รีวิว เที่ยวน่าน 3 วัน 2 คืน ในแบบสาวๆ
เมืองแห่งขุนเขา สุดชิล ที่วิวดีเวอร์
ดื่มด่ำกับบรรยากาศขุนเขาท่ามกลางธรรมชาติ
อากาศเย็นสบาย ค่ำเคียงดาว เช้าเคียงหมอก
จะชิลขนาดไหนต้องลอง!
( ในรีวิวนี้ เราไปเที่ยวกันช่วงปลายปีที่แล้วค่ะ 23-25 พ.ย. 2019 ข้อดีคืออากาศเย็นสบาย ประมาณ 15-20 องศา แต่น่าเสียดายที่ช่วงปลายปี เค้าเกี่ยวข้าวกันหมดแล้ว จะไม่เจอบรรยากาศนาข้าวเขียวๆ เลยจ้า ใครอยากเจอทั้งหมอก และทั้งนาข้าว ลองดูช่วงปลายฝนต้นหนาว สัก ต.ค. นะ น่าจะฟินนนนนกว่านี้อีก )
แพลนเที่ยวน่าน แบบชิวๆ ของเราสองนุ่น
Day 1
- บินจากสนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ ไป น่าน
- ขับรถขึ้นเขาไปที่พัก สะปัน Riva camp
- กินหมูกระทะ ดูดาว หน้าเต็นท์ริมลำธาร
Day 2
- ขันโตกมื้อเช้าที่ สะปัน Riva Camp
- ขับรถเที่ยวน้ำตกสะปัน
- จิบกาแฟ ที่ อุ่นไอมาง (Oun I Mang)
- แช่เท้าสปาเกลือ รีสอร์ท Boklua River Hills
- ชมพระอาทิตย์ตก จุดชมวิว 1715 อุทธยานแห่งชาติดอยภูคา
Day 3
- ตื่นเช้าดูหมอกที่ที่พัก บ่อเกลือ ริเวอร์ ฮิลล์
- ขับรถชมวิว ถนนลอยฟ้า
- ชิมพิซซ่าเห็ด ที่ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ
- ถ่ายรูปกับอุโมงค์ลีลาวดี
- บินกลับกรุงเทพฯ จากสนามบินน่าน
นี่คือแพลนแบบชิลๆ แต่ได้ฟิลแน่นอน ตามแบบฉบับของเราสองคน
ใครมีพิกัดไหนเด็ดๆ คอมเม้นต์แนะนำเพิ่มเติมได้เลยนะคะ
และใครสนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม อ่านต่อด้านล่างนี้ได้เลยจ้า หรือ ดูรีวิวในวิดีโอได้เช่นกันค่ะ
นี่เป็นทริปน่านครั้งแรกของเราสองนุ่น
เราเลือกเดินทางไปกับสายการบินแอร์เอเชีย
เพราะแอร์เอเชียเท่านั้น ที่ไฟลท์บินตรงไปลงน่าน
มากถึง 4 เที่ยวบินต่อวัน
ประหยัดเวลา และ สะดวกเว่อร์
ใครกำลังเล็งๆไว้ บอกเลยว่า...ต้องจองด่วน! https://air.asia/7yf2L
ไฟลท์ ดอนเมือง – น่าน
ใช้เวลาแค่ 1 ชม. 20 นาที เท่านั้นเอง
เราแนะนำสำหรับใครที่ชอบถ่ายรูป
และชอบชมวิว ให้เลือกที่นั่งริมหน้าต่างนะ
แล้วจะเห็นวิวขุนเขาของจังหวัดน่าน
สลับซับซ้อน ละลานตาไปหมดเลยล่ะ
จุดหมายปลายทางแรกของทริปนี้
เราเช่ารถขับขึ้นเขาไปที่ อ.บ่อเกลือกันค่ะ
สะปัน Riva Camp
ที่พักของเราในคืนแรก เราเลือกนอนเต็นท์ริมลำธาร ง่ายๆ ชิวๆ แบบนี้แหละค่ะ
เค้าเพิ่งเปิดใหม่ไม่กี่เดือน อยู่ที่ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน เต็นท์กระโจมแบบนี้แค่คืนละ 600 บาท/คน รวมอาหารเช้า กาแฟ โอวัลติน ผลไม้
ใครอยากนอนเต็นท์ที่อยู่ริมน้ำแบบเราอย่างในรูปนี้ ต้องรีบจองหน่อย เพราะตอนนี้ เค้ามีแค่ 2 หลัง นอนได้หลังละ 2 คน เท่านั้นเอง
( นอกจากเต็นท์ เค้าก็มีแบบเป็นห้องๆ ด้วยนะ )
สนใจจองที่พัก โทรติดต่อได้ที่เบอร์ 0830467746 / 0642527951
หรือทางเฟซบุ้กของรีสอร์ท สะปัน Rivacamp เลยจ้า https://www.facebook.com/sapanGallery/
ห้องน้ำจะเป็นแบบห้องน้ำรวม แบบบ้านๆหน่อย แต่ก็มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้นะคะ
ตอนเย็นมีหมูกระทะ หมูจุ่ม ขายเป็นชุด ชุดละ 250 บาท อุปกรณ์ครบพร้อมทานกันหน้ากระโจม ปิ้งกินกันริมน้ำ คือฟีลดีมากมาย
บรรยากาศยามเช้าหน้าที่พักคือฟินมากๆ มีหมอกจางๆ อากาศเย็นสบาย
ใครมาเที่ยวน่าน แล้วไม่ตื่นมาสูดอากาศยามเช้าถือว่าพลาดเลยนะ!
มื้อเช้าที่นี่ เค้าเสิร์ฟอาหารมาในขันโตก ให้เราได้นั่งทานหน้าเต็นท์แบบนี้กันเลยทีเดียว
ถึงจะเป็นอาหารง่ายๆ แต่ก็อร่อย และวิวดีจริงอะไรจริงนะ
น้ำตกสะปัน
น้ำตกใกล้ๆ ที่พักครั้งนี้ของเราเลย ขับรถจากที่พักสะปัน Riva Camp มาไม่ถึงสิบนาที
สามารถเดินขึ้นมาดูน้ำตกได้แบบไม่ต้องเดินไกลมากด้วย
เราไปช่วงหน้าหนาวน้ำเลยน้อยไปหน่อยและเย็นมากแก ฮ่าๆ
นี่ถ้าช่วงหน้าฝนคงจะฟินมากกว่านี้
อุ่นไอมาง ณ สะปัน
จากน้ำตกเราก็แวะมารีสอร์ทดัง อุ่นไอมาง ณ สะปัน ที่ไม่ได้มีแค่ที่พัก
สามารถมานั่งจิบกาแฟและบรรยากาศ slow life ที่นี่ได้ด้วย
ที่นี่จะตั้งอยู่ริมลำธาร มีน้ำไหลผ่านตลอด บรรยากาศดีมาก
เค้ามีที่นั่งริมน้ำและจุดถ่ายรูปให้สาวๆ อย่างพวกเราเก็บภาพกันเพลินเลยล่ะค่ะ
เราลองสั่งเครื่องดื่มมาทานกันค่ะ เครื่องดื่มเย็นๆ
นั่งชิลริมลำธาร มันฟินมากๆ เลยจ้า
สปาเกลือหินแร่ แช่เท้า ที่ บ่อเกลือ ริเวอร์ ฮิลล์
ที่พักของเราอีกหนึ่งคืน เราเลือกนอนที่ บ่อเกลือ ริเวอร์ ฮิลล์
ลือริเวอร์ ฮิลล์ ก่อนจะได้เข้าห้องพักในตอนเย็นนี้ เราก็ได้มาผ่อนคลายกับบริการสปาเกลือหินแร่ แช่เท้าของเค้าก่อน
ซึ่งเค้าใช้ผลิตภัณฑ์เกลือสปาของท้องถิ่น ที่ทำกันใน อ.บ่อเกลือ จ.น่าน นี่เอง
ขัดแล้วเท้านุ่ม สบาย ชิวดีเหมือนกันนะ
ชมพระอาทิตย์ตก จุดชมวิว 1715 อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
ส่งท้ายวันที่สองของทริปนี้ ด้วยการขับรถมาชมพระอาทิตย์ตกสวยๆ สักหน่อย
ที่จุดชมวิว 1715 อุทธยานแห่งชาติดอยภูคา ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวสุดฮิตของน่านเลยล่ะค่ะ
ด้วยความที่ตรงนี้อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,715 กม.
เราจะมองเห็นวิวภูเขาแบบพาโนรามาสุดลูกหูลูกตา
และยิ่งตอนพระอาทิตย์ตกนี่คือไฮไลท์เลยล่ะ สวยจริงๆ
บ่อเกลือ ริเวอร์ ฮิลล์
กลับมาที่ที่พักของเราอีกหนึ่งที่ บอกเลยว่า...เราเลือก บ่อเกลือ ริเวอร์ ฮิลล์ เพราะความเงียบสงบ และมุมนี้เลยจริงๆ
ตรงนี้คือ 'หอชมวิว’ ของรีสอร์ท เราชอบคอนเซ็ปท์ส่วนกลางนี้ เค้ารู้ใจสาวๆ สายเที่ยว อัพรูปมากกก เพราะส่วนกลางนี้ เซ็ทไว้ให้แขกใน รร. สามารถมาถ่ายรูปได้ พร้อบครบ เจอหมอกปุ้บ ถ่ายรูปได้เลยรัวๆ เก๋ๆ มาก
เช้าวันที่เราไป หมอกหนักมาจ้าแม่...ยอมมแล้ว
อากาศดีมาก ตอนเช้าที่เราเจอ ประมาณ 6-7 โมงเช้า ฟินมากเลย
ในส่วนของห้องพัก ทั้งรีสอร์ท มีห้องพักแค่ 5 ห้องเท่านั้นเองนะ เป็นส่วนตัว เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนดีมากค่ะ
ห้องพักของเรา เป็นห้องสวีท ราคาคืนละสามพันกว่าบาท/สองคน รวมอาหารเช้า
ครั้งนี้นอนกัน 3 คน คนที่สามสามารถให้เค้าเซ็ทเบาะเสริมให้ได้จ้า (ค่าเตียงเสริมรวมอาหารเช้า ประมาณหนึ่งพันบาท)
มีห้องน้ำในตัว และมีอ่างอาบน้ำ ให้ตีฟองแช่น้ำกันได้ด้วยนะ
ใครมาพักที่นี่ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารเลยล่ะ
เราลองชิมมาแล้วทั้งมื้อเย็น และมื้อเช้า
อาหารของเค้าอร่อยเลยทีเดียว
มื้อเช้าจะเป็นข้าวต้ม ข้าวจี่ ไส้กรอกปิ้ง หมูปิ้ง ข้าวโพดปิ้ง ชา กาแฟ (อาหารเช้านี่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม รวมมาในค่าห้องพักแล้วด้วยนะ)
มื้อเย็น จะมีให้เลือกสั่งทั้งแบบหมูกระทะ
หรือเมนูอาหารพื้นบ้าน อาหารเหนือ
[img]https://f.ptcdn.info/792/067/000/
ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ
เราลงจากบ่อเกลือก็มาแวะทานอาหารและเครื่องดื่มร้านนี้ อยู่ที่อำเภอปัว เป็นร้านออร์แกนิค ที่มีจุดเด่นคือ เมนูเห็ดออร์แกนิคทั้งหมดทั้งมวล คือเมนูเห็ดเยอะมาก แถมถ้าใครมาช่วงที่นาข้าวเขียวๆ ขอบอกว่า วิวนี่ฟินหลักล้านเลยล่ะจ้า
เมนูอาหารและเครื่องดื่มของฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ
เมนูเด็ด ที่เค้าแนะนำให้ทานกันคือ พิซซ่าหน้าเห็ด
เราชิมแล้วก็คิดว่าอร่อยดีนะคะ เค้าทำใหม่ๆ สดๆ ร้อนๆ ชีสยืดหอมๆ และหอมกลิ่นเห็ดผสมกันด้วย อร่อยเลย ส่วนเมนูอื่นๆ ที่เราสั่งมาก็จะมีพวกต้มยำเห็ดรวม สปาเก็ตตี้ขี้เมาเห็ดทะเล และขนมปังอบแฮมชีส
ซุ้มลีลาวดี
อีกหนึ่งไฮไลท์ของน่าน ที่ใครมาต้องไม่พลาดที่จะมาเช็คอิน คือที่ซุ้มลีลาวดี ช่วงที่เรามา น่าเสียดายไปหน่อยที่ดอกไม้มันร่วงไปหมด แต่ก็ให้ฟีลไปอีกแบบ ไม่ได้การล่ะต้องกลับมาซ้ำ แล้วค่า
แป้บๆ ก็ถึงเวลาต้องกลับกทม. กันซะแล้ว
ทริปนี้เป็นการมาเที่ยว “น่าน” ครั้งแรกของเราสองนุ่น
ที่ทั้งประทับใจในวิวขุนเขาอลังการ ความสบายๆ ของผู้คน
ความดิบของธรรมชาติ และอาหารอร่อยๆ ในราคาไม่แพง
บอกเลยว่าต้องมีครั้งที่ สอง สาม สี่ และอีกหลายครั้งแน่นอน
ไว้จะกลับมา เที่ยวน่าน กันใหม่นะ....
สำหรับใครที่สนใจรีวิวการเดินทางของเรา
สามารถติดตามดูรูปเพิ่มเติมและรีวิวแบบ VDO ท่องเที่ยวแบบฉบับสองสาวคู่ซี้ได้ที่ช่องทางด้านล่างนะคะ
YouTube: https://www.youtube.com/bestiewanderer
Facebook: https://www.facebook.com/bestiewanderer
Instagram: https://www.instagram.com/bestiewanderer
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ แล้วไว้พบกันใหม่ รีวิวหน้าค่ะ
Bestie Wanderer
วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.52 น.