การหลบหนีความวุ่นวายจากเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ มารับอากาศเย็นสบายที่ภาคเหนือ โดยที่ยังคงได้รับกลิ่นอายวัฒนธรรมของชาวล้านนา และยังมีความชิวชิคของร้านกาแฟคาเฟ่ต่างๆให้ได้ผ่อนคลาย คงจะไม่มีที่ไหนเหมาะเท่ากับเมืองเชียงใหม่แล้ว เพียงแค่หนึ่งชั่วโมงนิดๆจากกรุงเทพฯ โดยสายการบินต่างๆที่มีให้เลือกมากมายทำให้การเดินทางมาเชียงใหม่เป็นเรื่องง่าย ประหนึ่งขับรถไปสยามพารากอน หรือไอคอนสยาม
ความดึงดูดจากแหล่งท่องเที่ยวต่างๆของเชียงใหม่นั้น ทำให้มีนักท่องเที่ยวและความเจริญที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โรงแรมและที่พักต่างๆจึงผุดตัวเพิ่มขึ้นให้นักท่องเที่ยวอย่างเราเลือกอย่างมากมาย
มาเที่ยวรอบนี้ป้าได้มีโอกาสไปที่ โรงแรมโพธิ ศิรีนทร์ (Bodhi Serene Hotel Chiang Mai) โรงแรมบูติค ระดับสี่ดาวที่อยู่ใจกลางเมืองเก่า ห่างจากสนามบินเพียง 15 นาที โดยสามารถไปเที่ยววัดต่างๆได้ในระยะเดินถึงเลย ไม่ว่าจะวัดพันเตา วัดเจดีย์หลวง ประตูท่าแพ ไนท์มาร์เก็ต ตลาดวัวลาย เพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ ร้านขายยาก็แค่ข้ามถนนเท่านั้น โอ๊ยยยย ดีงามจริงๆ
ก้าวแรกที่เข้ามาในโรงแรมนั้นเปลี่ยนอารมณ์ของเราเหมือนหลุดมาอีกโลกนึงเลย ด้วยเพลงสไตล์ล้านนาเปิดคลอเบาๆและการตกแต่งแบบล้านนา เราเข้าไปเช็คอิน และได้รับ Welcome Drink เป็นน้ำมะนาวใส่น้ำผึ้งหอมหวานกำลังดี คงจะเฉกเช่นเดียวกับความมีเสน่ห์ภาษาเหนือที่ฟังที่ไรก็เพราะเสนาะหู
น้องๆ เค้ารอต้อนรับ และให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงกันเลยนะ (24 hour front desk )
ห้องพักที่เราพักกันในคืนนี้ เป็นแบบ Deluxe เตียงใหญ่แสนนุ่มสบาย มีหมอนตกแต่งที่คงคอนเซปต์ของความเป็นล้านนาไว้อย่างลงตัว ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่นั่งแช่นอนแช่ได้อย่างฟินๆกันไป จะเปิดหน้าต่างดูทีวีไปเพลินๆด้วยก็ได้
ที่นอนกว้างใหญ่ นุ่มสบาย
อ่างอาบน้ำใหญ่มากจ้า แช่กันแบบฟินๆกันไปเลย
หลังจากนอนพักผ่อนอย่างเต็มที่เราก็ลงไปเติมพลังก่อนออกเที่ยว อาหารเช้าที่นี่เป็นบุฟเฟต์หลายสไตล์ ไม่ว่าจะยุโรป ไทย จีน มาหมด สลัด ขนมปัง ข้าวต้ม ติ่มซำ วัฟเฟิล ผลไม้ โซนนั่งรับประทานอาหารเช้าจะอยู่ด้านล่างที่ติดกับสวนและน้ำพุและมองเห็นห้องพักเกือบทั้งหมด ด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ความเขียวของต้นไม้ และเสียงจากน้ำพุ ทำให้เราไม่อยากลุกไปไหนเลย
อาหารเช้าของคุณผู้หญิงก็จะเยอะๆ หน่อยเมื่อเทียบกับคุณผู้ชาย ;)
นั่งทานข้าวชมวิวสวนที่สงบและเขียวขจี ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมาก
นั่งทานในโซนสวนที่แสนร่มรื่นเลยก็ได้
แต่ความสวยของโรงแรมก็ดึงดูดให้เราออกสำรวจกัน ที่โพธิศิรินทร์นั้น มีห้องพักรวม 50 ห้อง ห้องพักโซนเก่า 38 ห้อง ซึ่งระเบียงของทุกห้องก็จะหันเข้าหาสวน ซึ่งให้บรรยากาศผ่อนคลายตลอดเวลา ส่วนโซนใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาอีก 12 ห้อง นั้นก็จะหันเข้าหาสระว่ายน้ำ โดยสระว่ายน้ำเค้าก็มีถึงสองสระเลยทีเดียว
สระว่ายน้ำใหญ่ สระแรก น้ำใส วิวสวย ชวนให้ลงว่ายน้ำเล่นมาก หรือจะแค่นั่งเล่นชิวๆริมสระ ก็เพลินละ
สระว่ายน้ำที่สองนี่อยู่หน้าห้องพักเลย มานั่งเล่นอาบน้ำ นอนอ่านหนังสือได้เลย
ระเบียงชั้นสองที่สามารถเห็นวิวโรงแรมได้ทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีห้องสมุดให้เข้าไปนั่งอ่านหนังสือได้
ตามบันไดที่นี่เค้าจะตกแต่งด้วยโคมไฟขนาดใหญ่ เข้ากับการออกแบบห้องพักและอาคารได้เป็นอย่างดี
เสร็จจากมื้อเช้าหากใครอยากพักผ่อนอยู่แค่ภายในโรงแรม และไม่อยากออกไปไหนที่นี่เค้าก็มีร้านอาหารให้ได้มาฝากท้องกัน เปิดยาวๆ เป็นบาร์ยามค่ำมานั่งดริ้งค์ต่อได้อีกด้วย
แต่สำหรับคนที่อยากออกไปสำรวจเมืองแต่ขี้เกียจเดินเค้าก็มีจักรยานให้เช่า ราคาเพียง 50 บาท ต่อคันเท่านั้น
เราขอทางโรงแรมสำรวจห้องประเภทอื่นๆด้วย วันนี้ก็มีโอกาสได้สำรวจห้อง ประเภท Superior Room
ทุกห้องพักจะมีโซนนั่งเล่นนอกห้องพักอีกด้วย
และห้อง Deluxe ซึ่งวันนี้ทางแขกที่เข้าพักแจ้งว่า เป็นการมาฮันนีมูนทางโรงแรมก็เลยตกแต่งห้องให้เป็นพิเศษด้วยกลีบกุหลาบเพิ่ม บรรยากาศหวานๆ สร้างความโรแมนติกให้แก่คู่รักอีกด้วย
เรามาสรุประดับคะแนนของที่พักที่นี่อีกทีดีกว่า
✏️ความสะอาด ❇️❇️❇️❇️❇️ (10/10) เต็มตามมาตรฐาน
✏️การบริการ❇️❇️❇️❇️❇️ (10/10) ดีงามตั้งแต่เช็คอิน จนกระทั่งเช็คเอาท์
✏️ห้องพัก ❇️❇️❇️❇️❇️ (10+++/10) เตียงใหญ่ สะอาด มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ และโซนอาบน้ำฝักบัวต่างหาก ตู้เย็นขนาดไม่เล็กจนเกินไป
✏️อาหารเช้า ❇️❇️❇️❇️❇️ (9/10) ความหลากหลายของอาหาร ที่มีทั้งฝรั่ง ไทย จีน แถมเครื่องดื่มแบบจัดเต็มก็ถือว่าคุ้มมากๆ แต่รสชาติอาจจะยังไม่ถึงกับว้าว ข้าวต้มหมูแอบน้อยไปหน่อย ไม่แน่ใจว่าโดนตักไปหมดแล้วรึเปล่า
✏️ความคุ้มค่า ❇️❇️❇️❇️❇️(10/10) ด้วยการบริการ และ Facility ของโรงแรมมาตรฐานเทียบเท่าโรงแรม 5 ดาว กับราคาสองพันต้นๆ รวมอาหารเช้าบุฟเฟต์ขนาดนี้ ป้าก็ถือว่าคุ้มมากนะ
✏️ทำเลที่ตั้ง ❇️❇️❇️❇️❇️ (10+++/10) คือ ที่สุดของที่สุด ใกล้ทุกสิ่งที่ต้องการ เดินเที่ยวเหนื่อยร้อน ก็กลับมาพักที่โรงแรมได้เลย
ความสงบและบรรยากาศที่ผ่อนคลายที่นี่ทำให้รู้สึกว่า วันหยุดนี้ได้รับการพักผ่อนอย่างแท้จริง แถมที่นี่ทำให้รู้สึกได้ว่ามาสัมผัสกับบรรยากาศล้านนา และภาคเหนืออย่างแท้จริง ทางโรงแรมบอกว่าตอนนี้แขกที่มาพักส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติเกือบทั้งหมด ป้าก็อยากให้คนไทยอย่างเราๆได้มาสัมผัสกับความผ่อนคลายอย่างแท้ทรูกะเค้ามั่ง ลองพิจารณาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการมาเที่ยวเชียงใหม่กันนะคะ
Mai Manisa
วันพฤหัสที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 12.16 น.