ห่างหายไปนาน ก่อนอื่นเราขอฝากเพจของพวกเราก่อนะคะ เราสองคนเป็นพี่น้องสายเที่ยว บ้านช่องไม่ค่อยอยู่ ติดตามเราสองคนได้ที่เพจนี้คร๊าบบ https://www.facebook.com/porjaipaii/
วันนี้เราจะไปเข้าป่ากันบ้างดีกว่าค่ะ ครั้งนี้เราไปกันที่ "เขาสันหนอกวัว" ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม มีความสูงอยุ่ที่ 1,767 เมตรจากระดับน้ำทะเล ระยะทางการเดินประมาณ 9 กิโลเมตรค่ะ ไป-กลับก็18 กิโลเบาๆ
โดยในปีนี้ทางอุทยานมีกำหนดเปิดเส้นทางตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2562 ถึง 16 กุมภาพันธ์ 2563 (( แต่จริงๆเราไปมาปีที่แล้วแหละ55 ))
ทริปนี้เรา2คนไปกับ พี่แจ๊ค เพจนักเดินทางตัวน้อยเช่นเคย นับว่าเป็นทริปที่พิสูจน์เราสองพี่น้องจริงๆว่า โดนป้ายยาเข้าวงการนี้จริงๆแล้วแหละ ถอยออกไม่ทันแล้วแหละ55 เพราะสำหรับเรา 2 พี่น้องที่ผ่านทริปเดินจริงจังมาแค่ ลานสนภูสอยดาว ดังนั้นทริปนี้น่าจะนับเป็นทริปที่เดินเยอะที่สุดที่เคยเดินในตอนนั้น
เกริ่นมาเยอะใครสนใจที่จะไปที่นี่ ทางอุทยานจะเปิดให้จองสำหรับกิจกรรมการเดินป่าล่วงหน้าโดยประมาณ 15 วันก่อนขึ้นเดือนใหม่ค่ะ โดยเพื่อนๆที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารวันที่ที่ทางอุทยานเปิดให้เข้าศึกษาธรรมชาติ หรือกำหนดการจองได้ที่เพจ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม เพจของอุทยานได้เลย หลังจากเช็ควันเรียบร้อยจัดกลุ่มเพื่อนเรียบร้อย (กลุ่มนึงไม่เกิน 7 คน) ก็โทรจองได้เลยจ้าที่เบอร์ 034-510-431 และ 089-2287612 ( 09.00 – 16.00 น. )
🤸♀ ขั้นตอนถ้าจองได้เรียบร้อย 🤸♀
- โอนเงินค่ามัดจำของสมาชิกในกลุ่มคนละ 100 บาท (ถ้าไป7 คน ก็ 700 บาท) หมายเลขบัญชี 718-1-26976-3 ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี นางศตพร ห่อไธสง
- ถ่ายรูปหน้าบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมจัดเรียงสำเนาบัตรฯของสมาชิกในกลุ่มทุกคน พร้อมหลักฐานการโอนเงินค่ามัดจำ ในรูปแบบไฟล์ Word หรือ PDF มาที่ไลน์ ID : khaolaem_np ภายในวันถัดไปหลังจากที่จองได้ โดไม่เกินเวลา 16.30 น.
- โทรมายืนยันก่อนเดินทาง 2 วัน หากไม่มีการจัดส่งเอกสารดังกล่าว และไม่โทรมายืนยันการเดินทาง ทางอุทยานฯจะถือว่าท่านไม่ประสงค์จะเดินป่าศึกษาธรรมชาติสันหนอกวัว และขอตัดสิทธิในการเดินทางโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ถ้าทำครบ 3 ข้อนี้เรียบร้อยแล้วก็เตรียมแพ็คกระเป๋า ฟิตร่างกายมาในวันที่ได้จองไว้ได้เลย จะต้องมาลงทะเบียนก่อนขึ้นเขา ณ จุดชมวิวป้อมปี่ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 9.00 น. (ตรงต่อเวลาด้วยนะคะ ใครที่มาจากต่างจังหวัดก็แนะนำให้มานอนรอที่ป้อมปี่ดีกว่าค่ะ)
🤸♀ ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้กับทางอุทยาน 🤸♀
- เจ้าหน้าที่นำทาง 1,200บาท/กลุ่ม
- ค่ารถรับส่งไป – กลับ ระหว่างจุดชมวิวป้อมปี่กับจุดเริ่มต้นเส้นทางเดิน 1,200บาท/กลุ่ม
- ค่าลูกหาบ 1,400บาท/คน คนนึงแบกไม่เกิน 30กิโลเมตร สำหรับเราเราว่าจ้างสักคนก็ดีนะ เพราะพี่เขาจะไปช่วยตักน้ำให้ด้วยค่ะ
- ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน 40 บาท/คน
- ค่าใช้สถานที่ (นอนค้างพักแรม) 30 บาท/คน
โดยทางอุทยานมีร้านสวัสดิการอยู่ที่ป้อมปี่ ราคาไม่แพงสั่งห่อไปทานเป็นมื้อเที่ยงระหว่างเดินก็ดีนะคะ ใครไปเยอะไม่อยากรอคิวจะโทรมาสั่งจองก่อนก็ได้นะคะ092-419-0368(ป้าศรี)
พร้อมแล้วก็ไปกันเลยนะจ้า ที่นี่ไม่ควรพลาดจริงๆ
แพ็คของกันก่อนนะจ้า อะไรที่จะแบกขึ้นไป ในส่วนของเสื้อผ้าที่จะใส่วันกลับไม่ต้องแบกไปนะ ฝากไว้ที่รถก่อน ข้างบนมีห้องน้ำ ใครไปเป็นทริปแรกๆก็จะยังไม่ค่อยเหม็นเป็นห้องน้ำที่เขาขุดมา และมีปูนขาวให้เทดับกลิ่นๆ ใครไปหลังๆกลิ่นก็นจะหรรษานิดนึงนะจ๊ะ
ลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยก็มาเข้าคิวขึ้นรถกะบะ พวกเราเริ่มต่อคิวเพื่อนั่งรถกะบะจากป้อมปี่มาที่จุดเริ่มต้นเดินตอน 08.30 น. มาถึงจุดเริ่มต้นเส้นทางเดินตอน 09:00 น.จ้า ก่อนเดินก็แชะภาพสักนิด เผื่อขาเดินกลับมาสภาพหน้าไม่พร้อมถ่ายรูป55
การเดินสำหรับที่นี่ ทุกกลุ่มจะมีเจ้าหน้าที่และลูกหาบที่จ้างเดินตามเสมอ โดยเจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มจะเดินปิดท้ายคนสุดท้ายของกลุ่มตลอดเลยนะเท่าที่สังเกตุ ระหว่างทางก็จะมาจุดพักทั้งที่ทางอุทยานจัดทำขึ้นมามีป้ายบอกชัดเจน และพักเองเพราะไม่ไหวแล้วจริงๆ
ที่นี่สำหรับเราจัดว่า ขึ้นสุด ลงสุดจริงๆ สำหรับที่อื่นที่มีแต่ขึ้นตอนวันแรก ขากลับสบายจ้ามีแต่ลง แต่สำหรับที่นี่ช่างต่างกัน วันแรกและวันที่สองเหนื่อยพอกัน เพราะมันขึ้นสุดลงสุด ประมาณ3 ลูกภูเขาได้ หลังจากผ่าน3 ลูกนี้มาได้แล้วเราก็จะเจอกับเนินหมาถอย สมชื่อค่ะ เพราะขนาดคนยังอยากถอยเลย🤣🤣🤣
สำหรับเนินนี้นอกจากจะชันมากๆแล้ว ยังมีช่วงที่ต้องปีนเชือกค่ะ แต่ระยะทางไม่เยอะมาก จะพกถุงมือมาหรอไม่ก็ได้น้า ส่วนทางเราไม่ได้พกไปจ้า
นี่ไงทางเชือกที่บอก หรรษาไหมค่ะ จริงๆถ้าปีนธรรมดาน่าจะไม่เท่าไหร่ แต่พอมีเป้ที่มีของเต็มอัตราก็เหมือนถ่วงจะลงข้างล่างอย่างเดียวเลย พอหลุดเนินนี้มาได้ ระยะทางก็เหลืออีกไม่เยอะแล้วจ้า เริ่มมองเห็นวิวเขา พอเห็นวิวแบบนี้ ใช่เลยจ้า เราใกล้จะถึงลานที่สามารถกางเต้นท์ได้แล้ววว 🎉🎉🎉
สำหรับเราสองคน เดินไปบ่นไปตลอดทาง ๖คนพี่นะที่บ่น คนน้องคอยเร่งตลอด55) มาถึงลานกางเต้นท์ประมาณเกือบๆบ่ายโมง ใช้เวลาไป 4 ชั่วโมงจ้า พวกเรามาทานข้าวเที่ยงตรงจุดที่จะกางเต้นท์กันแหละ เพราะเป็นพวกถ้ากินอะไรจุกๆแล้วจะเดินต่อไม่ค่อยได้ เลยเก็บมากินและนอนอืดทีเดียวที่ลานกางเต้นท์เลย
วิวจากจุดกลางเต้นท์ของเรา มองไปตรงนั้นเป็นหนอกเล็ก พักก่อนเดี๋ยวเย็นๆ แดดร่มลมตกเราจะขึ้นไป ใครอยากถ่ายรูปกับป้ายผู้พิชิตสันหนอกวัว เก็บแรงไว้นะ ป้ายอยู่ตรงลานหนอกเล็ก ตอนนี้ก็พักเอาแรงกันไปก่อนเนาะ
พอสมาชิกขึ้นมาครบ เจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มก็จะนัดว่า เราจะขึ้นหนอกเล็กกันกี่โมงดี ระหว่างนี้ก็แยกย้ายพักกันไปก่อน ถึงเวลาพี่เขาก็พานำทางขึ้นมาจ้า อันนี้เป็นวิวที่ถ่ายย้อนกลับมาที่ลานกางเต้นท์ของเรา อย่าลืมพกไฟฉายขึ้นไปด้วยนะ เพราะกว่าเราจะลงมาก็พระอาทิตย์ตกแล้วมันมืดมากจ้า
ระหว่างรอพระอาทิตย์ตกดิน ถ่ายรูปเก็บวิว วนไปจ้า แสงสวย วิวสวย เมมเต็มกันไปข้างนึงจ้า
ขนาดป้ายยังแสงสวยเลยอะ เห็นมะที่นี่พลาดไม่ได้จริงๆค่ะ
วิวบ้าง มองออกไปแล้วสวยมากก อยากให้วิวแบบนี้มาอยู่ที่หน้าต่างที่บ้านจะมองทุกวันเลย
โชคดีมากที่ทริปนี้ มีแต่พี่ๆที่ถ่่ายรูปเก่งๆ กล้องเทพๆไป ผ่านมาปีนึง ปัจจุบันรูปก็ยังลงไม่หมดเลยจ้า
อันนั้นหนอกใหญ่ค่ะ เราจะไปกันพรุ่งนี้เช้า
พร๊อบแน่นมากจ้า ลูกโป่งก็มี ไฟฉายก็เป็นพร็อบได้55
พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้วจ้า บรยากาศก็เริ่มเปลี่ยนไป วันที่เราไปเมฆเยอะมากเลย ไม่เห็นพระอาทิตย์เป็นลูกๆเลย ส่วนดาวอย่าถามถึงเลย ถ้าพระอาทิตย์ยังไม่เห็นดาวนี้ต้องรอบหน้าแล้วแหละ
ตกไปเรียบร้อยแล้วจ้า สวยมากก😍😍😍😍
ใครบอกว่าเดินป่านำหนักจะลด ไม่มีทางแน่นอนตราบใดที่แอดมินทำอาหารอร่อยขนาดนี้55
กินเสร็จยังไม่จบนะจ้า ขอย้อนรำลึกรอบกองไฟกันสักนิดนึง ก่อนแยกย้ายพักผ่อน พี่เจ้าหน้าที่ก็จะนัดเวลาเพื่อขึ้นไปหนอกใหญ่กันในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น
ตอนเช้าเราเริ่มเดินดันตั้งแต่ฟ้ายังมืด เรานัดพี่ๆไว้ที่6โมงเช้าค่ะ ถ้าฟ้าเปิดสามารถมาถ่ายดาวได้เลยนะจุดนี้ แต่ต้องเดินก่อน 6 โมงนะ แต่อย่างที่เห็นวันที่เรามาเมฆเยอะมาก อย่าว่าแต่ดาวเลย พระอาทิตย์ยังยากเลย ><"
พี่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลกรุ๊ปเรา เราไปกัน 10 คนค่ะ ต้องมีเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 2 คน และก็ต้องโทรจอง 2 คนด้วยนะ
หน้าตาสมาชิกแก๊งค์มุ้งมิ้งของเราค่ะ พี่รุ่งบอกว่า ทริปนี้เป็นทริปที่ถ่ายรูปสนุกมากเลย บอกให้ทำท่าอะไรก็ทำ บอกให้ยืนตรงไหนก็ยืน
จะเริ่มเดินลงจุดกางเต้นท์แล้ว แชะภาพอีกสักนิด
โดนแอบถ่ายมาจ้า55
เก็บภาพกันจนพอ เราก็เริ่มเดินลงกับที่จุดกางเต้นท์กันเพื่อทานข้าวเช้า เก็บของและเดินลงกัน
หันหลังเก็บภาพหนอกใหญ่ไว้อีกรอบ เดี๋ยวเราต้องบ๊ายบายกันแหละ ไม่รู้จะมีโอกาสได้มาอีกรึป่าว^^
ขาลง พวกเราเริ่มขึ้นเป้กันตอน 09:30 น. อย่างที่บอกขึ้นสุดลงสุด ภูเขา3ลูก ดังนั้นไม่ได้ต่างจากเมื่อวานเลย แต่ทางลงอาจจะเยอะกว่านิดนึง
ถึงแว้ววววว !!! พวกเรา2คนทำได้จ้า
ขาลงถือว่าทำเวลาได้ดีพอสมควรเลย ลงมาถึงข้างล่าง 12.30 น. ใช้เวลาไป 3 ชั่วโมงจ้า ถือว่าเป็นทริปที่สนุกมากจริงๆ มาไม่ยากขอแค่จองให้ได้ก็พอ
ทริปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าพี่แจ็คไม่โทรจองมาจนได้ ทริปนี้ทำให้เจอและได้รู้จักพี่ๆที่น่ารักหลายคนเลย และทุกคนก็ยังเป็นพี่ที่น่ารักยันทุกวันนี้
ขอบคุณภาพสวยๆจากพี่ๆทุกคน ด้วยความที่รูปทริปนี้เยอะมากกก จำไม่ได้จริงๆว่าเป็นรูปของใคร ทั้งพี่รุ่ง พี่ปอ พี่เอ๋ พี่แม๊ก พี่โอม พี่รุ้ง พี่แจ๊ค พี่ณัฐ และตัวเราเอง ปนจนให้เครดิตไม่ถูกเลย555
สุดท้ายนี้ใครที่อ่านรีวิวของพวกเรา แล้วอยากไปที่นี่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการออกกำลังกายค่ะ เพราะที่นี่ระยะทางไกลพอสมควร ไป-กลับ 18 กิโลเมตร ถ้าไม่มั่นใจในการแบกของตัวเองจ้างลูกหาบเลยคร๊าบบ ทางเราก็ให้ลูกหาบแบกเต้นท์ให้
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังสนใจอยากไปที่นี่นะคะ บอกเลยว่าไม่ควรพลาด เปิดถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 ปีหน้านี่เองจ๊ะ ฝากเพจของพวกเรา 2 พี่น้องอีกทีนึงนะคะ
https://www.facebook.com/porjaipaii/
#Porjaipai
#พอใจไป
#สันหนอกวัว
Porjaipai : พอใจไป
วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.55 น.