ออกไปเที่ยวเขาใหญ่กัน ... เพราะเขาใหญ่ก็ยอมเขา

แม้อากาศบ้านเราจะไม่เอื้ออำนวยในการสร้างฟิลออกเที่ยวภูเขาเท่าไหร่ แต่รอบนี้ เขาใหญ่จริงๆ แบบที่ต้องยอมเขาเลยแหละ แน่นอนว่าเราตัดสินใจตะลุยร้อนไปเพื่อสิ่งนี้ Casa de Montana at Khao Yai ที่พักสุดเกร๋กู๊ด ที่ส่องเจอจากในรีวิว ไม่รอช้า ทำการจองเลยค่ะ ปกติไม่ค่อยสู้กับที่พักสายฮอตที่ใครๆ ก็ต่อคิวไปเท่าไหร่ แต่ที่นี่คงเป็นโชคชะตาหนุนนำให้เราต้องเจอกัน

สุดท้ายจองล่วงหน้าเป็นเดือน กว่าจะได้คิวเธอมาครอบครอง

รีวิวเขาใหญ่ 2 วัน 1 คืน จึงเริ่มต้น

---

DAY 1 กินสเต็ค จิบกาแฟ ถ่ายรูปลงปก

ออกเดินทางแบบไม่รีบร้อน แพลนร้านกาแฟเกร๋ ๆ ชิคๆ เพียบแต่เนื่องด้วยดิฉันหิวค่ะ เราเลยต้องมุ่งหน้าหาข้าวกลางวันกินหาใน Google เจอร้านน่าสนใจก็ Map ไปเลยจ้า ร้านลูกไก่ รสชาติอาหารคือเลิศอยู่ ถูกปากกวาดเรียบทุกจาน ราคาไม่ค่อยน่ารัก แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่นะ สรุปชอบ สลัดดี พอร์คช็อป ละลายในปาก (มื้อนี้แบงค์พันทอนมาหลักสิบ)

แวะจิบกาแฟร้านลับๆ ที่แสนเท่ กันที่นี่เลย

PLEASE DON’TELL

มุมเช็คอินเค้าก็ดึงดูด น่ามาถ่ายรูปพอสมควร ที่นี่บังคับให้ซื้อเครื่องดื่มทุกคนนะจ๊ะ จะมาเนียน กินแก้วเดียว 8 คนไม่ได้ อยากได้รูปสวยก็ต้องแลกกันหน่อยอ่ะเนอะ

มุมที่ต้องตามไปถ่ายรูป จุดที่ 1 (ได้ฟีลแบบรักนกที่บาหลี)

จุดที่2 ราวระเบียงยาว แบล็คกราวเป็นเทือกเขา

---

และแล้วก็ได้เวลาที่เรารอคอย กับการจะได้พบพระเอกของทริปนี้คุณค่ะต้องบอกเลยว่าเราตื่นตะลึงมาก มันอะเมซิ่งสุดๆ คู่ควรแก่การมาพักจริงๆ

Casa de Montana at Khao Yai

เราต้องเช็คอินเย็นหน่อยเพราะเจ้าตัวบับเบิ้ล จะร้อน ภายในบับเบิ้ลใสๆ ลูกโตของเรานั้น อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเทียบเท่าโรงแรม 5 ดาวเลยก็ว่าได้ ครบครันที่สำคัญแอร์เย็นฉ่ำมาก

ภายในรีสอร์ทจะมีที่พักที่เป็นบับเบิ้ลใสๆลูกโตแบบนี้ 1 ห้องเท่านั้นค่ะ (เพราะฉะนั้นไม่แปลกใจเลยที่ต้องรอคิวนานกันหน่อย โดยเฉพาะเสาร์อาทิตย์ น่าจะเต็มยาวๆ ไปเลย)

• การดูแลของพนักงานดีมากๆ รู้สึกเหมือนเป็นลูกค้า VVIP สุดๆ
• ทั้งหมดจะเป็นซีทรูแบบที่เห็น แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะบริเวณรอบๆ ที่พักเค้าจะกันไว้ให้เป็นส่วนตัวสำหรับเราไม่มีใครสามารถเข้าออกได้ค่ะ เรียกว่า มีสวนหย่อมหน้าบ้านส่วนตั๊ว ส่วนตัว
• ห้องน้ำนี่สนุกมาก มีทั้งอ่างอาบน้ำ ตู้อาบน้ำ และชักโครกที่เป็นแบบออโตเมติก (คือเดินเข้าไปปุ๊บฝาชักโครกเปิดทันที ) ตามหาที่กดกันเข้าไปสิ งงหนักมาก ปรากฎว่า โถ...คุณ เค้าใช้รีโมทควบคุมทุกอย่างเลยจ้ะ
• อาหารรสชาติดีมาก ปริมาณเยอะมากเช่นกันเราซื้อเป็นแพ็คเกจมา ถือว่าอิ่มแบบยิ้มกว้างไปเลย
• ตอนกลางคืนโรแมนติกมาๆ นะคุณ นอนดูดาว เปิดเพลงชิวๆ จิบโกโก้ร้อนๆ คือดีย์ (ตั้งใจจะจิบแชมเปญ แต่ง่วงซะก่อน) เตียงนอนคือที่สุดค่ะ หนานุ่ม หลับสบาย สำหรับใครที่อยากจะแสดงบทเลิฟซีน เค้ามีม่านบังให้แบบน่ารัก มิดชิดไม่ต้องกังวลไปจ้า 5555555
• นอกจากบ้านบับเบิ้ลแล้ว ที่นี่เค้ามีแบบ นอนในรถ นอนในคอนเทนเนอร์ หลากหลาย อบอุ่น เป็นส่วนตัวดี

บรรยากาศยามค่ำคืน และ เมนูอาหาร ที่รวมอยู่ในแพ็คเก็จ

สรุปคือ สำหรับที่นี่ เราให้ 10 เต็ม 10 ไปเลยค่ะคุณ มันให้ความรู้สึกแปลกใหม่ ตื่นเต้น ไม่คุ้นตา แต่สะดวกสบาย ปลอดภัยอ่ะ ที่สำคัญถ่ายรูปออกมาว้าวสุดๆ บริการก็ดี ราคาประทับใจ ไม่สิบยังไงไหวอ่ะ ดูดิ ถ้าใครมีโอกาส อยากให้ไปลองดูซักครั้งนะ

---

DAY 2 แวะร้านกาแฟ แวะแล้วแวะอีก

ร้าน 1 THE BIRDER’S LODGE

ชอบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ภายในร้านจุดแลนด์มาร์ค ที่จัดไว้น่าสนใจ ลงตัว ยิ่งใหญ่ เหมาะกับการนั่งเงียบๆ อ่านหนังสือเบาๆ ซักเล่ม

---

ร้าน 2 PIROM

ร้านนี้ได้ความติดแอ่งน้ำ หรือ ทะเลสาบเบาๆ เลยทำให้บรรยากาศสบายๆ เหมาะกับครอบครัว แวะพาลูกพาหลานมาวิ่งเล่น มีสนามหญ้าเขียวๆ นั่งเพลินๆ มีหลับค่ะคุณ

---

สรุปค่าเสียหายเขาใหญ่

ค่าที่พัก 2 วัน 1 คืน รวมอาหารเย็น 1 ชุด และ อาหารเช้า ( 2 คน) 3,500 บาท

ค่าอาหาร+กาแฟ (2 คน )ประมาณ 1,500 บาท

• เขาใหญ่เป็น zone ละลายแบงค์พันค่ะคุณ ที่นี่ทุกร้านกาแฟ หรือจุดเช็คอินค่าครองชีพสูงมาก เตรียมกำตังไปให้แน่น ราคากาแฟเริ่มต้นที่ 90 บาท (ร้านดังก็ต้องเสียตังกันหน่อย)
• การเดินทางจากกทม.ไม่ไกล สบายๆ แต่ก็ต้องขับด้วยความระมัดระวัง
• ที่พักดี บริการน่ารัก เปิดประสบการณ์การพักที่แปลกออกไป ต้องลอง
• ห้ามใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์มา เดี๋ยวเข้ากล้องแล้วจะไม่ฟู่ฟ่า โอ่อ่า นะจ๊ะ (ฮาา)
• เป็นทริปที่ประทับใจทริปนึงแหละ ถ้าไม่ติดว่า ช่วงวันเดินทางไปเกิดอุบัติเหตุ นิดหน่อย รถลื่นน้ำขังกระแทกกับขอบข้างทางดีที่ไม่ได้เป็นอะไร เลยมาเขียนรีวิวให้ทุกคนอ่านกันได้ ใช้ชีวิตกันด้วยความระมัดระวังด้วยนะคะ