ภาค3 ภาคจบ เป็นรีวิวต่อจาก

ภาค1

https://th.readme.me/p/2884

ภาค2

https://th.readme.me/p/2886

ไปย้อนดูกันได้นะคะ


วันที่ 8 : เมื่อวานคุยกับคนขับรถเจ้าเดิม เขาบอกว่า ก็นั่งแบบหารกันไป ย่าติง เขาคิดคนละ50หยวน เราก็รีบตกลงเลย ตอนเช้า9 โมง เขาก็ขับรถมารับที่ที่พักเลยค่ะ แล้วก็ออกเดินทางไปย่าติง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30-2 ชั่วโมงก็ถึงค่ะ


พอมาถึงทางเข้า ที่เรียกว่า แชงกรีล่า เจิ้น (香格里拉镇) อย่าสับสนนะคะ ที่นี้ เรียกแบบนี้ค่ะ เราต้องไปซื้อตั๋วเข้าย่าติง ซึ่งจะรวมราคารถบัสรับ-ส่งในหมู่บ้านย่าติงด้วย รวมราคาบัตรเข้า 140หยวน/คน (ถ้ามาช่วงพีคคือช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม และช่วงตุลาคม ตั๋วค่าเข้าจะแพงกว่านี้ อันนี้เขาลดราคามาเกือบครึ่งเลยค่ะ ราคาปกติน่าจะประมาณ270หยวนค่ะ)

ซื้อบัตรเสร็จก็รอรถบัส ซึ่งจะออกทุกๆ ชั่วโมง หรือตามอารมณ์คนขับ 555 เราต้องนั่งรถบัส เข้าไปในย่าติง ซึ่งใช้เวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ถึงจะถึงที่หมายค่ะ ทางขึ้นเขา คดเคี้ยวมาก แต่เส้นทางดี ลาดยางใหม่ สองข้างทางมีแต่ที่พักขึ้นเต็มไปหมด ..และที่แน่ๆคือ วันนี้ ทั้งหมู่บ้านน่าจะมีเพียง 3คนที่เป็นนักท่องเที่ยวมาเยือน เพราะไม่มีใครมาช่วงนี้ค่ะ มันหนาววว 555 แต่ จขกท. ว่างช่วงนี้อะ ทำงัยได้เนอะ.. มีเพื่อนร่วมชะตากรรมมาด้วย1คน นั่งรถคันเดียวกันมา เป็นคุณลุงคนหนึ่ง เป็นคนจีนกว่างตง ใจดี ดูแลพวกเราด้วยเป็นอย่างดี เสมือนว่ามาเที่ยวด้วยกันเลย


รถมาจอดที่ปลายทางคือ ทางเข้าอุทยานย่าติง แต่เรายังไม่มีที่พักเลย หิมะก็ดันมาตกหนักอีกละ... รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตุ๊กตาเรียกหิมะ ไปไหนตกที่นั้น ดูท่าทางแล้วไม่มีใครเลย นอกจากเราสามคนจริงๆ คุณลุง เขาขอตัวเดินขึ้นเขาไปดูวัดใกล้ๆ แล้วค่อยไปหาที่พัก แต่เราไม่ไหวค่ะ ปีนไม่ไหว หนาวเกิน หิมะก็ตกอีก เลย ไปเดินหาที่พัก ได้เบอร์มาจากคนขับรถ บอกว่าให้ไปพักที่นี้ดู ที่พักมันหาไม่ยาก..แต่หาดีๆอะยาก .. ก็ลองโทรคุย สรุปก็ได้ที่พักแบบ..เพื่อนอนค่ะ เพื่อนอนอย่างเดียว ห้องน้ำ ไม่ต้องพูดถึง ไม่มีน้ำค่ะ วันนี้เราก็ เน่าในไปก่อน คุยกับเขาก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง คนที่นี้ พูดภาษาถิ่นอะค่ะ เป็นชาวจ้าง (藏族人)พวกเขาใจดีนะ แต่เราคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง T^T ไม่เป็นไร เพื่อสิ่งที่สวยงาม ..ศรีทนได้ ยังดีค่ะ เขามีที่นอนไฟฟ้าให้ ..ไม่ยังงัย ไม่รู้เลยว่าชีวิตจะเป็นยังงัย เหอะ.. หนาวสุดๆๆๆๆถึงขั้วหัวใจ ร้านอาหารก็ไม่มีเปิดเลยสักร้าน ดีที่ยังมีร้านขายของชำเล็กเปิดอยู่สองร้าน เราก็ไปซื้อมาม่ามาต้มกินประทังชีวิต คืนนี้ ..กินน้ำมากก็ไม่ได้ ไม่มีน้ำราดอีก.. ลืมบอกไปว่าที่พักได้มาในราคา100หยวน/ห้อง เหมือนเป็นห้องที่เขายังสร้างไม่เสร็จ แต่ก็นอนได้ค่ะ ชิวๆเลย 555 กินมาม่าเสร็จก็รีบกินยาลดไข้กันไว้ก่อน แล้วรีบนอนเลย เพราะไปไหนไม่ได้จริงๆ วันนี้นอนตั้งแต่1ทุ่ม .. อ่อ ยังดีที่คุณลุง มาพักด้วยกัน รู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก คุณลุงก็พักห้องข้างๆค่ะ วันนี้ก็จบทริปแค่นี้เลย ไม่มีอะไรเลย 555

**ค่าใช้จ่ายวันที่ 8 : ค่ารถมาย่าติง 50 + ค่าบัตรเข้าย่าติง 140+ ค่าที่พัก 50+ค่าอาหาร 14 = 254 RMB (1448 บาท)



วันที่ 9 : วันนี้ตื่นแต่เช้าตรู่ ฟ้าสดใสมากก ถือเป็นโชคดีของพวกเราสามคน ออกมายืนรอรถบัสรับ-ส่ง เพื่อจะไปอุทยาน (เราพักกันที่หมู่บ้านย่าติง (亚丁村) ทางเข้าอุทยานอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ10กว่ากิโลได้ ถ้าเดินก็น่าจะประมาณ2-3ชม. ถึงจะถึงที่หมาย เพราะเป็นทางขึ้น-ลงเขา) พวกเราออกมานั่งรถรอบัสตั้งแต่ 7:30 รอไปหาไรกินที่ร้านค้าไป จนถึง9โมงกว่าละ ยังไม่เห็นรถผ่านมาสักคน .. เลยตัดสินใจเดินเล่นลงไปเรื่อยๆ เดี๋ยวรถก็คงมา ถ่ายรูปไป เดินไป.. ก็ได้วิวดีๆสวยๆมาเยอะเลย

เดินจนประมาณ1 ชั่วโมงกว่าได้ เริ่มมองหารถ มันจะนานไปละ .. และแล้วก็มีรถผ่านมา ...แต่..แต่.. เขาขับเลยผ่านไป..ไม่รับเราสามคน T^T คือร่ะ.. คนเต็มช่ายมั้ย .. เดินต่อไปสิค่ะ ..รอไร อีก 2ชม.น่าจะถึงทางเข้า หมาก็มาจากไหนไม่รู้วิ่งตรงมาเหมือนจะไล่กัด..จนมีชาวบ้าน เขาช่วยมาไล่ไป ... และมีคุณลุงคอยปกป้องพวกเรา ซึ้งมาก ตรงจุดๆนี้ เดินไปสักพักใหญ่ ก็มีรถคันเดินแหละค่ะ ผ่านมารอบที่สอง ..เขาจอดให้เราขึ้นแล้ววว ..เขาบอกว่าเมื่อกี้รถเต็มเลยรับไม่ได้ ..และยังบอกอีกว่าพวกเราเดินเร็วมากเลยนะ ..จ๊ะ.. พี่จ๊ะ ..ขึ้นรถมาไม่ถึง10นาที ถึงทางเข้าอุทยาน แหม่... ไวจริงๆ

จุดมุ่งหมายของเราคือทะเลน้ำนม(牛奶海) และทะเล5สี(五色海) นี้คือสิ่งที่เรารอคอยมานานแสนนาน .. เข้าไปอุทยานก็เริ่มเดินขึ้นเขาไป ตรง จา กวน เปิง (扎灌崩)ก็จะมีรถรับ-ส่ง ไปลงที่ ทุ่งหลัวหลง (洛绒牛场)เสียค่ารถไป-กลับ คนละ 50 หยวน (ถ้าเดินก็6 km)ลืมบอกไปอีกอย่างว่าย่าติงก็อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 4500-4700 เมตร สูงกว่าทุกๆที่ที่ผ่านมา เพราะฉนั้นอาการแพ้ความสูงก็อาจจะเกิดขึ้นได้ ต้องเดินช้าๆกว่าชีวิตประจำวันที่เคยเดิน และพกช็อคโกแลตติดตัวไปเยอะๆ มันช่วยได้จริงๆ

รถมาจอดที่ทุ่งหลัวหลง ก็ไม่มีรถไปต่อแล้ว ต้องเดินเท้าต่อไปเองอีก5 km. ถึงจะถึงทะเลน้ำนม(牛奶海) ถ้าเป็นช่วงปกติหรือช่วงไฮซีซัน ก็จะมีม้าให้นั่งไปถึงทะเลน้ำนม แต่ค่าบริการนั่งม้า คนละ300หยวน สงสารม้าค่ะ เป็นไปได้ก็เดินไปเองเถอะค่ะ


เราก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ จริงๆ มาช่วงหน้าหนาวก็สวยไปอีกแบบนะคะ หญ้าแห้ง ต้นไม้แห้งๆ ก็ดูคลาสสิคดี 555

เดินมาได้เกือบสองชั่วโมงเต็ม แวะกินช็อคโกแลตและถ่ายรูปตลอดทาง... ตอนนี้ก็ปาเข้าไปบ่ายสองละค่ะ ทางเจ้าหน้าที่เเจ้งว่า รถรับส่งหมดตอน4เย็น ถ้ากลับมาไม่ทันคือต้องเดินกลับเอง .. คือตอนนี้บ่ายสอง ยังไปไม่ถึงครึ่งทาง .. ระหว่างทางก็เจอกลุ่มคุณลุง ห้าหกคน เดินกลับมา พร้อมกับบอกเราด้วยความหวังดีว่า "ดูเวลาด้วยนะ รถหมด4โมงเย็นนะ เเล้วถ้าจะเดินไปทะเลน้ำนมกับทะเลห้าสี ต้องใช้เวลาเดินอีกประมาณ3ชั่วโมง ถึงจะถึงตรงนั้น อีกอย่างทางขึ้นต่อจากนี้คือชันมากและมีน้ำแข็งเกาะ พื้นลื่น อันตรายมาก ต้องเดินช้า พวกลุงก้ไปไม่ถึง กลับก่อน กลัวไม่ทันรถ " ..เอิ่ม... นี่เราเดินมาสองชั่วโมงยังไม่ถึงครึ่งทางอีกหรอ.. ปวดใจ..เศร้าใจ .. เดินมา2 ชั่วโมง กลับอีก2 ชั่วโมง ก็น่าจะทันรถเที่ยวสุดท้ายพอดี.. ทำไรไม่ได้ ต้องหันหลังแล้วเดินกลับไปจุดๆเดิม...มาแล้วไปไม่ถึง..มันเศร้านะคะ ...เขาปิดไวเดินไปอ่ะ...ตอนแรกก็ไม่ค่อยเชื่อพวกคุณลุงเท่าไร ก็เดินดูเอง อยากรู้ชันจริง อันตรายจริงเปล่า.. ต้องเห็นกับตา..ชัดเลย... ชัดเจน.. ไปต่อไม่ได้จริง ณ จุดๆนี้ รีบเดินกลับเลยค่ะ .. ดันมาช่วงหน้าหนาว หิมะเกาะเป็นน้ำเเข็งไปหมด เคยลื่นก้นกระแทกพื้นมาแล้ว เพราะพื้นแบบนี้..กลับก็ได้ค่ะ


แต่ก็มีรูปมาภาพเพียบเลยค่ะ รูปคือบันทึกความทรงจำในการเดินทางได้ดีที่สุดจริงๆค่ะ

ระหว่างเดินกลับก็ได้วิวเดิมๆ แต่มองยังงัยก็สวยยยย.. ต้นไม้ใบหญ้าอะไร ก็ถ่ายหมดค่ะงานนี้ ชอบค่ะ สวยในแบบของเขา

ถือว่าคุ้มค่าแล้วที่ได้มา ...แต่ถ้ามีโอกาส ก็จะมาอีกรอบแน่นอนค่ะ

เพราะรัก "เขา" จึงยอม..แม้จะลำบากเพียงใดก็ตาม 555555


ทริปนี้ก็จบลงด้วยดี(มั้ย) เหอะๆ.. นั่งรถรับส่งออกมาตรงแชงกรีล่าเจิ้น (ที่เดิมกับที่ซื้อตั๋ว)โทรเรียกรถคันเดิมมารับกลับไปเต้าเฉิง วันนี้ต้องไปนอนค้างเต้าเฉิง1คืน เพราะพรุ่งนี้ เราจะบินกลับปักกิ่งกันละค่ะ ค่ารถแบบหารกันเท่าเดิม คนละ50หยวน กลับไปพักที่พักเดิมด้วยDaocheng Huxin

**ค่าใช้จ่ายวันที่9: ค่ารถรับส่งในอุทยาน50+ค่าอาหาร35+ค่ารถกลับเต้าเฉิง50+ค่าที่พัก50=185 RMB(1055บาท)

--------------------

วันสุดท้ายของทริปนี้ ว่าจะไม่เขียนแต่ก็อีกแค่วันเดียว เขียนต่อสะหน่อย 555

วันที่ 10 : วันนี้ ต้องออกเดินทางไปสนามบินตอน6โมงเช้าค่ะ โทรให้รถคนเดิมมารับ แต่บอกเขาไปว่า ไปแบบหารนะคะ คนละ50หยวน ไม่เหมารถ ให้เขาหาลูกค้าเอง
ใช้เวลาเดินทางประมาณ1 ชม. ถึงสนามบินเต้าเฉิงค่ะ คนขับรถ เล่าให้ฟังว่า สนามบินนี้เป็น สนามบินที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในโลก สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ4411เมตร และทั้งสนามบิน มีเครื่องบินแค่ลำเดียวเท่านั้นค่ะ !!!
บอกเลยว่า ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สวยมากกก(อีกแล้ว ไม่ได้โม้เลยจริงๆน่ะ)

ตั๋วเครื่องบินที่ จขกท. ซือไว้ คือต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่เฉิงตู - จากเฉิงตูไปปักกิ่ง

วันนี้ได้ขึ้นเครื่องเวลาประมาณ8:45 เครื่องบินดีเลย์ไป20นาทีได้ พอเครื่องขึ้นเท่านั้นแหละ ... โอ้..บร้ะเจ้า...อะไรจะสวยขนาดนี้ ได้เห็นทัศนียภาพข้างบน มองลงมีมีแต่เขาหิมะเต็มไปหมดเลย แอบเก็บภาพมาฝาก ใช้มือถือถ่ายเลยไม่ค่อยชัดมากเท่าไรค่ะ

ประทับใจฝุดๆ... เครื่องบินบินไปได้ประมาณ 30นาที ก็ประกาศว่า จะลงจอดที่ สนามบิน ตี๋ชิ่ง (迪庆机场)ให้ผู้โดยสารเลือกซื้อสินค้า และพักที่ห้องรับรอง ประมาณ20-30นาที ก็จะเรียกขึ้นเครื่องเพื่อบินต่อไปยังเฉิงตู ... เพื่อ?? ก็แอบงงนะว่าจอดทำไม แต่พอลงมาก็ไม่อยากสงสัยอะไรล่ะ ถ่ายรูปเก็บภาพดีกว่า สนามบินนี้ดีงามพระรามแปดมาก .. มีแวะให้พักเข้าห้องน้ำ ซื้อของฝากด้วย อิอิ (ความจริงคือเเวะทำไมอันนี้ไม่ทราบจริงๆค่ะ)

รอบๆ มีแต่เขาหิมะทั้งนั้นเลยค่ะ

พักครบเวลาตามกำหนดก็เรียกขึ้นเครื่องต่อ นั่งไปเฉิงตูต่อเลยค่ะ ถึงเฉิงตูก็ต้องรอเปลี่ยนเครื่อง เป็นเวลา 7ชม. 555 ก็นั่งๆนอนๆในสนามบินนั้นละค่ะท่านผู้ชม..ไม่ได้ไปไหนเลย .. รอเวลาบิน ตอนสามทุ่มกว่า .. ถึงปักกิ่งเวลาประมาณเที่ยงคืน ครึ่ง ถึงมหาลัยโดยสวัสดิภาพ !
**ค่าใช้จ่ายวันที่10: ค่าตั๋วเครื่องบิน1390 + ค่ารถไปสนามบิน50+ ค่าอาหาร73+ ค่าแทกซี่กลับมหาลัย45 =1558 RMB (8880บาท)


ค่าใช้จ่ายต่างๆ 12,591 บาท

ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ รวม 11,793 บาท
รวม ค่าใช้จ่ายตลอดทริปการเดินทาง (รวมค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ปักกิ่ง ) 24,384 บาท


ปล. การเดินทางของแต่ละคนขึ้นอยู่กับว่าจะหาตั๋วเครื่องบินได้ในราคาไหน และเริ่มบินจากที่ไหน ฉนั้น จขกท. จะไม่คิดว่าตั๋วเครื่องบินไว้ในงบการใช้จ่าย หลักๆแล้วที่ใช้คือแค่ 12000กว่าบาท ค่ะ ถ้าท่านเดินทางจากไทย ก็ต้องลองหาตั๋วจากไทยในช่วงโปรโมชั่นดู อาจจะได้ราคาถูกกว่า จขกท. ก็เป็นได้ !!

--------------------

ขอบคุณทุกท่าน ที่ติดตามการเขียนครั้งนี้มากๆนะคะ จขกท. อาจจะบ่นและพูดมากไปตามประสาคนแก่ ยังงัยก็อย่าถือสากันเลยนะคะ และหากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

Caili An

 วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 22.04 น.

ความคิดเห็น