มาต่อกันที่ทริปเที่ยวคันไซตอนใหม่กันครับ
โปรแกรมวันนี้คือไปเที่ยวปราสาทฮิเมจิ แต่ตอนเช้าขอแวะไปทานซูชิอร่อยๆกันก่อน
สำหรับทริปเที่ยวคันไซตอนนี้ก็เป็นตอนที่ 5 แล้ว ใครยังไม่ได้อ่านตอนแรกๆ รวบรวมลิ้งไว้ให้นะครับ ^^
ตอนที่ 4 : ตามล่าใบไม้แดง ร้านอร่อย พร้อมเทคนิคถ่ายภาพสวยๆ ที่เกียวโต
ตอนที่ 3 : รีวิวจัดเต็ม Kinosaki onsen ฟินจนอยากหยุดเวลา
ตอนที่ 2 : พาเดินตลาดมือสองญี่ปุ่น ช็อปจุใจที่ Garage Sale
ตอนที่ 1 : ดีงามเกินคุ้ม ที่พักโอซาก้าจาก Airbnb
ติดตาม Fanpage : http://facebook.com/duetdiary/
อ่านแล้วถูกใจช่วยกันกด like กด + ให้เพื่อนๆที่มาทีหลังจะได้อ่านกันนะครับ
ขอบคุณล่วงหน้าไว้เลยนะครับ รัก
มาขึ้นรถไฟจากสถานี Tanimachi 4 chome ใกล้ๆที่พัก เพื่อไปยังสถานี Tamagawa ครับ ถ้ามาจากสายอื่นก็นั่งมาลงที่สถานี Tamagawa จะสะดวกที่สุดครับ หรือถ้าใช้ JR จะลงที่สถานี Noda ก็ได้ครับ เดินพอๆกัน
ดูแผนที่ได้เลยครับ จากสถานีเดินตรงมาเรื่อยๆถึงช่วงสะพานข้ามแม่น้ำก็เลี้ยวขวาตรงเข้ามาก็เจอตลาดปลาเลย ส่วนร้าน Endo Sushi นั้นจะอยู่ด้านนอกตลาดใกล้ๆกันครับ
เดินเล่นตลาดปลา ชมบรรยากาศที่วุ่นวายยามเช้า
เดินจากสถานีมาประมาณ 10 นาที ก็ถึงแล้วววว Osaka Central Fish Market ตลาดปลากลางโอซาก้า จุดสังเกตก็คือเจ้านาฬิกาเรือนใหญ่ข้างบนนั้นล่ะครับ รูปนี้ถ่ายตอนจะกลับแล้วเวลาก็ประมาณ 8 โมงเช้าละครับ
ถ้ามาเช้าหน่อย ประมาณตี 5 ก็จะได้เห็นการประมูลปลากันด้วยครับ น่าเสียดายที่ผมตื่นไม่ไหว อากาศหนาวด้วยกว่าจะเข็นตัวเองขึ้นมาได้ 555 แต่ก็ยังพอได้เห็นบรรยากาศภายในตลาด ความวุ่นวาย และสินค้าอาหารทะเลสดๆมากมาย ครบทั้งปู ปลา กุ้ง หอย ฯลฯภายในตลาดมีร้านค้ากว่า 200 ร้าน ทั้งอาหารทะเลสดและอาหารทะเลแห้ง
ปลาทูน่าตัวใหญ่แน่นๆน่ากินมาก เค้าแล่กันสดๆในตลาดเลย ส่วนหัวกับส่วนเนื้อติดก้างไม่แน่ใจว่าจะทิ้งไหม แต่ถ้าใครเคยอ่านการ์ตูนเรื่องไอ้หนูซูชิ พระเอกจะไปขอซื้อเนื้อส่วนพวกนี้มาทำซูชิ เนื้อติดก้างนี่นอกจากจะอร่อยเข้มข้นแล้วยังมีสารอาหารจากกระดูก (พี่แกว่างั้นนะ 555) แล้วก็ราคาถูกมากด้วยครับ
แหม่ น่าลองซื้อกลับมาซักก้างนึง !
ยืนดู+ถ่ายรูปคุณลุงคนนี้แล่ปลาทูน่ากันสดๆ เนื้อแดงเข้มๆยังกะเนื้อหมู คุณลุงเห็นผมถ่ายรูปก็ยิ้มแย้มและเริ่มพูดคุย ถึงแม้ผมจะฟังไม่รู้เรื่องแต่ก็ยืนอ้อ โอ้ พยักหน้าหงึกๆไปด้วยกับแก ที่เห็นที่แกกำลังหั่นชิ้นเล็กๆนั้น
หลังจากถ่ายภาพนี้แกก็ยื่นซาซิมิทูน่านี้มาให้ผมชิมดูครับ ใจดีจัง ผมก็อาริกาโต้ๆแล้วทาน เนื้อปลาแน่นสดใหม่จริงๆครับ น่าแปลกตรงไม่มีกลิ่นคาวเลย แต่มันไม่ค่อยชิน อยากได้โชยุกับวาซาบิซักหน่อยอะลุง 555
เดินเล่นเก็บภาพบรรยากาศภายในตลาดปลากันต่ออีกสักพัก หลังจากประมูลปลาอะไรกันเสร็จแล้ว เค้าก็มาเริ่มทำงาน เตรียมวัตถุดิบขายแบบนี้กันแทบทุกร้านละครับ ทั้งหั่นทั้งแล่ ได้ชมการใช้มีดยาวแล่ปลาทูน่าตัวโตออกเป็นชิ้นๆ ฝีมือจริงๆครับ
แวะถ่ายลุงคนไหนก็พยักหน้า โค้ง ยิ้ม ให้สัญญาณขอเค้าซักหน่อยเป็นมารยาท ทุกคนยิ้มแย้มให้ถ่ายกันหมดละครับ คงจะชินละ
เดินตลาดจนหิวแล้ว ไปกินซูชิกันตามเป้าหมายเลยดีกว่าที่ร้าน Endo Sushi ตอนที่ผมเข้าไปยังไม่มีคิวเลยครับ นี่ถ่ายไว้ตอนทานเสร็จแล้วคนเริ่มมาต่อคิวกันเยอะล่ะ ดีว่ามาไวไม่ต้องรอนาน
ร้าน Endo Sushi เป็นร้านซูชิเก่าแก่ของโอซาก้า ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1907 ร้านนี้เค้ามีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครตรงที่ใช้ข้าวซูชิอุ่นๆในการปั้นซูชิ สาเหตุก็เพราะสมัยก่อนต้องรีบทำซูชิให้พ่อค้าที่มาทานไวๆเพื่อที่จะได้ไปทำงานต่อ แต่ข้าวซูชิที่อุ่นนิดๆนี่ล่ะที่ทำให้รสของซูชิร้านนี้อร่อย ละลายในปาก ไม่เหมือนใครนั่นเอง
มาทานร้านนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะสั่งไม่เป็น เค้าจัดเป็นเซ็ทเมนู Omakase ไว้ เป็นซูชิจานละ 5 คำ ราคาจานละ 1,050 เยน ทุกจานก็จะมี Toro หรือเนื้อส่วนท้องปลาทูน่าให้ 1 คำ ครับ ที่เหลือก็จะแตกต่างกันไป มีทั้งปลา กุ้ง หอย ไข่ปลา ไข่หวาน ฯลฯ
จานแรกมาแล้ว จานนี้ไล่จากซ้ายไปขวามี เนื้อปู (Kani) , หอยแครง (Akagai) , หอยเชลล์ (Hotate) , ทูน่า (Toro) และ ปลาดาบเงิน (Tachiuo) แต่ละชิ้นปั้นมาไซส์พอดีคำ เนื้อปลาชิ้นหนาๆสดใหม่ น่ากินจนแทบกระโดดใส่
อย่างที่บอกว่ามันน่ากินมากครับ จานนี้จึงพลาดถ่ายไม่ทันไป 1 ชิ้น 555 ไล่จากซ้าย ไข่ปลาแซลมอล (Ikura), ปลาซาโยริ (Sayori), ทูน่า (Toro) และ แซลมอล ส่วนอีกชิ้นที่หายไปคือปลาหมึก (Ika) ทานไปเรียบร้อยแล้วครับ
ถัดมาอีกจาน นี่คือหิวจัดใช่ไหม สั่งทีเดียว 3 จาน ?
ไล่จากซ้าย เนื้อกุ้ง (Ebi) , ไข่หวาน (Tamago) , หอยเป่าฮื้อ (Awabi) , มากิทูน่า (Tekka) แล้วก็ปลาหมึกยักษ์ (Tako) ครับ
ที่นี่เค้ามีโชยุวางไว้ให้ทุกโต๊ะเป็นไหพร้อมกับแปรง ไว้ใช้ทาลงไปบนซูชิแบบนี้ได้เลย ไม่ต้องจิ้มให้เลอะเทอะหรือเม็ดข้าวหลุดแตกลงไปในโชยุ นอกจากจะสะดวกแล้วยังทานได้อร่อยขึ้นด้วย เพราะป้ายลงบนเนื้อปลาโดยตรงเลย ไม่โดนข้าวให้แฉะๆหรือชุ่มโชยุจนเกินไปครับ ชอบมาก
อย่างที่เล่าไปว่าข้าวซูชิที่นี่จะเป็นแบบอุ่นนิดๆ ทำให้เวลาทานเข้าปากแล้วมันละลายแตกออกไปพร้อมๆกับเนื้อปลาสดๆแล้วได้รสที่ กลมกลืนกันอร่อยมากจริงๆครับ
ซูชิคำเด็ดๆที่ผมชอบก็มี หอยเป๋าฮื้อ สดใหม่หอมมัน ต้มมาได้กำลังดีไม่เคี้ยวยาก , มากิทูน่า ที่ใช้เนื้อส่วนท้อง ได้รสชาติเข้มข้นของไขมัน อร่อยเหาะ , ปลาหมึกยักษ์ที่ปกติจะคุ้นเคยว่าเหนียว แต่เค้าต้มได้เหนียวนุ่มเคี้ยวง่าย หวานอร่อย และไข่ปลาแซลมอลของแท้ที่เวลามันระเบิดในปากนี่สุดจะฟินครับ
ก่อนจะอิ่ม ผมสั่งเพิ่มมาอีกนิดหน่อยเพราะอยากชิม เริ่มจาก ปลาไท (Tai) ที่นี่เค้านับเป็นปลาชั้นสูง เนื้อสีขาว หนังสีแดงสวย เนื้อแน่นหวานอร่อย , ปลาฮามาจิ (Hamachi) ที่มีความเด้งกรุบกรอบมากขึ้น อร่อยรสเข้มข้น และพระเอกของร้าน Toro แต่ชิ้นนี้ดูไขมันน้อยไปหน่อยนะนี่ แอบประหยัดของหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่ก็อร่อยอยู่ดี
อิ่มอร่อยท้องตึง ฟินกันไปครับมื้อนี้ จัดหนักเลย มาทานร้านน้ราคาคิดง่ายๆ จานละ 1,050 เยนครับ
ได้ทานมื้อเช้ากันจนอิ่มแล้ว เดี๋ยวออกเดินทางกันเลยดีกว่านะครับ วันนี้ตามแพลนแล้วเราจะไปเที่ยวชมปราสาทที่ถูกจัดให้เป็นมรดกโลก นั่นก็คือปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle / Himejijo) กันครับ
การเดินทางนั้นสามารถนั่งรถไฟต่อเดียวจากสถานี Osaka ได้เลยโดยใช้ JR Pass หรือ JR Kansai Wide Area Pass ที่ใช้เดินทางไป Kinosaki Onsen ตอนที่แล้วก็ได้ครับ หรือถ้าอยากนั่ง Shinkansen ก็ไปขึ้นได้ที่สถานี Shin-Osaka ครับ
ข้าวกล่องซูชิแบบนี้น่าทานมากๆ ราคาก็ตามวัตถุดิบแตกต่างกันไปนะครับ
เดินมาจนสุดถนนก็ข้มไปแล้วเดินเข้าปราสาทกันเลยครับ
คุณลุงคุณป้าถ่ายรูปให้กันยังกับจีบกันใหม่ๆ น่ารักดีนะครับ
ขึ้นไปชมปราสาทสวย ระดับมรดกโลก
มองจากมุมนี้ก็เป็นอีกมุมที่สวย โดยเฉพาะหน้าซากุระบานจะยิ่งสวยมากๆ
ซื้อบัตรกันแล้วเดินขึ้นไปกันเลย ผ่านจุดแรกเป็นป้อมประตูขนาดใหญ่กันก่อนเลยครับ
ขึ้นมาด้านบนหอคอยมองออกไปจะเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองและทางเดินภายในปราสาทได้ง่ายครับ
ภายในมีจัดแสดงแบบจำลองโครงสร้างของปราสาทให้ได้ชมกันครับ ออกแบบและก่อสร้างขึ้นมาได้น่าทึ่งจริงๆ
ระหว่างทางเดินมีหน้าต่างให้ได้แวะถ่ายรูป ชมวิวกันตลอดครับ
พื้นที่ตรงนี้จะเป็นลานกว้างให้ถ่ายรูปตัวปราสาทกันได้อย่างเต็มที่ หรือจะชมวิวด้านล่างก็ได้เช่นกัน
วันนี้ก็ได้กินทั้งซูชิร้านดังอร่อยๆ ชมปราสาทที่สวยเป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่น เป็นอีก 1 วันที่สนุกมาก
ขอตัวลากันไปก่อนนะครับสำหรับตอนนี้ รอชมตอนหน้ากันนะครับว่าจะไปเที่ยวที่ไหนกันต่อ
Location : 34.685000, 135.480450
การเดินทาง : เดิน 10 นาทีจากสถานี Tamagawa
Location : 34.684215, 135.479602
การเดินทาง : อยู่บริเวณลานจอดรถด้านหน้า Osaka Fish Market
Location : 34.839423, 134.693873
การเดินทาง : JR Rapid / Shinkansen จากสถานี Osaka / Shin-Osaka
Fan page : http://www.facebook.com/duetdiary
Blog : http://www.duetdiary.com , IG @duetdiary
Duet Diary
วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 00.08 น.