สวัสดีค่าาทุกคนน วันนี้เราจะมาแนะนำทริปสำหรับวันหยุดหรือวันหยุดยาว ที่ใช้งบเพียงแค่ 700 บาท เท่านั้น! แต่กิจกรรมที่ได้ทำนั้นคุ้มแสนคุ้มถ้าเทียบกับเงิน เอาล่ะ เราจะพาทุกคนไปที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ หรือที่เรียกกันว่าเมืองสามอ่าวนั่นเอง ถ้าอยากรู้ว่าจะมีอะไรกันบ้างในทริปนี้ มาติดตามกันเลยค่าา
เริ่มต้นกันด้วยการเดินทางนะคะ เราจะเดินทางกันด้วยรถไฟ เหมาะกับคนที่ต้องการท่องเที่ยวแบบประหยัด และเสพกับธรรมชาติที่สวยงามสองข้างทาง ซึ่งทางไปประจวบเนี่ย มีทั้งเส้นทางเลียบทะเล และภูเขาเลย ส่วนค่าตั๋วก็เพียงแค่ 48 บาทเท่านั้น
ภาพวิวระหว่างทาง
นั่งรถมาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ก็เดินทางมาถึงสถานีประจวบคีรีขันธ์
จากนั้นเราก็เดินไปที่ที่พัก ที่พักของเราคือ hunny guest house จองมาจากอโกด้า ราคา 402 บาท/คืน ที่พัักเนี่ยใกล้กับถนนคนเดินและติดกับอ่าวประจวบเลย
เมื่อเดินไปถึงที่พักแล้ว เราก็เก็บของแล้วลงมาเช่าจักรยานไปอ่าวมะนาวกัน ราคาจักรยานธรรมดาจะอยู่ที่ 50 บาท/วัน แต่ถ้ามีเกียร์ก็คันละ 70 บาท/วัน อันนี้สามารถเลือกตามที่เพื่อนๆสะดวกกันได้เลย พอได้จักรยานแล้วเราก็ปั่นไปอ่าวมะนาวกันเลย ระยะทางประมาณ 3 กิโล ถ้าใครไม่รู้จะถามทางคนในพื้นที่ก็ได้ เพราะทุกคนในแถบนั้นใจดีมากกกก
ปั่นมาซักพักก็มาถึงอ่าวมะนาวแล้วว
ที่อ่าวมะนาวจะเหมาะกับการเล่นน้ำมากๆ เพราะน้ำใสสะอาด และไม่ลึกอีกด้วย ถ้ามองดีๆ จะเห็นปลาตัวเล็กตัวน้อยมาว่ายอยู่ใกล้ๆเลย ส่วยบนชายหาด ก็ยังสมบูรณ์อยู่มาก มีทั้งปูลม ทั้งหอยให้เห็นทั่วทั้งหาด ถ้าใครอยากมานั่งชิลๆก็ย่อมได้ ใครกลัวหิวก็หมดห่วงไปเลย เพราะที่นี่มีร้านอาหารขายอยู่ใกล้ๆกับชายหาด ใครว่ายน้ำไม่เป็นก็สามารถเช่าห่วงยางได้ หรืออยากจะทำกิจกรรมอย่างเล่นบานาน่าโบ้ทที่นี่ก็มีค่า
พอเล่นน้ำจนพอใจแล้ว เราก็ปั่นจักรยานกลับที่พัก เพื่อไปทำอีก 1 กิจกรรม ที่ไม่อยากให้ทุกคนพลาด นั่นก็คือพายเรือคายัค ไปยังเกาะแก่งต่างๆ อันนี้ต้องดูคลื่นลมก่อนออกไปพายด้วยล่ะ เพื่อความปลอดภัย ราคาเรือคายัคจะอยู่ที่ 200 บาท/ชม. ก่อนพายเรืออย่าลืมใส่เสื้อชูชีพด้วยนะ เราพายประมาณ 5 โมงเย็น เพราะแดดไม่ร้อน แถมวิวในช่วงเย็นๆก็สวยมากด้วย อันนี้เราสามารถพายไปที่ไหนก็ได้ แต่เราเลือกพายไปเกาะเพราะความอยากรู้ว่าบนเกาะมีอะไร
พายมาซักพัก เราก็มาถึงเกาะแรกกันแล้ว เราไม่รู้ว่าเกาะนี้ชื่ออะไร แต่หาดทรายบนเกาะจะหยาบๆ เต็มไปด้วยเปลือกหอย และที่สวยๆเลย ก็คือแนวหินบนเกาะนี้แหละ ของจริงก็คือสวยมากก
ส่วนน้ำที่เกาะนี้ไม่เหมาะกับการเล่นน้ำซักเท่าไหร่ เพราะเดินลงไปอยู่ๆก็ลึก และเรายังเจอแมงกระพรุนบนหาดอีกด้วย เหมาะกับการมาถ่ายรูปหรือมาสำรวจเกาะมากกว่า
พอจบจากเกาะนี้เราก็ไปอีกเกาะข้างๆ ไม่รู้ว่าชื่อเกาะอะไร แต่ว่ามีทะเลแหวกด้วย แถมในช่วงเวลานี้จะเห็นพระอาทิตย์เริ่มตกแล้ว
จากนั้นก็ได้เวลากลับกันแล้ว ระหว่างทางก็คือสวยมากกก
หลังจากพายเรือเสร็จ เราก็จะอาบน้ำ และไปเดินถนนคนเดินประจวบคีรีขันธ์ต่อ ที่นี่ก็คือยาวมากก และของถูกมากอีกด้วย แต่ช็อปเพลินเลยลืมถ่ายรูปบรรยากาศถนนคนเดินมา แต่บอกเลยที่นี่ของถูกจริงๆ ตั้งแต่ของกินยันเสื้อผ้าเลย แนะนำว่าให้มาลองเอง
หลังจากเดินถนนคนเดินเสร็จก็ต้องรีบนอนเพราะวันรุ่งขึ้นเราจะไปปีนเขาล้อมหมวกันต่อ
ตัดภาพมาที่อีกวันเลย วันนี้เราจะไปปีนเขาล้อมหมวกกัน ที่นี่จะเปิดเฉพาะวันหยุดยาวที่มีวันหยุดติดต่อกัน 3 วันขึ้นไป ไม่ได้เปิดทุกวันเน้อ มาดูของที่ต้องเตรียมกันดีกว่า
1. น้ำ น้ำเปล่า น้ำผสมวิตามิน หรือสปอนเซอร์ก็ได้ จำเป็นมาก!
2. รองเท้าผ้าใบ
3. ถุงมือ (เจ้าหน้าที่มีขาย)
4. บัตรประชาชน (ใช้ตรงทางเข้าไปเขาล้อมหมวก)
มาเริ่มปีนเขากันเลยย ที่นี่มีค่างแว่นน่ารักด้วย เขาจะไม่แย่งขนมหรืออะไรจากมือเราเลย เชื่องมากนะ
ทางขึ้นเขาช่วงแรกจะเป็นบรรได ซึ่งก็เหนื่อยพอตัวนะ แวะพักกินน้ำบ่อยมาก แต่พอหลุดจากช่วงบรรไดไป จะเริ่มมีเชือกแล้ว แนะนำให้ใส่ถุงมือ และระวังลื่นใบไม้ด้วย ที่เขาล้อมหมวกจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ ไม่ต้องกลัว
ระหว่างทางก็มีวิวสวยๆให้ดูเช่นกัน แต่ไปข้างบนจะสุดกว่า ระยะทางเนี่ย จะมีช่วงที่ชันเกือบ 90 องศาด้วย ตรงนี้จะขึ้นทีละคน แนะนำว่าให้ระวังลื่น ตรงนี้จะโหดที่สุด ใครกลัวความสูงอย่ามองลงไปที่ทะเลเลย ผ่านตรงนี้ไป จะได้เจอจุดสวยๆแน่นอน ของจริงนี่สวยกว่าในรูปเยอะมากก
ถ้าใครมาช่วงเช้าจะได้เห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นด้วย จริงๆ มันมีหลายมุมมาก แต่เราไม่ได้ไปถ่าย เพราะตอนนั้นล้าขามากก สำหรับคนที่รักการปีนเขา ชอบวิวสวยๆ ไม่ควรพลาดที่นี่เลย แถมคนที่นี่ยังเป็นมิตรแล้วใจดีมากๆอีกด้วย ค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็ประหยัดมากๆอีกด้วย
สรุปค่าใช้จ่าย
รถไฟ ไปกลับ 96 บาท
ที่พัก 402 หาร2 เหลือ 201 บาท
เรือคายัค 1.5 ชม. 300 บาท หาร2 เหลือ 150 บาท(แล้วแต่คนพายเร็วพายช้า)
ค่าจักรยาน 50 บาท
ค่ากิน 250 หาร2 125 บาท (แล้วแต่คน)
ค่าถุงมือ 20 บาท
รวม 642 บาท
สำหรับทริปนี้ก็ลาไปก่อน เจอกันใหม่ทริปหน้าค่าา
I'm beach
วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 18.42 น.