"เขาช้างเผือก" เขาที่ขึ้นชื่อว่าจองยากมากๆที่สุดเขานึง 🤩 และมีจุดไฮไลท์ "สันคมมีด" ที่น่าหวาดเสียว ตื่นเต้น 😲 ท้าทายนักผจญภัยทั้งหลายให้ได้ไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต

เปิดให้นักท่องเที่ยวได้จองกันในช่วงประมาณ พ.ย. ถึง ม.ค.เท่านั้น

😉สักครั้งนึงในชีวิตไปพิชิตเขาช้างเผือก ที่นี่เดินไม่ยากมาก วิวบนจุดยอดเขานั้นสวยงามจริงๆ คุ้มค่าสุดๆ

😀อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จำกัดนักท่องเที่ยวขึ้นไปบนยอดเขาช้างเผือก จำนวน 60 คนต่อวัน

☎️เบอร์โทรจอง 034-510979 , 098-2520359 โทรได้ทุกวัน เวลา 08.30- 16.00 น. จองได้ครั้งละ 5 คน

สามารถจองล่วงหน้าได้ไม่เกิน 7 วันเท่านั้น

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมขึ้นเขา

-เต้นท์ ถุงนอน (เต้นท์และถุงนอนเช่าได้)

-หมวก ไฟฉาย ถุงมือ เสื้อผ้าควรใส่แขนยาว ขายาว

-อาหารมื้อกลางวัน มื้อเย็น และมื้อเช้า และอุปกรณ์ประกอบอาหาร

-ทิชชู่เปียก

ภาพถ่ายเมื่อ 15-16/12/2019

https://www.facebook.com/OKReady2go

ขอฝากเพจไว้ด้วยนะครับ ถ้าชอบก็กด like เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะครับ หรือมีคำถามอะไรก็ ib มาได้เลย

เริ่มจากขับรถจาก กทม.ไปอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ใช้เวลาประมาณ 5ชม.กว่าๆ

ค่าบริการ ในการเข้าอุทยานฯ

ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท

รถยนต์ 30 บาท/คัน

รถจักรยานยนต์ 20 บาท/คัน

พื้นที่กางเต็นท์ 30 บาท/คน/คืน

เรามานอนกางเต็นท์กันที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิกันก่อนคืนนึง

จุดชมวิวที่อุทยาน

หลังจากชมวิวแล้วก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อรายงานตัวกันที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเลยครับ

เช็คชื่อรายงานตัวกันแล้วก็ ขับรถออกจากอุทยานไป 8กม. ไปจอดรถไว้ที่หมู่บ้านอิต่อง แล้วไปที่ศาลาเอนกประสงค์

จ้างลูกหาบหิ้วของบางส่วนขึ้นไป ที่หมู่บ้านนี่เป็นจุดเริ่มเดินขึ้นเขาช้างเผือกครับ ระยะทางเดินประมาณ 8 กิโลเมตร

ทางเดินช่วงแรก พอมีร่มไม้บ้าง หลังจากนั้นก็โล่งๆเลยครับ แดดเปรี้ยงกันเลยทีเดียว

หมวกจำเป็นมากสำหรับที่นี่ พกน้ำดื่มติดไว้เยอะๆ

แวะพักกินอาหารกลางวันสักหน่อยครับ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง แวะซื้อที่หมู่บ้านอิต่องมา

เติมพลังละก็ลุยกันต่อ หลังจากนี้ก็แดดล้วนๆละครับ

เขาช้างน้อยครับ เดินชันพอสมควร มีเชือกให้จับช่วย

เดินข้ามเขากันสัก 3-4 ลูกน่าจะได้

ลงไปตรงนี้ก็เป็นจุดกางเต็นท์แล้ว ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.ครึ่งถึงจุดกางเต็นท์ครับ

ด้านซ้ายนั่นคือห้องน้ำครับ มีไว้ถ่ายหนักเบา เป็นส้วมหลุมนะครับ ไม่มีน้ำให้อาบนะครับผม

พอถึงบ่าย 3 เจ้าหน้าที่ก็เรียกให้ขึ้นสันคมมีดกันครับ

ทางขึ้นก็ชันเลยค่อยๆปีนกันขึ้นไป ถุงมือควรมีนะครับ

ถึงแล้วสันคมมีด จุดวัดใจ มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ครับ ใครกลัวความสูงบอกเลยว่าจุดนี้มีร้อง 555

2 ข้างนั่นก็เหวเลยครับ จุดนี้ค่อยๆไป ฟังเจ้าหน้าที่ ผ่านไปได้ไม่ยากครับ มีเสียวพอให้ตื่นเต้น 😁

เดินกันต่อคับ เป้าหมายคือยอดเขาช้างเผือก

ทางชันสุดท้ายก่อนถึงยอดละ หอบกันอีกสักนิด ไม่ไหวบอกหวายยยยยย !!

ถึงแล้วยอดเขาช้างเผือก 🤩

อยู่ชมวิวบนยอดกันสักพักนึง 🌄 ต้องลงจากยอดก่อน 5 โมงครึ่งครับ เดียวพระอาทิตย์ตกแสงหมดจะอันตราย เดินยาก มุมนี้เหมือนช้างจริงๆนะ 🐘

แถวตอนหน้ากระดานเรียงหนึ่ง ปฏิบัติ!! 😂😁

วิวที่นี่มันสวยงามจริงๆ

ขากลับผ่านสันคมมีดวัดใจอีกสักรอบ 😙

ขากลับนี่เสียวกว่าขาไปนะ เหมือนมุมมองมันเปิดมากกว่า เจ้าหน้าที่คอยดูอย่างดีครับ อุ่นใจได้ 🙂

พอพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ค่อยๆมืดลง ยิ่งมืดและห่างไกลแสงจากเมืองเท่าไร ✨ แสงดาวก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น จะมีสักกี่ครั้งกันที่เราจะได้เห็นดวงดาวเต็มท้องฟ้าขนาดนี้ 🤩🌟 กลางคืนที่นี่ลมค่อนข้างแรงเลยทีเดียว อากาศเย็นสบายไม่หนาวมาก

อลังการดาวล้านดวง✨🌟

มื้อเย็นกินง่ายๆหน่อยครับ มาม่าไข่ต้ม ละปลาแซลม่อน ^^,

เช้ามาเราก็ชมพระอาทิตย์ขึ้นกันที่หน้าเต็นท์เลยครับ 🌄

เทือกเขา สายลม แสงแดด ยามเช้า อยากตื่นมาเจอแบบนี้ทุกวันเล้ยยย 😃

ขากลับเรารีบเดินลงแต่เช้าเลยจะได้ไม่ร้อนมาก ขากลับใช้เวลาประมาณ 2 ชม.ครึ่งได้ ไวกว่าขาไปตั้ง ชม.นึงแหนะ

บ๊ายบาย 👋 เขาช้างเผือก เราจะคิดถึงนายตลอดไปนะ😃

💸สรุปค่าใช้จ่าย

ค่าเจ้าหน้าที่ 260฿/คน ในกรณีคนครบ 60 คนต่อวัน

ค่าลูกหาบ 1500฿/30 กก. หารๆกันครับ

ค่าอุทยาน 40฿/คน

ค่ากางเต็นท์ 30฿/คน

ค่าประกันชีวิต 10฿/คน

ที่เหลือค่าอาหารน้ำดื่มและค่าเดินทางครับ

ที่นี่เป็นหนึ่งในสุดยอดสถานที่ในประเทศไทยที่ควรค่าแก่การไปเยือนสักครั้งจริงๆครับ