ไม่คิดว่าระยองจะมีเกาะสวย หาดทรายขาว น้ำใสอยู่อีกมากมาย มีทะเลแหวกด้วย! ระยองไม่ได้มีแค่เกาะเสม็ด และเกาะเสม็ดครั้งแรกของเราก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้ ไปครั้งนี้โดนระยองปล่อยหมัดฮุคใส่รัวๆ

ต้องบอกก่อนว่าทริปนี้เกิดจากการไปร่วมสนุกที่เพจ "แบกกล้องเที่ยว" และได้รับรางวัลให้ไปเที่ยวฟรี ส่วนไปที่ไหน กับใครไม่เคยรู้จักกันมาก่อน พอมีวันเวลาที่ตรงกันก็ไม่รอช้าตอบรับคำชวนทันที

จากปทุมธานีไม่กี่ชั่วโมงเราก็มาถึงจุดขึ้นเรือที่ "เรือเร็วเที่ยวเกาะ จ.ระยอง" ทริปดำน้ำแบบ One day trip มีหลายโปรแกรมให้เลือกในราคาหลักร้อยก็มี จะเหมาเรือตามจำนวนคน หรือมาน้อยแล้วขอไม่ไปกับกลุ่มอื่นก็สามารถทำได้ หากอยากค้างคืนที่นี่มีที่พักด้วยนะคะชื่อ Aquatic Tour Rayong (อะควอท'ทิค ระยอง) สอบถามเรื่องที่พักจากเจี๊ยบผู้ดูแลได้เลยค่ะ ว่าอยากพักแบบไหน ราคาประมาณไหน 

สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่: 082-444-5396

โปรแกรมที่เราไปในครั้งนี้มีเกาะมันใน เกาะมันกลาง เกาะทะลุ และพักค้างคืนที่เกาะเสม็ด ในเรือมีน้ำดื่ม น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ขนม และอุปกรณ์ดำน้ำไว้บริการซึ่งรวมอยู่ในแพคเกจแล้ว เสื้อชูชีพสภาพดีทำให้คนที่ว่ายน้ำไม่เป็นอย่างเราอุ่นใจขึ้นมากๆ

จากฝั่งประมาณ 30 นาทีก็มาถึงเกาะมันใน หมู่เกาะมันจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 เกาะ คือมันนอก มันกลาง มันใน เกาะมันกลางและเกาะมันนอกมีที่พักของเอกชน เป็นเกาะส่วนตัวถ้าไม่ได้พักบนเกาะจะเข้าไปไม่ได้ แต่เกาะมันกลางนั้นสามารถไปจุดที่เป็นทะเลแหวกได้ค่ะ

เกาะมันใน

ความพิเศษของเกาะนี้คือเป็นสถานที่ตั้งศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตะวันออก ซึ่งเป็นสถานที่จัดทำโครงการ "สมเด็จฯ อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล" ตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เพื่ออนุรักษ์เต่าทะเลไว้ให้คนไทย ทั้งสองพระองค์ทรงห่วงใยประชาชนของพระองค์ในทุกด้านจริงๆ

ข้างในมีฟาร์มและสถานที่อนุบาลเต่าตนุ เต่ากระ และเต่าหญ้า เพิ่งเคยเห็นเต่าทะเลใกล้ๆ ครั้งแรก ตัวใหญ่มากกกกกก

นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์เต่าทะเลอีกด้วย ภายในอาคารจัดแสดงสัตว์ทะเลและเต่าดอง "พี่เอก" นอกจากจะขับเรือแล้วยังให้ความรู้เรื่องเต่าทะเลและตอบคำถามพวกเราได้เป็นอย่างดี ทั้งขับเรือและเป็นไกด์ควบสองตำแหน่ง

มาเดินสำรวจเกาะมันในกันสักหน่อย วันนี้อากาศเป็นใจมากค่ะ ฟ้าสวยน้ำใส ยิ่งแดดแรงเท่าไหร่ทะเลยิ่งสวยมากเท่านั้น

เกาะมันกลาง

บนเกาะนี้มีที่พักของเอกชน เราแวะได้เฉพาะจุดที่เป็นไฮไลท์คือทะเลแหวก เพิ่งรู้ว่าที่ระยองก็มีทะเลแหวก น้ำใสมากๆ จากบนเรือสามารถมองเห็นหินใต้น้ำได้ ตอนที่เราไปยังแหวกไม่มาก เห็นเป็นสันทรายน้ำประมาณครึ่งแข้ง ถ้ามาถูกช่วงถูกเวลาสันทรายก็จะโผล่ขึ้นมาให้เห็น ธรรมชาติสร้างสรรค์ได้สวยงามจริงๆ

เกาะทะลุ

เป็นเกาะที่อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ลักษณะเด่นของเกาะคือโพรงหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีช่องตรงกลางน้ำทะเลสามารถไหลทะลุผ่านได้ จึงเป็นที่มาของชื่อเกาะ (เกาะทะลุมีหลายที่นะคะ เท่าที่รู้มีที่ระยอง ระนอง ประจวบฯ มีใครให้มากกว่านี้ไหม?)

ที่บินๆ อยู่ไม่ใช่นกนะคะ แต่เป็นค้างคาวแม่ไก่เยอะมาก มีบางส่วนที่ยังเกาะอยู่ตามกิ่งไม้ จุดนี้ของเกาะคงเงียบสงบจริงๆ ค้างคาวแม่ไก่ถึงมาอยู่รวมกันมากมายขนาดนี้

นักท่องเที่ยวค่อนข้างหนาตากว่าเกาะอื่นที่ไปมา ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นเพราะเกาะทะลุน้ำใส หาดทรายสวยและยังเป็นจุดดำน้ำดูปะการังอีกด้วย

กระต่ายทะเล

เจ้าหลงแมวเจ้าถิ่น ลักษณะเหมือนแมวผู้ดี เย่อหยิ่ง แต่เดี๋ยวนะ! This is a เกาะ. หลงมาได้ยังไง?

เหนือสิ่งอื่นใดเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ก่อนที่เราจะไปทำกิจกรรมหรือหามุมนั่งพักผ่อนเหล่หนุ่มต้องกินก่อน! มื้อกลางวันทางบริษัททัวร์จัดเตรียมมาให้ ซึ่งเราเลือกกะเพราทะเลราดข้าว ไม่ได้จบแค่นี้พี่เจี๊ยบจัดปูเนื้อหวานๆ มาให้อีกด้วย ซึ่งราคาทัวร์ดำน้ำรวมข้าวแล้ว ส่วนปูนั้นไม่ได้รวมอยู่ในแพ็คเกจ ถ้าอยากทานสามารถแจ้งพี่เจี๊ยบล่วงหน้าได้ค่ะ

น้ำใสมากค่ะ ไม่ต้องดำน้ำก็สามารถมองเห็นปลาได้แถมเจ้าปลาพวกนี้ก็ไม่กลัวนักท่องเที่ยวด้วยนะ

จุดดำน้ำตื้นต้องว่ายจากฝั่งไประยะหนึ่งไม่ไกลมาก แต่ไม่ใช่สำหรับคนที่ว่ายน้ำไม่เป็น!! ชูชีพพร้อม อุปกรณ์พร้อม แต่ไม่สามารถว่ายไปถึงได้! จนมีพี่ที่ดูแลเรามาพาเราไปโดยวิธีจับเสื้อชูชีพและค่อยๆ ดึงเราไป เราก็พยายามเอาขาตีน้ำ แต่ถามว่าตัวไปไหม? ไม่ไปค่ะ ฮ่าๆๆ สภาพเหมือนช่วยคนที่จมน้ำมาก ได้คำแนะนำมาว่าให้ใส่หน้ากากสน๊อกเกิลว่ายก้มหน้าไปเลย พี่เขาคงเหนื่อยที่ต้องลากมนุษย์ขนาดพะยูนไปดำน้ำ เราก็ทำตามเลยจ้าาาา ปรากฎว่าสำลักน้ำทันทีเมื่อคว่ำหน้า ร้องไห้หนักมาก ต้องยอมยกธงขาวบอกพี่ว่าไม่ไปแล้ว ปล่อยให้คลื่นซัดเข้าฝั่งเป็นพะยูนเกยตื้นด้วยสายตาอันเหม่อลอย

ขอยืมรูปปะการังจากกล้องพี่เจี๊ยบมาให้ดู และเป็นการตอกย้ำตัวเอง ขอบคุณพี่เจี๊ยบมากๆ ค่ะ ^^

ดำน้ำตื้นคว้าน้ำเหลว สอนให้เรารู้ว่าถ้าดำน้ำไม่ได้ก็ทำอย่างอื่น บนเกาะนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ทำอีกค่ะ เช่นการพายเรือคายัค น้ำตาจะไหล...พี่เจี๊ยบถ่ายรูปเราทำท่าพายคายัคไว้ใด้เหมือนพายเป็น นี่สินะ ทะเลของคนว่ายน้ำไม่เป็น ToT

ได้เห็นความสวยงามของทะเลในระดับสายตาไปแล้ว เราจะขึ้นไปมองความสวยงามของทะเลระยองจากมุมสูงกันบ้าง เส้นทางการเดินขึ้นจุดชมวิวไม่ไกลนัก แต่ความชันระยะสั้นๆ ก็ทำให้หอบเหมือนกัน ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าอยู่ที่ความชันหรือสังขารกันแน่ ให้ภาพอธิบายความชัน...

พอลอดซุ้มต้นไม้ออกมา ก็เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลแบบสุดลูกหูลูกตา ตรงนี้ต้องใช้ skill สายย่อนิดหน่อยค่ะ

นี่คือซุ้มไม้ที่เรามุดผ่านออกมาเมื่อกี้ กิ่งกับใบเหมือนจะลู่ไปตามลม สวยมากค่ะ

พี่ม่อน นักจ้องเที่ยวก็พกผ้าขาวม้ามาสะบัดเก๋ๆ

มุมสวีทของพี่เจนและพี่เติ้ล เจ้าของเพจแบกกล้องเที่ยว

ส่วนเรา...นั่งเหงาเป็นเงาดำๆ

แสงแดดสาดเข้าหน้าพอดี จุดนี้คงเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกสวยงามมากๆ

แต่การชมพระอาทิตย์ตกของเราไม่ใช่ที่นี่ จากเกาะทะลุประมาณ 45 นาที เราก็มาถึง "นิมมารนรดี รีสอร์ท" อ่าวปะการัง เกาะเสม็ด ที่พักของพวกเราในคืนนี้ค่ะ

ขึ้นสวรรค์ชั้นนิมมานรดีที่เกาะเสม็ด

"นิมมารนรดี รีสอร์ท" เป็นรีสอร์ทแห่งเดียวในอ่าวปะการังที่อยู่ปลายของเกาะเสม็ด ทำให้รีสอร์ทนี้มีทะเลเป็นของตัวเองถึง 2 อ่าว บรรายากาศเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน อีกความพิเศษของที่นี่คือลมและน้ำทะเลที่นี่ไม่ทำให้เหนียวตัว แต่ถ้าไม่อาบน้ำเลยยังไงตัวก็เหนียวนะคะ ^^

Welcome drink เป็นน้ำกระเจี๊ยบเย็นชื่นใจ

บ้านพัก Style Octagon บ้านทรงแปดเหลี่ยมสีสันสดใส

รูปในห้องพักไม่ค่อยได้ถ่ายมา มัวแต่ตื่นเต้นกับห้องพักสวยๆ ห้องนี้เป็น Deluxe Cottage ห้องนอนและห้องน้ำกว้างมากๆ ห้องนอนโทนสีแดง เฟอร์นิเจอร์ไม้ มีทีวี มุมนั่งเล่นในห้อง ตู้เก็บของ ตู้เย็น เสื่อ โต๊ะเครื่องแป้ง เครื่องปรับอากาศเย็น ส่วนในห้องน้ำชอบตรงกระจกบานใหญ่ มีไดร์เป่าผมพร้อมใช้ เครื่องทำน้ำอุ่น shower gel และ hair conditioner

ภาระกิจสุดท้ายของวันนี้นั่นคือไปชมพระอาทิตย์ตก จุดชมพระอาทิตย์ตกอยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ท แต่เนื่องด้วยเวลาอันจำกัด "คุณนุ" เจ้าของรีอร์ทจึงขับรถพาพวกเราไป พร้อมแนะนำเพิ่มด้วยว่าจุดชมพระอาทิตย์ตกมีสองมุมมอง พวกเราจึงแยกเป็น 2 ทีมแบ่งกันไปเก็บภาพทั้ง 2 มุมมอง

มุมนี้จะดูมีมิติ เห็นเนินเขาเข้ามาในเฟรมเล็กน้อย เรายืนดูพระอาทิตย์ค่อยๆ หายไปจากขอบฟ้า แค่นี้ก็มีความสุขแล้วค่ะ ความสุขง่ายๆ ...แค่เปลี่ยนที่ดูพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตก ถึงแม้จะเป็นที่เดียวกัน แต่ลีลาของท้องฟ้าในแต่ละวันไม่ซ้ำกันแน่นอน เหมือนได้ดูงานศิลปะที่มีผู้จัดแสดงชื่อธรรมชาติ

หลังจากพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว เราเดินไปสบทมกับพี่ๆ อีกกลุ่ม

ถ้าดูพระอาทิตย์จากมุมนี้จะมองเห็นทะเลกว้างๆ ไม่มีอะไรมาบดบัง

พระอาทิตย์ตกไปแล้ว ทำไมยังไม่กลับกันนะ?

ก็เพราะว่า...ความสวยงามของท้องฟ้าไม่ได้อยู่ที่พระอาทิตย์อย่างเดียว แสง twilight หลังพระอาทิตย์ตกไปแล้วก็งดงามไม่แพ้กัน มานั่งดูท้องฟ้าเปลี่ยนสีกันดีกว่า...

แสงสีส้มอมน้ำเงินค่อยๆ หายไป แสงสีเขียวของเรือไดหมึกก็ชัดขึ้น ถ้าอยู่หลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ควรมีไฟฉายเล็กๆ ติดไว้ด้วยนะคะ เพราะทางเดินกลับค่อนข้างมืด

เราคิดว่ากลางคืนบนเกาะเสม็ดจะเต็มไปด้วยแสงสี เสียงดนตรีและผู้คนออกมาปาร์ตี้กันริมทะเล คงจะเป็นอย่างนั้นถ้าเราไปอยู่หาดทรายแก้ว แต่ที่อ่าวปะการัง มีเสียงเพลงเบาๆ จากในส่วนที่เป็นร้านอาหาร แสงไฟในโทนสีสบายตาและแสงสีเขียวจากเรือไดหมึกไกลๆ ถ้าเดินไปริมชายหาดด้านตะวันออก จะได้กลิ่นหอมของดอกไม้อ่อนๆ โชยตามลม ดอกสีขาวเล็กๆ จำชื่อไม่ได้ มื้อค่ำที่รีสอร์ทเป็นไปอย่างอิ่มเอม กินอร่อย นอนสบาย แค่นี้ก็เป็นสวรรค์เล็กๆ แล้วค่ะ

เมื่อคืนฝนตก เช้าวันนี้พระอาทิตย์จึงไม่มาให้เห็น การนอนเล่นรับลมทะเลยามเช้าบนเปลยวนก็เป็นสิ่งที่รื่นรมย์ ส่วนใครอยากทำบุญตักบาตรประมาณหกโมงครึ่งมีพระมาบิณฑบาตค่ะ

อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ไลน์อาหารไม่ได้ใหญ่อลังการ แต่คุณภาพแน่นหลากหลายรูปแบบ เมนูข้าว เมนูเส้น สลัด ABF ขนมปังปิ้ง pancake นม น้ำผลไม้ เมนูที่หลายคนโหวตให้ว่าโดนใจคือ ข้าวต้มหมู ผัดซีอิ้ว เราหลายใจแถมปอเปี๊ยะทอดให้อีกอย่าง

ยามเช้าที่เงียบสงบ เรารู้สึกได้ถึงการพักผ่อนจริงๆ มีหลายมุมให้เลือกนั่งปล่อยอารมณ์

ถ้าชอบทำกิจกรรมทางน้ำ ที่นี่มีกิจกรรมตกปลา ตกหมึก ดำน้ำตื้น พายเรือคายัค หรืออยากผ่อนคลายกล้ามเนื้อก็มีบริการนวดเพื่อสุขภาพ

พี่เจี๊ยบพาเราไปแวะที่หาดทรายแก้ว เป็นเกาะเสม็ดในแบบที่เราคิดไว้ ร้านขายของเยอะ นักท่องเที่ยวค่อนข้างหนาตาถึงแม้จะเป็นวันธรรมดา

น้องหมาบนเกาะคิ้วหนาจัง

เกาะเสม็ด...เชื่อกันว่าเป็นเกาะแก้วพิสดารในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณีของสุนทรภู่ จึงสามารถเจอรูปปั้นตัวละครในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณีได้บนเกาะ

ท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด...

เกาะกุฎี

วันนี้อากาศดีพี่เจี๊ยบจึงพาพวกเราแวะเกาะกุฎีเป็นการส่งท้าย ยังไม่ถึงเกาะดีก็มีฝูงปลาเข้ามาทักทาย บนเกาะนี้ค่อนข้าเงียบ นอกจากน้ำทะเลจะใสน่าเล่นแล้ว ยังจุดชมวิว "ผานิลมังกร" ให้ได้ออกแรงเดินเล็กๆ น้อยๆ เพื่อขึ้นไปชมความงามขอทะเลในมุมสูงกัน ระยะทาเดินสั้นๆ 480 เมตร


จังหวัดระยองมีอะไรมากกว่าที่เคยรู้มาจริงๆ มีเกาะสวยอีกมากมายรอให้ไปเยือน มีกิจกรรมให้ทำหลายรูปแบบ ที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ความสุขอยู่ไม่ไกลค่ะ


ต้องขอขอบคุณเพจ "แบกกล้องเที่ยว" ที่มาชวนให้ร่วมเดินทางมาในทริปนี้

ขอบคุณเรือเร็วเที่ยวเกาะ จ.ระยอง Aquatic Tour Rayong (อะควอท'ทิค ระยอง) และ นิมมารนรดีรีสอร์ท สำหรับการดูแลและคืนวันดีๆ

ติดตามรีวิวอื่นๆ และเรื่อราวท่องเที่ยวของได้ที่ >>> Keep Going

แป้งเจอนี่เจอนั่น

 วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 02.49 น.

ความคิดเห็น