Yokote Kamakura Snow Festival 2020 หรือ เทศกาลหิมะคามาคุระ ที่จังหวัดโยโกเตะ ของภูมิภาคโทโฮคุ
เรามาเริ่มต้นการเดินทางที่โตเกียวกัน วิธีการเดินทาง คือใช้พาสโทโฮคุ จองชิงคันเซนที่ JR office (ทำการบ้านมาเลยว่าจะขึ้นขบวนไหน จะได้จองง่ายและเร็ว) นั่ง N’ex เข้าเมืองใช้เวลา 45 นาที ลงสถานีโตเกียว วิ่งไปขึ้นชิงคันเซนให้ได้ภายใน 15 นาที นั่งชิงคันเซนประมาณ 3 ชม. จากนั้นลงสถานี Kitakami มีเวลา 7 นาทีในการจ้ำเปลี่ยน Platform เพราะหากพลาดขบวน Rapid นี้ ต้องรอขบวนถัดไปอีกที 2 ชม. โชคดีที่เราทำตามเงื่อนไขเหล่านี้ได้สำเร็จ เลยทำให้มาถึง Yokote เวลา 15.00 (นับตั้งแต่ขึ้นรถไฟจากสนามบินมาตั้งแต่ 9 โมง ก็ใช้เวลาเดินทางมาเมืองนี้ 6 ชม. พอดี)
*การเดินทางอาจจะแตกต่างจากบางรีวิวนะครับ ก็ขึ้นอยู่กับเวลาที่เรามาถึง และสถานที่ที่เราจะเริ่มต้น แต่ขอแปะวิธีเดินทางรูทอื่นๆ เพิ่มแล้วกัน
- จากสถานี Akita ขึ้นรถไฟสาย JR Ou มาลงที่สถานี Yokote ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที
- จากสถานี Tokyo ขึ้นรถไฟชิงคังเซ็น มาลงที่สถานี Omagari และต่อรถไฟสาย JR Ou มาลงที่สถานี Yokote ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
เอาจริงๆ ปกติทุกปีหิมะจะฟูฟ่องมากกว่านี้ แต่ปีนี้ หิมะกลับละลายเร็วผิดปกติ ระหว่างทางบอกเลยว่าใจเสีย เพราะมันผ่านสถานที่ที่แพลนไว้ว่าจะไปถ่ายรูปดูหิมะ กลับแห้งแล้งไร้ความสวยงามใดๆ ยังโชคดีที่เมืองนี้อยู่บนเขา เลยได้เจอหิมะ และสนุกกับเทศกาลนี้สมใจ ส่วนอุณหภูมิในวันนี้ถือว่ายังปราณีอยู่ที่ 1-2 องศา
มาถึงแล้ว สถานี JR Yokote
เหมือนจะเป็นมาสคอตประจำเมือง และประจำงานเลย
โปสเตอร์ของงาน
เทศกาลนี้จะมีในทุกวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ในช่วงกลางเดือนของเดือนกุมภา ของทุกปี (ปีนี้มีงานในวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์) ภายในงานจะมีกระท่อมหิมะวางเรียงรายตั้งแต่ขนาดใหญ่ 3 เมตร จนถึงขนาดเล็กมากมาย งานนี้ 1 ปีมีแค่ 2 วัน ซึ่งก็เป็นอีกงานที่คนญี่ปุ่นจะมาเข้าร่วม เพื่อบูชาเทพเจ้า และขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ภายในงานก็จะมีกระท่อมหิมะเรียงรายตลอดทางตั้งแต่สถานี JR Yokote และจะมีกระท่อมเล็กๆ จุดเทียนด้านในกว่าร้อยกระท่อมวางเป็นโซนๆ ซึ่งเราเริ่มต้นเดินจากหน้าสถานี ไปที่ Kamakurakan Hall ถ่ายรูปจนหนำใจ ก็เดินไปที่ปราสาท Yokote และจุดสุดท้ายคือริมแม่น้ำ Yokote ซึ่งจุดนี้บรรยากาศดีและโรแมนติคมาก
โซน Kamakurakan Hall
โซนปราสาท Yokote
โซนริมแม่น้ำ Yokote ซึ่งจุดนี้สวยงามมาก (จริงๆ ก็สวยงามไปหมดทุกจุด)
อ่อ ลืมบอกไปว่า ในกระโจมหิมะใหญ่นั้น จะมีกิจกรรมย่างโมจิ และชิมสาเกภายในบ้านด้วย แต่มีคนต่อแถวเยอะมาก เลยไม่ได้ไปต่อแถวด้วย ขณะเดียวกันก็มีอีกงานที่จัดอยู่ตรงพื้นที่เดียวกันก็คือ Yokote Kamakura Hokkori Yokocho (Food Stands) ที่มีร้านท้องถิ่นของกินมากมายโดยเฉพาะยากิโซบะไข่ดาว ที่เป็นของกินขึ้นชื่อของโยโกเตะด้วย
ทางเข้างาน Food Stands
Yokote Yakisoba ของขึ้นชื่อโยโกเตะ
เนื้อย่างก็มี
สำหรับปีหน้า (2021 / 2564) คอยเช็ควันของเทศกาลนี้ให้ดี ปกติจะมีช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนกุมภาพันธ์ ผมไม่แน่ใจว่าจะสามารถจองโรงแรมใกล้สถานีได้ล่วงหน้า 1 ปีหรือไม่ แต่ผมจองล่วงหน้าประมาณ 6 เดือน โรงแรมใกล้สถานีก็เต็มหมดแล้ว (มีทัวร์จากไทยมาลงด้วยนะครับ) เลยได้พักโรงแรมที่ไกลจากสถานีออกมาหน่อย ประมาณ 3.5 กิโรเมตร คือ Hotel Route-Inn Yokote Inter ค่า taxi มาที่สถานี ก็ครั้งละประมาณ 1,710 เยน
ด้วยบรรยากาศ ด้วยอากาศ และของกินขึ้นชื่อ โยโกเตะจึงเป็นอีกเมืองที่น่าเที่ยวมากทีเดียวครับ
กล้องที่ใช้ถ่ายภาพในรีวิวนี้ก็คือ :
– Canon 60 D Lens Fix 50 f.1.8 และ 18-135 f.3.5
– Fuji X-A3 Lens Fix 52 f.1.4
– HUAWEI P30 Pro
ยังไงสามารถติดตามเพจผมได้นะครับ สำหรับเพจกิน เที่ยว วิ่งเล่น
https://www.facebook.com/TouristsRunner/ (Tourist Runner) ที่ไหนมีวิ่งที่นั่นเราเที่ยว
และเพจงานออกแบบ เรื่องสั้น บทความ และถ่ายรูป
https://www.facebook.com/Pinkyangmatoy/ (Pink (Yangmatoy) Design ปิ๊ง!! ดีไซน์)
ขอบคุณมากครับ
Pink Yangmatoy
วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 19.10 น.