สวัสดีค่าาา แมวน้ำ Seally.Go.Round ค่ะ
ทริปนี้เราจะพาไปหลบไวรัสกันในป่า ให้ธรรมชาติ และพลังอานุภาพแห่งความเขียวของต้นไม้ บำบัดเยียวยากันสักหน่อย (ก็ช่วงนี้เจออะไรหนักๆพร้อมๆกันหลายเรื่องเลยเนาะ^^')
ป่าที่ว่านี้ ถึงแม้จะอยู่ลึกลับ กลางดง พงษ์ป่าเขาลำเนาไพรไกลสังคม แต่ก็ไม่ได้ไกลเกินเอื้อม ขับรถไปง่ายๆ อยู่แค่ อ.เชียงดาวนี่เอง ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปไม่กี่กิโล แต่ได้ความสงบ โอบล้อมด้วยความเขียวของป่าเขา ท้องฟ้าและธารน้ำไหล สมชื่อ #เคียงฟ้าธาราไพร จริงๆ
จะสดชื่นฉ่ำโอโซนแค่ไหน. . . เราเข้าป่าไปพักผ่อนกันดีกว่าจ้าาาา^^
SEALLY.GO.ROUND
'Forest' for REST
starts NOW!!!!
ทริปนี้เราเดินทางจากบ้านที่พัทยา ขึ้นเครื่องอู่ตะเภา ไฟลท์เช้าสุดคือ 6.10 น. แม้จะเป็นไฟลท์ที่ทรมานมาก แทบไม่ได้นอนเพราะตื่นตีสาม มาสนามบินตีสี่ เครื่องออกหกโมง
แต่ใต้ความเช้ามืดของไฟลท์หกโมง ก็มีข้อดี คือ ไปถึงเชียงใหม่ ตอน 7 โมงกว่าๆ ก็เริ่มทริปได้ตั้งแต่หัววันเลย คุ้มค่าตื่นอยู่นาาาา^^
พอมาถึงก็มารับรถเช่าที่เราจองไว้ล่วงหน้าแล้ว ขับไปเที่ยวได้เลย ปกติใช้บริการของ Thai-Rent-A-car ตลอด มีโค้ดส่วนลดเยอะดี รถใหม่เอี่ยมทุกครั้งที่จอง จองรุ่นเล็กสุดก็ราคาไม่เกิน 700-850 บาท/วัน
ได้รถเรียบร้อยก็ออกเดินทางกันเลย โดยที่แรกที่จะแวะเป็นร้านขนมปังในป่า อยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่นี่แหล่ะ ^^
' ขนมปังในป่า '
Nana Jungle
เรามาเช้าวันเสาร์เลยขอแวะร้านขนมปังที่อยู่ในป่าลึกลับในตัวเมืองเชียงใหม่นี่เอง (จะว่าไปก็ไม่ลึกลับเท่าไหร่ เพราะคนเยอะมากกกก) ร้านนี้จะเปิดขายเฉพาะเช้าวันเสาร์เท่านั้น มาได้ตรงวันพอดีก็ไม่ควรพลาด
Nana Jungle เริ่มรับบัตรคิวตั้งแต่ 6 โมงเช้า (ไม่รู้ตอนนี้เปลี่ยนเวลาแล้วหรือยัง)
แต่ขนาดเริ่มคิวตั้งแต่เช้ามืด ไม่น่าเชื่อว่าคนจะเยอะขนาดนี้ เรามาถึงตอนแปดโมงกว่าๆ เค้าก็รันคิวไปเยอะพอสมควรแล้ว (ได้ คิว G-1 จากที่สตาร์ทเริ่มคิวตั้งแต่ A B C D E ไล่มา โดยแต่ละหมวดก็จะมีคิวประมาณ 50 คน เช่น G1 - G50) เรียกครั้งละประมาณ 25-30 คน/รอบ
แต่คิวไม่นานเท่าไหร่ เดินเล่นชมนกชมไม้ หาขนมกิน ช็อปปิ้งไปพลางๆ ก่อนได้ จริงๆเค้าคงจัดสรรคิวเพื่อที่ลูกค้าจะได้ไม่แย่งกันรุมขนมปังกันเท่านั้นเอง
พอถึงคิวก็เข้าไปเลือกขนมปังกัน เราก็ไม่ใช่สายขนมปังซะด้วย เลยขอลองอะไรเบสิกๆอย่างครัวซองต์ กับคีชแฮม
ถือว่าเป็น Light Breakfast ไปแล้วกัน รสชาติของครัวซองต์ก็หอมเนยดี ส่วนคีชก็อร่อยใช้ได้เลย
เค้ามีกาแฟแจกฟรีด้วยน้าาา เผื่อใครอยากหากาแฟร้อน กินคู่กับขนมปังเป็นอาหารเช้า
ก่อนยิงยาวเดินทางไปยังอ.เชียงดาว เราแวะไหว้พระที่วัดอุโมงค์สักหน่อย มาตอนที่ยังไม่แล้งมาก กำแพงวัดก็จะมีมอสขึ้นเขียวๆ สวยดี
แล้วแวะกินข้าวจิบกาแฟที่บ้านข้างวัด อีกนิดหน่อย
ก่อนออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางของเราวันนี้
ชอบแม่ค้าร้านนี้ ชิคดี^^
ต่อด้วยกาแฟคุณภาพดีๆ อีกสักแก้ว ที่ร้าน ดิโอลด์ เชียงใหม่ คาเฟ่ ร้านอยู่ในบ้านข้างวัด
อิ่มแล้วก็ล็อกพิกัด เดินทางไปยังที่พักของกันเลย ^^
เคียงฟ้าธาราไพร
บ้านแม่แมะ อ.เชียงดาว
ที่พักของเราคืนนี้อยู่ที่บ้านแม่แมะ อ. เชียงดาว ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ราวๆ 80 กิโลเมตร ขับตรงๆ ไปทาง อ.เชียงดาวเลย และอยู่ลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ก็ร่วมๆ 20-30 กิโล ทางบางช่วงมีเนินชันบ้าง เลนเดียวสวนกันบ้าง ขับรถระวังหน่อยแล้วกันนะจ๊ะ
แต่พอขับเข้ามาลึกก็ได้สัมผัสธรรมชาติแบบเต็มๆสดชื่นมาก ได้ฟีลของการพักผ่อนอย่างแท้จริง
พอมาถึงปากทางเข้าหมู่บ้านแม่แมะ เราก็จะเจอกลุ่มที่พัก นำโดย บ้านต้นไม้ TreeHouse ที่หลายคนคงได้เห็นรีวิวกันมาบ้าง (ซึ่งเราก็โทรไปถามแล้ว แต่โซนตรงบ้านต้นไม้หลังใหญ่ช่วงนั้นถูกจองเต็ม ก็เลยมองหาที่อื่นแทน) และโซนนี้ก็ยังที่พักอีกหลายแห่งเลย ใครชอบที่ไนก็ลองเสิร์ช "ที่พัก แม่แมะ" ในgoogle เลย มีหลายเจ้าที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน แต่ในส่วนของที่พักของเราขับตรงขึ้นไปอีก ไม่ไกลมาก เราก็มาถึงที่นี่แล้ว เคียงฟ้าธาราไพร
ที่พักวิวดี ราคาน่ารัก ซึ่งจริงๆเรทราคาที่พักในย่านแม่แมะก็ไม่หนีกันมาก
อย่างที่นี่ก็ราคา 750 บาท / คน / คืน
พร้อมอาหาร 2 มื้อ มื้อเย็น เป็นเซ็ทอาหาร
มื้อเช้าเป็นข้าวต้ม ชากาแฟ
เดี๋ยวเราลงไปเช็คอินกัน ห้องที่จองมา เป็นห้องนี้
(CR.รูปห้องพักจากเพจ เคียงฟ้าธาราไพร ที่เค้าส่งให้เราตอนคุยกันตอนจอง)
เป็นห้องพัดลม สามารถนอนได้ 3 คน พร้อมห้องน้ำในตัว ใครพักห้องนี้ สามารถเล่นอินเทอร์เน็ตได้ จริงๆ wifi จะอยู่ที่ล็อบบี้ที่นั่งทานข้าว แต่ห้องนี้สัญญาณมาถึง (พูดก็พูด เน็ทแรงกว่าที่บ้านอีก555)
แล้วถ้าถามถึงสัญญาณโทรศัพท์ บอกเลยว่า ดีแทค no signalตั้งแต่ยังไม่ถึงหมู่บ้านแม่แมะเลยจ้า ส่วนค่ายอื่นทางเราไม่แน่ใจ
พอเก็บข้าวของก็ออกไปชมนก ชมไม้ ชมวิวของที่นี่กัน ^^
ที่นี่สงบมากๆ ใครชอบธรรมชาติเงียบๆ อยากปลีกวิเวกสักพัก มาที่นี่เลยตรงจริตแน่นอน
นอกจากป่าเขาที่มีความเขียวขจีโอบล้อมเราไว้แล้ว ใกล้ๆที่พักก็มีลำธารด้วย
มีทางเดินลงไปผ่านไร่กาแฟ ปีนี้น้ำค่อนข้างน้อย ผลผลิตเลยไม่เยอะมาก
มีเจ้าผีเสื้อตัวน้อยๆบินมาเกาะด้วย
ลงมาสู่ลำธารด้านล่าง น้ำไม่เยอะมาก แต่ได้ความเป็นป่าจริงๆ สดชื่นนนนน
นี่แหล่ะ FOREST for REST ที่แท้ทรู ^^
น้ำเย็นเจี๊ยบ
น้ำน้อยไปหน่อย ขนาดอยู่ในป่าแหล่งต้นน้ำขนาดนี้ และเพิ่งแค่เดือนพ.ย.เองด้วย^^'
สูดความชุ่มชื้นไปเต็มปอด ก็ขึ้นไปนั่งเล่น รอเวลาอาหารเย็นกัน
บรรยากาศสงบมากๆเลย อากาศช่วงนี้ยังไม่เย็นมากเท่าไหร่ ยี่สิบกว่าๆองศา แต่พอใกล้ค่ำก็จะเย็นลงอีกนิดนึง
ได้เวลาอาหารเย็นแล้ววววว เย่ๆ
มื้อเย็นของที่นี่จะจัดสำหรับมาให้เป็นข้าวและกับข้าว 4อย่าง มี ลาบคั่ว หมูยอทอด แกงจืด ไข่เจียว
อาหารไม่เหมือนกันทุกวัน แต่อาหารอร่อย ทานง่าย พร้อมด้วยส้มที่เด็ดมาจากสวนนี่เอง
แต่ถ้าใครกลัวไม่อิ่ม (ซึ่งอาหาร4 อย่างพร้อมข้าว 1 โถ สำหรับ2คนนี้จุกเลยนะ ^^) ก็สามารถต่อจิ้มจุ่มได้ แต่ต้องสั่งล่วงหน้าไว้ก่อน ชุดละ 300 บาท
ซดน้ำร้อนๆ อากาศชิลๆ เย็นๆก็สุนทรีย์ดีเธอ
แต่ถ้าให้แนะนำ ควรกินข้าวช่วงเย็นๆ 5 โมง แล้วค่อยต่อจิ้มจุ่มตอนสองสามทุ่มก็ได้นะ กินข้าวพร้อมจิ้มจุ่มตั้งแต่ห้าหกโมงมันจะทรมานเกินไป แล้วพอกินเสร็จเร็ว เดี๋ยวตอนดึกเราจะไม่มีไรทำ 555 ดึงเช็งไว้ก่อน อย่าเพิ่งรีบอิ่มแล้วไปนอนอืด ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล นั่งตากน้ำค้างซดน้ำจิ้มจุ่มตอนดึกๆ อากาศเย็นๆ กันดีกว่า
แต่เราไม่รู้ไง กลัวกินดึก เกรงใจพี่ๆที่นี่ต้องมานั่งคอยเก็บภาชนะจานชาม เลยจัดพร้อมข้าวเย็นเลย
ฮืออออ จุกมาก แต่โชคดีที่พกกล่องทัปเปอร์แวร์มาด้วย ก็เลยลวกหมูลวกตับแล้วใส่กล่องไว้กินตอนดึกๆ
แต่จิ้มจุ่มที่นี่จะออกรสหวานไปหน่อย ไม่มีรสเผ็ดเลย ส่วนหมูกับตับหมักมาได้นุ่มนวลชวนฝันดี อากาศเย็น ซดน้ำร้อนๆมันก็อบอุ่นหัวใจดีอิอิ
ส่วนเบียร์เย็นๆขวดใหญ่ที่นี่มีจำหน่ายนะจ๊ะ ไม่ต้องแบกมา ถือว่าอุดหนุนที่พัก
ตอนกลางคืน แม้ว่าจะไม่หนาวมาก เค้าก็จุดไฟให้ด้วย นี่ก็ไม่นึกว่าจะจุดไฟ จะได้เตรียมการแสดงรอบกองไฟของหมู่นกขมิ้นมาด้วย (จงทำดี จงทำดี จงทำดี) 555
นั่งเก้าอี้โยก ผิงไฟอุ่นๆ สบายยยย
นั่งไปนั่งมาเคลิ้มๆจะหลับ ก็อากาศมันเย็นๆ สบายๆ สงบๆดี แต่ไม่เหงานะ มีคนพักห้องอื่นก็นั่งคุยนั่งเล่นกันอยู่ แต่ไม่เสียงดังรบกวนอะไร ทุกคนที่มาพักที่น่ารัก อยู่กันแบบสบายๆเป็นกันเอง
คืนนี้พระจันทร์สวย สว่างมาก มองจากหน้าต่างห้องพัก
ดูพระจันทร์จนง่วงแล้ว พรุ่งนี้ตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์กัน
Goood morningggg....
เช้านี้อากาศแค่เย็นๆ แต่ไม่หนาว (นี่กลางเดือนพ.ย.แล้วนะ) แอบสะเทือนใจเล็กๆ คาดหวังความหนาวจนปากสั่น จนฟันกระทบกัน แต่จริงๆสัมผัสได้แค่เพียงความเย็นที่แผ่วเบา แต่ก็ฉ่ำดีนะ ใต้วงแขนน่ะ 555
แอบหวังใจยิ่งว่าตื่นมาจะมีหมอกจางๆลอยละเลียดทิวเขา แบบที่เคยเห็นในรูป เสียดายไม่เจอแบบนั้นบ้าง เป็นคนไม่ค่อยถูกโฉลกกับภูเขาและหน้าหนาวเท่าไหร่ 555 แต่ถ้าเอาจริงๆ ถ้าชอบป่าแบบฉ่ำๆ มาพักช่วงหน้าฝนก็ดีนะน่าจะชุ่มฉ่ำสดชื่นถึงใจดี
พระอาทิตย์ค่อยๆไต่ระดับขึ้นให้พ้นภูเขา
ท้องฟ้าเรื่มสว่างแล้ว
ในที่สุด พระอาทิตย์ก็ยิ้มแฉ่ง แก้มแด๊งแดงแต่งตัวปะแป้งลงมาส่งยิ้มให้คุณ ยู้ฮู
พอพระอาทิตย์โผล่มาเท่านั้นแหล่ะ ร้อนเลย ก็เล่นใส่ชุดซะอย่างกับไปเที่ยวสกีรีสอร์ท
เช้านี้กับมื้อเช้าเป็นข้าวต้มร้อนๆควันฉุย คลุกเคล้ากับวิตามินดีที่ได้รับจากแสงแดด
แดดแร๊วงส์!!!!
แม่จ๋า เชียงใหม่หน้าหนาวไม่หนาวเลยจ้าแม่ . . . แม่ตะโกนกลับมาว่า ก็เพราะเอ็งไปไง มันถึงไม่หนาว >_<
อิ่มเรียบร้อยก็ได้เวลาเก็บของพร้อมเดินทางต่อ
ขอบคุณพลังอานุภาพแห่งสีเขียวที่ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของชีวิตให้ได้มีแรงสู้ต่อกับชีวิตที่ต้องดำเนินต่อไป
ใครอยากเข้าป่ามาพักที่ เคียงฟ้าธาราไพร ก็เข้าไปสอบถามห้องพักได้ที่เพจ https://www.facebook.com/KhiangfhatarapraiHomestay/
แล้วพบกันใหม่ รีวิวหน้าค่ะ^^
ติดตามการเดินทางของแมวน้ำ Seally.Go.Round เที่ยวแบบเจาะลึก ข้อมูลแน่นๆ
- Facebook: https://www.facebook.com/seallygoround/
- IG: @Seally.go.round / @Vassaire
- อ่านรีวิวทริปอื่นๆ ได้ที่ https://th.readme.me/id/seallygoround้
Seally-Go-Round
วันพุธที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.58 น.