หลังจากเราค้างกันที่ #บ้านจ่าโบ่ ไปเมื่อคืน ก็ได้เวลาเดินทางต่อจุดหมายคือ #บ้านรักไทย แต่ก่อนถึงจะมีอีกหนึ่งสถานที่เป็นแหล่งท่องท่องเที่ยว ที่นั้นคือ
#ถ้ำปลา ตั้งอยู่ภายใน อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา - น้ำตกผาเสื่อ แม่ฮ่องสอน บริเวณโดยรอบเป็นลำธารและป่าเขา ถ้ำปลาตั้งอยู่บริเวณเชิงเขามีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 2 เมตร ลึก 1.50 เมตร ภายในแอ่งน้ำมีน้ำไหลออกจากถ้ำใต้ภูเขาอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นสถานที่ที่แตกต่างไปจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เนื่องจากว่าภายในถ้ำมีความมหัศจรรย์อยู่อย่างหนึ่ง ก็คือ บรรดาหมู่ปลาจำนวนมากที่มาอยู่อาศัยในถ้ำแห่งนี้นี่เอง ถ้ำปลาเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-19.00 น.
#อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา - #น้ำตกผาเสื่อ
70 หมู่ 1 ต.ห้วยผา อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน 58000 โทร.082-191-1746
บริเวณด้านหน้าจะเป็นลานจอดรถ และร้านอาหาร พร้อมป้ายสถานที่ขนาดใหญ่ให้เราถ่ายรูปกัน ก่อนจะเดินข้ามสะพานไปด่านเก็บค่าธรรมเนียม สำหรับเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ผู้สูงอายุไม่เสีย
ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่มีบรรยากาศที่ร่มเย็น พร้อมลำธารไหลผ่าน มีทั้งบ้านพักอุทยาน และจุดกางเต็นท์ เห็นว่าบรรยากาศเช้าๆจุดกางเต็นท์ที่นี่ก็สวยเลย จะมีหมอกลอยต่ำๆ เหนือพื้นดินจากลำธาร
ภายในก็จะมีร้านค้าขายอาหารปลาราคาตะกร้าละ 20 บาท มีหลายอย่างที่ปลาที่นี่กิน ไม่ว่าจะเป็นอาหารปลา ผัก แมลง เมื่อเราเข้าไปบริเวณภายในก็จะพบสะพานแขวนข้ามลำธาร และมีทางเดินเลาะลำธารไปเรื่อยๆ ยังถ้ำปลา ส่วนใหญ่ที่นี่จะเป็นปลามุง ปลาคัง หรือปลาพลวง มีขนาดใหญ่ และมีจำนวนมาก ที่อาศัยอยู่บริเวณลำธาร และบริเวณปากถ้ำหลายจุด
อีกทั้งที่นี่ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีรูปปั้นฤาษีให้เรากราบไหว้บริเวณปากถ้ำ เมื่อเรามาเที่ยวให้อาหารปลาเสร็จแล้วก็เตรียมตัวเดินทางต่อไปยังบ้านรักไทยซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก
เมื่อเราเดินทางต่อ และใกล้ทางเข้าก็จะพบซุ้มขนาดใหญ่หลังคาสีแดง ต้อนรับเราเข้าสู่ บ้านรักไทย (แม่ออ)
บริเวณหมู่บ้านเราก็จะพบความสวยงามทั้ง 2 ด้านไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ และร้านค้าชา กาแฟ ต่างๆมากมาย ร้านแรกที่เราเจอก็จะเป็นร้าน
#ต้าเหล่าซือรักไทยรีสอร์ท บริเวณด้านหน้าก็จะเป็นร้านอาหารจีนยูหน่านเก่าแก่ขนาดใหญ่ อีกทั้งที่นี่จะมีห้องพักหลายราคา อยู่ที่ราคา 1,600-1,900 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะนำเต็นท์มากางเองก็ได้บริเวณสนามหญ้าราคาคนละ 200 บาท ติดริมน้ำ มีห้องน้ำรวม ที่นี่ก็ถือว่าเป็นสถานที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพัก และทานอาหารเช้ากัน จุดเด่นของที่นี่ก็เป็นพวก #หมั่นโถว #ขาหมู #น้ำชา
#ลีไวน์รักไทย รีสอร์ท ราคาห้องพักอยู่ที่ ประมาณ 1,800-3,600 บาท ตั้งอยู่บนไร่ชาที่สวยงาม ด้วยบ้านดินทรงจีนเก่าๆ แบบโบราณ อยู่ท่ามกลางไร่ชาพันธุ์ดี ตอนเช้าตื่นมาจะเห็นวิวทะเลสาบถูกปกคลุมไปด้วยสายหมอก พร้อมจุดชมวิวสวยๆบนไร่ชาที่มองเห็นเขื่อน และหมู่บ้านโดยรอบ อีกทั้งในแต่ละวันยังเปิดให้นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้พักสามารถเข้าชมถ่ายรูปบริเวณไร่ชาได้ในเวลา 10.00-17.00 น. เท่านั้น ไม่อนุญาตให้เข้าไปบริเวณระเบียงห้องพักต่างๆ และงดใช้เสียงดังซึ่งจะเป็นการรบกวนลูกค้าที่มาพักของทางรีสอร์ท
โดยลีไวน์รักไทย รีสอร์ท ยังมีร้านอาหาร และร้านกาแฟอยู่บริเวณถนนด้านล่างติดกับเขื่อนให้นักท่องเที่ยวสามรถเข้าไปทานอาหาร ดื่มกาแฟ และถ่ายรูปกันได้ กับวิวสวยๆ มุมสวยๆหลายที่ อีกทั้งยังมีบริการเรือแจวให้นักท่องเที่ยวเช่า พานั่งเรือชมบรรยากาศภายในเขื่อน
#ชาสารักไทย จะมีเอกลักษณ์พิเศษ คือบ้านทรงจีนโบราณ บนไร่ชา และกำแพงเมืองจีนจำลองที่ทอดยาวอยู่บนเนินเขา สามารถมองเห็นวิวโดยรอบของ #เขื่อนในหมอก และหมู่บ้านโดยรอบเขื่อนที่สวยงาม
บริเวณด้านล่างก็จะเป็นร้านขายของฝากต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชาหอมๆ หลากหลายรสชาติ มีให้ทดลองชิมด้วยกันหลายชนิดกันเลยทีเดียว
สำหรับที่พักอื่นๆ ก็มีหลากหลายรูปแบบทั้งบริเวณบนเขา ริมน้ำ ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักริมน้ำ ห้องพัก หรือจุดกางเต็นท์
#รักไทยแคมปิ่ง ตั้งอยู่บนภูเขา ที่นี้ให้นักท่องเที่ยวกางเต็นท์ได้ ราคา 200บาท/คน มีห้องน้ำรวม อยู่ด้านบน สามารถมองเห็นวิวเขื่อน และหมู่บ้านจากยอดภูเขาได้ รถยนต์สามารถขึ้นไปจอดด้านบนได้
สำหรับ #เขื่อนในสายหมอก ก็จะมีถนนคอนกรีตเชื่อมต่อวนเป็นทางโดยรอบ พร้อมร้านค้า ร้านอาหารหลายอย่างให้เรานั่งรับประทานกันได้ ราคาอาหารไม่แพงสำหรับที่นี่ ตอนนี้เราก็วนหาที่พักกันไปพลางๆ พร้อมชมวิว ชมบรรยากาศไปในตัว
#ยี่ซิงเกสท์เฮาส์ 084-4845263 บ้านพักริมน้ำราคาไม่แพง คืนนี้คือที่พักของเรา ราคา 700 บาท 2 เตียงสบายๆ พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น ห้องน้ำสะอาด มีอาหารเช้าเป็น #หมั่นโถวทอด #ชา #กาแฟ #โอวัลติน ให้รับประทาน
ที่นี่ก็สามารถมองเห็นแสงไฟยามค่ำคืนของรีสอร์ท และร้านอาหารต่างๆ ได้อย่างสวยงามเลย
บรรยากาศยามเช้าก็มาถึง ตื่นมาชมหมอกที่ลอยบนผิวน้ำจำนวนมากภายในเขื่อนสวยงามจริงๆ สวยสมชื่อ #เขื่อนในหมอก
สำหรับฝั่งตรงข้ามเราก็เป็น #สถานีอนามัยบ้านรักไทย ที่นี่นักท่องเที่ยวก็นิยมมากางเต็นท์กัน เห็นว่า ไม่เสียเงิน มีห้องน้ำให้ใช้บริการ แต่มีจุดกางเต็นท์รองรับไม่มากนัก
หลังจากเราทานอาหารเช้ากันแล้วก็เตรียมตัวเก็บของเพื่อไปแวะหาถ่ายรูป และหาของกินกัน และไปชม #ไร่ชา ที่ #ลีไวน์รักไทย พร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันหน่อยก่อนที่จะเดินทางต่อไปค้างกันอีกที่ คือ #ปางอุ๋ง ห่างจาก #บ้านรักไทย แค่ 13 กิโลเมตรเท่านั้นเอง
ฝากติดตามผลงานอื่นๆ เพิ่มเติมได่ที่ #เที่ยวไทยกับAn และช่องทางยูทูปด้วยน่ะครับ ขอบคุณมากครับ
เที่ยวไทยกับAn
วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 11.39 น.