#รีวิวที่เที่ยว ไปนอนกางเต็นท์ ดูดาว กินหมูกะทะ และสัมผัสไอหนาว กลางป่าสน แล้วตื่นเช้านั่งแพกลางสายหมอก กันที่ #หมู่บ้านรวมไทย #อ่างเก็บน้ำปางตอง #ปางอุ๋ง #แม่ฮ่องสอน มีชื่อเต็มว่า โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)

อ่างเก็บน้ำปางตอง หรือ ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านรวมไทย เป็นอีกหนึ่งสถานที่เป็นที่รู้จักกันอย่างมากมายถึงความสวยงาม และห่างจากบ้านรักไทย เพียง 13 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมอีกหนึ่งที่

เมื่อเราเดินทางผ่านถึงประตูทางเข้าบ้านรวมไทย ปางอุ๋ง เราก็จะพบบ้านเรียงรายตลอด 2 ฝั่งถนนแบบพื้นเมือง ที่มีการทำเป็นโฮมสเตย์ให้นักเที่ยวเที่ยวสามารถพักผ่อนได้ ราคาหลักร้อย เท่านั้น พร้อมร้านค้าร้านอาหารตลอดทาง เมื่อสิ้นสุดหมู่บ้านเราก็จะพบป้ายทางเข้าขนาดใหญ่ ของ "โครงการพระราชดำริปางตอง ๒ (ปางอุ๋ง)

จะเป็นทางวันเวย์ให้วนไปไปตามทางด้านซ้าย เข้าไปสู่ อ่างเก็บน้ำปางตอง (ปางอุ๋ง) เราก็จะพบอ่างเก็บน้ำที่สวยงาม พร้อมแพไม้ไผ่ที่จอดอยู่จำนวนมาก

จุดต่อไปก็จะเป็นด่านชำระค่าอุทยาน ของ ปางอุ๋ง โดยอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา - น้ำตกผาเสื่อ โดยมีอัตราค่าบริการ

ชาวไทย
- เด็ก 10 บาท
- ผู้ใหญ่ 20 บาท

ค่าบริการลานกางเต็นท์
- คนละ 30 บาท
- เช่าเต็นท์/3คน/คืน 225 บาท
- ถุงนอน 30 บาท
- ที่รองนอน 20 บาท
- หมอน 10 บาท

ภายในอุทยานแห่งชาติเป็นสถานที่ห้ามนำเข้า ห้ามขาย ห้ามดื่ม เครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล์ทุกชนิด

เมื่อเราชำระค่าเข้าอุทยานเรียบร้อยแล้ว ก็จะถึงจุดกางเต็นท์ จะอนุญาตให้จอดเอาอุปกรณ์ เครื่องใช้ต่างๆ ในการพักแรมลงจุดนี้ แล้วต้องนำรถไปจอดในจุดให้จอดบริด้านหลัง ด้านหน้าของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ กผ. (ปางตอง) ใกล้ๆกันก็จะมีห้องน้ำชาย - หญิง แยกกัน ให้ใช้บริการ

สำหรับที่นี่ก็จะมีร้านค้า ร้านอาหาร และเครื่องดื่มจำหน่าย รวมถึงหมูกะทะ

จุดกางเต็นท์จะตั้งอยู่บริเวณสนามหญ้ากลางป่าสวนสน จะมีทั้งเต็นท์ของทางอุทยาน และของนักท่องเที่ยวสามารถกางรวมกันได้ ในบริเวณนี้ สำหรับด้านหน้าก็จะมีแพท่าน้ำ ให้นักท่องเที่ยวสามารถชมวิว และถ่ายรูปเล่นกันได้ มาบ่ายๆ นี่ก็มีนักท่องเที่ยวนั่งแพเล่นเหมือนกันน่ะ
แพ 1 ลำ ผู้ใหญ่นั่งได้ 2 คน ลำละ 150 บาท จะมีเจ้าหน้าที่พายพาชมบรรยากาศภายในอ่างเก็บน้ำ

เมื่อเรากางเต็นท์เสร็จแล้วก็ถ่ายรูป เก็บบรรยากาศกันเพลินๆ พร้อมพักผ่อนกันแบบสบายๆ ค่อยรอสั่งหมูกะทะกินกันตอนเย็น

ส่วนบริเวณด้านบนของจุดกางเต็นท์ก็จะมีบ้านพักของทางอุทยานหลายแบบ พร้อมจุดถ่ายรูปสวยๆ หลายแห่ง

ในส่วนของไฮไลท์อีกอย่างของที่นี่ก็คือ หงส์ดำ และหงส์ขาว

- หงส์ดำ จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 ตัว แต่ตัวไม่มีคู่จะถุกปล่อยออกมาแบบอิสระเพียงตัวเดียว มันเลยค่อนข้างหวงถิ่นของตัวเอง ต้องระวังกันหน่อยน่ะครับ ตอนแรกก็ดีใจนึกว่าจะมาเล่นด้วย ที่ไหนได้ ลูกชายเลยโดนงาบมือเลย ผมเองยังโดนมันว่ายตามไล่ไม่ให้เข้าใกล้ริมน้ำเลย หวงถิ่น สำหรับนักท่องเที่ยวอื่นๆไม่รู้ก็เจออาการหวงถิ่นของเจ้าหงส์ดำเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะแพที่พายผ่านก็ว่ายไปประกบ นักท่องเที่ยวที่อยู่แพท่าน้ำ ก็เช่นกัน

- หงส์ขาว จะมีอยู่ด้วยกัน 1 คู่ เห็นว่าเป็นหงส์พระราชทาน เค้าก็จะว่ายกันเป็นคู่ไปมา เมื่อว่ายผ่านหน้าหงส์ดำ ตัวผู้จะว่ายนำหน้าและยกปีกขึ้นโชว์ขู่ พร้อมมองระวังหงส์ดำ ไม่ให้เข้าใกล้หงส์ตัวเมีย เป็นประจำที่ว่ายผ่านไปมา

พอตกเย็นหมูกะทะก็ตามมาชุดละ 399 บาท ย่างกันเพลินๆ ยาวไป มันฟินกับบรรยากาศน่ะ ลูกชายงี้ยิ่งติดใจ เนื้อหมูไม่พอเค้าก็มีสั่งแยกต่างหากได้น่ะ บรรยากาศยามเย็นที่ี่สวยดี กลางคืนมืดดาวเต็มฟ้าสวยงามมาก ยิ่งบางช่วงมีทางช้างเผือกให้ชมนี่สวยเลย แต่เราพลาดไปมาช้าไปไม่กี่วันหมดช่วงล่าทางช้างเผือก เลยอดดูกันไป

เมื่อยามเช้ามาถึงก่อนพระอาทิตย์จะโผล่ขึ้นฟ้า เราก็จะได้สัมผัส และชมไอหมอกที่ลอยเหนือผิวน้ำที่สวยงาม กับแสงอาทิตย์ยามเช้า ช่วงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวนิยมนั่งแพชมสายหมอกกัน โดยจะเริ่มเปิดให้บริการเวลา 06.00 น. มีรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากเลย ราคา 150 บาท/ลำ/เที่ยว

บริเวณจุดชำระค่าเข้าอุทยานในช่วงเช้านักท่องเที่ยวสามารถตักบาตรกันได้น่ะครับ

ที่ขาดไม่ได้มาถึงปางอุ๋ง ก็ต้องถ่ายรูปบริเวณสันเขื่อนเป็นที่ระลึกกันด้วยน่ะครับ ก่อนเตรียมตัวเดินทางกลับ

ฝากติดตามผลงานอื่นเพิ่มเติมได้ที่ #เที่ยวไทยกับAn และช่องทางยูทูปด้วยน่ะครับ ขอบคุณมากครับ