ตลาดอินโดจีนสู่ตลาดท่าเรือ

เทศกาลวันหยุดยาวได้มีโอกาสกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดในรอบหลายเดือน ผู้คนมากมายเริ่มหารถ โดยสารเพื่อเดินทางกลับบ้านให้ได้เร็วที่สุด อดทนอดกลั้นในการรอซื้อตั๋วรถ ค่าตั๋วรถทัวร์นครชัยแอร์ 790 บาท สายกรุงเทพมหานคร-หนองคาย และในที่สุดการเดินทางนี้ก็เป็นไปด้วยความสำเร็จ อาจจะมีบ้างที่เหนื่อย เหนื่อยจากคน รถเยอะรถติดเป็นหางว่าว แต่สุดท้ายก็อดทนมาจนถึงบ้านที่เรียกว่า หนองคาย เมืองน่าอยู่อันดับ 7 ของโลก 

ถึงบ้านแล้วก็ขอพักหน่อย ตื่นขึ้นมาแต่เช้าหยิบกุญแจรถขึ้นโชว์ขึ้นเพื่อเป็นการชวนพี่สาวที่มาจากชลบุรีและเดินทาง มาเยี่ยมบ้านเหมือนกัน ให้พาไปเที่ยวในตัวเมืองหนองคาย

เริ่มต้นที่สถานที่แรกที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันดีในชื่อ "ตลาดท่าเสด็จ หรือ ตลาดอินโดจีน" จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของตรงนั้นได้คำตอบมาว่า 

“ ที่ได้ชื่อนี้มา เพราะก่อนที่จะมีการสร้างสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว คนทั้งสองฝั่งน้ำ จะต้องใช้เรือในการสัญจรไปมา ทำการค้าระหว่างชายแดนกันอย่างคึกคัก ภายหลังจึงได้ เปลี่ยนเป็ นที่ท าการด่านตรวจคนเข้าเมืองและท าหนังสือเดินทางผ่านแดน” ขนาดตัวเองเกิดที่นี่ ยังไม่รู้เลยนะเนี่ย 555555

ตั้งแต่เริ่มกาวแรกเข้าสู่ภายในตลาด สินค้าที่อยู่ภายในที่แทบจะมีทุกอยางที่ต้องการ ให้เลือกชมสองข้างทางเต็มไปด้วยผ้าไหม ผ้าฝ้าย

สำหรับคนที่ชอบผ้าไหมหรือผ้าฝ้าย แนะนาให้มาดูที่ตลาดท่าเสด็จ ที่นี่เขามีบริการแกทรงผ้าไหม รับตัดกันตัวต่อตัว ราคาถูก และได้ผ้าไหมที่มีคุณภาพ วางสลับกันไปกับสินค้า OTOP ต่างๆ ถ้วยชาม เครื่องเงินแท้ใบชาที่ใช้สำหรับปรุงเป็ยาของคนโบราณ มีร้านขายของฝากที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว พ่อค้าแม่ค้ากเป็นคนในพื้นที่มีบ้านอยูใกล้ๆบ้าง มาจากเมืองจีนประเทศเพื่อนบ้านก็มี

แม่ค้าพ่อค้าบอกเป็นเสียงเดียวกันวา “ตั้งใจมาอยู่ที่หนองคายเพราะเมื่อก่อนยังไม่เจริญขนาดูนี้ การค้าขายก็ดี ค่าเงินยังไม่เป็นหมือนในปัจจุบัน สมัยนั้นยังไม่แบ่งแยกไทยลาว คนส่วนใหญ่ ก็ไปๆมาๆ แถวนี้กันเยอะ“

เท่าที่สังเกตุส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวเต็มไปด้วยชาวต่างชาติและประเทศเพื่อนบ้าน ผู้คน ในพื้นที่มากมายปะปนกนไป บรรยากาศในตลาดค่อนข้างอึดอัด ร้อน มีร้านกาแฟเวียดที่มาจาก คนเวียดนามเป็นเจ้าของและสูตรกาแฟมาจากประเทศเวียดนาม ถึงแม้จะเป็นของเวียดนามแต่ ร้านนี้ก็เป็นที่ขึ้นชื่อของตลาดท่าเสด็จ

เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อน เพราะ ร้านจะตั้งอยูระหว่างกึ่งกลางของตลาด ด้านหลังติดริมฝั่งโขง สามารถมองเห็นวิวได้ เป็นเสน่ห์ อีกอย่างของตลาดที่นี่ และนอกจากนี้แล้ว ยังมีร้านอาหารติดริมฝั่งโขง สามารถนั่งทานไปพร้อมกับนั่งชมวิวสองริมฝั่งโขงได้อยางสบายใจ 

ตลาดท่าเสด็จแห่งนี้ตั้งอยู่ติดริมฝั่งโขง บรรยากาศ เย็นสบาย เพียงเดินออกไปอีกฝั่งของร้านอาหาร จะได้เจอกับวิวของแมั่น้าโขงที่ไหลตามสาย

ที่นี่ไม่ได้เด่นแค่เรื่องผ้าไหม หรือของใช้อื่นๆ แต่ยังมีในส่วนเรื่องอาหาร ขนมขบ เคี้ยว ของกินที่คนนิยมซื้อกลับไปจะเป็นหมูยอ กับมะพร้าวแก้ว ขนมที่ตลาดท่าเสด็จมีราคาถูก สามารถซื้อไปเป็นของฝากได้แทนพวงกุญแจหรือผ้าไหม แล้วแต่คนชอบ แต่ส่วนตัวคิดว่า อาหารหรือขนมจะทำให้เห็นได้ถึงความเป็นหนองคายมากกว่าของใช้เพราะจะได้ทั้ง รสชาติรูปร่าง และราคาที่น่ารัก

นอกจากจะเป็นแหล่งซื้อของฝากแล้ว ยังเป็นแหล่งรวบรวมสินค้าที่อยูใน แถบ อินโดจีน เช่นจีน เวียดนาม และยุโรปตะวันออกมากมาย ได้แก่อาหารแห้ง อาหารแปร รูป ส่วนข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า นาฬิกา เครื่องครัว ผ้าทอท้องถิ่น อีกด้วย

โดยปกติแล้วตลาดท่าเสด็จจะเปิดทำการเวลา 7 โมงเช้าจนถึ6 โมงเย็น ของทุกวัน และทุกวันเสาร์ ของสัปดาห์จะมีถนนคนเดินรอบข้างที่สามารถเดินทะลุออกไปเดินได้ต่อแบบจุใจ




พอตกเย็นแดดร่มลมตก อากาศดีๆ หลังจากเดินซื้อของ ฝากที่ตลาดท่าเสด็จแล้ว ได้ เวลาออกมาเดินเล่น ถนนคน เดินกันบ้าง ช่วงเย็นๆ ตั้งแต่ 4 โมงเย็น แผงค้าต่างๆ ก็เริ่ม ทยอยกันจัดข้าวของ บางอาทิตย์อาจจะเริ่มกันช้าหน่อยถ้าแดดยังร้อนอยู่กว่าร้านค้าจะเต็มพื้นที่ดีก็น่าจะช่วงซัก 6 โมงเย็นเป็นต้นไป

ถนนคนเดินที่หนองคาย จะมีเสน่ห์ตรงที่ทางเดินติดริมฝั่งโขง สามารถมองเห็นฝั่งลาวได้อยางชัดเจนประดับตกแต่งไปด้วยเสาไฟที่มีลักษณะคล้ายพญานาคคาบหลอดไฟ ทั้งสองข้างทาง ให้แสงสวางในยามค่่าคืน บรรยากาศดีเดินเล่นซื้อของพร้อมกับเปลี่ยนบรรยากาศจากในตลาดที่อากาศร้อนอบอ้าวมาสู่ บรรยากาศริมแม่น้ำโขง ถ่ายรูปเล่น ฟังเพลงเปิดหมวกเพราะๆเคล้ากันไป รอบข้างจะเต็มไปด้วย เสื้อผ้า ของใช้จิปาถะ ช่วงหัวถนนบริเวณชุมชนวัดหายโศกจะเน้นไปทางร้านขายอาหารนานา ชนิด ทั้งของกินเล่น และกินแบบจริงจัง 

รอบถนนคนเดินเป็นเส้นทางยาว ทางเดียวไม่มีแยกหรือไม่มีทางเลี้ยวไปทางอื่น จัดตามการไหลของน้าโขง ถ้าใครเคยมีโอกาสได้ไปเที่ยว หนองคายแล้ว น่าจะพอนึกภาพทางเดินเท้าเลียบแม่น้าโขงได้ดีร้านแผงลอยจะตั้งหันหน้า ออกสู่แม่น้าโขง บรรยากสศดีมาก แนะนำเลย

แสงสีส้มจากหลอดไฟทำให้บรรยากาศดูย้อนยุคขึ้นไปอีก พ่อค้าแม่ค้าต่างขายของกันเรื่อยๆไป จนค่ำประมาณ 4 ทุ่มก็ได้เวลาแยกย้ายเก็บของกลับและที่สำคัญ สุดทางของถนนคนเดินจะมี เวทีเต้นรำย้อนยุคสำหรับผู้สูงอายุได้แสดงโชว์การเต้นเป็นชมรมลีลาศ - แอโรบิค ที่รวมกลุ่มกันมาโชว์สเตปการเต้นเพื่อสุขภาพ เป็นทั้งความสนุกสนานและน่ารักในแบบของ ผู้สูงวัย ด้วยความที่เราเป็นเด็กรุ่นใหม่เป็นวัยรุ่นไม่ค่อยจะรู้จักกับการแสดงแบบนี้พอได้หยุดดูก็อดหัวเราะและยิ้มตามไม่ได้ พาลให้คิดถึงคุณยายที่บ้าน อีกอย่างหนึ่งที่น่าจดจำก็คือความเป็นกันเองของคุณตาคุณยายที่เต้นอยูัได้เชิญชวนคนคนที่เดินผ่านผ่านมาได้มาทำกิจกรรม ร่วมกัน มีแต่เสียงหัวเราะ มีความสุขกันถ้วนหน้า

ส่วนเวทีอีกฝากของถนนคนเดินบริเวณหน้าป้ายพญานาคสองเศียร ก็จะมีการแสดงทาง วัฒนธรรมจากเด็กๆ เยาวชนในหนองคายผลัดเปลี่ยนกันมาแสดงให้ชมทุกสัปดาห์ มีสถานที่ให้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก นึกถึงอากาศดีๆ ลมเย็นๆ ริมแม่น้าแบบนี้รับรองวาเพลินจนไม่อยาก กลับกันเลยทีเดียว หนุ่มๆสาวๆ คู่รักต่างถิ่นที่ได้มาเสพบรรยากาศจะได้ชมและสัมผัสถึงเมืองหนองคายได้โดยแท้จริง

**ตลาดเปิด 7.00-18.00 น. ของทุกวัน ทุกวันเสาร์มีถนนคนเดินเริ่ม 17.00-22.00 น.**

เข้าฟรี ถ่ายรูปฟรี อาหารสตรีทฟู้ดราคาบ้านๆ เริ่มต้นที่ 10บาท มีเงิน 100บาทก็คืออิ่มมาก

ของถูก ของมือสองเริ่มต้นที่ 30 บาท



kafiw supitchar

 วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2563 เวลา 14.49 น.

ความคิดเห็น