“เห้ยยยแก ดูกระทู้นี้ดิ โคตรน่าไปเลยยยยยยย"

“น่าไปหวะ แต่ไม่ว่าง"
“ไม่ว่างเหมือนกันอะ"

“……………………"

“ไปกันสองคนไม่กลัวหรอ"
“เกาะเต่าที่มีคดีฝรั่งถูกฆ่าอะนะ"
“กล้าไปได้ไงวะ ผู้หญิงเที่ยวกันสองคน โคตรน่ากลัว"

“……………………"
“ก็อยากไป........."



สืบเนื่องจากกระทู้นี้ http://pantip.com/topic/32100654 พออ่านแล้วน่าไปมากกกกกกกกก



แล้วช่วงนี้เราว่างอยู่พอดี ก็เลยตัดสินใจแบคแพคครั้งแรกในชีวิต



แต่จะไปคนเดียวก็ยังไม่กล้าขนาดนั้น เลยเอากระทู้ไปแปะในกรุ๊ปเพื่อน ปรากฏว่า มีแต่คนสนใจไป แต่ไม่ว่าง แป่วววว - -



จนมาได้เพื่อนคนนึงที่อยากไปและว่างตรงกัน ก็เลยตกลงกันว่า งั้นไปกันสองคนก็ได้เนอะ ผู้หญิงสองคน อย่างน้อยก็มีเพื่อนแหละวะ



การวางแผนทริป ไม่มีอะไรมาก เราคุยถึงแผนกันแค่คร่าวๆก่อนไปทริป วันแรกกะว่าจะเที่ยวเองรอบๆเกาะ



วันที่สองซื้อทัวร์ดำน้ำ และ ที่เหลือไปตายเอาดาบหน้า ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะกลับวันไหน กลับยังไงดี ให้ถึงวันนั้นก่อนค่อยว่ากัน



ซึ่งป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนะ บอกเลย 5555555 ควรจะมีแพลนซักหน่อยว่าเวลาไหนทำอะไร



ไม่งั้นเราจะไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมาย ตัดสินใจไม่ได้ และจะเสียเวลา!! เราเสียเวลาไปกับการตัดสินใจไม่ได้เยอะมาก



เช่น จะไปอันนี้ดีมั้ย จะกินอะไรดี จะพักที่ไหน เลือกไม่ถูก ก็เลยขับรถไปเรื่อยยยยๆ แบบไร้จุดหมาย



อุปกรณ์ที่เราใช้ถ่ายภาพมีดังนี้ กล้อง Fuji xa2 ไอโฟน5s เลนส์wideหนีบหน้ากล้อง และ action cameraไว้ถ่ายใต้น้ำ



ตั้งงบประมาณไว้ไม่เกินห้าพันบาท แต่ใช้ไปใช้มาแค่สามพันกว่าบาทเอง เดี๋ยวจะมีสรุปให้ตอนท้ายนะคะ---วันแรกของการเดินทาง---



เวลานัดหมาย 11.30 เดินทางโดยรถไฟขบวนที่ 171 กรุงเทพ-สุไหงโกลก รอบ 13.00 น.



11.00 “แกๆ เราเลททท แกเลทเยอะป่ะวะ เพิ่งขอแม่ได้ เพิ่งจัดกระเป๋า"



(คิดในใจ) ถ้าขอไม่ได้เราต้องแบกของมาเก้อแล้วกลับบ้านหรอออ 5555555



“ไม่เป็นไร เลทเหมือนกัน เจอที่รถไฟใต้ดินหัวลำโพงนะ "



“จะไปเอาตั๋วนั่งทันปะวะ ไม่อยากยืน"



“ต้องทันดิ รีบมา"



สรุปนัด 11 ครึ่ง มาพร้อมๆกันตอนเที่ยงกว่า 55555 รีบไปเอาตั๋วอย่างด่วนๆ กลัวไม่มีที่นั่ง



และในที่สุดก็มาถึงงงงงง

รีบไปเอาตั๋วกันเร็ว


“ตั๋วฟรีไป สุไหงโกลก 2 ใบค่ะ"



“จำหน่ายหมดแล้วค่ะ เหลือแต่ตั๋วยืน"



ผ่างงงงงง นั่นไงงง สิ่งที่กลัวก็เกิดขึ้น TT



“ถ้ามีที่นั่งหนูนั่งได้มั้ยคะ"



“ก็ได้ค่ะ แต่ส่วนมากไม่มี……"



หันไปคุยกัน ไหวปะวะแก ไม่มีที่นั่งทำไงดี หรือจะไปเสียเงินดี



“ตั๋วเสียเงินมีรอบบ่ายสามค่ะ ถึงชุมพรเที่ยงคืน"



ทำไงดี ถ้าไปรอบบ่ายสามไม่ทันเรือนอน เสียแผนหมด เอาวะ ยืนก็ยืน



“โอเคค่ะ งั้นเอาสองใบ"



พร้อมยื่นบัตรประชาชนไปให้ คิดในใจ ตรูต้องยืนไปยันชุมพรหรอเนี่ย“แป๊บนึงนะน้อง มีคนใจดีเอาตั๋วนั่งมาให้"



กรี๊ดในใจอย่างแรงงงงงง มีพี่พนักงานผู้ชายคนนึงยื่นตั๋วสองใบมาให้ เป็นตั๋วนั่งหมายเลข 37 กับ 38



หันไปขอบคุณรัวๆ ซาบซึ้งอย่างมาก ไม่ต้องยืนไปตลอดทางแล้วววว เย้



“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นเบอร์แทนได้มั้ยน้อง"



5555555555555 ยิ้มอ่อนรัวๆ ขอบคุณอีกครั้งแล้วเดินจากมา ไปหาอะไรกินกันเถอะ รอรถไฟมาบ่ายโมง



“พี่เค้าเอาตั๋วมาให้จากไหนวะ ไหนว่าหมดแล้ว"



“นั่นดิ ได้ก็ดีละแก 55555"



นี่ไงงง ได้ตั๋วแล้วว

ขบวนเหลืองม่วงนี่แหละ ที่เราจะไปกัน


ขึ้นมาแล้ว ถ่ายรูปซักหน่อย


จัดแจงของ ที่นั่งเรียบร้อย คนก็ทยอยขึ้นมาเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนเต็มคันรถ



คิดในใจ ตอนนั้นถ้าได้ตั๋วยืนต้องแย่แน่ๆ เพราะที่ยืนยังแทบไม่มี



บ่ายโมงนิดๆ ได้เวลาออกเดินทางงง

เด็กน้อยที่หลับ สลับกับการตื่นมากิน 5555


นั่งไปนั่งมาก็เบื่อๆ เลยชวนพี่ที่นั่งตรงข้ามคุยซะเลย เค้าบอกว่าจะไปสุไหงโกลก กว่าจะถึงก็พรุ่งนี้เที่ยงนู่นน



โหหพี่ นั่งรถไฟเกือบ24ชม. ละหนูจะถึงกี่โมงเนี่ย จะทันเรือนอนรอบห้าทุ่มมั้ย พี่โคตรอดทนเลยอะเมื่อไหร่จะถึงนะ

ระหว่างทางก็นั่งเบื่อๆ มองดูวิวบ้าง นั่งเม้าบ้าง ซื้อของกินเป็นระยะๆ ตั้งแต่ ก๋วยเตี๋ยวเรือราชบุรี สับปะรด ถั่วต้มกินเล่น



ไปจบการกินตอนสองทุ่มที่ไก่ทอดน้ำมันเยิ้ม เราเลยตกลงกันว่าห้ามซื้ออะไรกินแล้วนะ มันอ้วน!!



เราถ่ายรูปเยอะมากๆ ถ่ายทุกอย่าง ตั้งแต่เซลฟี่ ถ่ายคน กระเป๋า ของกินต่างๆ รองเท้า คนเดินไปมา จิปาถะ



จนพี่ตรงข้ามหัวเราะทุกครั้งที่เราหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป 555555 ก็อยากเก็บภาพไว้ทุกช็อตนี่นา



แก อย่าเอาฟันเฉาะหน้าเราดิ

นั่งไปเรื่อยๆ ดูเวลาเทียบกับเวลาจริงไป ว่าเลทไปกี่นาที มันเลทมาเรื่อยๆเป็นชั่วโมงกว่าๆ จนเริ่มนั่งไม่ติด เลยเริ่มหาดูเรือนอนรอบเที่ยงคืน



เจออยู่เจ้านึง คือ รุ่งนภา แต่เหมือนจะไม่ได้มีทุกวัน เอาแล้วไง ไม่อยากนั่งรออยู่ที่สถานีรถไฟยันเช้า TT



พอถึงสถานีก่อนชุมพร เริ่มมั่นใจแล้วว่า ไปทัน! เย้ แต่มันจะมาจอดท่าสถานีบ้านคอกวัว หรือคอกม้าซักอย่าง 55555



เป็นสถานีที่ไม่มีบอกในผังการเดินทางว่าจอด เราเลยนึกว่านี่ถึงชุมพรแล้ว ตอนประมาณสี่ทุ่ม อุตส่าห์ดีใจ เกือบลงละ



แต่ดูอีกทีทำไมเงียบจังหว่า อ่าว ไม่ใช่ 555555 สถานีต่อไปต่างหาก



ถึงชุมพรตอนสี่ทุ่ม 40 รีบเก็บของ ลงรถอย่างไว ถึงข้างหน้าสถานี ไม่มีมอไซ มีแต่รถสองแถวคันเล็ก เลยตะโกนถามว่า



“พี่จะไปไหน..............." 55555555 นั่นสิ ถามผิดป่ะวะแก



“น้องแหละจะไปไหน"



“ไปท่าเรือเกาะเจริญค่ะ"



“คนละร้อยน้อง"



“โหห แพงจัง 80 ได้ปะพี่"



“มันราคานี่อยู่แล้วน้อง ต้องเหมารถไป รีบไปเถอะ เดี๋ยวไม่ทันเรือนะ"



“โอเครค่ะ ไปก็ไป" ไม่มีทางเลือกแล้ว กลัวไม่ทันเรือ

นั่งรถประมาณ15นาทีได้ พี่คนขับแว๊นอย่างเร็ว กลัวเราจะไม่ทัน ถึงเรือนอนตอนเกือบห้าทุ่มพอดี



จัดการซื้อตั๋วขึ้นเรืออย่างด่วน ราคา 400 บาท เจ้านี้ดีมาก คนไม่เยอะ เตียงกว้าง มีปลั๊กให้เสียบชาร์ต ห้องน้ำสะอาด

ก่อนขึ้นเรือหยิบคัมภีร์มาคนละเล่ม Koh tao complete guild


เหนื่อยมากก ตัวเหนียวมากก สกปรกมากกก เลยรีบล้างหน้าแปรงฟัน เอาน้ำถูๆแขนพอให้สดชื่น



หัวถึงหมอนปุ๊บหลับเป็นตายยย เรือนี้ดีจัง ไม่มึน ไม่เมา เหมือนนอนอยู่บ้าน เว่อ 55555



รู้สึกตัวอีกทีได้ยินเสียงคนพลุกพล่าน อ้าวว ถึงแล้วนี่หว่า ดูนาฬิกา 5.20 น. เก็บของแล้วลงเหยียบเกาะเต่ากันเถอะถึงแล้วววเกาะเต่า

หาไรกินเซเว่นก่อนดีกว่า ทุกอย่างเงียบกริบ ยังไม่มีร้านไหนเปิดเลย



น้องหมาหน้าเซเว่น หลับตาพริ้มเชียว

ราคาของในเซเว่น บวกเพิ่มจากปกติไม่เท่าไหร่ แต่พอซื้อหลายๆอย่าง หลายๆครั้ง รวมกันก็เยอะพอสมควร



จากนั้นเราก็เดินหาที่พัก กะว่าจะเอาแถวหาดทรายรี กลางคืนไปเที่ยวจะได้เดินกลับใกล้ๆไม่อันตราย



เวลาเหลือๆ ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว เลยตัดสินใจเดินไปหาดทรายรี ไม่ขึ้นรถ! แต่พอเดินไปเรื่อยๆ เริ่มรู้สึกว่าคิดผิด 5555



ไกลลลมากกก แล้วเป็นทางขึ้นลงเขา ถนนก็ยังมืดอยู่ แต่เอาวะ มาขนาดนี้แล้ว เอาให้ถึงเลยละกัน

ร้านข้างทางเริ่มเป็นชื่อ ทรายรี แต่ก็ไม่เห็นหาดซักที คิดไปคิดมาก็เราเดินบนถนน



ไม่เลี้ยวซอยเข้าหาด แล้วจะเจอหาดมั้ย5555 เลยถามคนแถวนั้น เค้าบอกเลี้ยวซอยนี้เลย เดินไปเรื่อยๆก็ถึง



ระหว่างทางก็หาที่พักไปด้วย เราดูเป็นโฮสเทล เพื่อประหยัดงบ และอยากลองดูซักครั้ง



เดินมาถึงหาดซอยโลตัสบาร์พอดี เราก็เดินเล่น ถ่ายรูปเรื่อยเปื่อยย มีน้องหมาหลายตัวมากกก



มุมมหาชน ไม่มาถ่ายนี่เหมือนไปไม่ถึง 555

เท้าน่าเกลียดจัง


น่าร้ากกกกกกกก


นั่งเล่นไปซักพัก เจ็ดโมงครึ่งงงง ได้เวลาไปเดินหาที่พักดีกว่า เอาใกล้ๆแถวนี้แหละ กลางคืนเดินกลับสะดวก



บังเอิญไปเจอพี่คนไทยคนนึง ที่มาเที่ยวคนเดียว ขึ้นมาเรือลำเดียวกันแต่ไม่ได้คุย พอมาเจออีกทีต้องทักทายซักหน่อยละ



เป็นนักท่องเทียวคนไทยคนแรกที่เจอ พี่เค้าพักตามรีวิวก่อนหน้า คือ Ban's Avenue Guest House นั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อยรอโฮสเทลเปิด



แต่เราตัดสินใจเอาอีกที่นึง Jizo's hostel อยู่ต้นซอยเลย ข้างเซเว่น คืนละ 300 บาท คนพักเยอะมากกก



สังเกตจากปริมาณรองเท้าข้างหน้า ไม่ได้ถ่ายภาพหน้าที่พักไว้ ลืม 555555



พนักงานที่นี่เป็นคนพม่านะ พูดไทยไม่ได้ ต้องพูดอังกฤษแบบงูๆปลาๆ เอาพอรู้เรื่อง 55555



เปิดห้องเข้าไปแบบผงะเลย กลิ่นลูกเหม็นแรงมาก ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ฉีดที่ดับกลิ่นอันอื่น หรือฝรั่งเค้าชอบกัน



เลยขอดูห้องอื่น มาได้ห้องนึง ไม่มีกลิ่นลูกเหม็น มีแค่สองเตียง สี่คน มีฝรั่งนอนหลับอยู่เตียงล่าง เลยเอาห้องนี้แหละ



รีบอาบน้ำแต่งตัว ออกไปเที่ยวกันดีกว่า กว่าจะเสร็จก็ปาไปเก้าโมงครึ่งงงง



ตอนแรกว่าจะไม่เช่ามอเตอร์ไซค์ เพราะ ขี่ไม่แข็งขนาดนั้น ทั้งชีวิตเคยลองขี่ครั้งเดียว เลยถามคนแถวนั้นว่ามีจักรยานให้เช่ารึเปล่า



เค้าบอก ไม่มีหรอกน้อง มีแต่มอไซ……โอเคค มอไซก็มอไซ ลองดูละกัน ขับครั้งที่สองในชีวิต.......



ลองตอนไหนไม่ลอง มาลองบนเกาะเนี่ยนะ555555



เดินหาร้านอยู่นานมากมีแต่ต้องมัดจำ ห้าพันบ้าง สามพันบ้าง จนมาเจอร้านลุงคนไทยคนนึง ไม่มีมัดจำ เช่าวันละสองร้อย



จัดไปปป เช่าได้1คืน เอารถไปเวลาไหน คืนก่อนเวลานั้นของอีกวัน



ถ่ายรูปไว้เรียบร้อยทุกมุมม กันโดนโกง

ปัญหาแรกคือ สตาร์ทไม่เป็น 5555555 คือเราไม่รู้ว่าต้องบีบเบรกมือก่อนค่อยสตารท ไม่งั้นจะสตาร์ทไม่ติด



ไอ้เราก็นึกว่าน้ำมันหมดเกลี้ยงแล้ว เลยเข็นกันทุลักทุเลสองคนไปเติมน้ำมัน



พอเติมเต็มถัง ลองสตาร์ทดู อ้าววววว ก็ยังไม่ติด รถเสียแน่ๆๆๆ เด็กปั๊มเห็นถึงความน่าสงสาร เลยมาสตาร์ทให้



เลยรู้ว่า ต้องบีบเบรกมือ!! 55555555555 พอเครื่องติดแล้วก็ ลุยยยยย ไปอย่างช้าๆละกัน ยังขับไม่ค่อยเป็น



ขับไปเรื่อยๆ หาที่เที่ยว ไปเจอ OK view bungalows นึกว่ามีจุดชมวิว เลยเลี้ยวขึ้นไปดูซักหน่อย

ไม่กล้าขับต่อและ เดินดีกว่า 555555


พอขึ้นไปถึง นี่มันที่พักนี่หว่า เสียใจจ ไม่มีอะไรให้ดู อุตส่าเดินขึ้นมาตั้งนาน TT ไม่เป็นไรไปที่อื่นก็ได้



พอขับลงมาวนมาทางเดิม เอ๊ะ นั่นอะไร เลี้ยวขวาไปอ่าวหินวง แต่เหมือนมันไปยากป่ะแก ที่ดูรีวิวมา



ไปอันข้างล่างดีกว่า หาดเทียน หึหึ เดี๋ยวรู้เลยย



ขับไปเรื่อยๆ ทางเริ่มชันขึ้นๆ จนเริ่มรู้สึกได้ว่า นี่มันทางไปอ่าวหินวง 555555 มือสั่นไปหมด ขับครั้งที่สองก็ต้องมาขึ้นเขาซะและ



พอขับไปถึงจุดหนึ่ง เหมือนรถจะล้ม เพราะเรากลัวมากเลยขี่ไปช้าเกิน รถมันเลยค่อยๆเอียง



เรานี่ก็ตกใจสุดด เจ็บนิดหน่อยไม่เป็นไร แต่กลัวเสียตัง!! ขอทำงานใช้หนี้นะ หนูไม่มีจ่าย



จุดนั้นบอกเลย โคตรกลัวววววว นึกภาพรถเอียงอยู่ แต่เอาขายันไว้ ต้องบีบเบรกมือตลอดไม่ให้รถไหล รองเท้าก็ดันมาขาดอีก ชีวิต



“ทำไงดีวะแก"

“รอคนมาช่วยดิ" หัวเราะทั้งน้ำตา 5555555



พอดีมีฝรั่งผู้หญิงเดินขึ้นมาพอดี ถามว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ย เราเลยบอก รถมันจะล้ม ต้องเอาลงไปตรงพื้นราบก่อน



ฝรั่งก็ดูอยากช่วยแต่ขับไม่เป็นเหมือนกัน บังเอิญมีผู้ชายคนนึง เหมือนเป็นคนพม่ามั้ง พูดไทยไม่ชัดขับผ่านมาพอดี



เค้าเลยช่วยเอารถลงไปจอดให้ และก็ถามเราว่าอยากขึ้นไปต่อมั้ย เดี่ยวเค้าจะขับไปส่ง



เราเลยตัดสินใจไป มาถึงขนาดนี้แล้ว ก็เลยจอดรถไว้ครึ่งทางที่ขึ้นมา แล้วเค้าก็ส่งเราตรงที่จุดชมวิว



ซึ่งเป็นบาร์นึง ที่มีเจ้าของเป็นฝรั่ง กำลังยืนซ่อมป้ายอยู่ เราเลยขอเค้าไปถ่ายรูปในร้านที่เป็นจุดชมวิว



เค้าใจดี และยินดีต้อนรับเรามากกกกกกก อันนี้แอบถ่ายมา แหะๆ

ป้ายทางง เราจอดรถไว้ตรงจุดพักอันแรก ที่เขียนว่า You'r แค่ชัน20%เราก็ไม่ไหวล้าวว


ชื่อร้านน


วิวจากที่ร้าน


ฝรั่งเจ้าของร้าน น่ารักมากกก เราไปขอหนังยางเค้ามารัดรองเท้าที่ขาด เค้าบอกรอแป๊บนึงนะ เดี๋ยวไปหามาให้



แล้วก็หายเข้าบ้านไปพักนึง และ กลับมาพร้อมกับ 3 choices



นั่นก็คือ เทปพันสายไฟ เชือกอะไรไม่รู้ยาวๆ และ รองเท้าเก่าๆคู่นึง ให้เราเลือก 55555



และแน่นอนน เราเลือกรองเท้าใหม่ ที่เป็นของเก่ามาใส่ 555555



แถ่นแท๊นนน คู่นี้นั่นเองง อยากจะขอบคุณมากๆๆ อีกครั้ง เพราะเราก็ใส่คู่นี้แหละตลอดทริป

ได้รองเท้าใหม่เรียบร้อย เรามาเดินต่อกันเถอะ เป็นทางเดินลงไปอ่าวหินวง ค่อนข้างชันเหมือนกัน



ตัดสินใจเดินลงต่อ เท้านี้จิกแน่น กลัวหน้าคว่ำไถลไปกับพื้นถนน



ในที่สุดก็มาถึง แต่หาชายหาดไม่เจอ TT มีแต่แนวหินเต็มไปหมด ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เดินมาตั้งไกลลลล

ได้เวลาเดินกลับ ท่ามกลางแสงแดดร้อนระอุ เ หนื่อยมากกก สังเกตจากเหงื่อบนหน้าได้


เราหยุดพักใต้เงาไม้น้อยนิดเป็นระยะ มีรถกะบะคันนึงวิ่งผ่านมา เปิดกระจกถามเป็นภาษาอังกฤษ



นึกว่าเราเป็นคนเกาหลี ถามว่าจะลงไปข้างล่างมั้ย ติดรถพี่ไปได้



เราบอก ไม่ไปค่ะ หนูเพิ่งเดินขึ้นมา55555เค้าก็บอกงั้นเอาน้ำมั้ย เรากะเพื่อนงี้ตาเป็นประกายย หิวน้ำสุด เพลียสุด



เค้าไปค้นๆในรถแป๊บนึงแล้วบอกว่า โทษทีน้อง ไม่มีน้ำ 5555 โถ่พี่ เหมือนให้ความหวัง แต่ก็ขอบคุณมากนะคะ



กว่าจะเดินมาถึงจุดที่จอดมอไซไว้ ดีใจจัง ไม่หาย ไม่ต้องเสียตังหกกหมื่นแล้ววววววว



แต่ปัญหาต่อไปคือ จะขับรถลงเขาไปยังไง ไม่ให้ล้ม เพื่อนบอก มั่นใจเว่ย แกทำได้ เอาหวะ ทำได้ดิแค่นี้เอง



เรานี่โคตรเกร็งสุดๆ คิดอย่างเดียวว่าห้ามล้ม ห้ามล้ม ห้ามล้ม......



และในที่สุดดดดดดด ก็สามารถลงเขาได้อย่างปลอดภัย รีบหาร้านข้าวกินอย่างด่วนๆ จนไปเจอร้านนึง



เป็นร้านอาหารตามสั่งธรรมดา เจ้าของร้านคนไทย พอเห็นเราเป็นคนไทยก็ชวนคุย



เราก็จะสั่งส้มตำ เค้าบอกอย่าสั่งเลย ไม่อร่อย 55555 เค้าทำรสฝรั่ง แล้วชี้ไปร้านนึงหน้าเซเว่น เป็นร้านส้มตำรถเข็น



อยากกินอร่อยต้องไปร้านนู้นนน เจอแต่คนใจดีแฮะครึ่งวันแรกบนเกาะเต่า



อาหารมาแล้วว เยอะมากกก ราคา 80 บาท แต่เราสั่งผัดมาม่า แบบอยากได้เครื่องมาม่า กลายเป็นผัดไทใส่เส้นมาม่าซะงั้น

หมูกระเทียม


หลังจากอิ่มท้อง วางแผนจะไป freedom beach ต่อ ที่เค้าบอกว่า ไปง่ายสุดๆละ ไม่ต้องขึ้นเขา



ดันหันไปเจอพี่คนไทยคนเดิมกินข้าวอยู่ เลยเข้าไปทัก เล่าเรื่องราวชีวิตช่วงเช้าของแต่ละคน และตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวต่อด้วยกันซะเลยยย



ตอนนี้เรามีสมาชิกร่วมเดินทางเพิ่มอีกคนละ รู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก เพิ่งขวัญเสียมากับการมอไซเกือบคว่ำ



รู้สึกกล้าขับ ละก็มีความมั่นใจมากขึ้น 555555ไปต่อกันเถอะ ที่หาดทรายแดง ความจริงก็ขับยากนะ แต่เราเริ่มขับดีขึ้นแล้วมั้ง บวกกับมีเพื่อนร่วมทางเลยไปรอด



ทางลงไปหาด ถนนดีพอสมควร จอดถ่ายรูปซักหน่อย

วิวจากดาดฟ้าอาคาร


ที่เห็นคือรีสอร์ท เค้าว่ากันว่าห้องพูลวิลล่าบนยอดสุดนี่คืนละเจ็ดแปดหมื่นเลยทีเดียว


และแล้วก้มาถึง สงบมาก น้ำทะเลสีสวยมาก


ถ้าถ่ายรูปออกมาเหมือนที่ตาเห็นก้คงดีเนอะ


เห็นเค้านอนกันเลยนอนมั่ง ผ้าปูอะไร ไม่มี๊ นอนบนทรายเนี่ยแหละ



รู้แล้วทำไมหมาถึงชอบเอาตัวลงไปคลุกทราย 55555555 มันเย็นนี่เอง แอบเผลองีบไปแป๊บนึง

เติมพลังแล้วก็ไปเที่ยวต่อกันเถอะ Let's go to Freedom beachhhhhhh!!

ลืมถ่ายรูปหาดมา TT มัวแต่ถ่ายฝรั่งริมหาด


ร่างกายเริ่มอ่อนล้าเต็มที...


เดินขึ้นไปต่ออีกนิด เจอหาดข้างเคียงชื่อว่า หาดตาโต๊ะ เป็นภาษาอังกฤษ



ตอนแรกเราอ่านว่าหาดตาโต 555555 มารู้ทีหลังว่าอ่านว่า ตาโต๊ะ

ตรงบริเวณนั้นก็จะมีอีกที่นึงคือ จุดชมวิวจอห์นสุวรรณ แต่เราไม่ได้เดินขึ้นไป คือเดินไม่ไหวแล้วว TT แอบเสียดายเล็กน้อย



เลยตัดสินใจขับรถกลับไปดูพระอาทิตย์ตกตรงโลตัสบาร์ดีกว่าเอารถจอดไว้ในซอก ป้องกันการเกิดรอยโดยไม่ตั้งใจ จากนั้นก็นั่งรอเวลา

พระอาทิตย์กำลังตก


ใครก็ได้เอาเรืออกไปที เกือบสวยแล้ว


เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เลยขับรถไปที่แสงทองทัวร์ ซื้อทัวร์ดำน้ำพรุ่งนี้ ราคา 600 บาท สำหรับคนไทย



จากนั้นแยกย้ายกันกลับที่พัก อาบน้ำแต่งตัว และนัดหมายเวลาสองทุ่มที่โลตัสบาร์ เราจะมาดูควงไฟกันนมาแว้วว ถ่ายคลิปมาเยอะมาก แต่ภาพนิ่งถ่ายไม่ค่อยได้ 5555

แต่ละภาพที่ออกมานั้น...


ระหว่างดูก็นั่งคุยกับฝรั่งข้างๆไปด้วย เราบอกเค้าว่าเราเป็นคนไทย เค้าว้าวมากก แบบ I love your country. It's wonderful



เล่นเอาคนฟังลอยเลยทีเดียวว เค้ามาเที่ยวไทยคนเดียวตั้งแต่มกรา อยู่เกาะเต่ามาอาทิตย์นึง เรียนดำน้ำลึกด้วย



และชอบดูควงไฟมากก ย้ำว่ามากกกกก แบบเค้าดูชอบมากจริงๆ ทั้งคนแสดง และการแสดง 5555555555 แต่เหมือนจะชอบคนมากกว่า



เบลอว่ารักแถบ

ห้าทุ่ม ง่วงแล้วว เริ่มกรึ่ม55555 กลับดีกว่าแก ดึกกว่านี้กลัวอันตราย ยิ่งสวยๆอยู่ 555555



พอถึงห้องฝรั่งสองเตียงล่างก็นอนหลับไปละ นี่เค้าไม่ไปเที่ยวกันหรอ มาทีไรหลับทุกที



จากนั้นชาร์ตไฟอะไรให้เรียบร้อย สำหรับคนที่แบคแพคมาและกระเป๋าเหลือที่ แนะนำให้เอาปลั๊กสามตามาด้วย



เพราะจะมีปลั๊กให้สเียบแค่รูเดียว แต่เรามีกล้องสองอัน ไอโฟน และเพาเวอร์แบงค์!!



เลยต้องตั้งนาฬิหาปลุกมากลางคืน เพื่อเปลี่ยนการชาร์ต



ตื่นมากลางดึก เจ็บคอมาก บวกหนาวมาก นี่เรากำลังไม่สบายหรออ ซัดยาไปสองเม็ด นอนต่อ



ตื่นเช้ามาพร้อมกับการเจ็บคอแบบขั้นเอ็กซ์ตรีม สายแล้วววว!! ไม่ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นหรืออะไรทั้งนั้น



มีนัดกับทัวร์ดำน้ำตอนเก้าโมงครึ่ง เค้าจะมารับเราทีหน้าซอย รีบสิรออะไร ต้องเอามอไซไปคืนอีก



เราขับหาร้านอาหารเช้าอยู่ครึ่งชม. และจบลงที่หมูปิ้ง! 5555555บ๊ายบายยยเตียง C2

น้องหมาหน้าเคาเตอร์


จากนั้นก็ขึ้นรถที่ทัวร์มารับ และแวะรับฝรั่งอีกสองคน เพิ่งเรียนจบครู และไม่เคยดำน้ำมาก่อนเลย


ขึ้นเรือแว้วว มีคนไทยกันอยู่แค่เราสามคน


ผู้ชายหล่อจัง แต่ออกสาวนะว่ามั้ย 55555


ถ่ายข้างเรือบ้าง


จากนั้นก็ ได้เวลาเก็บกล้องงฟูจิ หยิบ action camera มาใช้ถ่ายใต้น้ำ ยืมเพื่อนมา รักษายิ่งชีพ 55555



ได้เวลาลงน้ำ เห็นฝรั่งใส่บิกินี่ โดดตู้มมมม ว่ายหยั่งกะปลา คนไทยสามคนจัดแจงหาชูชีพ เช็คของเช็คหน้า



ก่อนจะค่อยๆหย่อนขาลงน้ำ 5555555 เราดำไปทั้งหมด5อ่าว!! ดำจนเพลีย เดี๋ยวเปียก เดี๋ยวแห้งอ่าวแรก อ่าวฉลาม ไหนฉลาม ไม่มีปลาซักตัว 5555 แต่มีคนเห็นฉลามนะ ตัวใหญ่เบ้อเริ่มม แต่เราไม่เห็นแม้แต่ปลา!!

อันนี้เราจำไม่ได้ว่าภาพจากหาดไหน แต่เราที่ดำไปมี อ่าวฉลาม อ่าวม่วง อ่าวหินวง อ่าวโตนด



และตามโปรแกรมคืออ่าวลึก แต่เห็นว่าคลื่นแรงเลยไม่สามารถดำได้

ความจริงใต้น้ำสวยมาก แต่คุณภาพกล้องได้เท่านี้จริงๆ5555


พยายามเซลฟี่กับปลา 5555


ตอนขึ้นจากเรือจะมีสับปะรดให้กิน มีชา กาแฟ ขนม ฟรี แต่ถ้าพวกโค้ก เบียร์ คือเสียตังเพิ่ม



หลังจากดำผุดดำว่ายอยู่นาน จนขี้เกียจดำแล้ว 5555 ก็มาถึงจุดเด่นของทริปนี้ คือ เกาะนางยวน!!



ทางเรือให้เวลาบนเกาะ 2ชม. เราก็แบกกล้องลงเดิน หยิบสนอกเกิ้ลไปด้วยเผื่อดำน้ำเล่น

ลุงคนขับเรือเอาอาหารปลามาให้ เราจะได้ถ่ายรูปกัน ปลายั้วเยี้ยเลย



ปกติเราเป็นคนที่โคตรกลัวปลา ดำน้ำแต่ละทีคือจะลอยอยู่ผิวๆและมองอยู่ห่างๆ 5555



จุดไหนที่มีปลาเข้ามาใกล้เป็นจำนวนมาก หรือมีปลาล้อมรอบ เราจะว่ายหนีทันที

สวยมาก ไม่รู้จะบรรยายยังไง เล่าด้วยภาพละกัน


และแล้วก็เดินขึ้นมาถึงจุดวิวพ้อยเกาะนางยวน กว่าจะขึ้นมาได้ เหงื่อไหลดั่งสายน้ำ



นึกภาพตัวกึ่งเปียกกึ่งแห้ง กันแดดไม่ได้ทา เดินตากแดดขึ้นเขา ปีนหิน แต่สิ่งที่ได้ก็ถือว่าคุ้มค่า

I'm hereeeeeeeee!


แต่ปแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิด อีกแล้ว มีแต่อะไรพีคๆเนอะ ทริปนี้ไอโฟนเพื่อนเราก็ได้หายไป TT ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง คาดว่ามีคนตั้งใจขโมยไป



ไม่รู้ว่าโดนล้วงหรือว่าทำหล่น เพราะเปิดแอร์เพลนโหมดไว้ ตอนแรกโทรไม่ติด ต่อมาโทรติดแต่ไม่มีคนรับ!!



และก็เจอพี่คนไทยคนที่สองที่มาเที่ยวคนเดียว เข้ามาทักเรา บอกว่าเห็นเราตอนซ่อมรองเท้าเมื่อวันก่อน



แต่ตอนนั้นเราไม่เห็นนะ กำลังเครียดมากกับการซ่อมรองเท้า 5555555 ก็ทักทายกันไปตามระเบียบ



พี่เค้าปีนต่อขึ้นไปยอดบนสุด ซึ่งเราปีนไม่ได้ รองเท้าไม่เอื้อจริงๆ พี่เค้าบอกว่าข้างบนวิวดีและบรรยากาศชิวมาก



เซ็งเลยทีเดียว

หลังจากนั้นก็กลับบสู่เกาะเต่า เราไปอาบน้ำฟรีที่บริษัททัวร์ดำน้ำ หาอะไรกินรอเรือนอนกลับรอบห้าทุ่ม



ความจริงอยากอยุ่ต่ออีกคืน แต่เพื่อนไม่ว่างแล้ว TT



ความดำของขาในวันที่สองที่ตากแดด TT

มีแต่แซ่บๆเน้อออ 5555


มีคนทำไว้


ร้านนี้น่านั่งจังง แต่เรากินอีกร้านนึง 55555


หาอะไรกินอิ่มท้องก็ได้เวลาหาร้านนั่งรอขึ้นเรือนอน มาเจอร้านนี้ ชื่อร้านว่า Reef bar



เจ้าของร้านน่ารักมากกกก ตอนแรกเค้าเข้ามาทักเรา เป็นภาษาจีน(อีกแล้ว 555) เราก็สั่งเครื่องดื่มไป



เค้าถามเรามาจากประเทศอะไร เราเลยบอก คนไทยค่ะ (ตอนแรกกะจะเนียนซักหน่อย) แต่เค้าก็ยังไม่พูดไทยกะเรา



เราเลยถามกลับว่าแล้วยูเป็นคนประเทศอะไร เค้าก็ตอบมา ไทยแลนด์ อ่าววว ละไม่พูดไทยกะตรูหว่า 5555



เราเลยถามเค้าว่าพูลเล่นฟรีมั้ย เค้าบอกฝรั่งตาละ 20 แต่ถ้าเราให้เล่นฟรี แต่จนแล้วจนรอดฝรั่งที่เล่นอยู่ก็ไม่เลิกเล่นซักที เลยอดไป



นั่งดื่มไปซักพักรอเวลา เจ้าของร้านก็แวะเวียนมาพูดคุย จนเราลุกจากร้านไป พี่บอกให้รีบไปเอากระเป๋า ทัวร์จะปิดแล้ววว



พี่เจ้าของร้านเลยอาสาถ่ายรูปให้เป็นที่ระลึก



ทั้งหมดทั้งมวลนี้เราคุยเป็นภาษาอังกฤษ พี่เค้าไม่คุยภาษาไทยกะเราหง่ะ สงสัยอยากให้ฝึกภาษา 5555555

ได้เวลาเดินทางกลับ ขึ้นเรือนอน ขากลับเราขึ้นของพรทวีสิน แย่กว่าของเกาะเจริญมากก



แบบเตียงแน่นกว่า บางเตียงไม่มีรูปลั๊กให้ชาร์ตไฟ เช่นเตียงเรา และ ห้องน้ำสกปรกมาก เหม็นได้อีก จะเข้าทีแทบกลั้นหายใจ

หลังงจากเรือออก เราขึ้นมานั่งดูดาวบนดาดฟ้า กับพี่คนไทยอีกคน แล้วก็มีหนุ่มอิตาลี่สองคนมาร่วมแจม



แปลกดีเนอะ ทุกคนต่างเป็นคนแปลกหน้าของกันและกัน แต่สามารถมานั่งคุยกันเหมือนรู้จักกันมานานได้



บรรยากาศตอนนั้นโคตรชิว ได้ยินเสียงลมทะเล พูดคุยเรื่องจิปาถะ มองขึ้นไปเห็นดาวบนฟ้าระยิบระยับ



ไม่อยากให้ถึงฝั่งเลย แต่งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา เราแยกย้ายกันไปนอนตอนราวๆเที่ยงคืนครึ่ง



หลับเป็นตายเหมือนเดิม ตื่นมาอีกที จะถึงฝั่งแล้ววว



ออกมานั่งรถสองแถวคันเล็กที่จุคนแบบรถขนหมู แน่นจนไม่รู้จะแน่นยังไง กะเอารอบเดียวหมดเรือเลยใช่ป่าว 5555

แวะกินซักหน่อย โจ๊กหน้าสถานี อร่อย ถูกมากก ชามละ20บาท ปาท่องโก๋สองชิ้น5บาท โอวันติน12บาท


ขาไป ไปกัน2 คน แต่ขากลับ กลับ 4 คน ครึกครื้นกว่าเยอะ ริมสุดคือพี่ที่เที่ยวกับเราเกินครึ่งทริปแต่ไม่พร้อมเปิดเผยหน้าตา 5555555


และสุดท้าย ผู้ร่วมทริปอีกคนในคืนสุดท้ายของการเดินทาง คือ พี่คนไทยที่มาทักที่เกาะนางยวน มาก่อนหน้าเราหลายวัน



เป็นนักวิ่ง มาเกาะเต่าคือไม่เช่ามอเตอร์ไซค์เลย ใช้การวิ่งอย่างเดียว ไปเที่ยวมาแล้วรอบเกาะ



โคตรเจ๋ง!! โคตรเท่!! โคตรใช่!! อยากทำแบบนี้บ้าง แต่สังขารไม่เอื้อเจงๆ 555555

ระหว่างนั่งว่าง ก็ได้โทรกลับเบอร์เพื่อนที่ถูกขโมยไป ติดแล้วหวะ แต่ไม่มีคนรับ ส่งข้อความไปซักหน่อย


หลังจากนั้นก็ปิดเครื่องและติดต่อไม่ได้อีกเลย



ใกล้จะต้องแยกย้ายแล้วว

และสุดท้ายสรุปค่าใช้จ่ายตลอดทริป



รถไฟไปกลับ ฟรี

เรือนอนขาไป 400 บาท

เรือนอนขากลับ 450 บาท (โดนที่ทัวร์ดำน้ำชาร์ตแหละ TT)

ค่าที่พัก 300 บาท

ค่าทัวร์ดำน้ำ 600 บาท

ค่าเช่ามอร์เตอร์ไซค์ 200 บาท

ค่าน้ำมัน 100 บาท (ไม่ต้องต้องเยอะขนาดนี้ก็ได้นะ ตอนเอาคืนน้ำมันยังเกือบเต็ม)

ค่าอาหารบวกเข้าเซเว่น 1,205 บาท

ค่าเครื่องดื่มยามดึก 200 บาท

รวม 3,455 บาท

แต่ค่าเช่ามอไซหารกัน ตกเหลือประมาณคนละ 3,305 บาท



สิ้นสุดการเดินทาง การไปเที่ยวครั้งนี้ถึงแม้จะใช้เวลาบนรถไฟเท่าๆกับที่อยู่บนเกาะ



แต่ว่าโคตรได้ประสบการณ์ ได้ความกล้าที่จะลองสิ่งใหม่ที่ไม่เคยทำ



ได้เพื่อนร่วมทาง ได้คุยกับคนแปลกหน้าที่อาจจะคุยกันแค่ครั้งเดียวในชีวิตนี้แล้วจากกันไป



แต่อย่างน้อยเราก็เคยได้มีช่วงเวลานึงด้วยกัน



....บ๊ายบายรถไฟไทย....



....บ๊ายบายเกาะเต่า....



....บ๊ายบายเพื่อนร่วมทาง.....



แล้วเราจะพบกันใหม่

LYisHappy

 วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 19.47 น.

ความคิดเห็น