Movenpick Kuredhivaru Maldives review
ผมมีโอกาสได้ไปดูงานที่รีสอร์ท Movenpick Kuredhivaru ประเทศมัลดีฟส์
ซึ่งที่นี่ยังไม่ค่อยมีคนไทยรู้จัก เลยอยากจะมาเขียนรีวิวไว้ให้เป็นข้อมูลกับทุกท่านนะครับ
![](/img/placeholder.png)
Movenpick Kuredhivau เป็นรีสอร์ท 5 Star Luxury ในเครือของ Accor รีสอร์ทหรูระดับ 5 Star Luxury เเต่ราคาไม่ได้แพงอย่างที่คิดเลยครับ ราคาแพ็กเกจที่พัก 2 คืน อยู่ที่ประมาณแค่ 37,000-50,000 บาทต่อท่าน ขึ้นอยู่กับวันเดินทาง ซึ่งถือว่าคุ้มมากๆครับ สำหรับรีสอร์ทระดับนี้และบริการที่เราจะได้รับ
Movenpick Kuredhivaru เหมาะสำหรับครอบครัว คู่รัก หรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการที่พักดีๆ อาหารดีๆ สำหรับพักผ่อนในวันหยุด และสามารถทำกิจกรรมดำน้ำ ล่องเรือ สัมผัสธรรมชาติความเป็น Maldivian
รีสอร์ทตั้งอยู่ใน Noonu Atoll ทางทิศเหนือของสนามบินนานาชาติ Velana Maldives ต้องเดินทางเข้ารีสอร์ทโดย Seaplane ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
![](/img/placeholder.png)
นี่คือโฉมหน้าของ Seaplane ที่เราจะนั่งกันครับ ลำนึงนั่งได้ 15 ท่าน Take off-Landing บนทะเลครับ
![](/img/placeholder.png)
ครั้งนี้ผมเดินทางไปมัลดีฟส์ช่วงกลางเดือนตค.ซึ่งถือว่าเป็นช่วงก่อนเข้าหน้า High ของมัลดีฟส์ อากาศถือว่าโอเคมากครับ แดดดีน้ำทะเลสวยมาก
หลังจากนั่ง Seaplane มา 15 นาที ก็มาถึงแล้ว Movenpick Kuredhivaru Maldives !
![](/img/placeholder.png)
มาถึงเกาะก็มีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับเราพร้อมกับ Welcome Drink เป็นน้ำมะพร้าวเย็นๆ พร้อมผ้าเย็นให้เช็ดเหงื่อคลายร้อน รสชาติอาจจะไม่เหมือนมะพร้าวที่เมืองไทย แต่สดชื่นดีมากครับ
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
จากนั้นเจ้าหน้าที่พาเราไปเช็คอินที่ Reception
วิวดีมาก ฟ้าสวย ทรายขาว น้ำใสสุดๆ
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
ที่ Movenpick มีรถ Buggy บริการทุกท่าน จะให้ไปส่งห้องพัก , ห้องอาหาร หรือที่ไหนในเกาะก็ได้ตลอดเวลา ถือว่าให้ความสะดวกกับนักท่องเที่ยวมาก
![](/img/placeholder.png)
ถึงแล้วห้องพักของเรา 2 คืนนี้
เข้ามาในห้องพักจะเจอพื้นกระจกใหญ่มาก มองเห็นน้ำทะเลใสแจ๋ว ตอนกลางคืนจะมีไฟเปิดและมีปลามาว่ายน้ำเล่นไฟอยู่ใต้บ้านเราด้วย
![](/img/placeholder.png)
จะมีประตูสองบาน ซ้ายเป็นห้องนอน ขวาเป็นห้องน้ำ ประตูที่นี่ตกแต่งด้วยกะลามะพร้าว ดูสวยมีสไตล์มาก
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
เปิดประตูด้านซ้ายเข้ามาจะเป็นห้องนอน ห้องตกแต่งด้วยไม้และกำแพงสีขาวดูดี เตียงเป็นแบบ Over King size ใหญ่กว่า King size ปกติ มีประตูกระจกเห็นวิวทะเล
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
ห้องน้ำที่นี่กว้างมาก อ่างอาบน้ำและอ่างล้างหน้าที่ใช้เป็นอ่างที่ทำจากหิน เรียบหรูดูดี
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
สามารถนอนแช่อ่าง จิบไวน์ไป ดูวิวไปได้ บรรยากาศดีมากครับ
![](/img/placeholder.png)
มาที่ระเบียง ระเบียงที่นี่ค่อนข้างกว้างและมีความเป็นส่วนตัวมาก มี Day Bed ให้นอนอาบแดด หรือนอนเล่นชมวิว
![](/img/placeholder.png)
เราสามารถลงเล่นทะเลจากห้องของเราได้เลย เรียกได้ว่า ฟินสุดๆ
![](/img/placeholder.png)
สระพื้นหินสไตล์เรียบหรู ยื่นตรงออกไปในทะเล เป็นอีกมุมถ่ายรูปสวยๆ
![](/img/placeholder.png)
ที่ระเบียงยังมี ตาข่าย Hammock ให้นอนถ่ายรูปเก๋ๆได้อีกด้วย
![](/img/placeholder.png)
บนโต๊ะในห้องมีผลไม้ต้อนรับและจดหมายที่เขียนโดย General Manager ของโรงแรม ใส่ใจดีมากๆ
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
เก็บของอะไรเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาทานอาหารกลางวัน
มื้อเที่ยงวันแรกของเราทานที่ห้องอาหาร Latitude 5.5 ห้องอาหารนี้จะเปิดให้บริการเฉพาะมื้อเที่ยงและมื้อเย็น
![](/img/placeholder.png)
อาหารเสิร์ฟแบบ A La Carte 3 Course: Appetizer - Main Course - Dessert
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
เครื่องดื่มเราสามารถสั่งเครื่องดื่ม Soft Drink, ชา กาแฟ ได้สำหรับทุกแพ็กเกจ Half Board/Full board
ถ้าเป็นแพ็กเกจ All Inclusive สามารถสั่งเครื่องดื่ม Mocktail, Cocktail ได้ครับ
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
บรรยากาศสระน้ำบริเวณห้องอาหาร Latitude
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
Latitude 5.5 Bar บาร์เครื่องดื่มที่อยู่ข้างๆห้องอาหาร Latitude 5.5
ตกแต่งด้วยงานไม้ไผ่ สวยงามมากๆ
แพ็กเกจ All Inclusive สามารถสั่งเครื่องดื่มที่บาร์นี้ได้ไม่จำกัด
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
หลังทานอาหารเสร็จ เราก็เตรียมตัวเพื่อที่จะไปดำน้ำตื้นกัน
ข้อดีอีกอย่างของ Movenpick ก็คือที่ Movenpick จะมีจุดดำน้ำ Snorkeling อยู่ที่ทางทิศใต้ของเกาะ แถวบริเวณ Dive center โดยเราสามารถไปดำน้ำดูปะการัง ดูปลาตรงนั้นได้เลย ไม่ต้องนั่งเรือออกไป และขอบอกเลยครับว่าปะการังและสัตว์น้ำที่นี่สมบูรณ์มาก ในขณะที่บริเวณห้องพักของเราจะเป็น Lagoon ทรายขาวละเอียด เล่นน้ำได้สบายไม่ต้องกลัวหินหรือปะการังบาด เรียกว่าไปที่เดียวได้สองบรรยากาศ ถ่ายรูปน้ำทะเลสวยๆบริเวณห้องพักแล้วยังสามารถดำน้ำชมปะการังได้ในเกาะเดียวกัน เป็นข้อดีที่ผมชอบมากๆเลยครับ
![](/img/placeholder.png)
Dive Center สร้างอยู่ปลายสุดของสะพานที่ยาวมาก เพื่อให้เราสามารถลงดำน้ำในจุดที่สวยได้เลย โดยไม่ต้องว่ายน้ำไกล
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
Dive Center ของที่นี่มีอุปกรณ์ครบครัน ลูกค้าทุกคนสามารถมายืมอุปกรณ์ Snorkeling , Fins ที่นี่ได้ฟรีเลยครับ
![](/img/placeholder.png)
ลงน้ำมาปุปก็เจอน้องเต่ามาต้อนรับแบบนี้เลย
![](/img/placeholder.png)
ท้องฟ้าสวยน้ำใสสุดๆ
![](/img/placeholder.png)
หลังจากดำน้ำเสร็จเราก็ไปต่อกันที่สปา สปาที่นี่แบ่งเป็นห้องแบบสปากลางน้ำและบนบก
![](/img/placeholder.png)
มาถึงสปาแล้ว จะมีน้ำขิงมาให้เราดื่มเพื่อผ่อนคลายก่อน เป็นเหมือน Welcome drink
จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำเมนู treatment มาให้เราเลือก หลังจากเลือก Treatment ได้แล้วเจ้าหน้าที่จะน้ำมันมาให้เราลอง โดยมีทั้งหมด 5 แบบ เราสามารถเลือกกลิ่นที่เราชอบที่สุดได้ครับ
![](/img/placeholder.png)
บรรยากาศภายในห้อง Treatment กลางน้ำ
บริเวณปลายเตียงจะมีพื้นกระจกอยู่ เราสามารถนอนดูปลาว่ายน้ำเพลินๆ ระหว่างทำ Treatment ได้ครับ
![](/img/placeholder.png)
ห้องสปาที่นี่มีพนักงานคนไทยอยู่ ดูแลดีมากๆครับ ใครไปเที่ยวที่ Movenpick ก็แวะไปทักทายคุณปุ๊กได้นะครับ ;D
หลังจาก Spa เสร็จก็ถึงเวลาของของว่าง ที่ Movenpick จะมีกิจกรรม Chocolate hour ทุกวันเวลา 16.00-17.00 โดยแขกทุกท่านสามารถมาทาน Movenpick Chocolate ได้ฟรี
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
ทานของว่างเสร็จเราก็มาเดินเล่นชมบรรยากาศรอบๆเกาะ ที่เกาะมีร้านขายของสำหรับคนที่อยากซื้อเสื้อผ้า อุปกรณ์ต่างๆ หรือของฝากนะครับ
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
อาหารเย็นวันแรกเรามาทานที่ห้องอาหาร Bodumas
Bodumas แปลว่าปลาใหญ่ ห้องอาหารนี้ตั้งชื่อตามเหตุการณ์ที่มีปลาวาฬมาเกยตื้นเสียชีวิตที่เกาะนี้ ก่อนเกาะนี้จะมีการก่อสร้างรีสอร์ทขึ้น
Bodu แปลว่าใหญ่ Mas แปลว่า ปลา
![](/img/placeholder.png)
ห้องอาหาร Bodumas เป็นห้องอาหารกลางน้ำ เสิร์ฟอาหารทะเลสไตล์ Mediterranean
3 course Appetizer - Main Course - Dessert โดยห้องอาหารนี้เปิดเฉพาะมื้อเย็นเท่านั้น
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
บรรยากาศตอนกลางคืน
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
กลับมาถึงห้องพัก เราก็ได้รับ Surprise จากรีสอร์ท เป็นช็อกโกแลตพร้อม Good night Card
พนักงานที่นี่ใส่ใจดูและดีมากๆ ค่อนข้างประทับใจเลยครับ
![](/img/placeholder.png)
เช้าวันรุ่งขึ้นเรามารับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารหลัก Onu Marche
![](/img/placeholder.png)
ที่นี่จะเสิร์ฟอาหารแบบ Buffet เปิดทั้งสามมื้อ เช้า กลางวัน เย็น
มี Live station ทำอาหารให้ทานแบบสดๆ
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
ไลน์อาหารที่นี่เยอะมาก ทั้งของคาวและของหวาน
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
อิ่มแล้วก็ได้เวลาออกเที่ยว เช้านี้เราจองกิจกรรม Dolphin Cruise ไว้ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะพาเรานั่งเรือออกไปชมโลมา
ที่ Movenpick จะมีตารางกิจกรรมในแต่ละวันอยู่ หลากหลายกิจกรรมทั้งดำน้ำ Sunset cruise , Dolphin cruise , Turtle snorkeling
![](/img/placeholder.png)
น้องมาเยอะมากกก ใกล้ชิดกันสุดๆ โลมาที่นี่ขี้เล่นมากครับ ชอบมาว่ายเล่นแถวหัวเรือ และกระโดดน้ำโชว์ด้วยบางครั้ง น่ารักมากครับ
![](/img/placeholder.png)
ระหว่างทริปก็มีเสิร์ฟของว่างเป็นเบนโตะและน้ำดื่ม น้ำอัดลมอีกด้วย ข้าวเช้ายังไม่ทันย่อยก็ได้กินอีกแล้วครับ 555
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
กลับมาถึงเกาะก็มาเดินเล่นกันสักหน่อยแถวๆบาร์ข้างห้องอาหาร Onu Marche
![](/img/placeholder.png)
บริเวณนี้จะเป็นอีกหนึ่งจุดพักผ่อนที่นิยม มีโต๊ะพูล โต๊ะฟุตบอลให้เล่น และสามารถสั่งเครื่องดื่มจากบาร์มาดื่มเพื่อคลายร้อนได้อีกด้วย
![](/img/placeholder.png)
ถัดมาไม่ไกลจากห้องอาหาร Onu Marche
จะมี Fitness Center , Kids club และ Water sport สำหรับให้บริการแขกทุกท่านในรีสอร์ท
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
Water Sport ที่นี่มีอุปกรณ์เยอะมาก เรียกได้ว่าครบเครื่อง
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
เที่ยงนี้เรามาทานอาหารเที่ยงที่ห้องอาหาร Latitude 5.5 กันอีกครั้ง
![](/img/placeholder.png)
น้ำดื่มที่นี่ใช้นวัตกรรมเครื่องกรองน้ำที่สามารถกรองน้ำทะเลเป็นน้ำดื่มคุณภาพดีได้ รีสอร์ทได้ลงทุนกับเครื่องกรองน้ำและขวดน้ำเพื่อเป็นการลดขยะที่จะเกิดจากขวดพลาสติก
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
และ Highlight ที่พลาดไม่ได้เลยถ้ามาเที่ยวที่ Movenpick ก็คือ Movenpick Ice cream !!
ไอศกรีม Movenpick เป็นไอศกรีมที่ขึ้นชื่ออย่างมากในยุโรป หลังจากที่ได้ลิ้มลองก็ไม่ผิดหวังครับ
อร่อยมากสมกับชื่อเสียงที่โด่งดัง ที่สำคัญคือมีให้กินทุกมื้อ ! เรียกได้ว่ากินกันจนจุกเลยครับ 555
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
ทานอาหารเสร็จก็มาเดินเล่นถ่ายรูป รอบๆเกาะ มีจุดถ่ายรูปสวยๆหลายจุดเลยครับ
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
และปิดท้ายวันที่สองด้วยมื้อเย็นที่ห้องอาหารหลัก Onu Marche
เป็น Buffet ใน Theme Grill อาหารแบบปิ้งย่างพร้อม Live station มากมาย
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
ของหวานมีให้เลือกเยอะมาก เยอะพอๆกับไลน์ของคาวเลยครับ
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
ตอนเย็นจะมีดนตรีสดในฟังอีกด้วย บรรยากาศดีมากๆ
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
อิ่มหนำกันแล้วก็กลับห้องพัก เตรียมตัวนอน
เปิดประตูเข้ามาก็เจอ Surprise อีกรอบ มีการตกแต่งเตียงด้วยใบไม้พร้อมผ้าเช็ดตัวสุดเท่
มีจดหมายบอกเวลาเดินทางกลับของเราในวันรุ่งขึ้น ว่าเขาจะมาเก็บกระเป่ากี่โมง เราต้อง Check out กี่โมง ขึ้น Seaplane กี่โมง
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
เช้าวันสุดท้าย ตื่นมาเก็บกระเป๋าเดินทางเรียบร้อย
เก็บรูปห้องพักอีกสักหน่อย วิวดีจริงๆครับ
![](/img/placeholder.png)
เช้านี้ก็ทานอาหารที่ห้องอาหารเดิม Onu Marche
ลอง Live station อาหารเมนูไข่และบะหมี่ของเขาหน่อย รสชาติอร่อยเลยนะครับ สำหรับใครที่กลัวมีแต่อาหารยุโรปเลี่ยนๆ ไม่ต้องกังวลเลยครับ อาหารที่นี่ดีจริงๆ หลากหลายมากครับ
![](/img/placeholder.png)
![](/img/placeholder.png)
และแล้วก็ถึงเวลากลับ พอ Check out เรียบร้อยที่ reception เจ้าหน้าที่จะให้เราไปขึ้น Seaplane ที่มาจอดรออยู่ โดยเราไม่ต้องยกกระเป๋าใดๆเลย เจ้าหน้าที่บริการให้หมดทุกอย่าง service ดีมากๆครับ
พอขึ้น seaplane ออกจากรีสอร์ทก็มีเจ้าหน้าที่มายืนโบกมือลาเรา เป็นภาพที่ประทับใจมากๆ
![](/img/placeholder.png)
จบลงแล้วทริปนี้ เป็น 3 วัน 2 คืนที่มีความสุขมากๆครับ ที่พักดี อาหารอร่อย พนักงานดูแลดีมาก ถ้าเพื่อนๆมีโอกาสได้เดินทางไปมัลดีฟส์ ลองดู Movenpick Kuredhivaru Resort ไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกได้นะครับ
ติดตามเราในช่องทางต่างๆ
Website : http://www.likemaldives.com/
Youtube : https://bit.ly/36egWdl
Grourp ข้อมูลสาระ : https://bit.ly/2MQMkH8
Line : @likemaldives
เบอร์ติดต่อ : 02-1502450
Hotline : 099-4599895
นายขจรพงศ์ ชูปัญญานนท์
วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.03 น.