไปสังเกตเอานะคะ จำได้ว่าเหมือนจริงๆ
แล้วก็มีจุดถ่ายรูปตรงนี้ มีชิงช้า แล้วก็คำว่า ภูป่าเปาะ สวยมากๆ ค่ะ
ไปต่อที่จุดชมวิวจุดที่ 3 เลยนะคะ
เห็นอะไรกันมั้ยคะ? ภูเขารูปผู้หญิงนอนอ้าปากน้ำลายไหล ว้าววว!! ธรรมชาติสวยมากๆ เลย
หัวของผู้หญิง ก็จะชนกับ หัวของผู้ชายที่นอนกอดอกอยู่ แล้วก็จะมองลงไปเห็นจุดบริการนักท่องเที่ยว
จากจุดที่ 3 ไปจุดที่ 4 ต้องเดินเท้าขึ้นไปอีก 200 เมตรค่ะ
100 เมตรแรก ทางค่อนข้างชัน เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน
ส่วนอีก 100 เมตรหลัง เดินสบายกว่านิดหน่อย ไม่เหนื่อยเลย สบายมาก
จุดที่ 4 สามารถมองเห็นวิว ภูเขาต่างๆ ที่อยู่รอบภูป่าเปาะได้ 360 องศาเลยค่ะ
ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ จุดชมวิว 360 องศา ที่จะมองเห็นภูเขาใกล้เคียง
เช่น ภูหอ ภูหลวง ภูกระดึง ภูผาม่าน ภูเรือง น้ำหนาว ว้าวๆๆๆ
ที่ "ภูป่าเปาะ" มีรถอีแต๊ก ไว้รับรองนักท่องเที่ยวถึง 74 คัน (21-10-2019)
ช่วงนี้มีทะเลหมอกด้วย สามารถขึ้นภูได้ตั้งแต่ ตี 5 จนถึง 6 โมงเย็นเลยน๊า
ขอบคุณข้อมูลและขอบคุณสำหรับการบริการจากไกด์สาวคนสวยใจดีค่ะ
SaiChi Chayapa
วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.12 น.