ชื่อที่พัก : เขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์

รายละเอียด : พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งระเบน) เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ

เว็บไซต์ : http://www.thaimaptravel.com

  • ค่าเข้าอุทยานฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
  • ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท
  • ค่าที่จอดรถ 60/คัน
  • ค่าเต้นท์ 200/หลัง สามารถเอาเต็นท์ส่วนตัวไปเองได้
  • หมายเหตุ!! ไม่มีโทรจองล่วงหน้า สามารถ walk in ไปได้เลย ก่อน 16.30น ///แต่เราไปถึงประมาณ 18.00น.เจ้าหน้าที่อุทยานอนุญาติให้เข้าได้
  • การวางแผนมาเที่ยวครั้งนัี้ คือ พวกเราขับรถหลงทางมา แล้วบรรยากาศดีจึงนัดกันมาอีกรอบ โดยใช้เวลาเตรียมตัว 3 วัน ก่อนที่จะมาที่นี้
  • โดนเราเลิกงานหลัเพื่อน จึงได้วางแผนกันว่าให้คนที่เลิกงานเร็วไปจองที่พักก่อน เพราะกว่าเจ้าหน้าที่อุทยานปิดก่อน
  • ามภาพแรกหลังจากที่เรามาถึงลานกลางเต็นท์ เวลาตอนนั้น...น่าจะประมาณ 3 ทุ่มหน่อยๆ จริงๆที่่พักเราก็อยู่ห่างจากที่กางเต็นท์ไม่มาก แต่ปกติเราไม่เคยขับรถไปเส้นนี้ตอนกลางคืน ก็เลยหลงทาง..............ปกติเวลาจะใช่เวลาประมาณ30นาทีในการมาทะเล แต่ครั้งนี่...///ปาไป 1ชั่วโมงครึ่งจ้า ......แย่มาก เพื่อนก็รอทานข้าว .สิ่งที่ถามเเพื่อนคำแรก คือ **** ใครกางเตนท์ให้พวกเธอ ..แลัวก็ได้คำตอบวาเจ้าหน้าที่อุทยานจัดการให้หมดทุกอย่าง ........................คือดีย์คือเนื่องด้วยเลิกงาน 1 ทุ่มจ้า หิวตั้งแต่ยังไม่เลิก ทุกคนกแล้วเราก็ไม่พูดมาก มาถึงเราก็จัดการรับประทานหมูกระทะกันก่อนเลยจ้า @ หมูกระชื้อมาจากใน อำเภอ เมืองจันทบุรี ก็จะห่างจาที่นี้ประมาณ 28 กิโลได้ ชุดประ199บาท ชื่อมา2ชุด และก็เช่าเตามาด้วย 2 เตา เพราะที่นีี้ไม่ให้ก่อไฟกับพื้น นะคะ//เราก็ได้ชื้ออย่างอื่นมาปิ้ง-ย่างกันด้วยคะ ///อยากรับประทานอะไรก็ชื้อมาได้เลยนะจ๊หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเราก็เดินชมบรรยากาศและเดินดูน้ำทะลรอบๆที่พักของเรา วันนี้อากาศดีลมไม่แรงมาก อากาศก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ --ยิ่งดึกยึ่งหนาว-- ประโยนี้ยังใช่ได้ตลอดการ 555+ก็ถึงเวลาเข้านอนของเราแล้วบรรยากาศก็เย็นๆ อุณหภูมิประมาณ 23 องศา ก็ถือว่าพอใช่ได้ นอนฟังเสียงคลื่นทะเล และเสียงลมพัดไปมา พวกเราเข้านอนกัน ประมาณตี1 มีเพื่อนบ้างคนที่กลับไปนอนที่บ้านเนื่องจากมีธุระ เจ้าหน้าที่อุทยานก็ไม่ได้ห้าม สามารถออกได้ ถือว่าสะดวกพอสมควร ถ้าคนที่อยู่ไกล้ๆอยากไปแล้วกลับมานอนบ้านตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นจ้า (5.30) นับว่าดวงอาทิตย์ขึ้นเร็วพอสมควร แต่อากาศก็ยังเย็นสบาย เราสามารถไปออกกำลังกาย วิ่งรอบเกาะ ดูพระอาทิตย์ขึ้นได้หลายจุดมาก////แต่เราไม่ได้ไป มีคนบอกว่าถ้าเราเดินขึ้นไปบนเนินเขาจะสามารถมองเห็นเกราะเสม็ดได้จากตรงที่เราอยู่///หลังจากเราตื่นขึ้นมาอีกรอบ พระอาทิตย์เริ่มส่องแสง มรลมพัดผ่านบ้างแต่ไม่แรงเท่าไรนะ ถือว่าดีเลยล่ะ อากาศตอนนี้ (7.50)ลงไปถ่ายรูปกลับลานหินสีชมพู ตอนน้ำลง/////ที่ถ่ายรูปเยอะไปหมด ///////////////ใครชอบธรรมชาตอไม่คสรพลาดจริงๆๆ พูดเลยยยยย...............ถึงเวลาเก็บของกลับบ้านกัน ไม่อยากกลับเลยอยากอยู่ที่ยี้ชัก 1 อาทิตย์ค่ะน้ำใสมากคะ พูดเลย///หลังจากเรารับประทานอาหารกันแล้วเราก็ต้องรู้จักเก็บขยะด้วยนะคะ ////ตรงนี้เป็นที่ทิ้งขยะของลานกางเตนท์มีที่เดียว อยู่ไกล้ๆกลับทางเดินไปห้องน้ำ ประมาณ 9.00น.จะมีเจ้าหน้าที่อุทยานมาเป็นขยะไปทำลาย............เดินไปอีกนิดก็จะเป็นอ่างล้างหน้า ล้างมือ น้าเย็น///สดชื้นมากค่ะ บรรยากาศก็ดีล้างมือไป ดูทะเลไป พูดไปก็อยากมีบ้านติดทะเลเลยคะ555***ติดกับก็จะเป็น ที่ไว้สำหรับอาบน้ำ แบบ outdoor เพื่อมีคนชอบ หน้าหนาวไม่แนะนำเท่าไรคะ ลมแรงมาก ...... เดี่ยวจะไม่สะบายอันนี้ก็จะเป็นห้องสุขา แยกชาย/หญิงนะคะ
  • มีห้องอาบน้ำ ให้ 2ห้อง
  • ห้องส้วม อีก 3 ห้องคะ
  • ห้องน้ำโดยรวมถือว่าสะอาดเลยทีเดี่ยว แต่ไม่มีน้ำอุ่นนะคะ ///น้ำเย็นเจียบเดินออกมาจางห้องน้ำก็จะเห็นลานโล่งๆไว้ทำหลับกางเต็นท์ ++++และเดินไปสหกรณ์ส่วนห้องนี้จะเป็น ร้านสหกรณ์
  • จะเป็ดขายเฉพราะวัน เสาร์-อาทิตย์ ส่วนวันธรรมดาต้องหาอาหารมาเองนะคะก่อนกลับบ้านก็แวะถ่ายรูป รอบๆลานจอดรถ ก็จะมีพื้นที่สวยๆให้ถ่ายรูปเยอะมากเลย
  • วันที่ไป ลมไม่ค่อยแรกคะ ท้องฟ้าก็แจ่มใส เลยได้รูปออกมาสวยมากคะ ปล. camera by phone(Samsung)
  • สำหรับ review นี้เป็นครั้งแรกที่เขียน ผิดพลาดอย่างไรต้องขอขภัยด้วยนะคะ
  • ฝากติดชมด้วยนะคะ จะได้นำไปพัฒนาใน การ review ครั้งต่อไปคะ

ขนมเลย์

 วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เวลา 07.38 น.

ความคิดเห็น