สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
แผนการเดินทาง 3 วัน 2 คืน กรุงเทพ - พักสังขละบุรี - สะพานมอญ - พักบ้านอิต่อง ปิล๊อก ทองผาภูมิ
เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ไป สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่เช้า โดยรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งใช้เวลาเดินทางอย่างน้อย 6 ชม. (หากท่านใดที่เดินทางไปบ้านอิต่องเลย แนะนำให้ออกเร็วหน่อยเพราะใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-7 ชม. แต่ช่วงเส้นทางจากทองผาภูมิไปหมู่บ้านอีต่องระยะทาง 70 กม. อาจจะมีช่วงที่เส้นทางแคบ ไม่ควรขับตอนฟ้ามืด จะอันตราย)
ระหว่างทางเราก็แวะไปเรื่อยๆ ตั้งใจให้ถึงสังขละบุรีบ่ายแก่ๆ ไม่ทันมืดค่ำ จุดแวะที่แนะนำคือ จุดชมวิวป้อมปี่ เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในภาคตะวันตก แต่เราไม่สามารถอยู่รอพระอาทิตย์ตกได้ เพราะจะค่ำก่อนที่จะถึงสะพานมอญ (ที่นี่มีลานกางเต้นท์และบ้านพักบริการ)
การเดินทางมาถึงจุดชมวิวป้อมปี่ เริ่มจากตัวเมือง จ.กาญจนบุรี ขับรถมาตามทางหลวงหมายเลข 323 กาญจนบุรี-ทองผาภูมิ -สังขละบุรี ผ่านที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เขาแหลม ประมาณ 2กิโลเมตร บริเวณกิโลเมตรที่ 40-41 มีทางแยกเลี้ยวซ้าย มีป้ายบอกหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติป้อมปี่ เลี้ยวเข้าไปอีกประมาณ 1กิโลเมตร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ตู้ ป.ณ. 15 ปท.ทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 71180 โทรศัพท์ 034-532099
เราไปถึงที่พักซึ่งอยู่ใกล้ๆกับสะพานมอญ (สามประสบ) ประมาณ 5 โมงเย็น ก็เข้าที่พัก เก็บสัมภาระเสร็จก็เดินเล่นชมวิวทิวทัศน์
สะพานมอญ แห่งเมืองชายแดน สังขละบุรี ซึ่งเป็นอำเภอที่ติดต่อกับชายแดนพม่า ห่างจากตัวเมืองประมาณ 215 กิโลเมตร และห่างจากอำเภอทองผาภูมิ 74 กิโลเมตร ตัวอำเภอตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า “สามประสบ” คือ สถานที่ซึ่งลำน้ำ 3 สาย ได้แก่ ซองกะเลีย บิคลี่ และ รันตี ไหลมาบรรจบกัน เป็นที่มาของแม่น้ำแคว เมืองแห่งสายน้ำ
ส่วนสะพานมอญ คือตัวผสานสองฝั่ง ที่เห็นเป็นรูปธรรมและจับต้องได้ถึงมนต์เสน่ห์ มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็น สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาวถึง 850 เมตร สร้างเพื่อใช้ข้าม แม่น้ำซองกาเลีย เชื่อมการสัญจร มอญ-สังขละ ให้ถึงกัน สะพานมอญ ยังเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ์ และแสงยามเช้าที่สวยงาม พร้อมสัมผัสวิถีชาวบ้านกลางสายหมอก
มาที่นี่นอกจากได้สัมผัสกับวิถีชีวิตชาวมอญแห่งลุ่มแม่น้ำซองกาเลีย เรามักจะเห็นเด็กกระโดดน้ำจากสะพานไม้แห่งนี้เป็นประจำ จากนั้นก็จะเป็นที่มาของการกระโดดโชว์ เพื่อหารายได้พิเศษของเด็กอีกช่องทางหนึ่ง
วันนี้น้องมืดก็ได้แสดงท่ากระโดดโชว์พวกเรา อีกเช่นกัน (น้องเขากระโดดมาตั้งแต่ยังเล็กๆ ตอนนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว)
เดินเล่นจากสะพานฝั่งไทยไปฝั่งมอญ สุดปลายสะพานจะมีร้านค้ามากมาย และร้านนี้ก็เป็นหนึ่งในร้านอาหารเช้าที่นักท่องเที่ยวมานั่งกัน
บรรยากาศยามค่ำ บนสะพานมีแสงสี น่าเดินเล่น รับลมเย็นสบาย ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์กันไป
วิวจากห้องพักสวย มองเห็นแม่น้ำจากระเบียงหลังห้อง
มาถึงสังขละ หากไม่ได้ลองคงมาไม่ถึง "หมูจุ่มพม่าไม้ละ 1 บาท"
คือจะใช้หมู / เครื่องในหมู ที่สุกแล้ว จุ่มในหม้อน้ำซุปใบใหญ่ๆที่ตั้งไฟร้อนๆ ลูกค้าสามารถหยิบได้ตามอัธยาศัย จากเสร็จภารกิจก็ค่อยนับไม้จ่ายตังค์กัน ไม้ละ 1 บาท (ปริมาณก็ไม่มากไม้ละชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่กินไปสัก 20-30 ไม้ก็อิ่มอยู่)
วันนี้อิ่มแล้ว ก็กลับที่พัก พรุ่งนี้จะได้ตื่นอย่างสดชื่น ไปใส่บาตรตอนเช้ากันที่สะพานมอญกัน
โดยตื่นเช้ามาก็มาติดต่อซื้อของใส่บาตรชุดละ 99 บาท (มีชุดมอญฟรี ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย)
กิจกรรมใส่บาตรพระยามเช้า ณ ตลาดมอญ เป็นหนึ่งในวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวมอญที่อยู่อาศัยในสังขละบุรี และได้กลายเป็นกิจกรรมที่สร้างเงินสร้างรายได้ให้กับชาวมอญที่อาศัยอยู่ในสังขละบุรีแห่งนี้ด้วยทุกเช้าตรู่เวลา 6.30 น. ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว ต่างเข้าแถว เพื่อรอใส่บาตรพระสงฆ์ และจะเห็นเด็กนำโถข้าวมาซ้อนไว้บนศีรษะ เดินถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว ทั้งหมดเป็นภาพที่คุณจะเห็นได้จากที่นี่ที่เดียวในประเทศไทย หรือในโลกก็ว่าได้
เสน่ห์ชุมชน คนไทยหลายชนชาติที่มารวมตัวกันอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ ไม่ไปก็อาจจะรู้ แต่ไม่สู้ได้ดูและสัมผัสเอง "ชุมชนน่าอยู่" ไว้กลับมาเยือนใหม่นะคะ
ออกเดินทางต่อไป เป้าหมายคือหมู่บ้านอิต่อง แต่ระหว่างทางผ่าน ผ่านน้ำตกเกริงกระเวีย
น้ำตกเกริงกระเวีย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ริมถนนสายหลัก เส้นทองผาภูมิ-สังขละบุรี สามารถแวะได้ง่าย สะดวก เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม น้ำใส ไม่สูงมากแต่มีชั้นเล็กๆ ลดหลั่นกันเหมาะสำหรับพักผ่อน เล่นน้ำ
และไปแวะที่เขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งเป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทย เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของอำเภอทองผาภูมิ เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะแวะมาชมความงดงามของวิวทะเลสาบจากบนสันเขื่อน และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกสำหรับการมาเยือนทองผาภูมิ
รีวิวต่อไป บ้านอิต่อง ปิล๊อก จ๊อกกระดิ่ง ค่ะ
https://th.readme.me/p/31037
Paikannaka
วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 13.19 น.