ครั้งนี้จะเป็นการเล่าที่แตกต่างจากบัตเตอร์คัทเตอร์ เพราะแอบหยิบเอารีวิวอาหารผ่านมุมมองของแฟนข้าพเจ้า หรือคุณนักวิทยาศาสตร์ เธอบอกเล่าเรื่องราวรสชาติอาหารที่ร้านสวนผักโอ้กะจู๋ (Ohkajhu) มารวบรวมไว้กับความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนด้วยล่ะเด้อ จะบอกว่าคุณแฟนเธอเคยทานครั้งแรกที่เชียงใหม่ พอมาเปิดสาขาสยาม ในกรุงเทพใจกลางเมืองเราจะพลาดได้ไง

  • บริเวณหน้าร้านโอ้กะจู๋ (Ohkajhu)
  • นี่คือคุณแฟนของบัตเตอร์ คัตเตอร์

คุณแฟนมักจะบอกอยู่เสมอราวกับเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของร้าน เธอเล่าว่า ร้านโอ้กะจู๋เนี้ยะเหมาะกับคนที่ชอบทานผักและรักสุขภาพ ชวนมากันทั้งครอบครัว กลุ่มเพื่อนหรือจูงมือคนรัก (สุขภาพ) มาทานก็ได้ แนะนำให้มาลอง ผักออร์แกนิคสด สะอาด ปลอดสารพิษไม่มีสารเคมีตกค้าง วัตถุดิบคุณภาพดี ในแต่ละจานปริมาณอาหารเยอะ คุ้มค่ากับราคา ส่วนเราเองคงต้องบอกว่า "กินทีก็จ่ายหลักพันเหมือนกันนะ"

  • หน้ามึน ๆ นี่คือบัตเตอร์ คัตเตอร์

ป่ะ รีวิวร้านสวนผักโอ้กะจู๋ มีเมนูหลากหลายสุด ๆ เปิดไปเถอะค่ะ เปิดจนจะเป็นลม เปิดเมนูจนเหนื่อย เปิดจนตาลาย ก็ยังเลือกไม่ได้ เพราะมีเมนูเกี่ยวกับผักเยอะมาก ๆ ให้เราเลือกรับประทาน (รวมหลาย ๆ มื้อมารีวิวครั้งเดียว) และเราได้ลอง 7 เมนูเด็ดน่าลอง มีมาเล่าแบบไม่ซับซ้อน เชิญทัศนาบทความพรรณาเหล่านี้

1. สลัดแซลมอนซิมิกับมะม่วงน้ำดอกไม้ (฿285)

เป็นเมนูที่กินทุกรอบที่ได้มาโอ้กะจู๋ ต้องเกริ่นก่อนว่า เป็นเมนูนี้เราไม่เคยสั่ง แต่ได้รับการเบิกเนตรเราจากคำแนะนำของน้องสาวคนสวยจากรั้วจุฬาที่บอกเราว่า "เจ่เจ้ ต้องลองค่ะ สลัดแซลมอนซิมิกับมะม่วงน้ำดอกไม้ คือ เมนูกันตายของหนู" (คำแปล เมนูกันตาย = เมนูเด็ดอร่อยจัด) และเราก็หูเบาค่ะ เขาว่าอร่อย เราก็ต้องลองสิค่ะ ! จะได้รู้ว่าจริง หรือจกตา เฮลโล่ว.. พอได้ลองคำแรก "ดีจริงค่ะคุณ" สำหรับคนที่หลงรักแซลมอนอย่างเรา แปลกใหม่มาก ๆ กับการยำที่แทบจะมองไม่เห็นพริก ดีต่อใจคนไม่กินเผ็ด (เราสั่งไม่เผ็ดนะคะ) ด้วยความที่เนื้อแซลมอนสีส้ม ๆ สด ๆ เด้ง ๆ เข้ากันกับมะม่วงน้ำดอกไม้รสชาติอมเปรี้ยวเล็กน้อย ตามด้วยอโวคาโดกรุบ ๆ หั่นเต๋าตัดรส โรยด้วยต้นอ่อนทานตะวันก้านอวบ มะเขือเทศแดงอมเปรี้ยว พร้อมหอมแดงหั่นหยาบ ยำมาค่ะ ยำมา โอเค จ้วง ๆ และให้สามผ่านค่ะ เชื่อแล้ว อร่อยจริง

2. ไส้กรอกย่างรวมทานคู่กับมันหวานกรอบ (฿260)

"ไม่สั่งไม่ได้ค่ะ" (อันนี้บอกตัวเองนะ ฮ่า ฮ่า) 

  คือชอบแหละ เพราะมีมันหวานทอดกรอบเป็นกับแกล้ม ตรงนี้ก็ไม่แน่ใจว่า ส่วนตัวเราสั่งมันหวานหรือสั่งไส้กรอกกันแน่ เลยอยากแนะนำให้คนชอบทานไส้กรอกที่มีความหลากหลาย ทั้งไส้กรอกเวียนนา หมูรมควัน แฟรงก์เฟิร์ต รัสเวอร์สเสิร์ฟคู่กับซอสน้ำสลัดเธาซันด์ไอซ์แลนด์ พอได้ทานไส้กรอกทั้ง 4 คู่กับน้ำสลัด เออ แปลก อร่อยเฉยเลย และผักสดสุด ๆ ล่ะเด้อ

3. สลัดเห็ดเทมปุระ (฿175)

"เห็ดหรือกุ้ง เห็ดหรือกุ้ง เห็ดหรือกุ้ง ฉันว่ากุ้ง ฉันว่าเห็ด" อันนี้ฉันก็ไม่เก็ท (Get) ระหว่างการรับประทานเราจะได้ยินบทสนทนาเชิงเถียงเหล่านี้เป็นระยะ ระยะ เพราะก็ไม่รู้ว่าใครสั่งมา อาจจะเป็น ใจสั่งมา เพราะพี่เสกเคยบอกไว้ เดี๋ยว! กลับมารีวิวก่อน ฮ่า ฮ่า ฮ่า เป็นเมนูสลัดเห็ดชุบแป้งทอด ข้าวโพด มะเขือเทศ แตงกวาญี่ปุ่น หน่อไม้ฝรั่ง แรดิช บีทรูท เสิร์ฟคู่กับน้ำสลัดการ์การ์ พอนำมาคลุกเคล้ากันแล้ว ก็ดูเหมือนจะยั

4. สลัดกุ้งย่างอโวคาโด (฿285)

สลัดที่มีผลไม้ไขมันดีอย่างอโวคาโดทานคู่กับมะม่วง ส้มแมนดารินและผักสลัดออร์แกนิคมากกว่า 12 ชนิด เสิร์ฟคู่กับซอสน้ำสลัดเธาซันด์ไอซ์แลนด์ ผักกรอบและกุ้งย่างหอมมากๆ รสชาติดีทั้งหอมและอร่อยสดชื่น

5. สลัดธัญพืช (฿95)

ประกอบด้วย ข้าวโพด ถั่วแดง ลูกเดือย ฟักทองญี่ปุ่น มะเขือเทศ ข้าวบาร์เลย์ ถั่วชิกพี ถั่วขาว ถั่วเลนทิลโรยด้วย ลูกเกด เม็ดมะม่วงหิมพานต์และเมล็ดฟักทอง เสิร์ฟคู่กับสลัดครีม เมนูนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานธัญพืชมากๆเพราะมีครบจบในเมนูเดียวเลยหละ

6. พอร์คชอป (฿275)

เนื้อหมูสันนอกติดกระดูกมีมันเล็กน้อย ย่างจนสุก หอมกำลังดี เนื้อแน่นชุ่มฉ่ำราดด้วยซอสเห็ดแชมปิญอง เสิร์ฟพร้อมกับหอมทอด รสชาติอร่อยกลมกล่อมมาก ๆ ควรกินพร้อมกันในทีเดียวจะได้รสชาติครบ

7. เมนูแนะนำ!!! เลดี้ซี่โครงซอสเชียงใหม่ (฿585)

เมนูนี้มีเฉพาะที่สาขากรุงเทพเท่านั้น!!! เป็นเมนูซี่โครงกระดูกอ่อนเนื้อนุ่มหมักกับเครื่องเทศของชาวเหนือนานถึง 8 ชั่วโมงเลยทีเดียวทำให้ทานได้ง่าย คนดัดฟันก็กินได้ เสิร์ฟคู่กับซอสเชียงใหม่ที่มีกลิ่นของขมิ้นและตะไคร้ มีความพิเศษตรงที่รสชาติโดดเด้งเกินใคร

หมายเหตุ : เมนูแต่ละจานมีขนาดใหญ่มาก คำนวณพื้นที่กระเพาะอาหารของเราให้ดีก่อนสั่งนะจ้ะ ไม่งั้นเหลือ เสียดายแย่เลย

เครื่องดื่มที่เคยลอง

สวนผักโอ้กะจู๋ (Ohkajhu) ไม่ได้มีแค่เมนูอาหารเท่านั้นนะ มีเมนูเครื่องดื่มผักผลไม้ให้เลือกชิม ไม่ว่าจะเป็น Infused Water (น้ำแร่หมักผลไม้) ฿75 รวมทั้งมี Smoothies P&P Peach Pine (สมู้ตตี้ พีแอนด์พี พีช พาย) แก้วละ ฿110 ที่ช่วยในระบบย่อยอาหาร แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แถมยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวกายอีกด้วย

อยากจองโต๊ะต้องทำไง

เราเป็นชาวเมืองกรุงยุค 4G เดี๋ยวนี้เค้ามีจองคิวผ่านทางแอปพลิเคชั่นของทางร้านเลย ในรัศมี 10กิโลเมตร ไม่จำเป็นต้องรอที่หน้าร้านนานๆ สามารถเดินเที่ยวเล่นชิลๆก่อนได้ ทำให้การจองคิวไม่น่าเบื่ออีกต่อไป พอใกล้ถึงคิวก็จะมีข้อความแจ้งเตือน ง่าย รวดเร็วและสะดวกสบายสุด ๆ

และนี่ก็เป็นเมนูทั้งหมดที่เราเคยทานล่ะจ้า ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ สามารถติดตามรีวิวอื่น ๆ ได้ที่เพจ #ที่ไหนอะไรดี มีเรื่องมาเล่าอีกเยอะแยะเชียวล่ะจ้า

ที่ไหนอะไรดี

 วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 22.18 น.

ความคิดเห็น